กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนตุลาคม ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 15-10-2022, 17:47
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,946
ได้ให้อนุโมทนา: 225,209
ได้รับอนุโมทนา 800,461 ครั้ง ใน 39,365 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 16-10-2022, 00:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๑๕ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ กระผม/อาตมภาพเดินทางไปทำพิธีบวงสรวงบูชาพระรัตนตรัย และอธิษฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคล ที่วัดโพธิ์ผักไห่ หมู่ที่ ๔ ตำบลผักไห่ อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

การเดินทางมีปัญหา เนื่องจากว่าเส้นทางปกติที่เคยไปนั้น โดนน้ำท่วมจนรถเล็กไม่สามารถที่จะผ่านได้แล้ว จึงต้องอ้อมไปเข้าทางด้านจังหวัดสุพรรณบุรีแทน เมื่อเดินทางไปถึงวัดแล้วก็เห็นว่า ทางวัดยังสามารถที่จะป้องกันไม่ให้น้ำเข้าวัดได้ แต่ดูจากระดับน้ำนอกทำนบที่กั้นเอาไว้ ถ้าหากปล่อยให้เข้ามาในวัด ก็น่าจะสูงประมาณหัวเข่า..!

ในเรื่องของน้ำท่วมนั้น จะว่าไปแล้วก็เป็นเรื่องของธรรมชาติ สมัยที่กระผม/อาตมภาพยังเด็กอยู่นั้น ผู้ใหญ่จะรอให้ถึงหน้าน้ำ เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็มีสาเหตุที่ชัดเจนอยู่ ๒ ประการด้วยกัน ประการแรกก็คือ ถ้าน้ำหลากมา บรรดาอาหารก็มากับน้ำด้วย โดยเฉพาะปลา

ประการที่สองก็คือ เมื่อน้ำหลากเข้ามาท่วมไร่นา ครั้นถึงเวลาน้ำลดแล้ว บรรดาปุ๋ยที่มากับน้ำก็จะตกค้างอยู่ในไร่นา ทำให้การเพาะปลูกได้ผลดีมาก เพียงแต่ว่าในสมัยนี้ พื้นที่การทำไร่ทำนาของเราน้อยลง เพราะว่าประชากรมีมากขึ้น อาชีพมีหลากหลายขึ้น จึงทำให้คนเดือดร้อนกับการที่น้ำท่วมมากกว่าที่จะได้รับประโยชน์

โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครนั้น ในสมัยก่อนที่จะตั้งเมืองหลวง ต้องมีการเสาะหาพื้นที่ซึ่งอุดมสมบูรณ์ที่สุด ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาลตลอดทั้งปี เมื่อตั้งเมืองหลวงแล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำนา เพื่อสะสมเสบียงเอาไว้ใช้ในยามศึกยามสงคราม พวกเราจะเห็นได้ว่าด้านข้างพระบรมมหาราชวัง คือสนามหลวงนั้น ความจริงแล้วก็เป็นนาของพระเจ้าแผ่นดินนั่นเอง

แต่ว่าในปัจจุบันนี้ กรุงเทพมหานครของเรา กลายเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย แหล่งธุรกิจ แต่ว่าไปใช้สถานที่ปลูกข้าวมาปลูกตึก ฝนฟ้าก็ยังคงตกต้องตามฤดูกาล เมื่อสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ไปขวางทางน้ำเข้า ต่อให้ไม่ใช่ฝนพันปีก็ต้องมีการท่วม โดยเฉพาะพื้นที่ของกรุงเทพมหานครนั้น ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง ดังนั้น..ต่อให้ไม่ใช่หน้าฝน ถ้าไม่ป้องกันให้ดี โอกาสที่น้ำจะท่วมก็มีสูงมาก

ยังโชคดีที่ว่าสมัยสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระองค์ท่านได้ทำโครงการขุดคลองลัดโพธิ์ ทำให้น้ำสามารถวิ่งตรงลงทะเลไปเลย ไม่ต้องไปอ้อมโค้งลัดโพธิ์นั้นอีก ซึ่งน้ำที่ไหลออกได้เร็วขึ้น ตรงขึ้น ใช้ระยะเวลาที่สั้นขึ้น ทำให้การระบายน้ำนั้นเป็นไปด้วยดี บริเวณใกล้เคียงนั้นทั้งหมดจึงได้รับอานิสงส์จากการที่น้ำท่วมน้อยลง จนกระทั่งไม่ท่วมอีกเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-10-2022 เมื่อ 01:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 16-10-2022, 00:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนของวัดโพธิ์ผักไห่นั้นได้ประกอบพิธีในการฉลองพระพิชัยสงคราม ซึ่งได้สร้างขึ้นมาจากไม้โพธิ์นิพพาน คือต้นโพธิ์ที่หักลงมาเองก็ดี หรือว่ายืนต้นตายพรายก็ดี เมื่อนำมาแกะเป็นพระพุทธรูปแล้ว ได้บรรจุดวงของบุคคลที่เป็นเจ้าของ อยู่ในลักษณะของการเสริมดวงด้วยพุทธานุภาพ

ก่อนหน้านั้นที่กระผม/อาตมภาพรู้จักดีที่สุดก็คือ พระพุทธรูปไม้โพธิ์นิพพาน ของ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เพียงแต่ว่าพระพุทธรูปไม้โพธิ์นิพพานฝีมือหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้วนั้นหายากมาก ๆ ส่วนใหญ่เจ้าของเก็บเอาไว้เป็นพระประจำตระกูล ก็ได้แต่ใช้องค์เล็ก ๆ ที่ทำเป็นพระพุทธรูปบ้าง พระปิดตาบ้าง แทนที่จะใช้องค์ใหญ่ซึ่งสร้างได้ยาก เพราะว่าต้องกระทำครบถ้วนตามตำรา

คราวนี้ทางด้านหลวงพ่อพระครูปลัดพิจารย์ วิจารโณ เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ผักไห่ ท่านมีจิตศรัทธาที่จะศึกษาวิชาการทั้งหลายเหล่านี้ โดยเฉพาะตำราเก่า ๆ ท่านมีสะสมไว้เป็นคันรถ สิ่งหนึ่งประการใดที่สามารถช่วยให้ญาติโยมมีความเป็นอยู่ดีขึ้น คล่องตัวขึ้น ไม่เกินวิสัย ท่านก็ทำออกมาให้

เมื่อรู้จักคบหาสมาคมกันไป ท้ายสุดท่านก็ยึดกระผม/อาตมภาพเป็นหลัก ก็คือไม่ว่าจะสร้างได้ดีแล้ว ตามฤกษ์ ตามยาม ตามตำรา ตามวัสดุอย่างไรก็ตาม อย่างน้อยก็ต้องให้กระผม/อาตมภาพไปอธิษฐานจิตปลุกเสกให้ เรียกว่าเชื่อใจกันอย่างสุด ๆ

ในพิธีครั้งนี้ก็มีวัตถุมงคลหลายอย่างด้วยกัน แต่ว่าในส่วนที่กระผม/อาตมภาพติดใจก็คือ รูปหล่อหนุมานชาญสมร ซึ่งในเรื่องของหนุมานนั้น โบราณสร้างขึ้นมาจากเคล็ดหลายอย่างด้วยกัน ก็คือหนุมานนั้นเป็นผู้ที่ไม่มีวันตาย ต่อให้เสียชีวิตลงไป ถ้าลมพัดมาก็จะฟื้นคืนขึ้นมาใหม่ เนื่องจากว่าหนุมานคือวายุบุตร เป็นลูกของวายุเทพบุตร ก็คือเทพเจ้าแห่งสายลม

ประการต่อไปก็คือ หนุมานรับอาสาทำงานให้กับพระราม ไม่มีงานไหนที่ทำได้ไม่สำเร็จ มีแต่สำเร็จลงอย่างงดงามและรวดเร็วทั้งสิ้น

อีกประการหนึ่งก็คือ หนุมานไม่ว่าจะไปที่ไหน ก็มีเมียสวย ๆ ที่นั่น จึงทำให้คนทั้งหลายเหล่านี้ เห็นว่าหนุมานมีความสามารถมากมาย โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า จึงได้คิดค้นเป็นตำราในการสร้างรูปลิงขึ้นมา เป็นเครื่องรางติดตัว เพื่อช่วยในการเสริมดวงบ้าง ช่วยในการที่เราจะรับราชการ ทำการทำงานอาสาเจ้านายบ้าง หรือว่าช่วยในเรื่องของเมตตามหานิยมบ้าง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-10-2022 เมื่อ 01:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 44 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 16-10-2022, 00:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,545 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สำนักที่สร้างหนุมานแล้วปรากฏว่าโด่งดังมากที่สุด ก็คือหลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน จังหวัดนนทบุรี หนุมานของท่าน ถ้าเป็นของแท้ โดยเฉพาะที่แกะจากรากพุดซ้อนนั้น ราคาตัวหนึ่งเป็นแสน ๆ แม้กระทั่งที่แกะจากงาช้าง ซึ่งหลวงพ่อท่านจ้างเจ๊กที่เป็นช่างแกะสลักให้ ก็ราคานับแสนเช่นกัน อีกวัดหนึ่งก็คือหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว ซึ่งหลายท่านบอกว่าเป็นลิง ความจริงแล้วก็คือหนุมานนั่นเอง

อีกตำราหนึ่งก็จะเป็นของทางด้าน หลวงพ่อปาน วัดบางกระสอบ แต่นั่นท่านสร้างเป็นรูปองคต ซึ่งองคตนั้นเมื่อต้องไปเป็นทูตสื่อสาร ก็ถือว่าตนเองเป็นตัวแทนพระราม จึงไม่ยอมนั่งต่ำกว่าทศกัณฐ์ ในเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมจัดที่นั่งให้สมเกียรติ องคตก็ขดหางตนเองเป็นบัลลังก์จนนั่งเสมอกับทศกัณฐ์ได้ ถือว่าเป็นการเสริมดวง เสริมฐานะ แก่ผู้ใช้องคตนั้น

บรรดาวัดวาอารามที่สร้างวัตถุมงคลเป็นรูปลิงแล้วมีชื่อเสียงโด่งดังยังมีอีกหลายแห่ง อย่างเช่นว่าหนุมานอาสา หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ลิงหินสบู่ หลวงปู่จ้อย วัดบางช้างเหนือ เป็นต้น

ส่วนที่ถือว่าเป็นของใหม่ แต่ว่าทำได้เข้มขลังและปัจจุบันนี้ราคาแพงมาก ๆ ก็คือ หนุมานหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ซึ่งในสมัยก่อนพี่สุรกานต์ (นายสรุกานต์ เพชรชื่นสกุล) ซึ่งเป็นพี่ชายของกระผม/อาตมภาพก็ดี หรือว่าพระครูธรรมธรแสงชัย กนฺตสีโล พระน้องชายก็ตาม ในสมัยนั้นพวกเราไปบูชาวัตถุมงคลของหลวงปู่ทิม ราคาถ้าเป็นเหรียญก็เหรียญละ ๒๐ บาทบ้าง ๓๐ บาทบ้าง ถ้าหากว่าเป็นหนุมานก็ตัวละ ๑๐๐ บาท ในช่วงที่แพง ๆ ก็ ๕๐๐ บาท มาสมัยหลังนี้หนุมานหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ถ้าหากว่าอย่างสวย ๆ มีสู้กันราคาเป็นแสนก็มี..!

ดังนั้น..ในส่วนนี้ เมื่อหลวงพ่อพิจารย์ท่านดัดแปลงตำรา มาทำเป็นหนุมานของวัดโพธิ์ผักไห่ ท่านก็สร้างด้วยโลหะพิเศษ ก็คือเหล็กไหลสุริยันราชา เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีการอุดปรอทให้อีกด้วย เมื่อมีการเรียกธาตุ มีการลงอาการ ๓๒ แล้ว ก็ต้องบอกว่า ถ้าไม่ถือว่าของเก่านั้นเป็นของครูบาอาจารย์แล้วไซร้ ท่านทั้งหลายสามารถใช้ของใหม่นี้ในการทดแทนของครูบาอาจารย์ ที่นอกจากจะหาได้ยากแล้ว ยังราคาแพงมากอีกต่างหาก

โดยเฉพาะโลหะพิเศษอย่างนี้ บางอย่างก็มีคุณภาพในการเสริมดวงบ้าง เสริมสุขภาพบ้าง ช่วยให้ผู้ที่พกติดตัวนั้น ต้องบอกว่ามีความแข็งแรงของร่างกายก็ดี มีหน้าที่การงานที่เจริญก้าวหน้าขึ้นก็ตาม ซึ่งนั่นถือว่าเป็นของแถมจากวัตถุมงคล

ในส่วนที่ท่านทั้งหลายควรที่จะระลึกถึงก็คือ ครูบาอาจารย์ผู้สร้างพระหรือว่าวัตถุมงคล เพราะว่าถ้าหากว่าเราไปนึกถึงรูปหนุมาน โดยที่กำลังใจไม่ได้เกาะครูบาอาจารย์ที่เป็นพระสงฆ์ ก็รู้สึกว่าสภาพจิตของเราอาจจะเกาะผิดจุด ดังนั้น...ในการอาราธนา จึงขอให้นึกถึงครูบาอาจารย์ตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน แล้วค่อยอาราธนาติดตัว จะใช้ว่า หะนุมานะ นะมะพะทะ ก็ได้ หรือบางท่านจะเสริมด้วยหัวใจธาตุลม วายุละภะ ได้ก็ยิ่งดี

เมื่อสามารถที่จะพกติดตัวไปแล้ว ก็ลองพินิจพิจารณาดูว่ามีสิ่งหนึ่งประการใดที่ดีขึ้นในชีวิตบ้างหรือไม่ ? รู้แต่ว่ากระผม/อาตมภาพก็แอบติดไว้ในรถ ๑ ตัว เพื่อช่วยในการเดินทางให้มีความสะดวกปลอดภัยเช่นกัน

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๑๕ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-10-2022 เมื่อ 01:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 46 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:07



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว