กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมกราคม ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 11-01-2024, 19:54
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,652
ได้ให้อนุโมทนา: 216,916
ได้รับอนุโมทนา 747,893 ครั้ง ใน 36,439 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๖๗


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 12-01-2024, 00:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,667
ได้ให้อนุโมทนา: 152,012
ได้รับอนุโมทนา 4,416,502 ครั้ง ใน 34,257 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๑๑ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ มีรายงานจากคณะกรรมการตรวจรับงานก่อสร้างพิพิธภัณฑ์วัดท่าขนุน ว่าตั้งแต่ต้นจนปัจจุบันนี้ ทางผู้รับเหมาเบิกค่าแรงไปแล้ว ๑๓ งวด ถ้าว่ากันเป็นตัวเลขก็ ๑๐๔ ล้านบาท แต่ด้วยความที่เราหักประกันผลงานเอาไว้ด้วย แต่ก็ต้องส่งให้เขาหลังจาก ๖ เดือนผ่านไปแล้ว จำนวน ๕ ล้าน ๒ แสนบาท เขาก็น่าจะได้รับเงิน ๙๘ ล้าน ๘ แสนบาท

แต่ด้วยความที่ว่าส่งงานไม่ทัน ทำให้โดนปรับวันละ ๑๕,๕๐๐ บาท จึงโดนปรับไปที่ ๑,๑๖๒,๕๐๐ บาท ทางบริษัทจึงรับเงินไปเพียง ๙๗,๖๓๗,๕๐๐ บาท ก็เกือบ ๆ ๑๐๐ ล้านเหมือนกัน แต่ถ้าหากว่ารวมเงินประกันผลงาน ที่อย่างไรเราก็ต้องคืนเขาก็ตกประมาณ ๑๐๒ ล้านเศษ ๆ

ยังคงเหลืออีกประมาณ ๖ งวด ที่ใช้คำว่าเหลือประมาณ ๖ งวด เพราะว่า ๕ งวดแรก ก็คืองวดที่ ๑๔ ถึง งวดที่ ๑๘ เราต้องจ่ายเขางวดละ ๘ ล้านบาท ส่วนงวดที่ ๑๙ ปิดงาน ต้องจ่ายเขา ๑๑ ล้านบาท ก็ต้องเจริญพรขอบคุณทุกท่านที่ร่วมบุญกันมา ไม่ว่าจะเป็นทางกระทู้ก็ดี เดินทางมาทำบุญด้วยตนเองก็ตาม หรือแม้กระทั่งญาติโยมในชุมชนที่ใส่บาตร บางทีก็ใส่ซองปัจจัยมาด้วย บอกว่า "ขอร่วมสร้างพิพิธภัณฑ์วัดท่าขนุนกับหลวงพ่อ"

วัดท่าขนุนของเราจะทำอะไรก็ตาม ไม่เคยหาเจ้าภาพใหญ่ วัดอื่น ๆ เวลาจะทำงาน เขาจะหาเจ้าภาพหลักไว้ก่อน แต่กระผม/อาตมภาพเห็นว่า การทำแบบนั้นออกแนวฉ้อโกงประชาชนเสียมากกว่า..! อย่างเช่นว่าบางท่านมาบอกบุญกับกระผม/อาตมภาพ ให้เป็นเจ้าภาพในการหล่อพระสองแสนบาท แล้วท่านก็ไปบอกบุญ ได้เจ้าภาพมาอีก ๓๐ กว่าราย รายละสองแสนบาท ที่กระผม/อาตมภาพไม่ทำในลักษณะนี้
เพราะว่าพระเรามีราคาแค่บาทเดียว วางกำลังใจผิดเมื่อไร โดนอาบัติปาราชิก ขาดความเป็นพระเอาง่าย ๆ..!

หลายแห่งเมื่อมีญาติโยมที่ท่านรู้เรื่องเข้า แล้วก็ไปคาดคั้นกับเจ้าอาวาส ท้ายที่สุดก็ทะเลาะเบาะแว้งกันใหญ่โต จน "ผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ" เพราะโยมเห็นว่าพระทำไม่ถูกต้อง ส่วนพระก็คิดว่าในเมื่อมีโยมเป็นเจ้าภาพหลักแล้ว ส่วนเกินก็เป็นกำไรของตนเอง ถ้าคิดในลักษณะอย่างนี้ ก็แปลว่าความเป็นพระของท่านมีน้อยมาก..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-01-2024 เมื่อ 02:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 12-01-2024, 00:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,667
ได้ให้อนุโมทนา: 152,012
ได้รับอนุโมทนา 4,416,502 ครั้ง ใน 34,257 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อย่างวันก่อนที่กระผม/อาตมภาพไปเยี่ยมพระมหาจินตวัฒน์ จารุวฑฺฒโน ป.ธ.๘, ดร. เจ้าคณะตำบลไม้ดัด เจ้าอาวาสวัดม่วงชุม ที่อำเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี เมื่อถามข่าวคราว มอบข้าวของปัจจัยเป็นกำลังใจให้แล้ว ก็ขอตัวออกไปฉันเพลข้างนอก กับท่านอาจารย์พระมหาสมคิด อตฺถสิทฺโธ ปธ. ๗ รองเจ้าคณะอำเภอโพธาราม เจ้าอาวาสวัดหนองโพ จังหวัดราชบุรี

ท่านอาจารย์บอกพระมหาสมคิดบอกว่า "เลือกตั้งประธานรุ่นองค์กรพระอุปัชฌาย์ครั้งหน้า พี่ใหญ่ก็น่าจะได้อีกตามเคย" เพราะว่าท่านไม่เคยเรียกผมว่าเล็ก ท่านเรียกแต่พี่ใหญ่มาตลอด กระผม/อาตมภาพถามว่าทำไม ? ท่านบอกว่า "บุคคลผู้เสียสละเพื่อผู้อื่นจริง ๆ นั้นหายาก รับภาระไปแล้วก็ต้องแบกรับรายจ่ายต่าง ๆ ไปด้วย"

โดยปกติแล้วถ้าหากว่าสังเกตจะเห็นว่า งานไหนที่ได้สตางค์ เขาจะทำกัน แต่งานไหนที่เสียสตางค์ เขาจะไม่ไปกัน ดังนั้น..ท่านทั้งหลายอาจจะเห็นว่า งานคณะสงฆ์หลายต่อหลายอย่างที่กระผม/อาตมภาพไป ก็คือไปเป็นเจ้าภาพให้เขา ไปจ่ายเงินให้เขา ต่อให้ตัวเองไม่ได้ไป เงินก็ต้องไป..! อย่างล่าสุดที่ฝากเงินพวกท่านไปเป็นเจ้าภาพลูกนิมิตลูกกลางของวัดวังผาตาด เพราะว่ากระผม/อาตมภาพติดภารกิจ ไม่สามารถที่จะไปตัดหวายด้วยตนเองได้ แต่เงินก็ต้องไป..!

หลายท่านก็อาจจะมองว่ากระผม/อาตมภาพนั้น "ใช้เงินแบบไม่คิด" ก็ไม่คิดจริง ๆ เหตุเพราะว่าครูบาอาจารย์ไม่เคยสอนให้เก็บเงิน มีแต่สอนว่า "เงินปีนี้ อย่าให้เหลือถึงปีหน้า ถ้าหากว่ามีเหลือถึงปีหน้า ให้หาโครงการที่ทำแล้วมากกว่าเงินที่มี เพื่อที่ถึงเวลาเงินเข้ามาแล้ว เราจะได้ไม่คิดว่าเป็นเงินของเรา" ในเมื่อไม่ใช่เงินของเรา โอกาสที่จะโลภมากก็ไม่มี โดยเฉพาะกระผม/อาตมภาพใช้แค่วันนี้เท่านั้น

ตอนที่ไปศรีลังกา ท่านอาจารย์พระมหาสมคิดยังหัวเราะ เพราะว่ากระผม/อาตมภาพเทหมดกระเป๋าจริง ๆ ชนิดที่เมื่อเขาขอเงินรางวัลให้แก่บรรดาคนขับรถ หรือว่าพนักงานบริการของโรงแรม
กระผม/อาตมภาพยังต้องควานจนทั่วตัว กว่าที่จะหาให้เขาได้ ๕๐๐ บาท กลับมาถึงที่พักที่วัดอุทยาน อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี จะว่าไปแล้ว เงินไม่พอที่จะเดินทางไปถึงด้วย เพราะว่าเหลือติดกระเป๋ากลับมา ๕๐ บาท ค่าแท็กซี่เกินจำนวนไป ๗๐ บาท แต่ว่าน้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) ควักกระเป๋าช่วยจ่ายไปให้ก่อน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-01-2024 เมื่อ 02:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 12-01-2024, 00:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,667
ได้ให้อนุโมทนา: 152,012
ได้รับอนุโมทนา 4,416,502 ครั้ง ใน 34,257 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สิ่งนี้เกิดจากการที่ไม่มั่นใจว่าเราจะสามารถอยู่ได้ถึงพรุ่งนี้ ในเมื่อไม่มั่นใจว่าจะอยู่ได้ถึงพรุ่งนี้ เราก็ต้องทำวันนี้ให้ดีที่สุด แล้วอีกประการหนึ่ง หลายท่านที่เห็นว่ากระผม/อาตมภาพนั้นงานเยอะมาก ส่วนหนึ่งเกิดจากการโดดเข้าใส่งานด้วยตนเอง เนื่องเพราะว่าถ้าเรายอมลำบากแล้ว เท่ากับเป็นการผ่อนใช้หนี้กรรม ถ้ามีการผ่อนอย่างสม่ำเสมอ ก็เหมือนกับเรากู้เงินเขามาแล้วส่งดอกเป็นประจำ ก็จะไม่โดนทวงชนิดทบต้นทบดอก มาตูมเดียวแล้วเรารับไม่ไหว เพราะว่าเราโดดเข้าใส่งานเอง เราจะรู้ว่าเรารับได้แค่ไหน แต่ถ้ารอให้วาระกรรมเข้ามาเอง บางครั้งอาจจะถึงตาย..!

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ในเรื่องของการก่อสร้างต่าง ๆ กระผม/อาตมภาพถึงได้บอกกับท่านอยู่บ่อย ๆ ว่า บางวันแทบจะไม่เหลือเงินติดกระเป๋า บางคนเห็นเฉพาะตอนรับ แต่ไม่ได้เห็นตอนจ่าย อย่างที่กระผม/อาตมภาพบ่นในวงข้าวอยู่หลายครั้งว่า "นั่งอยู่วัดเฉย ๆ ยังหมดเงินไปหลายล้าน" เพราะว่าเขาตั้งเบิกมา ก็ต้องสั่งธนาคารโอนให้เขาไป

ปัจจุบันนี้มีดำริของผู้บังคับบัญชาระดับท่านเจ้าประคุณสมเด็จ กรรมการมหาเถรสมาคม ที่กล่าวในงานอบรมพระสังฆาธิการระดับเจ้าคณะตำบลว่า พระเราอย่าพยายามเป็นหนี้ เพราะว่าถ้าเป็นหนี้แล้วเกิดการฟ้องร้องกันขึ้นมา สมัยนี้ถ้ามีคดีก็ต้องสึกหาลาเพศไป ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะว่าผู้ที่เข้ารับการอบรมนั้น คือระดับเจ้าคณะตำบลที่ต้องดูแลวัดอื่นหลายวัด ก็แปลว่าอายุกาลพรรษาต้องมากทีเดียว พอมีคดีแล้วสึกหาลาเพศไป ก็เป็นที่เสียดายเพศภาวะภิกษุของท่านของท่านมาก

พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จ ผู้ให้โอวาทถึงได้กล่าวว่า "อย่าเป็นหนี้ใคร ทำแค่กำลังของตน" โดยเฉพาะหลายท่านที่ยืมเงินญาติโยมเขามา พอถึงเวลา เงินเข้ามาก็โอนให้เขาไป เป็นการใช้หนี้ตามปกติ แต่บังเอิญว่าโยมเป็นผู้หญิง แถมหน้าตาดีเสียด้วย..! ไอ้คนเห็นก็ฟุ้งซ่านไปใหญ่โต ว่าพระเอาเงินวัดไปบำรุงบำเรอผู้หญิง ถึงขนาดฟ้องร้องกันมาแล้ว แล้วส่วนใหญ่พระเราก็ทำงานแบบไว้วางใจ เห็นคนอื่นเป็นคนดีเหมือนกัน เรื่องเงินเรื่องทองเมื่อใช้จ่าย ก็มักจะไม่เก็บหลักฐานเอาไว้

กระผม/อาตมภาพโดนพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านมาถามตั้งแต่ออกจากวัดท่านซุงมาประมาณ ๘ เดือนว่า "แกมีเงินส่วนตัวเท่าไร ?" กราบเรียนท่านว่า "ไม่ทราบครับ เพราะว่ากระผมผลักลงกองกลางหมดเลย" จะอวดครูบาอาจารย์ว่าไม่โลภ ว่าอย่างนั้นเถิด..!

ท่านจึงถามใหม่บอกว่า "แล้วแกใช้เพื่อสงฆ์ไปเท่าไร ?" กราบเรียนว่า "ไม่ทราบครับ" "ใช้เพื่อตัวเองไปเท่าไร ?" "ไม่ทราบครับ" ไม่ทราบครับสองทีเท่านั้น ไม้เท้าลงกบาลเปรี้ยงเบ้อเร่อเลย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-01-2024 เมื่อ 02:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 12-01-2024, 00:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,667
ได้ให้อนุโมทนา: 152,012
ได้รับอนุโมทนา 4,416,502 ครั้ง ใน 34,257 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ท่านบอกว่า "ไปรื้อบัญชีทำใหม่เดี๋ยวนี้ เงินทุกบาททุกสตางค์รับมาจากใคร จ่ายไปในเรื่องอะไร ถ้ามีคนตรวจสอบ ต้องชี้แจงเขาได้" นั่นท่านบอกตั้งแต่ ๓๐ กว่าปีที่แล้ว กระผม/อาตมภาพก็ต้องไปนั่งตูดด้านอยู่หลายวัน เพราะว่าผ่านไป ๘ เดือนแล้ว ท้ายที่สุดก็ต้องตัดใจ เพราะว่าทำงานยาก ตัดใจว่า ๘ เดือนแรก เราจะไม่มีเงินส่วนตัว ตัวเลขทั้งหมดลงเป็นเงินสงฆ์ไป แล้วเริ่มมามีเงินส่วนตัว ตั้งแต่เดือนที่ ๙ เป็นต้นมา แต่ก็เอาไปโปะในส่วนของเงินสงฆ์มาตลอด

หลวงพ่อพระครูวรกาญจนโชติ เจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิบอกว่า "ที่หลวงพ่อเล็กท่านมีบัญชีติดตัวแดง แต่ท่านไม่เป็นหนี้ใคร เพราะว่าท่านเอาเงินส่วนตัวมาลงตรงนั้น" แต่ว่าถ้าเป็นวัดอื่นติดตัวแดง ส่วนใหญ่ก็จะเป็นหนี้ ซึ่งผู้บังคับบัญชาท่านมักจะไม่ชอบใจ เพราะว่าการเป็นหนี้นั้น จะก่อความเสียหายให้เกิดขึ้นได้

ดังนั้น..วันนี้ที่มาบอกถึงเรื่องของรายจ่ายเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์วัดท่าขนุน ก็เพราะว่าถ้าหากว่ามีเงินเพียงพอที่จะจ่ายให้กับเขา ก็คืออีก ๕ บวก ๑ งวด ก็อยู่ที่ราว ๆ ๕๑ ล้านบาท ก็เป็นอันว่าจบภารกิจเรื่องพิพิธภัณฑ์วัดท่าขนุน หลังจากนั้นจะหาเรื่องเดือดร้อน ทำงานอะไรก็ว่ากันอีกที แต่ตอนนี้ที่ตัดสินใจก็คือ จะไปทอดกฐินปลดหนี้ที่ประเทศศรีลังกา ช่วยปฏิสังขรณ์วัดศักติสัทธรรม และสร้างพระใหญ่ที่วัดศรีธรรโมทยะ ให้เสร็จสรรพเรียบร้อย ถึงเวลาก็จะให้ญาติโยมทั้งหลายได้ร่วมบุญกันอีกทีหนึ่ง

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๑๑ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-01-2024 เมื่อ 03:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 03:27



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว