กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 23-02-2024, 16:36
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 346
ได้ให้อนุโมทนา: 3,307
ได้รับอนุโมทนา 18,899 ครั้ง ใน 824 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 23-02-2024, 23:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,416,008 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๗ กระผม/อาตมภาพไม่ได้ออกบิณฑบาต เนื่องจากต้องไปดูการเตรียมเครื่องบวงสรวงต่าง ๆ สำหรับบวงสรวงบูชาพระรัตนตรัย และทำบุญถวายอดีต ๗ เจ้าเมืองหน้าด่านของจังหวัดกาญจนบุรี

เมืองหน้าด่านของจังหวัดกาญจนบุรีในอดีตทั้ง ๗ เมือง ประกอบไปด้วยเมืองทองผาภูมิ เมืองท่าขนุน เมืองไทรโยค เมืองลุ่มสุ่ม เมืองท่าตะกั่ว เมืองสิงห์ และเมืองท่ากระดาน ซึ่งเมืองทั้งหลายเหล่านี้นั้นล้วนแล้วแต่มีเจ้าเมือง ซึ่งเป็นหัวหน้าชาวมอญอาสา ที่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของประเทศไทย

กระผม/อาตมภาพได้รับแนวคิดมาจากคณะกรรมการสภาวัฒนธรรมอำเภอทองผาภูมิ ว่าเราควรที่จะมองเห็นบุญคุณของบรรดาอดีตเจ้าเมืองและบริวารทั้งหลาย ที่ทุ่มเทชีวิตจิตใจให้กับประเทศไทย ยอมรับเป็นเมืองหน้าด่าน ซึ่งถ้ามีข้าศึกเข้ามาตีบ้านเราเมืองเรา เมืองหน้าด่านทั้งหลายเหล่านี้ก็ต้องปะทะกับข้าศึกก่อน เป็นการชะลอทัพให้ข้าศึกช้าลง จะได้ส่งข่าวให้ทางเมืองหลวงได้รับรู้ และเตรียมรับมือได้ทัน

สมัยก่อนนั้นเรื่องของไข้ป่าและสัตว์ร้ายก็มีมาก ท่านทั้งหลายเหล่านี้ต้องสละชีวิตของตนเอง เพื่อให้ประเทศของเราสงบสุขร่มเย็น จึงควรที่จะทำบุญเพื่ออุทิศให้กับท่านทั้งหลาย ในลักษณะของกตเวทิตาคุณ ก็คือรู้บุญคุณของท่านแล้วทำบุญตอบ

กระผม/อาตมภาพเห็นด้วย จึงได้เริ่มจัดงานนี้ขึ้นมาเมื่อหลายปีก่อน มาสะดุดหยุดยั้งลงในช่วงที่โควิด ๑๙ แพร่ระบาด หลังจากนั้นก็ได้เริ่มมาทำเหมือนเดิม แต่ทว่าร่างทรงผีมอญซึ่งมีชื่อเสียงที่สุด ก็คือท่านอาจารย์กามเทพ มิ่งสำแดงนั้น เกิดเสียชีวิตลงไปก่อน คณะที่เหลือก็ยังกลัว ๆ กล้า ๆ ไม่อาจจะปล่อยตัวปล่อยใจให้ "ลง" กันได้อย่างเต็มที่เหมือนกับครั้งแรก ๆ จึงออกที่จะ "งานกร่อย"..!

เมื่อกระผม/อาตมภาพออกไปถึงสถานที่เตรียมงานหน้าวัด ก็คือลานธรรมด้านข้างสมเด็จองค์ปฐม ๒๑ ศอกของวัดท่าขนุน ก็เจอหลวงพ่อต๋อง (พระครูสุทธิสารโสภิต) เจ้าอาวาสวัดพุตะเคียน รองเจ้าคณะอำเภอไทรโยค ซึ่งท่านเองก็มีเชื้อสายชาวมอญ จึงมีความเชี่ยวชาญในการจัดเตรียมเครื่องบวงสรวงต่าง ๆ แต่ที่สำคัญกว่านั้นก็คือท่านนายอำเภอชาคริต ตันพิรุฬห์ มารออยู่ตั้งแต่ ๖ โมงเช้าแล้ว..! ซึ่งท่านนายอำเภอเองบอกว่า ยังไม่เคยเห็นการเข้าทรงผีมอญแบบนี้มาก่อน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-02-2024 เมื่อ 00:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 23-02-2024, 23:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,416,008 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพจึงได้เรียนท่านนายอำเภอไปว่า ศาสนาแรก ๆ ของผู้คนก็คือการนับถือผี แล้วเป็นเรื่องอัศจรรย์ ไม่ว่าชาติใดภาษาใด ต่างก็รับรู้ว่ามีผีทั้งสิ้น ก็แปลว่าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ บุคคลที่มีความสามารถพิเศษเขารู้เห็นได้เหมือน ๆ กัน แล้วในขณะเดียวกัน สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าหากว่าไม่เกินวิสัย บางทีผีทั้งหลายเขาก็สามารถที่จะบอกกล่าวล่วงหน้าได้เช่นกัน

กระผม/อาตมภาพเองเจอมาตั้งแต่ต้นแล้ว คือการทำบวงสรวงในปีแรก ที่ท่านอาจารย์กามเทพเป็นร่างทรงนั้น กระผม/อาตมภาพรับปากกับบรรดาอดีตเจ้าเมืองหน้าด่านว่า "จะทำบุญถวายแบบนี้ทุกปี" แต่ผีทรงท่านได้เตือนกลับมาว่า "ขออย่าได้พูดแบบนี้ ถ้าหากว่ามีปัญหาอะไร ทำให้สะดุดหยุดยั้ง ไม่สามารถที่จะทำบุญได้ เราก็จะเป็นคนเสียคำพูด แล้วถ้าหากว่าผีสางเทวดาเขาถือสา เราอาจจะเดือดร้อนกว่าที่คิด..!"

กระผม/อาตมภาพตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร แต่พออีกไม่กี่ปีต่อมา เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ทำให้ไม่สามารถที่จะจัดงานได้ จึงได้นึกขึ้นมาได้ว่า ที่แท้บรรดาอดีตเจ้าเมืองหน้าด่านทั้ง ๗ หัวเมืองนั้น ท่านหมายความว่าอย่างนี้นี่เอง..!

เมื่อเครื่องบวงสรวงพร้อมแล้วทุกอย่าง บรรดาผู้ประกอบพิธีที่มาถึง ได้รับประทานอาหารเช้ากันเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ทำการบวงสรวงบูชาพระรัตนตรัย
กราบขอบารมีพระท่านสงเคราะห์ ให้งานทำบุญประจำปีปิดทองรอยพระพุทธบาทวัดท่าขนุน และทำบุญอุทิศอดีตเจ้าเมืองหน้าด่านจังหวัดกาญจนบุรีทั้ง ๗ หัวเมืองนั้น สำเร็จเรียบร้อยลงด้วยดี บุคคลที่มาร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็นหญิงชาย เด็กผู้ใหญ่ พระภิกษุสงฆ์ สามเณร แม่ชีหรือว่าฆราวาส ขอให้เดินทางไปกลับโดยสะดวกปลอดภัยทุกประการ

หลังจากนั้นท่านนายอำเภอชาคริตก็จุดธูปเทียน อัญเชิญอดีตเจ้าเมืองหน้าด่านทั้ง ๗ หัวเมือง แล้วคณะของป้าเล็กก็ทำการบวงสรวงและเริ่มทรง กระผม/อาตมภาพนั่งอยู่พักใหญ่ สงสัยว่าทำไมทรงไม่ได้เสียที จึงสังเกตเห็นว่าตนเองนั่งสูงกว่าบรรดาร่างทรงทั้งหลาย จึงได้ชวนท่านนายอำเภอชาคริตถอยลงไปนั่งด้านหลัง

ยังไม่ทันจะนั่งได้เต็มก้นเลย ป้าเล็กก็เกิดอาการ "หงายเงิบ" ปรากฏว่ามีการทรงไปเรียบร้อยแล้ว แถมยังบอกด้วยว่าในพิธีไม่มีไก่ต้ม ให้ทางวัดจัดไก่ต้มแยกไปไหว้ต่างหากใต้ต้นไม้ใหญ่ เพื่อที่จะให้เครื่องสังเวยครบถ้วนสมบูรณ์

กระผม/อาตมภาพพอมองไปทั่วโต๊ะบวงสรวงแล้วก็รู้สึกขำ เนื่องเพราะว่าสิ่งที่อยู่บนโต๊ะ นั่นก็คือเป็ดพะโล้ตัวใหญ่ ไม่ใช่ไก่ต้ม ก็ยังสงสัยอยู่เหมือนกันว่า ทำไมเรื่องของผี เรื่องของเทวดา ถึงจะใช้แต่หัวหมูบ้าง ไก่ต้มบ้าง กุ้งพล่าบ้าง ปลายำบ้าง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-02-2024 เมื่อ 00:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 24-02-2024, 00:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,416,008 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ก่อนหน้านี้เคยสงสัย และกราบเรียนถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงแล้ว ท่านบอกว่า "บรรดาเทวดาเขาไม่ยุ่งกับเรื่องทั้งหลายเหล่านี้หรอก แต่ว่าลูกน้องของเทวดาทั้งหลาย ซึ่งบางทีก็เป็นผีทั่วไป เขามีความต้องการ โดยเฉพาะถ้าในพิธีมีเหล้าอยู่ด้วย ก็จะต้องมีกับแกล้ม พวกบรรดากุ้งพล่า ปลายำ เพื่อที่จะได้สนุกสนานกันให้เต็มที่"

แต่ว่าหลวงพ่อท่านก็ได้บอกพวกกระผม/อาตมภาพเอาไว้ว่า "โต๊ะบวงสรวงของเรานั้น ถ้าไม่ใช่เขาขอมาโดยตรง ก็อย่าให้มีเหล้าเลย เพราะว่าผีกับคนก็เหมือนกัน คือ เมื่อเมาขึ้นมา บางทีก็คุมสติไม่อยู่ อาจจะทำให้เสียงานเสียการไปได้..!"

เมื่อดูการเข้าทรงไปได้พักหนึ่ง กระผม/อาตมภาพและท่านนายอำเภอชาคริตก็ต้องขอตัว ฝากงานไว้กับหลวงพ่อพระครูต๋อง ให้ช่วยดำเนินการต่อให้ด้วย เนื่องเพราะว่าต้องวิ่งไปที่โรงเรียนทองผาภูมิวิทยา ซึ่งทางโรงเรียนมีการตรวจประเมินนักเรียนรางวัลพระราชทาน ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๖ แต่มาตรวจประเมินกันต้นปี ๒๕๖๗ นี่เอง ซึ่งงานนี้น้องบลู (นางสาวธันสุดา กองมา) เข้ารับการตรวจประเมิน

โดยเฉพาะทางโรงเรียนทองผาภูมิวิทยานั้น ได้รับรางวัลนักเรียนพระราชทานมา ๒ ปีซ้อนแล้ว ก็คือจากน้องเอิ๊ก (นางสาวสุคนธา อินนะสถิต) มาเป็นน้องบัว (นางสาวอัจฉรานันท์ วงศรีรัตนชัย) แล้วปีนี้น้องบลูเข้ารับการตรวจประเมินด้วย คณะกรรมการแจ้งให้ทราบว่า ถ้าได้รับรางวัล ๓ ปีซ้อน ก็ต้องเว้นเสีย ๑ ปี เพื่อที่เปิดโอกาสให้กับโรงเรียนอื่นบ้าง

ส่วนทางด้านอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนทองผาภูมิวิทยา ก็คือท่านผู้อำนวยการยงยุทธ สงพะโยม ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนเทพมงคลรังษีนั้น ท่านก็เคยได้รับรางวัลผู้บริหารสถานศึกษาดีเด่นมาแล้ว ส่วนกระผม/อาตมภาพ ปีนี้ก็ได้รับรางวัลคณะกรรมการสถานศึกษาดีเด่นระดับชาติเช่นกัน ก็แปลว่าหลังจากที่หกล้มหกลุก "ปล้ำผีลุกปลุกผีนั่ง" กันมาหลายปี ในที่สุดทั้งผู้บริหารและนักเรียนของเรา ก็เปล่งประกายของตนเองออกมา สามารถคว้ารางวัลในระดับชาติต่าง ๆ มาให้เป็นที่ชื่นใจของพวกเราได้

กระผม/อาตมภาพได้แนะนำตัว เมื่อทางคณะกรรมการขอให้กล่าวคำนิยม หลังจากนั้นก็เป็นท่านนายอำเภอชาคริต และท่านประเทศ บุญยงค์ ประธานกรรมการสถานศึกษา ซึ่งทุกคนกล่าวไปในแนวทางเดียวกันว่า น้องบลูนั้นไม่ใช่ว่าเรียนหนังสือเก่งอย่างเดียว หากแต่ว่าเป็นผู้ที่ใฝ่รู้ในด้านต่าง ๆ มีการศึกษาเพิ่มเติมอยู่เสมอ และมีจิตใจที่เป็นสาธารณะ พร้อมที่จะช่วยเหลืองานของทางด้านสถานศึกษา สถานราชการ ตลอดกระทั่งวัดวาอารามอย่างเต็มอกเต็มใจ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-02-2024 เมื่อ 00:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 24-02-2024, 00:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,653
ได้ให้อนุโมทนา: 151,944
ได้รับอนุโมทนา 4,416,008 ครั้ง ใน 34,243 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อสถานศึกษา สถานราชการ หรือว่าวัดวาอารามมีงานมีการ ก็นำเอาพี่น้องของตนไปร่วมงานอย่างเต็มใจ ไม่ว่าจะเป็นงานของสภาวัฒนธรรมอำเภอทองผาภูมิก็ดี หรือว่างานของที่ว่าการอำเภอทองผาภูมิก็ตาม จึงขอฝากไว้เป็นเครื่องพิจารณาอย่างหนึ่งของคณะกรรมการว่า เด็กของเรานั้น ถือว่าเป็นช้างเผือก ที่ปราศจากความด่างพร้อยในประวัติ สามารถที่จะไปสุ่มสอบถามจากบุคคลใดบุคคลหนึ่งในอำเภอทองผาภูมิก็ได้ เรื่องทั้งหลายเหล่านี้เรายินดีท้าพิสูจน์

เมื่อถึงเวลาประมาณ ๑๐ โมง กระผม/อาตมภาพและท่านนายอำเภอชาคริต ก็ต้องขอตัวออกมา เพราะว่าท่านนายอำเภอต้องไปร่วมประชุมหัวหน้าส่วนราชการในตัวจังหวัดกาญจนบุรี แล้วตอนค่ำค่อยมาร่วมพิธีเปิดงานประจำปี ปิดทองรอยพระพุทธบาทวัดท่าขนุน และทำบุญอุทิศอดีต ๗ เจ้าเมืองหน้าด่าน จังหวัดกาญจนบุรี

กระผม/อาตมภาพเอง ต้องมาเป็นประธานในการสวดพระพุทธมนต์ และถวายภัตตาหารเพล เพื่ออุทิศให้แก่อดีต ๗ เจ้าเมืองหน้าด่าน ที่บริเวณห้องใต้ฐานสมเด็จองค์ปฐม ๒๑ ศอก ซึ่งได้รับความเมตตาจากพระมหาสุชาติ สิริปญฺโญ ป.ธ.๙ เจ้าคณะอำเภอสังขละบุรี เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม หรือว่าวัดหลวงพ่ออุตตะมะ ส่งพระมาทำการสวดแบบมอญให้ ซึ่งกระผม/อาตมภาพนั้นเริ่มเคยชินแล้ว จึงจดจำขั้นตอนต่าง ๆ ได้ โดยเฉพาะฟังการสวดแบบมอญ ก็คือบาลีไทยดี ๆ นี่เอง

เมื่อฉันเพลเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้ว ก็แยกย้ายกันไป สถานที่ไหนที่ยังเตรียมการไม่พร้อมเพรียง ก็ไปเตรียมการต่อ บุคคลใดรับหน้าที่ในส่วนใด ก็ต้องไปเตรียมหน้าที่นั้นให้เรียบร้อย เพื่อที่เวลา ๔ โมงเย็นจะเริ่มเคลื่อนขบวนแห่เทิดไท้องค์ราชันและเทิดเกียรติอดีต ๗ เจ้าเมืองหน้าด่านจังหวัดกาญจนบุรี จากบริเวณหน้าสำนักงานเทศบาลตำบลทองผาภูมิ มายังบริเวณหน้าลานธรรมสมเด็จองค์ปฐมวัดท่าขนุน ซึ่งถ้านับแล้วก็เป็นระยะทางประมาณ ๓ กิโลเมตรเศษ หลังจากนั้นก็จะทำพิธีเปิดและมีการแสดงต่าง ๆ ในตอนประมาณ ๑ ทุ่ม

เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ยังมีงานแบบนี้ไปอีก ในวันที่ ๒๔ - ๒๕ - ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ นี้ ซึ่งงานนี้ถือว่าเป็น "ไฮไลท์" อย่างหนึ่งของอำเภอทองผาภูมิ เพราะว่าหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ ก็มาร่วมรับรู้รับทราบ และมาร่วมพิธีเปิดด้วยทุกครั้ง กระผม/อาตมภาพเองเกรงว่าเมื่องานต่อเนื่องแล้ว จะไม่มีเวลามาบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน จึงได้ทำการบันทึกเอาไว้ก่อนตั้งแต่ตอนนี้

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-02-2024 เมื่อ 00:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 13:29



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว