กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนตุลาคม ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 13-10-2022, 18:50
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,650
ได้ให้อนุโมทนา: 216,898
ได้รับอนุโมทนา 747,625 ครั้ง ใน 36,420 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 14-10-2022, 00:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,657
ได้ให้อนุโมทนา: 151,979
ได้รับอนุโมทนา 4,416,232 ครั้ง ใน 34,247 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๑๓ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ กระผม/อาตมภาพมีงานสำคัญ คือ พิธีบำเพ็ญกุศลถวายพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต ซึ่งมีการจัดงานทั้งที่ว่าการอำเภอทองผาภูมิ และในส่วนของวัดท่าขนุนเอง โดยเฉพาะมหาเถรสมาคมมีมติให้ทุกวัด ทำการสวดพระพุทธมนต์ถวายพระราชกุศลหลังจากทำวัตรเย็นแล้ว

ในส่วนนี้ต้องบอกว่า แม้ว่าพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้สวรรคตไปแล้วเป็นเวลา ๖ ปี แต่ว่าประชาชนทุกหมู่เหล่าก็ยังคงรำลึกถึงพระองค์ท่านเป็นปกติ โดยเฉพาะทางรัฐบาลกำหนดให้วันพรุ่งนี้เป็นวันหยุดเพิ่มขึ้นมาอีก ๑ วัน กลายเป็นวันหยุดยาว เพื่อที่ทุกคนจะได้มีเวลาเดินทางไปในสถานที่ไกล ๆ ได้ เหมาะแก่ผู้ที่จะไปท่องเที่ยว

แต่ว่าสถานการณ์บ้านเมืองในระยะนี้ไม่ค่อยจะดีนัก เหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่ามีน้ำท่วมอยู่หลายจังหวัดด้วยกัน ซึ่งทางคณะสงฆ์นั้น มีบทบาทมากที่สุด คือได้มีการนำเอาข้าวสารอาหารแห้งและของใช้จำเป็น ไปบริจาคให้กับญาติโยมที่เดือดร้อนเพราะน้ำท่วม แทบจะทุกพื้นที่ในประเทศไทย

เหตุที่สามารถทำเช่นนั้นได้ก็เพราะว่าทางคณะสงฆ์นั้น ตอนนี้มีเครือข่ายใหญ่อยู่หลายแห่ง เครือข่ายแห่งแรกก็คือเครือข่ายพระสงฆ์นักพัฒนาการสาธารณสงเคราะห์ เครือข่ายที่สองก็คือเครือข่ายหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลทั่วประเทศ เครือข่ายที่สามก็คือ สมัชชาโครงการปรองดองและสมานฉันท์ด้วยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่าโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕

เมื่อมีหน่วยงานหรือว่าเครือข่ายในลักษณะอย่างนี้ ก็ทำให้มีความสะดวกในการดำเนินงานมากขึ้นหลายเท่า อย่างเช่นว่า ถ้าจะไปช่วยเหลือน้ำท่วมที่จังหวัดใด ก็มีการประสานงานไปทางเครือข่ายจังหวัดนั้นว่า ขาดเหลือในสิ่งใดบ้างให้แจ้งมา

บางอย่างถ้าหากว่าระยะทางไกลมาก ก็โอนเป็นเงินไปให้ทางด้านโน้นซื้อหาข้าวสารอาหารแห้ง ตลอดจนของใช้จำเป็น ทำการบรรจุเป็นถุงยังชีพ ส่วนทางด้านผู้มีจิตศรัทธาที่ไปพร้อมกับคณะสงฆ์ก็เดินทางไปเฉพาะตัว ไปถึงที่โน่นก็มีข้าวของให้มอบแก่ผู้ที่เดือดร้อนได้เลย เป็นต้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2022 เมื่อ 02:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 14-10-2022, 00:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,657
ได้ให้อนุโมทนา: 151,979
ได้รับอนุโมทนา 4,416,232 ครั้ง ใน 34,247 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..ในเรื่องของพระสงฆ์กับการสาธารณสงเคราะห์ โดยเฉพาะช่วยบุคคลที่เกิดสาธารณภัยต่าง ๆ อย่างน้ำท่วม ไฟไหม้ในปัจจุบันนี้ การดำเนินการต่าง ๆ เป็นไปโดยสะดวก คล่องตัวขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีและน่าอนุโมทนา

แต่ว่าขณะเดียวกันหน่วยราชการต่าง ๆ นั้นควรที่จะออกมาช่วยเหลือทางคณะสงฆ์บ้าง อย่าได้แต่นอนรองบประมาณน้ำท่วมอย่างเดียว ในขณะที่คณะสงฆ์ออกไปช่วยเหลือ ถ้าหากว่าท่านมีรถก็ช่วยด้วยรถ มีเรือก็ช่วยด้วยเรือ จะทำให้เข้าถึงประชาชนที่เดือดร้อนได้ง่ายยิ่งขึ้น เพราะว่าถ้าเป็นส่วนราชการหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่นั้นเอง ก็ย่อมรู้ว่าบริเวณไหนที่ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนมากที่สุด และต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด

ดังนั้น..ในส่วนทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าหากว่า บ้าน วัด โรงเรียน และส่วนราชการ ประสานความร่วมมือกันไป ก็จะทำให้เกิดเครือข่ายที่เข้มแข็ง และสามารถช่วยเหลือผู้เดือดร้อนได้อย่างเป็นระบบและกว้างขวางกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้อีกมาก นี่เป็นเรื่องที่ต้องค่อย ๆ พัฒนาและแก้ไขกันไปตามลำดับ

อีกส่วนหนึ่งที่อยากจะกล่าวถึงในที่นี้ก็คือ เรื่องของเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ เพราะว่าระยะนี้เริ่มเข้าสู่ปลายฝนต้นหนาว ซึ่งบุคคลมักจะเจ็บไข้ได้ป่วยเพราะการเปลี่ยนแปลงของอากาศได้ง่าย เมื่อท่านเจ็บป่วยขึ้นมา อย่าเพิ่งคิดว่าเป็นไข้หวัดธรรมดา ให้ระแวงเอาไว้ก่อนว่าเราอาจจะติดเชื้อไวรัสโควิด ๑๙..!

อย่างน้อย ๆ ก็อาศัยชุดตรวจ ATK ในการพิสูจน์ทราบตนเองในเบื้องต้นว่ามีการติดเชื้อหรือไม่ ? ถ้าหากว่าจะเอาให้แน่นอนก็ตรวจซ้ำอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่เว้นระยะไปวันหนึ่ง หรือว่าสองวัน อย่างน้อยก็จะได้มั่นใจขึ้นว่าตัวเราไม่ได้ติดเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ เพราะว่าถ้าติดเชื้อ เราก็จะได้กักตนเอง ป้องกันไม่ให้ไปแพร่ระบาดสู่คนอื่น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2022 เมื่อ 02:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 14-10-2022, 00:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,657
ได้ให้อนุโมทนา: 151,979
ได้รับอนุโมทนา 4,416,232 ครั้ง ใน 34,247 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อีกอย่างหนึ่งก็คือ เรื่องของภาวะเศรษฐกิจ ระยะที่ผ่านมา ญาติโยมที่ได้รับคำเตือนไปก็คงจะรามือจากตลาดหุ้น หรือว่าในเรื่องของบิตคอยน์ หรือคริปโตเคอร์เรนซีไปแล้ว แต่ว่าอีกหลายท่านก็ยังไม่เข็ด อาจจะยังหวังรวยทางลัดอยู่อีก..!

ขอตักเตือนว่า เรื่องทั้งหลายเหล่านี้นั้นเป็นการจับเสือมือเปล่า ถ้าท่านไม่ได้สร้างบุญมาดีจริง ๆ โอกาสที่พลาดจะมีสูงมาก แล้วพลาดทีหนึ่งก็เป็นจำนวนเงินที่สูงมาก จนกระทั่งเราอาจจะไม่เหลือทุนเอาไว้แก้ตัวในวาระอื่น

จึงเป็นเรื่องที่เราจะต้องอาศัยหลักธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็คือ อโลภะ ต้องเป็นบุคคลที่ไม่โลภ ถ้าหากว่าเราไม่โลภ ประกอบสัมมาอาชีพที่เป็นหลักเป็นฐาน เป็นการเป็นงานที่มั่นคง ถึงแม้ว่าจะรวยช้า แต่ก็แน่นอนกว่า ดีกว่าที่เราจะไปสุ่มเสี่ยงกับตลาดหุ้น หรือว่าเงินตราดิจิทัลซึ่งหาความแน่นอนไม่ได้

อีกประการหนึ่งก็คือ เรื่องของภาวะสงคราม ซึ่งกระผม/อาตมภาพได้เตือนแล้วว่า ถ้าหากรัสเซียใช้กองทัพอากาศเข้าปฏิบัติการ ก็ขอให้มั่นใจได้ว่าสงครามใหญ่ หรือที่หลายคนไปเรียกว่าสงครามโลกครั้งที่ ๓ จะเกิดขึ้นอย่างชนิดเต็มรูปแบบ เนื่องเพราะว่าต่างฝ่ายต่างก็มีบุคคลหนุนหลัง

โดยเฉพาะบรรดาผู้ที่ "ไม่เห็นโลง ไม่หลั่งน้ำตา" เห็นว่าสงครามอยู่ห่างไกลตนเอง ตีกันอยู่ในบ้านคนอื่น เราเป็นกองเชียร์ ไม่มีปัญหา แต่โปรดระมัดระวังว่า เมื่อถึงเวลา ถ้าสงครามลามเข้ามาถึงเรือนชานบ้านช่องของตนเอง ตอนนั้นก็จะแก้ไขอะไรไม่ทันแล้ว บรรดาสิ่งของจำเป็นต่าง ๆ ที่จะพึงมี เราจำเป็นที่จะต้องมีเอาไว้บ้าง

โดยเฉพาะท่านทั้งหลายที่อยู่ต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นยุโรปหรือว่าอเมริกา อย่างน้อย ๆ ถ้าหากว่าไม่สามารถออกไปที่ไหนได้ เราก็ควรจะมีอาหารไว้สำหรับตนเองและครอบครัว อยู่ให้ได้สัก ๗ วัน ๑๐ วัน ในระหว่างนั้นจะได้คิดขยับขยาย หาทางแก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้ากันต่อไป เรื่องพวกนี้ตราบใดที่ยังมาไม่ถึงตัว บางทีเราก็ประมาท ปล่อยวางโดยไม่มีการเตรียมการอะไรล่วงหน้าไว้เลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2022 เมื่อ 02:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 14-10-2022, 00:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,657
ได้ให้อนุโมทนา: 151,979
ได้รับอนุโมทนา 4,416,232 ครั้ง ใน 34,247 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้าเป็นเช่นนี้ถือว่าเราเป็นผู้ที่ไม่ได้ปฏิบัติตามคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งประทานสุดยอดหลักธรรมเอาไว้ให้แก่พวกเรา คือหลักอัปปมาทธรรม ความไม่ประมาท ซึ่งพระองค์ท่านตรัสเอาไว้ชัดว่า ความประมาทเป็นหนทางแห่งความตาย ความไม่ประมาทเป็นหนทางแห่งความไม่ตาย เป็นต้น

นี่ไม่ใช่การฟุ้งซ่านไปล่วงหน้า ไม่ใช่การคิดเลยตาย แต่ว่าเป็นการป้องกันไว้โดยไม่ประมาท ถ้าเรายังมีชีวิตอยู่ก็จะได้ไม่ลำบากมากนัก แต่ถ้าหากว่าเราสิ้นชีวิตลงไปก่อน ก็ถือว่าทุกอย่างจบลงแค่นี้ เรียกว่าเป็นการระมัดระวังป้องกันก่อนที่ภัยจะเกิด อยู่ในลักษณะของการ "ป้องปราม" ไม่ใช่เกิดขึ้นแล้วมาแก้ไข ซึ่งอยู่ในลักษณะของการ "ปราบปราม" ทำให้ต้องยากลำบาก เสียเวลา เสียเงินเสียทองไปเปล่า ๆ

สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ท่านสามารถที่จะนำหลักธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเอามาใช้ในชีวิตจริงของท่านทั้งหลายได้ โดยเฉพาะวันหยุดยาวทั้งหลายเหล่านี้ ท่านที่เดินทางไกลไปต่างจังหวัด ยิ่งต้องระมัดระวังเป็นอย่างสูง เพราะว่าจะมีทั้งฝน มีทั้งน้ำท่วม ซึ่งถ้าท่านพลาดขึ้นมา เกิดอุบัติเหตุ บาดเจ็บล้มตายก็ดี หรือว่าสูญหาย สูญเสียทรัพย์สินสิ่งของก็ตาม การหยุดยาวของเราที่จะเป็นไปเพื่อความสุข ก็จะกลายเป็นว่าท่านทั้งหลายมีความทุกข์ขึ้นมาแทน

อีกส่วนหนึ่งก็คือ ถ้าหากว่าโยมท่านใดอยู่ในพื้นที่น้ำท่วม ได้รับความลำบาก ถ้าสามารถเดินทางไปยังวัดท่าขนุนได้ ระยะนี้ก็สามารถที่จะไปอาศัยพักอยู่ที่นั่นก่อน ถือว่าเป็นวาระพิเศษที่ให้อยู่ได้เกิน ๗ วัน เชื่อว่าทางวัดสามารถที่จะเลี้ยงดูท่านทั้งหลายได้ในระดับหนึ่ง จนกว่าภาวะน้ำท่วมได้ผ่อนคลายบรรเทาลง เราค่อยไปจัดการเก็บกวาดเรือนชานบ้านช่องที่เสียหายเพราะน้ำท่วมกันต่อไป

สำหรับตอนนี้ ถ้าอยู่บ้านก็เครียดเปล่า ๆ อย่างไรเสียถ้าน้ำท่วมไปแล้วก็ปล่อยให้ท่วมไปเถิด ถึงเวลาเราค่อยมาแก้ไขกันทีหลัง ดีกว่าที่จะไปนั่งเครียดให้เสียสุขภาพจิตไปเปล่า ๆ

ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายสามารถทำตนให้อยู่ในลักษณะของบุคคลที่เป็นผู้เบาไปด้วยภาระ ไม่เดือดร้อนเพราะทรัพย์สินสิ่งของต่าง ๆ มากมายนัก ท่านเองก็จะได้ไม่ต้องเครียด ไม่ต้องกังวล รอให้เหตุการณ์บรรเทาเบาบางลง เราค่อยกลับไปแก้ไข ก็จะกลายเป็นว่า เรามีงานหนักอยู่เฉพาะหน้าทีละเรื่องไป ไม่เกินกำลังที่เราจะแก้ไขได้

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๑๓ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2022 เมื่อ 02:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 20:26



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว