กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนธันวาคม ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 05-12-2023, 19:47
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,564
ได้ให้อนุโมทนา: 216,954
ได้รับอนุโมทนา 748,116 ครั้ง ใน 36,432 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๖๖


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 06-12-2023, 00:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,419,066 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ขณะเดียวกันก็เป็นวันพ่อแห่งชาติ และเป็นวันชาติด้วย ก่อนหน้านี้วันชาติของเราใช้วันที่ ๑๐ ธันวาคม แต่ว่าเพิ่งจะมาเปลี่ยนแปลงในระยะนี้นี่เอง พวกเราได้ร่วมกิจกรรมในการบำเพ็ญกุศลถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ โดยเฉพาะอีกสักครู่ก็คือการเจริญพระพุทธมนต์

คราวนี้ในช่วงของวันที่ ๕ ธันวาคมของทุกปีก่อนหน้านี้ จะเป็นช่วงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานตั้ง พระราชทานเลื่อน พระครูสัญญาบัตรและพระราชาคณะ สำหรับปีนี้อำเภอทองผาภูมิของเรา ก็ต้องแสดงความยินดีกับพระปลัดกิตติศักดิ์ ฐานจาโร เจ้าคณะตำบลปิล็อก เจ้าอาวาสวัดนพเก้าทายิการาม ได้รับพระราชทานตั้งเป็นพระครูกิตติกาญจนคุณ แล้วก็พระครูปลัดปรีชา จิรนาโค, ดร. เจ้าอาวาสวัดวังปะโท่ ได้รับพระราชทานตั้งเป็นพระครูสุตกาญจนวัฒน์ ส่วนในเรื่องที่พระราชทานเลื่อนนั้น ต้องรออีกบัญชีหนึ่ง

เพียงแต่ว่าดูพระราชทินนามแล้ว ปีนี้มีแปลก ๆ ก็คือโดยปกติพระครูสุต จะต้องเป็นเปรียญธรรม ๔ ประโยค ก็คือถ้าเป็นเปรียญธรรม ๓ ประโยคจะเป็นพระครูปริยัติ ๔ ประโยคเป็นพระครูสุต ๕ ประโยคเป็นพระครูสิริ ๖ ประโยคเป็นพระครูศรี ก็คือพอเห็นพระราชทินนาม จะรู้เลยว่าเราเรียนบาลีมากี่ประโยค

ตั้งแต่ประโยค ๗ ขึ้นไป ไม่สามารถที่จะแต่งตั้งเป็นพระครูได้ เขาบอกว่า "ต่ำเกินไป" ก็คือประโยคเปรียญเอกแล้วตั้งให้เป็นพระครู รู้สึกว่าน้อยไป แต่ถ้าประโยค ๗ ไปขอพระราชาคณะหรือที่เรียกกันว่าเจ้าคุณ เขาก็ไม่ให้อีก เขาบอกว่า "สูงเกินไป" ก็คือสิ่งที่ขอสูงเกินภูมิรู้ของคุณหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ เขาถึงได้มีคำกล่าวกันในวงการศึกษาคณะสงฆ์ว่า "ประโยค ๗ เป็นประโยคยากเข็ญ ขอพระครูเขาก็ว่าต่ำไป ขอเจ้าคุณเขาก็ว่าสูงไป ไม่ต้องไปไหนหรอก อยู่แค่ประโยค ๗ นั่นแหละ..!"

ตัวอย่างก็คือพระสุธีธรรมนาท หรือหลวงพ่อพระมหาปราโมทย์ ปโมทิโต ป.ธ.๗ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี เป็นพระมหาปราโมทย์ ป.ธ.๗ ยันเกษียณ จนกระทั่งพระเดชพระคุณพระพรหมเวที (สุเทพ ผุสฺสธมฺโม ป.ธ.๙) ตอนนั้นเป็นเจ้าคณะภาค ๑๕ วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร ขอต่อทางมหาเถรสมาคมว่า ท่านได้รับหน้าที่การคณะสงฆ์มานานขนาดนี้แล้ว จะไม่ได้อะไรเลยก็ใช่ที่ ถึงได้มีการขอพระราชทานตั้งท่านเป็นพระราชาคณะชั้นสามัญเปรียญที่พระสุธีธรรมนาท ก็ยังดีที่ไม่ติดประโยค ๗ ไปจนมรณภาพ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2023 เมื่อ 02:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 06-12-2023, 00:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,419,066 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กฎเกณฑ์ต่าง ๆ ในวงการคณะสงฆ์ของเรามีมาก เนื่องเพราะว่าต้องได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเท่านั้น จึงจะพระราชทานตั้งหรือพระราชทานเลื่อนให้ ทางคณะสงฆ์ส่งรายชื่อพร้อมกับประวัติไป เป็นบัญชีที่ผ่านเฉพาะส่วนของคณะสงฆ์เท่านั้น ถ้ามีพระราชวินิจฉัยอย่างไรก็ต้องเป็นอย่างนั้น แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วจะทรงอนุโลมตาม ก็คือขอไปอย่างไรตั้งให้อย่างนั้น เพียงแต่ว่าปีนี้มีแปลก ๆ อยู่หน่อยหนึ่ง ก็คือดูแล้วว่าพระราชทินนามไม่ตรงกับภูมิรู้ของตน อย่างพระครูปลัดปรีชา จิรนาโค, ดร. ก็ถือว่าได้กำไร ประโยค ๓ แต่เป็นพระครูสุตกาญจนวัฒน์

ในส่วนของเจ้าคุณก็มีตำแหน่งหนึ่ง จำไม่ได้ว่าเป็นเจ้าคุณศรีอะไร น่าจะเป็นพระศรีสุธรรมมุนี สำหรับประโยค ๘ โดยเฉพาะ แต่ไปขึ้นด้วยคำว่าศรี ซึ่งเป็นสิทธิของเปรียญธรรม ๙ ประโยค เพราะฉะนั้น..ท่านเจ้าคุณบุญเทียม ญาณินฺโท วัดพิชยญาติการาม ซึ่งปัจจุบันเป็นพระราชาคณะชั้นราช ท่านเป็นพระศรีสุธรรมมุนี ถ้าคนที่ไม่รู้ก็จะคิดว่าท่านเป็นเปรียญธรรม ๙ ประโยค แต่ความจริงแล้ว ท่านได้แค่ ๘ ประโยค..!

สมัยก่อนพระราชทินนาม บรรดาเจ้าคุณต่าง ๆ มีตกทอดมา อย่างเช่นว่าสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ สมเด็จพระพนรัตน์ มีการกำหนดตายตัวเลยว่าเป็นฝ่ายคามวาสี หรืออรัญวาสี ฝ่ายคามวาสี ส่วนใหญ่ก็คือฝ่ายศึกษาเล่าเรียน ตำแหน่งสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ เป็นฝ่ายคามวาสี สมเด็จพระพนรัตน์เป็นฝ่ายอรัญวาสี คือฝ่ายวิปัสสนาธุระ เหล่านี้เป็นต้น

แต่มาระยะหลัง มีการปรับเปลี่ยนกันไป เนื่องเพราะว่าบุคคลที่เหมาะสมจะได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระราชาคณะในตำแหน่งนั้น คุณสมบัติไม่ได้ตรง อย่างเช่นว่าเป็นฝ่ายวิปัสสนาธุระ แต่รับตำแหน่งสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ หรือว่าเป็นฝ่ายปริยัติ แต่ว่ารับตำแหน่งสมเด็จพระวันรัต ซึ่งก็มาจากสมเด็จพระพนรัตน์นั่นแหละ

แล้วยังมีสมเด็จพระราชาคณะ ที่เขาเรียกว่าเจ้าคณะรอง ชั้นหิรัญบัฏ ซึ่งปัจจุบันนี้บางคนเรียกว่าชั้นพรหม ตำแหน่งเก่า ๆ ที่ไม่มีคำว่าพรหมมีอยู่มาก อย่างเช่นพระพุทธวรญาณ พระธรรมวโรดม พระมหาโพธิวงศาจารย์ เหล่านี้เป็นต้น เพราะฉะนั้น..ถ้าหากเห็นท่านไม่มีคำว่าพรหมนำหน้า แล้วไปคิดว่าท่านเป็นพระราชาคณะชั้นต่ำกว่านั้น ก็อาจจะ "โดนโบก" เอาได้..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2023 เมื่อ 02:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 06-12-2023, 00:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,419,066 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีพระราชาคณะอยู่ตำแหน่งหนึ่ง ซึ่งเป็นพระราชาคณะเฉพาะของจังหวัดเชียงใหม่เท่านั้น ไม่มีใครต้องการมาหลายสิบปีแล้ว คือตำแหน่งท่านเจ้าคุณพระนพีสีพิศาลคุณ ต้องบอกว่าตรง ๆ ว่าเชียงใหม่ นพีสี ก็คือ นว + อิสิ นว คือ ใหม่ อิสิ ก็คือ ฤๅษี ซึ่งหมายถึงเมืองเชียงใหม่ ที่เกิดจากการสร้างของฤๅษีวาสุเทพ ปรากฏว่าผู้ได้รับพระราชทานตั้งเป็นพระนพีสีพิศาลคุณ รูปแรกไม่นานก็มรณภาพ ตั้งรูปที่ ๒ ก็มรณภาพ ตั้งรูปที่ ๓ ก็มรณภาพ..! ตั้งแต่นั้นมา ถวายให้ใครก็ไม่มีใครเอา แปลกดีเหมือนกัน ตำแหน่งอื่นเห็นแย่งกันเหลือเกิน แต่นี่ขนาดให้เป็นเจ้าคุณดันไม่เอา..!

แล้วบรรดาเจ้าคุณ หรือว่าพระครูสมัยก่อน บางตำแหน่งก็เป็นเฉพาะของจังหวัดนั้น ๆ อย่างของจังหวัดกาญจนบุรีของเรา ก็จะมีพระครูวิสุทธิรังษี พระครูสิงคิคุณธาดา พระครูจริยาภิรัต พระครูยติวัตรวิบูลย์ พระครูอดุลสมณกิจ พระครูนิวิฐสมาจาร และพระครูวัตตสารโสภณ พระครู ๗ ตำแหน่งนี้ แต่เดิมตั้งเฉพาะในจังหวัดกาญจนบุรีเท่านั้น

ตอนหลังตำแหน่งพระครูวิสุทธิรังษีได้เพิ่มขึ้นไปเป็นสังฆปาโมกข์ ก็คือเป็นเจ้าคณะจังหวัด จึงได้เลื่อนขึ้นเป็นพระวิสุทธิรังษี เป็นพระราชาคณะ แต่พอมาระยะหลัง ๆ คนที่สมควรจะได้รับแต่งตั้ง ไปอยู่จังหวัดอื่น ก็กลายเป็นว่าสมณศักดิ์นี้หลุดออกจากจังหวัดกาญจนบุรีไป

ตำแหน่งพระวิสุทธิรังษีที่โด่งดังมาก ๆ ก็คือหลวงปู่เปลี่ยน อินฺทสโร อดีตเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี อดีตเจ้าอาวาสวัดไชยชุมพลชนะสงคราม พระอารามหลวง

ตำแหน่งพระครูอดุลสมณกิจ ที่โด่งดังมาก ๆ ก็คือหลวงปู่ดี พุทฺธโชติ วัดเหนือ ซึ่งภายหลังก็คือท่านเจ้าคุณพระเทพมงคลรังษี ถือว่าเป็นสองเสือเหนือใต้ เขาบอกว่าถ้า "
อยากเจ้าชู้ให้ไปวัดเหนือ อยากเป็นเสือให้ไปวัดใต้" เพราะว่าหลวงปู่ดีท่านถนัดเรื่องเมตตามหานิยม ส่วนหลวงปู่เปลี่ยนท่านถนัดเรื่องคงกระพันมหาอุด

พระครูสิงคิคุณธาดาที่โด่งดังมาก ๆ หลวงปู่ม่วง จนฺทสโร วัดบ้านทวน เจ้าของแหวนพิรอด และพิรอดแขน ที่ถือว่าโด่งดังตีคู่มากับหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว ปรมาจารย์ใหญ่เมืองกาญจนบุรีเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2023 เมื่อ 02:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 06-12-2023, 00:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,419,066 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนพระครูของจังหวัดอื่นที่เป็นจำเพาะของจังหวัดนั้น ก็คือพระครูที่รักษาพระปฐมเจดีย์ ก็คือตำแหน่งพระครูปุริมานุรักษ์ รักษาพระปฐมเจดีย์ด้านทิศตะวันออก

พระครูทักขิณานุกิจ ภายหลังเปลี่ยนเป็นทักษิณานุกิจ รักษาพระปฐมเจดีย์ด้านทิศใต้

พระครูปัจฉิมทิศบริหาร รักษาพระปฐมเจดีย์ด้านทิศตะวันตก และพระครูอุตตรการบดี รักษาพระปฐมเจดีย์ด้านทิศเหนือ

พระครูอุตตรการบดีที่โด่งดังที่สุดคือหลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก

พระครูปุริมานุรักษ์ในอดีตดังสู้ปัจจุบันไม่ได้ พระครูปุริมานุรักษ์ปัจจุบันที่ดังที่สุด คือหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อมที่มรณภาพไปไม่นาน

ส่วนพระครูปัจฉิมทิศบริหารไม่มีใครเกินหลวงปู่นาค วัดห้วยจระเข้ไปได้

ของท่านอื่น ๆ ความจริงท่านก็มีความสามารถอยู่ แต่ว่าเจอหลวงปู่ทา หลวงปู่นาค กลบจนมิดสนิทไปเลย..! ไปเกิดยุคสมัยเดียวกับท่านก็คงเหมือนอย่างกับพระจันทร์ไปแข่งกับพระอาทิตย์ อย่างไรก็สู้กันไม่ได้อยู่แล้ว

แล้วก็ยังมีตำแหน่งพระครูผู้รักษาพระมหาธาตุเมืองนครศรีธรรมราช ก็คือพระครูกาแก้ว พระครูกาเดิม พระครูกาชาด และพระครูการาม เหล่านั้นเป็นต้น ถ้าเห็นขึ้นด้วยคำว่ากา ให้รู้เลยว่าอยู่จังหวัดนครศรีธรรมราช จะให้จังหวัดอื่นไม่ได้ แต่ระยะหลังนี้หลุดไปไกลเหมือนกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2023 เมื่อ 02:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 25 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 06-12-2023, 00:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,419,066 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องพวกนี้บางทีรับรู้เอาไว้ก็เป็นส่วนของความรู้รอบตัว สมณศักดิ์เปรียบเหมือน "ยศช้างขุนนางพระ" ถ้าหากว่าเราไม่ไปหวั่นไหวกับโลกธรรมที่เข้ามา ก็เหมือนกับตั้งยศให้กับช้าง ต่อให้ช้างเป็นคุณหลวง คุณพระ หรือว่าเจ้าคุณ ก็ยังคงกินอ้อยกินหญ้าเหมือนเดิม

คำว่าขุนนางพระก็ลักษณะเดียวกัน คือได้รับพระราชทานตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตรบ้าง เป็นพระราชาคณะบ้าง หลายต่อหลายรูปท่านก็คงเหมือนเดิมทุกอย่าง ปฏิปทาไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย เพราะถือว่าเป็นเรื่องภายนอก ใครมาแสดงความยินดี ท่านก็ดีด้วย ใครไม่แสดงความยินดี ท่านก็เฉย ๆ

จึงเป็นเรื่องที่พวกเราต้องรักษาใจกันเอาเอง เวลาที่โลกธรรมเข้ามา ขึ้นอยู่กับว่าถ้าหวั่นไหวมากก็ทำใจยากหน่อย ถ้าหวั่นไหวน้อยก็จัดการง่ายหน่อย ส่วนที่ไม่หวั่นไหวได้เลย จะเป็นเรื่องที่วิเศษที่สุด แต่ก็หาได้ยากอย่างยิ่งเหมือนกัน

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 07-12-2023 เมื่อ 00:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:40



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว