กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะ เรื่องราวในอดีต และสรรพวิชา > เรื่องธรรมะ และการปฏิบัติ > ฝากคำถามถึงหลวงพ่อ

Notices

ฝากคำถามถึงหลวงพ่อ คุณสามารถตั้งคำถาม และทีมงานจะรวบรวม และคัดกรองเพื่อนำไปถามหลวงพ่อในตอนเย็นวันอาทิตย์ที่หลวงพ่อมารับสังฆทาน

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 05-05-2024, 14:35
รุ้งทรงกลด รุ้งทรงกลด is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2015
ข้อความ: 341
ได้ให้อนุโมทนา: 65
ได้รับอนุโมทนา 12,370 ครั้ง ใน 567 โพสต์
รุ้งทรงกลด is on a distinguished road
Default จดจ่อกับเป้าหมายจนเข้าถึงสมาธิได้

มีครั้งหนึ่งเมื่อสมัยที่ผมเคยบวช ผมได้โดนคนที่มาบวชด้วยกันหาเรื่องแกล้งอยู่ตลอดเวลา เพราะมีความเห็นไม่ตรงกัน และผมก็ได้พยายามอดทนไม่ตอบโต้อยู่เสมอ เพราะไม่อยากเสียเวลาไปทะเลาะกับเขา อยากจะฝึกสมาธิให้มาก ๆ เท่านั้น แต่ด้วยความที่ต้องเจอกับเขาทุกวัน ทำให้ผมโดนเขาแกล้งทุกวัน ส่วนใหญ่จะเป็นการแกล้งแบบใช้จิตวิทยากดดัน เขาก็เลยแกล้งได้ทุกวันโดยที่คนอื่นก็ต่อว่าไม่ค่อยถนัดนัก เพราะเป็นการแกล้งในแบบที่ถ้าเขาแก้ตัวว่าไม่ได้แกล้งก็สามารถแก้ตัวได้ ผมจึงได้แต่อดทนเพียงอย่างเดียว

แต่พอผ่านไปสักสองเดือนกว่า จนใกล้จะได้สึกแล้ว ผมก็รู้สึกได้ว่าวันนั้นความอดทนใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้วเช่นกัน ก็พอดีตอนนั้นเป็นตอนที่กำลังเข้าแถวเพื่อเลือกอาหาร คนที่แกล้งผมนั้นก็แกล้งมายืนใกล้ ๆ เพื่อกระตุ้นความโมโหของผม ผมก็เลยแกล้งไปต่อแถวที่ด้านหลังของเขา เผื่อเขาจะได้รู้สึกบ้าง จากนั้นเขาก็แกล้งหันหน้ามาทางด้านหลังแล้วมองหน้าผมแบบตาขวาง ด้วยความเก็บกดที่มีอยู่เดิมกับความโมโหในปัจจุบัน ทำให้ผมทนไม่ไหวก็เลยจ้องมองเขากลับไปด้วยความรู้สึกว่าตนเองกำลังปล่อยความโมโหทั้งหมดไปที่คน ๆ นั้นแบบเต็มที่ ปรากฏว่าอยู่ ๆ ภาพตรงหน้าก็หายวับไป ทุกอย่างหายไปทั้งหมดพร้อมกับร่างกายของตนเองด้วย ไม่เหลืออะไรเลย มีแต่สติรู้ตัวเพียงอย่างเดียวที่มีอยู่ นอกนั้นมองไม่เห็นอะไรเลย แต่มีความรู้สึกสบายเกิดขึ้นแทน ก็เลยอยากจะอยู่แบบนี้ไปเรื่อย ๆ พอสักพักเมื่อคิดได้ว่า แล้วตอนนี้เราอยู่ในสภาพไหน ถ้ากำลังต่อแถวอยู่แล้วจะไม่ทำให้คนข้างหลังต้องยืนรอเหรอ พอเกิดความกังวลขึ้นมา แค่ไม่นาน ภาพตรงหน้าก็ปรากฎขึ้นมาอีก กลายเป็นว่าผมกำลังยืนนิ่งอยู่ โดยมีคนที่แกล้งผมกำลังยืนมองหน้าผมด้วยสีหน้าแปลกใจว่าผมกำลังทำอะไร พอเขาเห็นผมขยับตัวก็เลยหันกลับไปเลือกอาหารต่อ ส่วนผมนั้นรู้สึกว่าความโกรธหายไปไหนไม่รู้ มีแต่ความรู้สึกสบายกายสบายใจ แล้วเป็นอยู่แบบนั้นไปอีกสองสามชั่วโมง กว่าที่ความรู้สึกปกติจะกลับมา จึงคิดว่านี้น่าจะเป็นอาการอย่างหนึ่งของสมาธิ

กระผมคิดว่าสาเหตุที่ทำให้ตนเองสามารถเข้าถึงสมาธิแบบนั้นได้ น่าจะเป็นเพราะความอดทนต่อความโกรธที่ทนมานาน โดยเปรียบความโกรธเป็นเหมือนกับพลังงานอย่างหนึ่ง พอถึงจังหวะที่ทนไม่ไหวก็ปล่อยความโกรธทั้งหมดออกไปตรงหน้าโดยมีคนที่ทำให้โกรธเป็นเป้าหมาย พอจิตมีเป้าหมายให้สนใจแค่อย่างเดียว บวกกับกำลังที่สะสมมานาน ก็เลยทำให้เข้าถึงสมาธิแบบนี้ได้

ไม่ทราบว่ากระผมเข้าใจถูกต้องหรือไม่ และมีจุดไหนที่ควรปรับปรุงแก้ไขบ้างครับ
__________________
ที่อยู่สำหรับจัดส่งของเวลาผมร่วมบูชาวัตถุมงคลในเว็บนี้คือ
นาย ปริวัฒน์ วงศ์มาศ บ้านเลขที่ ๓ ถ.เกษมวัน ต.วารินชำราบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ๓๔๑๙๐ โทร ๐๙๖-๙๕๔-๔๗๒๙ เท่านั้น

(คำอวยพรประจำฤดูกาล) หน้าฝนเศรษฐี หน้าหนาวมั่งมี หน้าร้อนรวยทรัพย์

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย รุ้งทรงกลด : 05-05-2024 เมื่อ 15:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 11 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ รุ้งทรงกลด ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 05-05-2024, 17:00
สุธรรม's Avatar
สุธรรม สุธรรม is offline
ผู้ตรวจการณ์เว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jun 2009
ข้อความ: 4,817
ได้ให้อนุโมทนา: 270,682
ได้รับอนุโมทนา 841,459 ครั้ง ใน 12,848 โพสต์
สุธรรม is on a distinguished road
Default

ถาม : มีครั้งหนึ่งเมื่อสมัยที่ผมเคยบวช ผมได้โดนคนที่มาบวชด้วยกันหาเรื่องแกล้งอยู่ตลอดเวลา เพราะมีความเห็นไม่ตรงกัน และผมก็ได้พยายามอดทนไม่ตอบโต้อยู่เสมอ เพราะไม่อยากเสียเวลาไปทะเลาะกับเขา อยากจะฝึกสมาธิให้มาก ๆ เท่านั้น แต่ด้วยความที่ต้องเจอกับเขาทุกวัน ทำให้ผมโดนเขาแกล้งทุกวัน ส่วนใหญ่จะเป็นการแกล้งแบบใช้จิตวิทยากดดัน เขาก็เลยแกล้งได้ทุกวันโดยที่คนอื่นก็ต่อว่าไม่ค่อยถนัดนัก เพราะเป็นการแกล้งในแบบที่ถ้าเขาแก้ตัวว่าไม่ได้แกล้งก็สามารถแก้ตัวได้ ผมจึงได้แต่อดทนเพียงอย่างเดียว

แต่พอผ่านไปสักสองเดือนกว่า จนใกล้จะได้สึกแล้ว ผมก็รู้สึกได้ว่าวันนั้นความอดทนใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้วเช่นกัน ก็พอดีตอนนั้นเป็นตอนที่กำลังเข้าแถวเพื่อเลือกอาหาร คนที่แกล้งผมนั้นก็แกล้งมายืนใกล้ ๆ เพื่อกระตุ้นความโมโหของผม ผมก็เลยแกล้งไปต่อแถวที่ด้านหลังของเขา เผื่อเขาจะได้รู้สึกบ้าง จากนั้นเขาก็แกล้งหันหน้ามาทางด้านหลังแล้วมองหน้าผมแบบตาขวาง ด้วยความเก็บกดที่มีอยู่เดิมกับความโมโหในปัจจุบัน ทำให้ผมทนไม่ไหวก็เลยจ้องมองเขากลับไปด้วยความรู้สึกว่าตนเองกำลังปล่อยความโมโหทั้งหมดไปที่คน ๆ นั้นแบบเต็มที่ ปรากฏว่าอยู่ ๆ ภาพตรงหน้าก็หายวับไป ทุกอย่างหายไปทั้งหมดพร้อมกับร่างกายของตนเองด้วย ไม่เหลืออะไรเลย มีแต่สติรู้ตัวเพียงอย่างเดียวที่มีอยู่ นอกนั้นมองไม่เห็นอะไรเลย แต่มีความรู้สึกสบายเกิดขึ้นแทน ก็เลยอยากจะอยู่แบบนี้ไปเรื่อย ๆ พอสักพักเมื่อคิดได้ว่า แล้วตอนนี้เราอยู่ในสภาพไหน ถ้ากำลังต่อแถวอยู่แล้วจะไม่ทำให้คนข้างหลังต้องยืนรอเหรอ พอเกิดความกังวลขึ้นมา แค่ไม่นาน ภาพตรงหน้าก็ปรากฎขึ้นมาอีก กลายเป็นว่าผมกำลังยืนนิ่งอยู่ โดยมีคนที่แกล้งผมกำลังยืนมองหน้าผมด้วยสีหน้าแปลกใจว่าผมกำลังทำอะไร พอเขาเห็นผมขยับตัวก็เลยหันกลับไปเลือกอาหารต่อ ส่วนผมนั้นรู้สึกว่าความโกรธหายไปไหนไม่รู้ มีแต่ความรู้สึกสบายกายสบายใจ แล้วเป็นอยู่แบบนั้นไปอีกสองสามชั่วโมง กว่าที่ความรู้สึกปกติจะกลับมา จึงคิดว่านี้น่าจะเป็นอาการอย่างหนึ่งของสมาธิ

กระผมคิดว่าสาเหตุที่ทำให้ตนเองสามารถเข้าถึงสมาธิแบบนั้นได้ น่าจะเป็นเพราะความอดทนต่อความโกรธที่ทนมานาน โดยเปรียบความโกรธเป็นเหมือนกับพลังงานอย่างหนึ่ง พอถึงจังหวะที่ทนไม่ไหวก็ปล่อยความโกรธทั้งหมดออกไปตรงหน้าโดยมีคนที่ทำให้โกรธเป็นเป้าหมาย พอจิตมีเป้าหมายให้สนใจแค่อย่างเดียว บวกกับกำลังที่สะสมมานาน ก็เลยทำให้เข้าถึงสมาธิแบบนี้ได้

ไม่ทราบว่ากระผมเข้าใจถูกต้องหรือไม่ และมีจุดไหนที่ควรปรับปรุงแก้ไขบ้างครับ ?
ตอบ : เป็นมิจฉาสมาธิ ถ้าตายตอนนั้นมีสิทธิ์เกิดเป็นอสูร..!
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ

Tags
สมาธิ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 11:59



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว