กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 27-05-2023, 20:37
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 351
ได้ให้อนุโมทนา: 3,307
ได้รับอนุโมทนา 19,090 ครั้ง ใน 829 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๖


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 27-05-2023, 23:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,149 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๒๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ วัดท่าขนุนของเราได้ตัดยอดนาค ที่สมัครบวชเพื่อปฏิบัติธรรมช่วงสัปดาห์วันวิสาขบูชา สรุปว่าตอนนี้ก็คือ ๑๑ คนด้วยกัน คราวนี้ ๑๑ คนที่เหลือ จะรอดไปได้สักเท่าไรก็รอดูอีก ๕ - ๖ วันข้างหน้า

วันนี้กระผม/อาตมภาพต้องเดินทางขึ้นไปยังอำเภอสังขละบุรี เพื่อตรวจสอบที่พัก แล้วก็การจัดการสถานที่เพื่อเตรียมประชุมพระสังฆาธิการในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ ซึ่งจากการคำนวณคร่าว ๆ ก็จะมีพระสังฆาธิการระดับที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะจังหวัด รองเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล รองเจ้าคณะตำบล และเลขานุการทุกระดับ มาร่วมประชุมครั้งนี้ประมาณ ๗๐๐ รูปเป็นอย่างต่ำ

คราวนี้จังหวัดกาญจนบุรีในฐานะเจ้าภาพ ก็ต้องดูแลเรื่องที่อยู่ที่กิน แต่ยังโชคดีที่ว่ามีรีสอร์ทหลายแห่งปวารณา ถวายการอุปถัมภ์เรื่องที่พัก อย่างเช่นวันนี้ที่กระผม/อาตมภาพไปสำรวจความพร้อมดู ก็มีแมกไม้รีสอร์ท หมู่ที่ ๘ ตำบลหนองลู แล้วก็วังกะรีสอร์ท หมู่ที่ ๒ ตำบลหนองลู ต้องบอกว่าในฐานะเจ้าภาพ บรรดาท่านเจ้าของรีสอร์ทก็ถือว่าเสียหน้าไม่ได้ จึงพร้อมใจกันปวารณาให้ที่พักฟรี แก่บรรดาพระสังฆาธิการที่มาร่วมประชุมในครั้งนี้ ในนามของคณะสงฆ์ภาค ๑๔ ก็ต้องอาศัยโอกาสนี้เจริญพรขอบคุณท่านเจ้าของรีสอร์ท และผู้เกี่ยวข้องทุกท่านที่ตั้งใจช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่

ความจริงแล้วกระผม/อาตมภาพ อยากให้พระสังฆาธิการทั้งหลายเหล่านี้พักที่วัด เพราะว่าจากที่พระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าคณะภาค ๑๔ ท่านให้นโยบายไว้ก็คือ อยากให้เพื่อนพระสังฆาธิการในจังหวัดอื่น ๆ มาดูบ้าง ว่าเขาอยู่กันลำบากและห่างไกลแค่ไหน แต่คราวนี้ต้องบอกว่าท่านทั้งหลายได้สร้างบุญเอาไว้ดี ถึงได้มีเจ้าของรีสอร์ทปวารณาให้ขนาดนั้น ไม่เช่นนั้นค่าใช้จ่ายตรงนี้พวกเราน่าจะรับกันไม่ไหว เนื่องจากว่าที่พักในอำเภอสังขละบุรีนั้น แพงมากเป็นพิเศษ

อย่างที่ทองผาภูมินี้ ห้องพักทั่ว ๆ ไป คืนหนึ่งประมาณ ๖๐๐ - ๗๐๐ บาท พอที่จะหาพักได้แล้ว แต่สังขละบุรีเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ซึ่งมีทั้งวัดหลวงพ่ออุตตมะ (วัดวังก์วิเวการาม) และสะพานมอญ ห้องพักแบบธรรมดา คืนหนึ่งอย่างต่ำ ๒,๐๐๐ บาท..! ราคาต่างกันประมาณ ๓ เท่า จึงทำให้ท่านทั้งหลายที่ปวารณานั้น แบ่งเบาภาระคณะสงฆ์จังหวัดกาญจนบุรีไปได้อย่างมากมายมหาศาล
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-05-2023 เมื่อ 02:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 27-05-2023, 23:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,149 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อกลับมาวัดท่าขนุน ยังไม่ทันจะได้ทำอะไร พระครูวรกาญจนโชติ เจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิก็โทรศัพท์มา บอกว่า "รบกวนหลวงพ่อรองฯ ช่วยไประงับอธิกรณ์ที่ตำบลห้วยเขย่งให้หน่อยครับ เนื่องจากว่าหลวงพ่อพระครูกาญจนปัญญาวุฒิ รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ วัดเขื่อนวชิรราลงกรณ ท่านก็อายุเกือบ ๘๐ แล้ว และเจ็บไข้ได้ป่วยอยู่" ในเมื่อหลวงพ่อเจ้าคณะอำเภอท่านต้องเป็นหลักอยู่ที่สังขละบุรี กระผม/อาตมภาพก็ต้องวิ่งไปตำบลห้วยเขย่ง เสร็จงานแล้วก็เพิ่งจะกลับมาก่อนทำวัตรค่ำนี้นิดเดียวเท่านั้น

สาเหตุก็คือว่าช่วงนี้ที่ห้วยเขย่งยาบ้าระบาด ทางด้านกำนัน ผู้ใหญ่บ้านก็ร่วมมือกับทางตำรวจชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าไปทำการตรวจปัสสาวะกลุ่มผู้เสี่ยง บรรดาเด็กที่ตรวจปัสสาวะแล้ว ผลขึ้นอย่างชัดเจนว่ามีสารเสพติดอยู่ในร่างกาย ก็ซัดทอดมาว่าทำไมไม่ตรวจในวัดด้วย..! เมื่อทำการตรวจในวัด มีพระรูปหนึ่งที่พรรษาค่อนข้างมาก ผลขึ้นอย่างชัดเจนว่ามีสารเสพติดอยู่ในร่างกาย แต่ท่านไม่ยอมให้ดำเนินคดีด้วยการสึกหาลาเพศ

คราวนี้หลวงพ่อเจ้าคณะอำเภอก็ดี รองเจ้าคณะอำเภอวัดเขื่อนฯ ก็ดี แม้แต่
กระผม/อาตมภาพเอง อาวุโสน้อยกว่าเจ้าอาวาส ดังนั้น..เราจะพึ่งพระวินยาธิการหรือว่าตำรวจพระไม่ได้ เพราะว่าส่วนใหญ่ท่านทั้งหลายเหล่านั้นเป็นเจ้าอาวาสที่อายุกาลพรรษาน้อย ไปเจอเจ้าอาวาสแถมยังเป็นเจ้าคณะตำบลอาวุโสสูงสุดเข้าด้วย ก็คงจะทำอะไรไม่ถูก กระผม/อาตมภาพจึงต้องเดินทางไปเอง

แม้ว่าจะอาวุโสพรรษาน้อยกว่าท่าน แต่ว่าผลงานที่ผ่านมาทำให้ท่านเกรงใจ ท้ายสุดก็ยอมให้ลูกศิษย์ของตนสึกหาลาเพศ เพราะ
กระผม/อาตมภาพยืนยันว่า สึกไปจะไม่มีการดำเนินคดี เพราะว่าจะเอาเข้าโครงการบำบัดผู้ติดยาเสพติดในฐานะผู้ป่วย ซึ่งจะใช้เวลาไม่เกิน ๑๕ วัน ออกมาแล้วสามารถบวชใหม่ได้ เนื่องเพราะว่าคดีนี้ไม่ใช่คดีหนักหนาจนถึงขนาดอาบัติปาราชิก ห้ามการบวช ในเมื่อเป็นเช่นนั้นเรื่องถึงได้จบลงด้วยดี

คราวนี้เราท่านทั้งหลายจะเห็นว่า เรื่องที่หนึ่ง สิ่งเสพติดเหล่านี้ไม่มีข้อห้ามเอาไว้ในพระวินัยตั้งแต่ต้น เนื่องเพราะว่ายุคสมัยนั้นไม่มี แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทานข้อตัดสินในพระวินัยเอาไว้คือ มหาปเทส ๔ ซึ่งเรื่องสิ่งเสพติดในปัจจุบันนี้ จัดอยู่ในข้อสิ่งที่ไม่สมควร พิจารณาแล้วว่าไม่สมควร สิ่งนั้นย่อมไม่สมควร แปลว่าผิดพระวินัยแน่นอน ดังนั้น..ถ้าเราท่านทั้งหลายเอามหาปเทส ๔ เข้าไปจับ โดยไม่มีใจอคติ เรื่องทุกอย่างจะจบได้ง่าย เพราะว่าชัดเจนมาก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-05-2023 เมื่อ 02:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 27-05-2023, 23:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,149 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แม้กระทั่งปัจจุบันนี้ เรื่องของกัญชา กระผม/อาตมภาพยืนยันว่าเป็นสิ่งที่ไม่สมควร พิจารณาแล้วว่าไม่สมควร กัญชาย่อมไม่สมควรต่อพระภิกษุสามเณร ไม่ใช่กฎหมายอนุญาตให้ครอบครองได้ไม่เกิน ๖ ต้น แล้วเราเป็นพระ เป็นเณร จะไปปลูกกัญชา จะเอาไว้เสพ เรื่องพวกนี้นั้น เป็นเรื่องที่ควรจะต้องละเว้นเป็นอย่างยิ่ง

เนื่องเพราะว่า "หมอหนู" ไม่ใช่หมอ "หมอหนู" ตั้งใจขายกัญชาเท่านั้น..! จึงต้องหาทางแก้ไขให้กัญชาไม่ใช่พืชเสพติด แต่แก้ไขอย่างไรก็แก้ไขไม่ได้ กัญชาเป็นพืชเสพติดที่ให้ผลต่อจิตประสาท ไม่ว่าจะอ้างความดีในการรักษาโรคอะไรก็ตาม เราต้องไม่ลืม "มัชฌิมาปฏิปทา" ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็คือต้องพอเหมาะ พอดี แปลว่าควรจะอยู่ภายใต้การควบคุมของแพทย์ ไม่ใช่ปลูกเอง เสพเองกันครึกครื้น เดี๋ยวก็ได้หลอนกัญชาฆ่ากันตายแบบที่เกิดคดีขึ้นมาไม่นาน แล้วทุกคนก็พยายามปิดข่าว เบี่ยงเบนว่าไม่ใช่ผลจากการเสพกัญชา..!

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบัญญัติพระธรรมวินัยเอาไว้ มีอานิสงส์อยู่ ๑๐ ประการ ประการหนึ่งก็คือกดข่มผู้เก้อยาก คำว่า ทุมฺมงฺกุ ในบาลีที่แปลว่า ผู้เก้อยาก คือพวกหน้าด้าน ต่อให้จับได้ต่อหน้าต่อตาก็ปฏิเสธ แบบวันนี้ที่เขาอ้างว่าโดนกลั่นแกล้ง..!

ข้อที่สองก็คือเพื่อความสุขของผู้มีศีลเป็นที่รัก เนื่องเพราะว่าทุกคนอยู่ภายใต้ระเบียบเดียวกัน ปฏิบัติในสิ่งที่เหมือน ๆ กัน ย่อมไม่เกิดวิปฏิสาร คือความเดือดเนื้อร้อนใจว่าตนเองต่างจากผู้อื่น ดังนั้น..ในเรื่องของพระธรรมวินัย ถ้าหากว่าเราเคร่งครัด เข้มงวด และรู้จักระมัดระวัง โอกาสที่เราจะเดือดร้อนก็ไม่มี

ยังโชคดีที่ว่าทางกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตลอดจนกระทั่งตำรวจชุมชนที่เข้าไป เห็นแก่พระพุทธศาสนามาก จึงไม่ยอมให้นักข่าวเข้าไปในพื้นที่ ทำให้เรื่องนี้จบลงด้วยดี เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งยอมสึกหาลาเพศ และเข้ารับการบำบัดในเมื่ออยู่ในฐานะผู้ป่วย ก็ไม่ต้องโดนบันทึกประวัติ กลับออกมาบวชใหม่ได้ภายในไม่กี่วันเท่านั้น ต้องถือว่าเป็นโครงการที่เอื้ออาทรเป็นอย่างยิ่งต่อผู้เสพที่หลงผิด แต่ถ้าหากว่าใครทำจนเป็นสันดาน ก็อาจจะต้องมีการลงโทษกันในทางอื่นต่อไป

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๒๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-05-2023 เมื่อ 02:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:20



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว