กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนธันวาคม ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 15-12-2022, 19:52
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,659
ได้ให้อนุโมทนา: 216,974
ได้รับอนุโมทนา 748,313 ครั้ง ใน 36,459 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 15-12-2022, 23:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,678
ได้ให้อนุโมทนา: 152,056
ได้รับอนุโมทนา 4,417,102 ครั้ง ใน 34,268 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๑๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ ข่าวใหญ่ในบ้านในเมืองของเราก็คือ อาการประชวรของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทางด้านสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ก็ได้มีคำสั่งให้วัดทั่วประเทศจัดเจริญพระพุทธมนต์หลังทำวัตรเย็นและทำวัตรเช้า เพื่อขอให้พระองค์ท่านปลอดภัย เดี๋ยวพวกเราก็ทำตามที่ว่ามา

ส่วนนี้วันนี้ตั้งแต่เช้า กระผม/อาตมภาพก็ไปโรงพยาบาลทองผาภูมิ ให้ทางด้านหมอนุ้ย (แพทย์หญิงนวลจันทร์ เวชสุวรรณมณี) ผู้อำนวยการโรงพยาบาล ดำเนินการกายภาพบำบัดให้ กลับมาฉันเพลแล้วก็ไปบรรยายให้กับนักเรียนโรงเรียนบ้านห้วยเสือ ที่มาเข้าค่ายคุณธรรมจริยธรรมที่วัดปรังกาสี แต่เป็นช่วงที่พระครูวรกาญจนโชติ เจ้าคณะอำเภอเดินทางไปเชียงใหม่ ตอนแรกจะให้กระผม/อาตมภาพไปเป็นประธานเปิดค่ายให้ตั้งแต่เมื่อวาน แต่ว่ากระผม/อาตมภาพติดหมอนัดอยู่ จึงต้องเปลี่ยนมาเป็นการบรรยายให้ในวันนี้แทน

คราวนี้ท่านปู (พระพงษ์สิทธิ์ สนฺตจิตฺโต) แม้จะเข้ากรรมฐานตามระเบียบของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์ บอกว่า "หลวงพ่อเล่าเรื่องได้สนุกมาก ผมอยากจะเอาลง TikTok" แล้วท่านก็ไม่บอกแต่แรก
กระผม/อาตมภาพก็เลยไม่ได้บันทึกเสียงไว้ให้ ถึงแม้ว่าทางด้านวัดปรังกาสีจะบันทึกเอาไว้ แต่คราวนี้พอไม่ได้ใช้เครื่องบันทึกแบบนี้ เสียงก็ไม่ชัดเจน ก็เลยบอกว่า "ไม่ต้องเอาลงหรอก เพราะว่าสำหรับกระผม/อาตมภาพแล้ว อะไรที่ไม่ค่อยจะสมบูรณ์ก็ไม่อยากจะเอาลงไปอวดใคร"

หลังจากนั้นก็เดินทางขึ้นไปสังขละบุรี เพื่อเยี่ยมพระนิสิตของเราที่ไปเข้ากรรมฐานอยู่ที่นั่น แต่ปรากฏว่าปีนี้การปฏิบัติธรรมประจำปีของนิสิตประดักประเดิดมาก เพราะว่าทั่วประเทศเขาปฏิบัติธรรมหลังการรับปริญญาในวันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๖๕ แต่ของวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์ เริ่มปฏิบัติธรรมตั้งแต่วันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๖๕

อันดับแรกเลยก็คือ ทำให้ไม่มีเจ้าหน้าที่ ตลอดจนกระทั่งครูบาอาจารย์ไปดูแลนิสิตของเราที่รับปริญญาที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วังน้อย จนกระทั่งโดนนิสิตทักท้วงออกกลุ่มไลน์ ท่านพระครูปลัดสุวัฒน์ สุวฑฺฒโนถึงได้รีบเดินทางไป เพราะว่ากระผม/อาตมภาพเองกับท่านพระครูศรีธรรมวราภรณ์, ดร. (จีรพันธ์ ธมฺมปสฏฺโฐ ป.ธ.๖) ไปในฐานะผู้รับปริญญา

แล้วในส่วนที่ไปปฏิบัติธรรมที่สังขละบุรีก็ไปไม่ครบ มีแค่ร้อยกว่ารูป/คน เพราะว่าเป็นของคณะพระพุทธศาสนากับคณะรัฐประศาสนศาสตร์ ส่วนของสาขาวิปัสสนาภาวนากับประกาศนียบัตรวิปัสสนาภาวนานั้น แยกไปปฏิบัติที่วิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์ ตำบลหนองโรง อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรีแทน ก็เลยประดักประเดิดอยู่ตรงที่ว่า กระผม/อาตมภาพเป็นคนที่หาเวลายากมาก ไม่สามารถที่จะแบ่งภาคไปเยี่ยมนิสิตได้ทั่วถึง แล้วก็ยังสงสัยอยู่ว่า ถ้าหากว่ารับปริญญาเสร็จแล้วค่อยปฏิบัติธรรมจะติดขัดตรงไหน ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-12-2022 เมื่อ 02:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 15-12-2022, 23:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,678
ได้ให้อนุโมทนา: 152,056
ได้รับอนุโมทนา 4,417,102 ครั้ง ใน 34,268 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สมัยก่อนมีกำหนดแน่นอน ก็คือปฏิบัติธรรมตั้งแต่วันที่ ๑๖ ธันวาคมของปีเป็นต้นไป แต่คราวนี้ถ้าหากว่าปฏิบัติธรรม ๑๐ วัน ทางด้านกาญจนบุรีของเราก็จะไปชนกับงานทำบุญครบรอบปีมรณภาพของพระเดชพระคุณพระธรรมคุณาภรณ์ (ไพบูลย์ กตปุญฺโญ ป.ธ.๘) อดีตเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ในทุกวันที่ ๒๕ ธันวาคมของปี พวกเราจึงเลื่อนมา เริ่มปฏิบัติธรรมในวันที่ ๑๒ เพื่อที่จะให้ครบ ๑๐ วันในวันที่ ๒๒ แล้ว ๒๓ - ๒๔ จะได้มีเวลาเตรียมงาน ๒ วัน แต่ปีนี้ก็ไม่ทราบสาเหตุว่าทำไมถึงได้รีบเร่งในการปฏิบัติธรรม โดยที่ไม่ได้ใส่ใจในเรื่องสำคัญอย่างการรับปริญญาของนิสิตของเรา

ต้องบอกว่า ในเรื่องของการทำงานนั้น ส่วนที่สำคัญที่สุดก็คือ การเอาใจใส่ต่อรายละเอียดต่างๆ เพราะว่าวันนี้ที่กระผม/อาตมภาพขึ้นไปที่วัดวังก์วิเวการาม สังขละบุรี เพื่อเยี่ยมนิสิตของเรา ก็ปรากฏว่าเจอกับพระครูต๋อง (พระครูสุทธิสารโสภิต) รองเจ้าคณะอำเภอไทรโยค ท่านก็ขึ้นไปเยี่ยมลูกศิษย์ ก็คือท่านมีลูกศิษย์ที่เรียนอยู่แล้วไปปฏิบัติธรรม ท่านก็ไปเยี่ยม จะว่าไปแล้วท่านเองก็ไม่ได้เป็นครูบาอาจารย์ในวิทยาลัยสงฆ์ แต่ก็ยังมีน้ำใจไปเยี่ยมลูกศิษย์ของตัวเอง

ดังนั้น..ในเรื่องของความละเอียดอ่อนเหล่านี้เป็นเรื่องที่สอนกันยาก ต่อให้จ้ำจี้จ้ำไชเคี่ยวเข็ญ ก็ได้แค่ไม่กี่ครั้ง เพราะว่าไม่ได้เกิดจากน้ำใสใจจริง ในเมื่อธรรมชาติของตนเองไม่ได้ห่วงไม่ได้กังวลคนอื่น หรืออาจจะถึงขนาดไม่เห็นความสำคัญของคนอื่นเลย ก็จะไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้ จึงทำให้บรรดานิสิตที่เข้ากรรมฐานอยู่รู้สึกเหมือนอย่างกับโดนทอดทิ้งอีกเช่นกัน นอกจากพระวิปัสสนาจารย์แล้ว ก็แทบจะไม่มีครูบาอาจารย์ไปเยี่ยมเยือนเลย แต่ก็ต้องบอกว่าบ่นน้อยใจไปเถอะ ทน ๆ เอา เดี๋ยวก็จบแล้ว..!

โดยเฉพาะพวกเรา บางอย่างเราพูดไปก็ไม่ได้คิด แต่ว่าสร้างความกระทบกระเทือนใจให้กับคนอื่น ในส่วนนี้ในโรงครัวของเราต้องระวังให้มากเข้าไว้ โดยเฉพาะบรรดาแม่ชีของเรา บางทีคำพูดของเราก็หนัก แรง อาจจะต้องบอกว่าเห็นคนอื่นเป็นลูกไล่ โดยที่ลืมไปว่าถ้อยคำบางอย่างนั้นแสดงออกถึงความหยาบในจิตใจของเรา ถ้ากำลังใจแย่มาก สิ่งที่เราพูดออกมาก็หยาบคาย ฟังไม่ได้ แล้วเรื่องของการด่าคนอื่น ว่าคนอื่น ก็เป็นวจีกรรมอีกด้วย

เรื่องของการปกครองต้องมีทั้งพระเดชพระคุณ ไม่ใช่ใช้พระเดชอย่างเดียว ที่จะดุด่าว่ากล่าวแล้วเรื่องราวจะสำเร็จได้ ไม่มีใครไปยินดีกับถ้อยคำที่ดูถูกดูแคลน จนถึงขนาดถ้าเราโดนเองบ้าง เราก็จะรู้สึกว่าไม่ดีเลย แต่เราก็ไปทำกับคนอื่น ถ้าลักษณะอย่างนี้ก็แปลว่าขาดการเอาใจเขามาใส่ใจเรา โดยเฉพาะถ้าหากว่ามีคนเอาเรื่องไม่ดีไปพูดทางด้านนอก ในลักษณะ "ไฟในนำออก" ภาพพจน์ที่คนเขาเคารพนับถือก็จะหมดไป แล้วก็ไปโทษใครไม่ได้ เพราะว่าเป็นการกระทำของตัวเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-12-2022 เมื่อ 02:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 15-12-2022, 23:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,678
ได้ให้อนุโมทนา: 152,056
ได้รับอนุโมทนา 4,417,102 ครั้ง ใน 34,268 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่ก็อย่างที่พูดไปเมื่อครู่ก็คือ ถ้าเป็นสันดานก็แก้ไขยาก ด่าไป ว่าไป บ่นไป ก็ทำได้แค่ครั้งสองครั้ง ที่เหลือก็กลับไปเหมือนเดิม แล้วในลักษณะอย่างนี้ใครจะมีเวลาไปปากเปียกปากแฉะไปบ่นอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะพวกกะโหลกหนาปัญญาทึบ..! บ่นไปว่าไปก็ไม่ซึมไม่ซาบอะไร "ถ้าไม่ได้ออกชื่อก็คือไม่ใช่กู..!" ถ้าในลักษณะอย่างนั้นก็แปลว่า ขาดจิตสำนึกและขาดความปรารถนาในการปรับปรุงตัวเอง

คนที่หวังดีต่อตนเอง รักตัวเอง อยากจะปรับปรุงตัวเอง ต้องคิดอยู่เสมอว่าเราผิด ถ้าหากว่าเราไม่ผิด คนอื่นก็หาที่มาว่าไม่ได้ ก็อย่างที่เคยบอกไปแล้วว่า ถ้าหากว่าที่ผิดไม่ได้ ก็ผิดตั้งแต่มึงเกิดมาแล้ว..!

คราวนี้ถ้าหากว่าพวกเราไม่ได้คิดจะแก้ไข สภาพจิตก็จะมืดบอดหนักขึ้นไปเรื่อย ๆ แล้วท้ายที่สุดซึ่งน่ากลัวที่สุดก็คือ พอวาระสุดท้าย กำลังที่ไม่ดีมีมากกว่า ก็จะท่วมทับกำลังใจของเรา โอกาสที่จะไปสุคติก็หมดไป เพราะใจเคยชินกับด้านชั่วมากกว่า ก็จะไหลลงยาวไปเลย..!

ถ้าหากว่าสามารถแก้ไขได้ก็แก้ไข ถ้าแก้ไขไม่ได้ กระผม/อาตมภาพก็จะคอยดูอยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ ถึงเวลาแล้วจะไปเยี่ยม..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๑๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-12-2022 เมื่อ 03:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 16:41



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว