การแยกระหว่างนิมิต ทิพยจักขุญาณ ทิพยโสต จิตตสังขาร กับหูแว่วและภาพหลอน กับการปรุงแต่ง

[ลลิตา]

น้อมกราบขอความเมตตาหลวงพ่อ

เราจะรู้ได้อย่างไรเจ้าคะ ว่าครูบาอาจารย์มาหาเราจริง

ภาพที่เห็น กับเสียงที่ได้ยิน จะไม่ใช่จิตตสังขารที่เป็นภาพ จิตตสังขารที่เป็นเสียง ผสมการปรุงแต่ง หรือเป็นนิมิต ที่เราน้อมนึกขึ้นมาเอง หรือท่านมาสักครู่เดียว แล้วที่เหลือเราปรุงแต่งต่อเอง นานนับหลายเดือน

แล้วทิพยโสต จะแยกกับหูแว่ว ในโรคจิตเภทอย่างไรเจ้าคะ
เคยทานยาจิตเวชมาก่อน และปัจจุบันก็ยังทานอยู่ มีครูบาอาจารย์บอกให้ไปพบจิตแพทย์ และยังบอกอีกว่าถูกนิมิตหลอก

ก่อนนี้ ภาพและเสียงของลูกเยอะมาก พยายามแยกข้างนอกกับข้างในด้วยการขึ้นฌาณให้ได้แล้วถอยลง แต่ยังทำไม่สำเร็จ แต่นิมิตหลายอย่างก็แม่นมากเจ้าคะ มีมาสอนธรรม ก็สอนตรงธรรมหลายอย่าง แต่หลายอย่างก็แปลกมาก บางทีก็คล้ายๆให้ไปทำผิด แต่มีเหตุผลมาอธิบายตลอด บางครั้งก็บอกว่าเป็นการสอบอารมณ์ แต่นอกจากภาพและเสียง ยังมีธรรมารมณ์ด้วย เป็นกษิณ บางทีอยู่ดีดีมือเย็นขึ้นมามากมากก็มี ไปจับคนอื่น คนอื่นก็ยืนยันว่ามือเย็น เพราะปกติเป็นคนมืออุ่น

มีครั้งหนึ่งครูบาอาจารย์ภาคทิพย์(ถ้าไม่ได้วิปลาสไปเอง คือหลวงปู่ดู่ พระพรหมปัญโญ) บอกว่าข้าพเจ้าคิดว่าตัวเองบ้า เลยทำให้แมลงที่อยู่ในห้องที่ปิดประตูหน้าต่างมิดชิด หายไปหมดที่พื้น โดยที่ไม่ได้กวาด ถ่ายรูปเก็บไว้ด้วยเจ้าค่ะ

ที่บ้านมีผ้ายันต์ท้าวเวสสุวรรณ ของวัดท่าขนุน ลูกเคลือบพลาสติกไว้ ตอนนั้นท่านมาสงเคราะห์ที่บ้าน เห็นเป็นองค์เลยเจ้าค่ะ เลยนำผ้ายันต์มาจดพระคาถาบูชาไว้ข้างหลัง แล้วจดพระคาถา อิทธิฤทธิ์ พุทธะนิมิตตัง ขอเดชเดชะเดชัง จงมาเป็นที่พึ่งแก่มะอะอุนี้ด้วยเถิด ไว้รอบๆ มีเสียงบอกว่าให้ลบออก ลูกไม่ได้ลบ เวลาผ่านไป พอมาดูอีกครั้ง พระคาถาปลุกพระเลือนหายไป แต่พระคาถาบูชา ยังชัดแจ๋วอยู่เจ้าค่ะ ทั้งที่ใช้ปากกาเคมีเขียนลงบนพลาสติกเคลือบแผ่นเดียวกัน

เคยนิมิต ว่าหลวงพ่อเล็กมาสงเคราะห์ด้วยเจ้าค่ะ เป่าของออกให้ เป็นคลื่นเลยเจ้าค่ะ
มีเสียงหลวงพ่อบอกว่า ถ้าเป็นหลวงพ่อจะต้องมีกษิณไฟที่มือ
ตอนนั้นลูกมืดมาก เป็นเสียงหลวงพ่อมาบอกให้จดๆๆ พอจดตามๆไปแล้ว ภาพสว่างเลยเจ้าค่ะ
ไม่ทราบว่า ใช่หลวงพ่อจริงๆไหมเจ้าคะ

และน้อมกราบหลวงพ่อ ช่วยให้วิธีแยกแยะอย่างละเอียด ระหว่าง
๑. ทิพยจักขุญาณ+ทิพยโสต
๒. จิตตสังขาร
๓. นิมิต
๔. ภาพหลอน หูแว่ว

ด้วยเถิดเจ้าค่ะ สภาวะปกติ จะทรงอยู่ในอุปจารสมาธิเจ้าค่ะ มีตกไปขณิกสมาธิบ้าง พยายามแยกเองแล้วสับสนมากเจ้าค่ะ

[เถรี]

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ลลิตา

น้อมกราบขอความเมตตาหลวงพ่อ

เราจะรู้ได้อย่างไรเจ้าคะ ว่าครูบาอาจารย์มาหาเราจริงๆ

ภาพที่เห็น กับเสียงที่ได้ยิน จะไม่ใช่มโนจิตตสังขาร วจีจิตตสังขาร ผสมการปรุงแต่ง หรือเป็นนิมิต ที่เราน้อมนึกขึ้นมาเอง หรือท่านมาแปปเดียว แล้วที่เหลือเราปรุงแต่งต่อเอง นานนับหลายเดือน

แล้วทิพยโสต จะแยกกับหูแว่ว ในโรคจิตเภทอย่างไรเจ้าคะ

ของลูกเยอะมาก พยายามแยกข้างนอกกับข้างในด้วยการขึ้นฌานให้ได้แล้วถอยลง แต่ยังทำไม่สำเร็จ แต่นิมิต แม่นเจ้าคะ มีมาสอนธรรม ก็สอนตรงธรรมทุกอย่าง หลายอย่างแปลกๆ มีบอกว่ามาทดสอบ แต่นอกจากภาพและเสียง ยังมีธรรมารมณ์ด้วย เป็นกษิณ เป็นมือที่อยู่ดีๆก็เย็นมากๆก็มี โดยคนอื่นก็ยืนยันว่ามือเย็น เพราะปกติเป็นคนมืออุ่น

น้อมกราบหลวงพ่อ ช่วยให้วิธีแยกแยะอย่างละเอียด ระหว่าง
1. ทิพยจักขุญาณ+ทิพยโสต
2. จิตตสังขาร
3. นิมิต
4. ภาพหลอน หูแว่ว
ด้วยเถิดเจ้าค่ะ สภาวะปกติ จะทรงอยู่ในอุปจารสมาธิเจ้าค่ะ มีตกไปขณิกะบ้าง พยายามแยกเองแล้วสับมากเจ้าค่ะ

แก้ไขเป็นเลขไทยด้วยค่ะ

[ลลิตา]

แก้ไขเรียบร้อยแล้ว ขอบพระคุณมากค่ะ