กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมกราคม ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 26-01-2023, 20:03
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,592
ได้ให้อนุโมทนา: 217,032
ได้รับอนุโมทนา 749,127 ครั้ง ใน 36,501 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๖๖


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 27-01-2023, 00:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,756
ได้ให้อนุโมทนา: 152,183
ได้รับอนุโมทนา 4,420,679 ครั้ง ใน 34,346 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๒๖ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ ความจริงกระผม/อาตมภาพยังมีงานต่อเนื่องอยู่อีก ๒ วัน แต่ต้องวิ่งกลับมาก่อนก็เพราะว่า พรุ่งนี้ทางโรงเรียนทองผาภูมิวิทยามีงานประเมินนักเรียนรางวัลพระราชทานรอบสุดท้าย ซึ่งกระผม/อาตมภาพต้องไปร่วมงานโดยหน้าที่อยู่แล้ว

คราวนี้การประเมินนักเรียนรางวัลพระราชทานปีที่แล้วของโรงเรียนทองผาภูมิวิทยา นักเรียนของเรากับอีก ๑ โรงเรียนทางด้านจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ความสามารถใกล้เคียงกันมาก พูดง่าย ๆ ว่าจะให้ใครชนะก็ได้ แต่ทางโรงเรียนของเราได้รางวัลนักเรียนพระราชทานก็เพราะว่า ผู้นำท้องถิ่นไปร่วมงานทุกหน่วยงานแม้กระทั่งวัด..!

ในเมื่อคณะกรรมการเห็นว่าทางท้องถิ่นมีความพร้อมเพรียงกันขนาดนั้น ทำให้มั่นใจได้ว่าเด็กของเราต้องดีจริง ไม่อย่างนั้นผู้นำท้องถิ่น ไม่ว่าจะฝ่ายปกครอง หรือว่าวัดวาอาราม หรือผู้นำหมู่บ้าน ก็คงจะไม่ไปกันขนาดนั้น ในเมื่อมีข้อสอบรั่วมาให้ว่า ตรงส่วนนี้เป็นส่วนที่เขาพิจารณาด้วย กระผม/อาตมภาพก็เลยต้องวิ่งกลับมา ก็ไม่มากไม่มาย วิ่งกลับมาแค่ ๓ ชั่วโมงครึ่ง..! เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็วิ่งกลับไปอีก ๓ ชั่วโมงครึ่ง..!

สำหรับวันนี้งานสำคัญก็คือการสอบอบรมพระอุปัชฌาย์ทั้งด้านข้อเขียนและภาคปฏิบัติ ทางด้านข้อเขียนมีปัญหาใหญ่ที่พระอุปัชฌาย์ของเรามีทั้งที่ขาดความรอบคอบ ก็คือเขาบังคับทำ ๒ ข้อ ส่วนอีก ๕ ข้อให้เลือกทำกันเอง เพราะว่าข้อสอบมีให้ ๑๐ ข้อ แต่หลายท่านทำมาแค่ ๕ ข้อ เพราะว่าอ่านโจทย์ไม่หมดหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ ไปอ่านแค่ตรงที่ว่า "ที่เหลือให้เลือกทำมา ๕ ข้อ"

ประการที่สองก็คือตีโจทย์ไม่แตก อย่างเช่นเขาถามว่า "พระอุปัชฌาย์ดีเป็นศรีแก่พระศาสนา" พระอุปัชฌาย์นั้นต้องทำตนอย่างไร จึงจะสมคำว่า "พระอุปัชฌาย์ดีเป็นศรีแก่พระศาสนา" ?

เรื่องพวกนี้จะว่าไปแล้วก็มีทั้งการประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัย เพื่อเป็นแบบอย่างของสัทธิวิหาริก มีทั้งดูแลการบรรพชาอุปสมบทให้เป็นไปโดยถูกต้องตามพระธรรมวินัย ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาโดยเคร่งครัด และปฏิบัติตามจริยาของพระอุปัชฌาย์ตามกฎมหาเถรสมาคมฉบับที่ ๑๗ แต่ก็ยังมีคนที่พยายามที่จะเดากันเองอีก โดยการพยายามที่จะคิดว่าพระอุปัชฌาย์ที่ดีต้องเป็นอย่างไร แล้วก็เขียนเองลงไปแบบเรื่อยเปื่อย..!

ส่วนข้อสอบที่เขาบังคับอยู่ ๒ ข้อ ข้อแรกคือการคิดอายุ ถ้าหากว่าคิดอายุผิดแล้วไปบวชให้บุคคลที่อายุไม่ถึง ๒๐ ปี ผู้ที่บวชก็ไม่ใช่พระ เพราะว่าคุณสมบัติไม่ครบ เป็นได้แค่สามเณรเท่านั้น..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-01-2023 เมื่อ 02:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 27-01-2023, 00:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,756
ได้ให้อนุโมทนา: 152,183
ได้รับอนุโมทนา 4,420,679 ครั้ง ใน 34,346 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คราวนี้วิธีคิด มีทั้งวิธีบวกและวิธีลบ วิธีลบมีปัญหามากที่สุด อย่างเช่นเขาถามว่า เจ้านาคเกิดวันที่ ๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๕ มาขอบวชในวันที่ ๑๕ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ อายุพอสมควรที่จะบวชให้หรือไม่ ? ลองแสดงวิธีทำมาให้ดู

โดยปกติก็ต้องใช้วันเดือนปีปัจจุบันตั้ง แล้วก็ลบด้วยวันเดือนปีเกิด แต่คราวนี้มีปัญหาที่ว่า วันที่มาขอบวชคือวันที่ ๑๕ วันเกิดคือวันที่ ๑๗ ลบกันได้ไหม ? แล้วเดือนปัจจุบันคือเดือน ๑ (เดือนมกราคม) เดือนเกิดคือเดือน ๑๒ (เดือนธันวาคม) แปลว่าเราต้องไปยืมเดือนมา ๑ แล้วพวกเราก็มักจะใช้คณิตศาสตร์ชั้นประถม ยืมมา ๑ ก้็คือ ๑ โดยที่ลืมไปว่าเรายืมมา ๑ เดือน คือ ๓๐ วัน ก็แปลว่าถ้าคุณเกิดวันที่ ๑๕ ยืมมา ๑ เดือน จะรวมเป็น ๔๕ วัน เอา ๑๗ ไปลบก็จะเหลือ ๒๘ วัน..!

แต่คราวนี้เดือน ๑ ก็คือเดือนมกราคมนั้นโดนยืมไปแล้ว จึงเหลือ ๐ ก็ต้องไปยืมปีมา ๑ แล้วเผลอไปอีกว่าปีหนึ่งที่ยืมมาต้องเป็น ๑๒ เดือน ในเมื่อลบกับเดือน ๑๒ ก็คือเดือนธันวาคม ๑๒ ลบ ๑๒ ก็จะเหลือ ๐ พอดี

ส่วนปีปัจจุบันโดนยืมไป ๑ ก็เหลือแค่ ๒๕๖๕ ลบด้วยปีเกิดคือ ๒๕๔๕ ก็จะเหลือ ๒๐ ปีถ้วน แปลว่านาคผู้นี้มีอายุ ๒๐ ปี ๒๘ วัน สามารถบวชได้ คือไปพลาดตรงเรื่องการยืมโดยที่ลืมนึกถึงความจริง จะไปใช้หลักคณิตศาสตร์ทั่วไปไม่ได้ ความจริงก็คือ ถ้าคุณยืมเดือนมาแปลว่าคุณยืมมา ๓๐ วัน ถ้ายืมปีมาแปลว่ายืมมา ๑๒ เดือน ตรงนี้ห้ามลืมเด็ดขาด..!

ถ้าหากว่าอายุไม่ครบ แต่ว่าอยู่ในเกณฑ์ ๑๙ ปี ๖ เดือน ก็อนุญาตให้บวชได้ เพราะว่าทางมหาเถรสมาคม ตลอดจนกระทั่งมหาคณิสสรที่ควบคุมการสอบพระอุปัชฌาย์ อนุญาตให้บวกอายุในท้องได้ ๖ เดือน ก็มีคนถามอีกว่า "เด็กอยู่ในท้องแม่อย่างน้อย ๙ เดือน แล้วทำไมให้บวกแค่ ๖ เดือน ?" มีคำอธิบายว่าเด็กที่เกิด ๗ เดือนมีอยู่ ถ้าให้บวกได้ ๙ เดือน แล้วไปเจอเด็กที่เกิด ๗ เดือน บวชแล้วก็ไม่ใช่พระอยู่ดี ดังนั้น..เรื่องพวกนี้จึงเป็นเรื่องที่ต้องรอบคอบอย่างที่สุด

ปัญหาที่สองก็คือว่าที่พระอุปัชฌาย์เขียนหนังสือไม่ค่อยจะเป็น อาจจะห่างเหินมานาน โดยเฉพาะการเขียนบาลี กระผม/อาตมภาพพยายามอะลุ้มอล่วยเต็มที่แล้ว ก็คือ ถึงจะเขียนผิด แต่ถ้าอ่านแล้วออกเสียงได้อย่างนั้นก็ให้ แต่ก็ยังผิด..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-01-2023 เมื่อ 02:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 27-01-2023, 00:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,756
ได้ให้อนุโมทนา: 152,183
ได้รับอนุโมทนา 4,420,679 ครั้ง ใน 34,346 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีอยู่รายหนึ่งที่มหัศจรรย์ที่สุด ก็คือตรวจแล้วได้คะแนนเต็ม หาที่หักไม่ได้เลย ก็คือหลวงพ่อบุญยัง (พระครูปลัดบุญยัง ทุลฺลโภ) วัดไชนาวาส จังหวัดสุพรรณบุรี ตอบเป๊ะ ๆ ตามตำราหมดเลย แม้กระทั่งจริยาพระอุปัชฌาย์ก็อ้างข้ออ้างมาตราได้ถูกต้องหมด

กระผม/อาตมภาพให้คะแนนเสร็จสรรพเรียบร้อย แล้วปรึกษาท่านเจ้าคุณอาจารย์พระศรีวิสุทธิวงศ์ (สุวิทย์ ปวิชฺชญฺญู ป.ธ.๙), ดร. "เจ้าคุณอาจารย์จะทำอย่างไรดีครับ ท่านเก่งเกินมนุษย์มนาไปมาก" ท่านเจ้าคุณอาจารย์ท่านรับไปดูแล้วท่านบอกว่า "เฮ้ย..ท่านเก่งขนาดนี้เลยหรือ ? ขนาดยามักการยังลงถูกอีก..!" รู้จักยามักการไหม ? เครื่องหมายกำกับเสียงที่เหมือนกับควัน หรือคนกำลังหัวร้อน ซึ่งจะระบุว่าสะกดแล้วต้องออกเสียงสระนั้นด้วยครึ่งเสียง

ท้ายที่สุดคณะกรรมการทั้งหมดก็สรุปว่า เชิญหลวงพ่อบุญยังท่านมาเขียนให้ดูใหม่อีกรอบหนึ่ง ปรากฏว่าถูกเป๊ะเหมือนเดิม..! ต้องยอมท่านจริง ๆ คนเก่งสุดขนาดนี้ก็มี ไอ้ที่ไม่เอาไหนเลยก็มี เขียนไม่ได้ ไม่รู้เหมือนกันว่าจำไม่ได้ หรือว่าลืมไปแล้วว่าเขียนอย่างไร ? เพราะว่าหลายท่านก็อายุกาลผ่านวัยมาก ถ้ารุ่นของกระผม/อาตมภาพก็ ๖๐ กว่าแล้ว แต่ว่าอย่างไรเสียก็ต้องเขียนได้

คราวนี้ไปมีปัญหาอีกทีตอนสอบภาคปฏิบัติ เพราะว่าการสอบภาคปฏิบัตินี่เขาให้คะแนนทุกลำดับเลย คุณจะไปคิดว่าสอบพระอุปัชฌาย์แล้วก็ทำหน้าที่เหมือนที่กระผม/อาตมภาพอยู่ในโบสถ์หน่อยเดียว ไม่ใช่นะครับ ทุกขั้นตอนพระอุปัชฌาย์ต้องรู้หมดและแสดงขั้นตอนให้คณะกรรมการดูได้ ตั้งแต่ความเป็นพ่อแม่ของนาค เป็นนาค เป็นเจ้าอาวาส เป็นคู่สวด เป็นพระอุปัชฌาย์ ต้องได้ทุกตำแหน่งเลย กรรมการที่เขี้ยว ๆ นี่ ท่านให้แสดงขั้นตอนตั้งแต่เป็นพ่อเป็นแม่พานาคไปหาเจ้าอาวาสเลย

ตามมติมหาเถรสมาคม ต้องพานาคเข้าวัดก่อนบวช ๑๕ วัน เมื่อไปถึงแล้ว แจ้งความประสงค์ว่าจะบวช เจ้าอาวาส ถ้าไม่ใช่อุปัชฌาย์หรือว่าเป็นอุปัชฌาย์ก็ตาม อันดับแรกเลย ต้องสอบถามวันเดือนปีเกิด เพื่อคิดอายุว่าสมควรบวชได้ไหม ? หลังจากนั้นก็ต้องตั้งฉายาให้ตรงกับวันเกิด มอบหมายให้เจ้านาคไปท่องขานนาคให้ได้ เมื่อได้แล้วก็นัดวันเวลาในการบวช ครั้นเมื่อพระอุปัชฌาย์อาจารย์และพระอันดับพร้อมอยู่ในโบสถ์แล้ว เจ้านาคเข้ามา อันดับแรกต้องทำอย่างไร ? เขาดูตั้งแต่การกราบเบญจางคประดิษฐ์เลยนะครับ..!

ดังนั้น..เรื่องของการสอบพระอุปัชฌาย์จึงเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะว่ามีการสอบตั้งแต่ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด ระดับภาค ระดับหน แล้วถึงไประดับประเทศ ตกระดับใดระดับหนึ่งก็แปลว่าต้องรอยื่นขอสอบใหม่ในปีต่อไป แต่ถ้าไปตกระดับประเทศก็ต้องเว้นไปปีหนึ่ง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-01-2023 เมื่อ 02:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 27-01-2023, 01:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,756
ได้ให้อนุโมทนา: 152,183
ได้รับอนุโมทนา 4,420,679 ครั้ง ใน 34,346 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีจังหวัดเดียวที่บังคับว่า ถ้าจะสอบพระอุปัชฌาย์ต้องท่องกฎ ๑๗ (กฎมหาเถรสมาคมฉบับที่ ๑๗ ปี ๒๕๓๖) ได้ทั้ง ๔๑ ข้อ ต้องท่องได้หมด บางข้อยาวเป็นหน้ากระดาษเลย อย่างเช่นคุณสมบัติของพระอุปัชฌาย์หรือว่าคุณสมบัติของกุลบุตรผู้บวช หรือแม้กระทั่งบุคคลที่ห้ามบวช จังหวัดนี้คือจังหวัดสระบุรี แปลว่าถ้ามาจากจังหวัดสระบุรี ทุกท่านจะท่องกฎ ๑๗ ได้หมดแล้ว

วันนี้มีที่ยังพอชื่นใจอยู่ เพราะว่าโดยกฎเกณฑ์แล้ว เขาห้ามกรรมการสอบผู้เข้าสอบพระอุปัชฌาย์ในจังหวัดเดียวกัน กระผม/อาตมภาพก็เลยเจอสุพรรณบุรีทั้ง ๓ รูป ปรากฏว่าน่าชื่นใจตรงที่ว่า ๒ รูปแรกมีการเตรียมพร้อมดีมาก แม้แต่การสอนนาคที่ยาวหลายหน้ากระดาษ ท่านสามารถว่าตามตำราได้เป๊ะ ๆ เลย แต่รูปสุดท้ายเข็นไม่ค่อยจะขึ้น เพราะว่าเตรียมตัวมาน้อย มัวแต่ไปท่องสอนนาคอยู่ ก็เลยทำให้เรื่องของการบอกบอกอนุศาสน์ไม่แม่น จึงเหลือคะแนนท้าย ๆ ที่
กระผม/อาตมภาพไม่ให้ผ่านตรงเรื่องการบอกอนุศาสน์

ถึงเราเข้มงวดกันขนาดนี้ก็ตาม ท้ายสุดต้องวิ่งไปหาโลกบาลธรรมของพระพุทธเจ้าอยู่ดี ธรรมอันเป็นเครื่องคุ้มครองโลก ก็คือต้องมีหิริ ละอายต่อความชั่ว ไม่กล้าทำความชั่ว โอตตัปปะ เกรงกลัวผลของกรรมชั่วนั้นจะมาสนอง ขนาดนั้นก็ตาม เมื่ออบรมไปแต่ละปี ๆ ก็ยังมีพระอุปัชฌาย์ "แหกคอก" จนได้

ปีนี้พอกระผม/อาตมภาพโดนระบุตัวไปเป็นกรรมการสอบ ก็ยังคิดอยู่ว่าเป็นเพราะว่าอะไร ? ท้ายสุดพระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าคณะภาค ๑๔ ท่านก็บอกว่า "วัดท่าขนุนท่านแม่น จึงต้องเอามาเป็นกรรมการสอบ" พูดง่าย ๆ ว่าถ้าหากว่าผ่านจากมือของกระผม/อาตมภาพไป ก็พอไว้ใจได้ว่าจะเป็นพระอุปัชฌาย์ที่ดี ซึ่งไม่ใช่..! เป็นพระอุปัชฌาย์ได้ถูกต้องตามขั้นตอนเท่านั้น ส่วนจะดีหรือไม่ดี ต้องไปดูความประพฤติกันอีกทีหนึ่ง ได้แต่หวังว่าจะดีก็แล้วกัน..!

พรุ่งนี้พอประเมินนักเรียนพระราชทานในช่วงเช้าเสร็จ กระผม/อาตมภาพก็ต้องวิ่งไปสอบภาคปฏิบัติช่วงบ่ายของว่าที่พระอุปัชฌาย์ต่ออีก ยังคงเหนื่อยลิ้นห้อยอีกหลายวัน แต่ว่าเพื่อเด็กของเรา รางวัลพระราชทานสำหรับนักเรียนแล้วเป็นรางวัลสูงสุด เป็นเกียรติยศแก่ตัวเอง เป็นเกียรติยศแก่ครอบครัว และเป็นเกียรติยศกับโรงเรียน เป็นเรื่องที่ถ้าเป็นไปได้ต้องช่วงชิงมาเป็นของโรงเรียนของเราให้ได้ กระผม/อาตมภาพจึงต้องวิ่งกลับมา ๓ ชั่วโมงครึ่ง เพื่อที่จะมาร่วมงานตรงนี้ ก็ได้แต่หวังว่าเด็กของเราจะสามารถชนะเขาได้อีกปีหนึ่ง

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๒๕ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-01-2023 เมื่อ 02:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 07:28



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว