กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกรกฎาคม ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 05-07-2023, 18:11
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 351
ได้ให้อนุโมทนา: 3,307
ได้รับอนุโมทนา 19,096 ครั้ง ใน 829 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๖๖


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 06-07-2023, 00:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,704
ได้ให้อนุโมทนา: 152,039
ได้รับอนุโมทนา 4,418,414 ครั้ง ใน 34,294 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๕ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ มีหลายเรื่องที่อยากจะกล่าวถึง ควรที่จะว่ากันเป็นลำดับไป

เรื่องแรกก็คือ มีญาติโยมส่งคลิปมาให้ดู เป็นตู้จำหน่ายพระเครื่องอัตโนมัติ ต้องการองค์ไหนก็กดดูราคา หลังจากนั้นแล้วก็ใส่เงินเข้าไปตามจำนวนตัวเลขที่ขึ้นมา เมื่อกดยืนยัน ตู้ก็จะส่งพระเครื่องออกมาให้ ถ้าหากอยู่ในลักษณะที่เห็น ก็ต้องบอกว่าเป็นนวัตกรรมอย่างหนึ่งของการจำหน่ายวัตถุมงคล กระผม/อาตมภาพพยายามดูแล้ว เห็นว่าไม่มีอะไรเสียหาย เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าการจำหน่ายนั้น ก็อยู่ในลักษณะที่เรียบร้อยดีงาม ไม่ได้อยู่ในลักษณะที่ว่าดีดข้าวของออกมา ตกใส่พื้นอะไรทำนองนั้น

เรื่องพวกนี้ต้องบอกว่าเป็นเรื่องของนานาจิตตัง ก็คือจะมองว่าดีงามก็ได้ เสียหายก็ได้ แต่ถ้าหากว่าจะมองว่าเสียหาย ก็เสียหายตั้งแต่การจำหน่ายวัตถุมงคลในวัดแล้ว เนื่องเพราะว่าออกไปในลักษณะที่บุคคลกล่าวในปัจจุบันนี้ว่า "พุทธพาณิชย์" ดังนั้น..ในเรื่องนี้ ไม่ว่าจะจำหน่ายที่ไหนก็จัดว่าเป็นพุทธพาณิชย์เช่นกัน แต่ถ้ามองในแง่ดีก็คือญาติโยมสามารถเข้าถึงได้ง่าย ไม่จำเป็นที่จะต้องเดินทางไกลไปยังวัดวาอาราม เพราะว่ามีตู้อัตโนมัติมาบริการให้ถึงบริเวณบ้านของตนเอง

จะว่าไปแล้ว เรื่องของพระเครื่องและวัตถุมงคลนั้น จัดเป็น "ซอฟท์พาวเวอร์" อย่างหนึ่ง สามารถทำรายได้เข้าประเทศไทยปีละเป็นพันเป็นหมื่นล้าน เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อว่าชาวต่างชาติจะนิยมวัตถุมงคลบ้านเราขนาดนั้น..! ถ้าหากว่าจัดจำหน่ายในลักษณะเรียบร้อยดีงาม แบบที่ในคลิปถ่ายมาให้ดู กระผม/อาตมภาพก็เห็นด้วย ถือว่าเป็นนวัตกรรมในการจำหน่ายวัตถุมงคล สามารถนำเสนอให้กับผู้ที่ต้องการแล้วไม่มีโอกาสเดินทางไปถึงวัดได้เป็นอย่างดี

อีกเรื่องหนึ่งก็คือที่มีการถกเถียงกันว่า มีพระอุปัชฌาย์ทำการอุปสมบทให้กับกุลบุตรที่อยู่ในลักษณะข้ามเพศ เป็นการทำผิดพระวินัย ต้องให้ท่านที่บวชสึกเสีย..! แต่ขออภัย กระผม/อาตมภาพเองยึดถือตามพระธรรมวินัย ซึ่งมีพระอรรถกถาจารย์ พระฎีกาจารย์ท่านตีความมาแล้ว จึงเห็นว่าการบวชบุคคลนั้นเป็นไปโดยถูกต้องตามพระธรรมวินัย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-07-2023 เมื่อ 02:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 06-07-2023, 00:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,704
ได้ให้อนุโมทนา: 152,039
ได้รับอนุโมทนา 4,418,414 ครั้ง ใน 34,294 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้าหากว่าบวชไปแล้ว สามารถเก็บอาการอยู่ ก็จัดเป็นเรื่องดีเสียด้วยซ้ำไป เนื่องเพราะว่าท่านทั้งหลายเหล่านี้ ถ้ามีจริตกริยาที่เรียบร้อย ก็จะเรียบร้อยกว่าบุคคลทั่วไปที่เข้าไปอุปสมบท เนื่องเพราะว่าท่านทั้งหลายเหล่านี้นั้น ถ้าหากว่าที่กระผม/อาตมภาพใช้คำพูดก็คือ เป็น "ผู้ชายเรียบร้อย" อยู่แล้ว ในเมื่อสำรวมกิริยาอาการ น่าจะทำให้บุคคลเลื่อมใสได้มากอีกด้วย

เรื่องพวกนี้เราต้องเอาพระธรรมวินัยเป็นใหญ่ ในเมื่อพระธรรมวินัยไม่ได้ห้ามไว้ เนื่องเพราะว่ากล่าวถึงบัณเฑาะก์ ๔ ประเภท ท่านผู้บวชก็ไม่ได้จัดอยู่ในประเภทที่ห้ามบวชอย่างเด็ดขาด แม้กระทั่งวัดท่าขนุนของกระผม/อาตมภาพ ก็เป็นที่รู้กันว่าสามารถที่จะบวชได้ แต่ว่าต้องเก็บอาการให้อยู่ ถ้าเก็บอาการไม่อยู่เมื่อไร ก็จะบังคับให้สึกหาลาเพศไปเมื่อนั้น..!

เรื่องพวกนี้จึงไม่ใช่เรื่องที่กระแสสังคมจะมาตัดสิน เนื่องเพราะว่ามีพระธรรมวินัยและแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนอยู่แล้ว ท่านทั้งหลาย ถ้าหากว่าสามารถที่จะบรรพชาอุปสมบทได้ตามพระธรรมวินัย ก็ควรที่จะมีสิทธิ์ของตนเองอย่างเต็มที่

การอุปสมบทบรรพชาเป็นการต่ออายุพระพุทธศาสนาอย่างหนึ่ง เราอย่าเพิ่งไปตัดสินโดยยกเอาบุคคลที่มีจริตกิริยาผิดเพี้ยนไป จนกระทั่งก่อให้เกิดความเสียหายกับพระพุทธศาสนา เนื่องเพราะว่าท่านทั้งหลายเหล่านั้น ไม่ได้คำนึงถึงพระพุทธศาสนา ปล่อยให้ รัก โลภ โกรธ หลง มีอำนาจมากกว่า จึงได้แสดงกิริยาออกไปตามเพศสภาพของตนเอง แต่เราจะไปเหมาว่าบุคคลประเภทนี้เป็นเช่นนั้นทั้งหมดก็ไม่ได้ โดยเฉพาะท่านมีสิทธิ์ที่จะบรรพชาอุปสมบทแต่เป็นบุคคลลักษณะนี้

จึงเป็นเรื่องที่พระอุปัชฌาย์อาจารย์จะทำการพิจารณา ควบคุม อบรม สั่งสอน ถ้าท่านทั้งหลายเหล่านี้สามารถที่จะอยู่ต่อได้ โดยไม่สร้างความเสียหายให้กับพระพุทธศาสนา ก็ถือว่าเป็นบุคคลที่สืบทอดอายุพระศาสนาในฐานะของศากยบุตรพุทธชิโนรสได้เช่นกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-07-2023 เมื่อ 02:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 06-07-2023, 00:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,704
ได้ให้อนุโมทนา: 152,039
ได้รับอนุโมทนา 4,418,414 ครั้ง ใน 34,294 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะกล่าวถึงก็คือเรื่องของพลายศักดิ์สุรินทร์ หรือที่ทางศรีลังกาเรียกว่า "มุทุราชา" คำว่า "มุทุราชา" เป็นภาษาบาลี แปลตรง ๆ ว่าพระราชาผู้อ่อนโยน ซึ่งมีหลายสำนักข่าวใช้คำว่า "มธุราชา" ภาษาบาลีนั้น ถ้าหากว่ากล่าวผิดแม้แต่เล็กน้อย ความหมายก็จะผิดเพี้ยน เพราะว่า "มธุ" นั้นหมายถึงน้ำผึ้ง เป็นคนละเรื่องกันกับมุทุ ซึ่ง "มุทุ" นั้นก็คือความอ่อนโยน ควรแก่งาน

พลายศักดิ์สุรินทร์นั้นไปในฐานะทูตสันถวไมตรีที่รัฐบาลไทยมอบให้กับรัฐบาลศรีลังกาที่ขอมา โดยที่คำขอได้บอกว่าจะนำไปใช้ในการแห่พระบรมธาตุเขี้ยวแก้ว แต่ว่าเมื่อพลายศักดิ์สุรินทร์ไปอยู่ที่นั่น กลับขาดการดูแลที่ดีจนกระทั่งเจ็บไข้ได้ป่วย

เมื่อบรรดาองค์กรการกุศลที่เห็นแล้วแจ้งมาทางประเทศไทย ทางประเทศไทยของเรา โดยคุณกัญจนา ศิลปอาชา หรือที่พวกเราคุ้นเคยกันในนามของ "หนูนา"ตลอดจนกระทั่งท่านวราวุธ ศิลปอาชา ซึ่งอยู่ในฐานะรัฐมนตรีที่รับผิดชอบ จึงได้ช่วยกันติดต่อตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว จนกระทั่งสามารถนำกลับมารักษาตัวที่เมืองไทย และปัจจุบันนี้ได้รับไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

เรื่องนี้จะว่าไปแล้ว ก็ไม่สามารถที่จะตำหนิทางรัฐบาลศรีลังกาได้ เนื่องเพราะว่าทางวัดขอมา ทางรัฐบาลก็ขอความร่วมมือจากประเทศไทย แต่เมื่อส่งไปแล้ว ทางวัดวาอารามขาดการดูแลที่ดี โดยเฉพาะบรรดาเทคนิคการแพทย์ เครื่องไม้เครื่องมือ ตลอดจนกระทั่งสัตวแพทย์ผู้ชำนาญการนั้น ก็ไม่ได้มีพร้อมเหมือนกับเมืองไทย

ก็ยังดีที่ว่าทางด้านศรีลังกานั้นไม่ดื้อดึง เพราะทราบดีว่าประเทศไทยของเรานั้น เทคโนโลยีในการรักษาสัตว์ใหญ่แบบช้าง เหนือกว่าทุกประเทศในโลก ถึงขนาดสามารถปั๊มหัวใจแม่ช้างที่หัวใจหยุดเต้นไปแล้ว จนกระทั่งกลับฟื้นคืนมามีชีวิตใหม่ได้ เรื่องนี้เป็นที่ฮือฮากันไปทั่วโลก..!

ทางประเทศศรีลังกา เมื่อไม่ดื้อดึง ยอมให้ทางด้านเราดำเนินการ นำเอาพลายศักดิ์สุรินทร์กลับสู่บ้านเมืองของตน ที่ได้พลัดพรากไปถึง ๒๒ ปีเต็ม เมื่อกลับมาก็เห็นว่าพลายศักดิ์สุรินทร์นั้นมีความสุขมาก ตอนนี้ก็อยู่ในระหว่างกักกันโรค และให้หมอติดตามอาการอย่างใกล้ชิด เมื่อได้รับสารอาหารเพียงพอ มีร่างกายแข็งแรงแล้ว ก็จะได้รับการรักษาตามอาการที่เจ็บป่วยต่อไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-07-2023 เมื่อ 02:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 06-07-2023, 00:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,704
ได้ให้อนุโมทนา: 152,039
ได้รับอนุโมทนา 4,418,414 ครั้ง ใน 34,294 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่ว่าเรื่องนี้คนไทยของเราอย่าได้เพิ่ง "ดราม่า" เนื่องเพราะว่าในฐานะทูตสันถวไมตรีนั้น เราได้มอบให้กับทางรัฐบาลศรีลังกาไปแล้ว ในเมื่อกลับมารักษาตัว ถ้าหากว่าหายป่วยแล้ว ก็ต้องส่งคืนแก่รัฐบาลศรีลังกาต่อไป ซึ่งการส่งคืนนั้น ถ้าไม่ใช่ส่งพลายศักดิ์สุรินทร์กลับคืนไป ก็อาจจะต้องหาช้างเชือกอื่นส่งคืนไปทดแทน จึงไม่ใช่เรื่องที่พวกเราจะมา "ดราม่า" กัน

โดยเฉพาะช้างนั้นเป็นสัตว์ใหญ่ มีคุณต่อประเทศชาติของเราอย่างมหาศาล เป็นสัตว์ประจำชาติของเราก็ว่าได้ ปัจจุบันนี้ก็หายากขึ้นทุกทีแล้ว เนื่องเพราะว่าช้างแอฟริกานั้น ไม่สามารถที่จะฝึกให้เชื่องเหมือนกับช้างเอเซีย โดยเฉพาะช้างไทยได้

ดังนั้น..เขาจึงไม่ขอช้างแอฟริกาไปใช้งาน หากแต่ว่าขอช้างเอเชีย โดยเฉพาะช้างของบ้านเราไป ต้องถือว่ารัฐบาลศรีลังกาให้เกียรติกับประเทศไทย ในฐานะเพื่อนบ้านที่มีการคบหาสมาคมกันมาเนิ่นนาน แม้แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูหัวรัชกาลที่ ๙ พร้อมด้วยสมเด็จสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ก็เคยเสด็จไปยังศรีลังกาด้วยพระองค์เองมาแล้ว

เรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก ไม่สามารถที่จะนำเอาอารมณ์มาเหนือเหตุผลได้ จึงเป็นเรื่องที่กระผม/อาตมภาพขออนุญาตเตือนพี่น้องชาวไทยเอาไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ว่าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องที่เราจะเอาอารมณ์มา "ดราม่า" ว่าทำไมนำพลายศักดิ์สุรินทร์กลับมารักษาตัวหายดีแล้ว จึงส่งกลับไปตกนรกอยู่ตามเดิม..!

เรื่องพวกนี้เราอาจจะกล่าวหาบุคคลที่ไม่มีความพร้อมทางเทคโนโลยีมากจนเกินไป เขาอาจจะดูแลจนเต็มสติกำลังของเขาแล้ว แต่ว่าทำได้แค่นั้นก็เป็นได้ จึงไม่ใช่เรื่องที่เราจะเอาอารมณ์มาเหนือเหตุผล หากแต่ว่าต้องปล่อยให้เป็นไปตามกลไกของทางการทูต และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกันต่อไป

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๕ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-07-2023 เมื่อ 02:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 07:26



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว