กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกรกฎาคม ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 19-07-2022, 19:30
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,628
ได้ให้อนุโมทนา: 216,934
ได้รับอนุโมทนา 747,832 ครั้ง ใน 36,422 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 46 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 19-07-2022, 23:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,704
ได้ให้อนุโมทนา: 152,039
ได้รับอนุโมทนา 4,418,397 ครั้ง ใน 34,294 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๑๙ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ เมื่อตอนบ่ายกระผม/อาตมภาพมาดูห้องเรียนนักธรรมชั้นตรี ช่วยอธิบายเกี่ยวกับพระวินัยเพิ่มเติม แล้วก็มีพระที่ท่านถามถึงสิ่งที่ตัวเองทำไป เกี่ยวกับโยมผู้หญิงเก่าที่โทรศัพท์มา ว่าโดนอาบัติสังฆาทิเสสหรือเปล่า ?

อย่างที่กระผม/อาตมภาพเคยเตือนพระรุ่นเก่า ๆ ไปแล้วว่า โทรศัพท์สามารถเอาอาบัติหนักมาให้เราถึงในมุ้งได้ แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วพวกเราก็ต้องบอกว่า "ตัดใจไม่ได้" ถ้าหากว่าพวกท่านรู้ว่าโทรศัพท์กับ
กระผม/อาตมภาพนี่ บางทีเดือนหนึ่งไม่ได้เจอกันเลย แล้วพวกท่านจะขาดใจตายไหม ?

เมื่อวานนี้พระมหาวริทธิ์ธร วรเวที ผู้อำนวยการกองวางแผนและพัฒนาสถาบันวิปัสสนาธุระ โทรมาหา ปรากฏว่า
กระผม/อาตมภาพไม่ได้เปิดเครื่อง ก็คือถ้าหากว่าไม่ได้ใช้งานในลักษณะบันทึกเสียงอย่างนี้ หกโมงเย็นกระผม/อาตมภาพจะปิดเครื่องทิ้งไปเลย แม้กระทั่งพระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรีโทรมา กำลังกระผม/อาตมภาพทำวัตรรอบแรกอยู่ กระผม/อาตมภาพก็เคยเปิดเสียงทำวัตรให้ท่านฟังสัก ๕- ๖ นาที จนกระทั่งท่านต้องวางสายไปเอง

เรื่องของโทรศัพท์ ถ้าหมดความจำเป็น ให้รีบปิดทิ้งไปเลย เพราะว่าโทรศัพท์มีแต่ทำให้ร่างกายของเราแย่ลง เพราะว่าแผ่กระแสคลื่นอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะรบกวนสมอง บางคนนอนทั้งคืนแล้วรู้สึกเพลียเหมือนอย่างกับไม่ได้นอนเลย ก็เพราะว่าคลื่นสมองโดนรบกวนอยู่ตลอดเวลา

คราวนี้ย้อนกลับมาพูดถึงในเรื่องที่ว่าจะโดนอาบัติหนักหรือไม่ ? ก็คือศีลพระของเราข้อหนึ่งในสังฆาทิเสสุทเทส ภิกษุมีจิตกำหนัด พูดจาเกี้ยวหญิง ต้องอาบัติสังฆาทิเสส ข้อนี้พลาดได้ง่ายมาก

มีอยู่ปีหนึ่งพระวัดท่าขนุนไปจำพรรษาอยู่ที่วัดพุทธบริษัท กลับมาสอบถามว่า "หลวงพ่อครับ ผมจะโดนอาบัติสังฆาทิเสสไหม ?" ถามว่าทำไม ? ท่านบอกว่า "แฟนเก่าโทรมา คุยกันไปเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะวางหู ผมก็บอกว่ารักนะ จุ๊บ..จุ๊บ..!"
กระผม/อาตมภาพบอกไปว่าไม่ต้องคิดมาก ทางที่ดีก็ไปอยู่ปริวาสเสียให้หมดเรื่องหมดราวไปเลย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-07-2022 เมื่อ 01:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 19-07-2022, 23:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,704
ได้ให้อนุโมทนา: 152,039
ได้รับอนุโมทนา 4,418,397 ครั้ง ใน 34,294 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เพราะฉะนั้น...เราจะเห็นว่าในเรื่องของอาบัตินั้นโดนง่ายมาก แล้วปาราชิกกับสังฆาทิเสสเป็นอาบัติที่แก้ไขไม่ได้และแก้ไขได้ยาก เพราะว่าคำว่า สังฆาทิเสส แปลว่า ขึ้นต้นด้วยสงฆ์ ลงท้ายด้วยสงฆ์ ก็คืออาทิ แปลว่าเบื้องต้น กับเสสะ คือส่วนที่เหลือ หรือเบื้องท้าย

สังฆะ+ อาทิ + เสสะ สนธิกันเข้าไปเหลือ สังฆาทิเสส อาบัติที่ขึ้นต้นด้วยสงฆ์ ลงท้ายด้วยสงฆ์ ก็คือต้องอาบัติแล้วไปสารภาพต่อคณะสงฆ์ แล้วก็ไปอยู่ปริวาส ถ้าหากว่าโดนแล้วสารภาพเลยก็อยู่ ๖ วัน ๖ คืน หลังจากเก็บมานัตต์แล้ว ก็มาให้คณะสงฆ์ ๒๑ รูปขึ้นไปสวดอัพภาณคืนความเป็นพระให้

คราวนี้ยังมีอยู่อีกก็คือ ถ้าเราปิดบังไว้นานเท่าไร ก็ต้องอยู่ปริวาสเท่าจำนวนที่ปิดเอาไว้นั้น แล้วก็บวกไปอีก ๖ วัน ๖ คืน มีพระอยู่รูปหนึ่ง ท่านมาสารภาพว่าท่านโดนสังฆาทิเสสตั้งแต่อาทิตย์แรกที่บวช แล้วตอนนี้ท่านก็อยู่มา ๑๐ กว่าพรรษาแล้ว แล้วจะทำอย่างไร ?
กระผม/อาตมภาพบอกไปว่า "ก็อยู่ปริวาสเท่าอายุคุณบวช แล้วก็บวกไปอีก ๖ วัน ๖ คืน" แบบนี้ยากแค่ไหน !?

แล้วก็มีไอ้ทิดที่บวชที่วัดท่าขนุนอยู่อีกรายหนึ่ง สมัยก่อน
กระผม/อาตมภาพมักจะส่งไปเข้าปริวาสที่วัดชากสมอ จังหวัดชลบุรี เพราะว่าทางด้านโน้นเขาเข้มงวดมาก ท่านโดนอาบัติสังฆาทิเสสแล้วปิดบังไว้ ๓ พรรษาค่อยมาสารภาพ ปรากฏว่าส่งไปอยู่ปริวาสได้อาทิตย์หนึ่ง ท่านโทรมาบอกว่า "ผมขอกลับวัดครับ ผมสบายใจแล้วครับ" คุณคิดว่ากลับได้ไหม ? ก็เลยบอกว่า "ถ้าศาลตัดสินว่ามึงต้องโดนจำคุก ๓ ปี มึงติดคุกไป ๗ วัน แล้วบอกว่า ผมสบายใจแล้วครับ ให้ศาลช่วยปล่อยที คงจะมีคนปล่อยมึงหรอกนะ..!"

ดังนั้น...เรื่องพวกนี้จึงเป็นเรื่องที่พระภิกษุของเราต้องระมัดระวังให้มาก โดยเฉพาะส่วนหนึ่งที่น่าจะโดนกันไปมากเป็นพิเศษเลย ก็คือพวกหมอดู เพราะว่าอาบัติข้อต่อไปก็คือ ภิกษุชักสื่อชายหญิงเป็นผัวเมียกัน ต้องอาบัติสังฆาทิเสส ถามว่าหมอดูชักสื่ออย่างไร ?
ก็โดยการดูดวงแล้วบอกว่า "คู่นี้ดวงสมพงษ์กัน แต่งงานกันได้"

พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านเตือนผมไว้หนักหนาว่า "ถ้าเขาไปแต่งงานกันตามที่เอ็งบอก เอ็งโดนสังฆาทิเสสเลย เพราะถือว่าชักสื่อฯ ถ้าเอ็งไม่บอก เขาอาจจะตัดสินใจไม่แต่งงานกัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-07-2022 เมื่อ 01:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 19-07-2022, 23:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,704
ได้ให้อนุโมทนา: 152,039
ได้รับอนุโมทนา 4,418,397 ครั้ง ใน 34,294 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าช่วงนั้นกระผม/อาตมภาพศึกษาวิชาหมอดูอยู่ โดยพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านบอกว่า "ให้ไปลองศึกษาเอาไว้หน่อย ของเขาจริงนะ" ได้กราบเรียนถามหลวงพ่อท่านว่า "ควรจะศึกษาจากที่ไหนดีครับ ?" ท่านบอกว่า "พรหมชาติฉบับราษฎร์ก็ได้ จะดูเลข ๗ ตัว หรือมหาทักษาก็ไปลองดูเอาเอง"

กระผม/อาตมภาพจึงลองไปศึกษาดู แรก ๆ ก็ขอวันเดือนปีเกิดคนที่รู้จักมักคุ้น ไปลองถอดตัวเลขดู เพราะว่ารู้จักกันดี เพราะฉะนั้น..เขาทำอะไร ? ก่อนหน้านี้เป็นอย่างไร ? ตอนนี้เป็นอย่างไร
? ก็พอที่จะรู้ ปรากฏว่าตำราเขาใช้ได้จริง พอดูไปดูมาคนเริ่มมาหา ด้วยความเมตตากลัวว่ากระผม/อาตมภาพจะพลาด หลวงพ่อท่านก็เลยเตือนให้ว่า ระวังจะโดนอาบัติหนักข้อนี้

เพราะฉะนั้น...ถ้าหากว่ามีคนถามเรื่องพวกนี้ คุณบอกเขาไปเลยว่า เข้าไปในเว็บไซต์มหาหมอดู แล้วก็ไปถามเอาได้เลย ไม่ต้องเสียเวลามาถามพระ ให้พระมาเดือดร้อนทีหลัง อย่างน้อย ๆ หลักการเขาก็ตอบได้อยู่แล้ว

เพียงแต่ว่าในเรื่องของหมอดูนั้นจะได้ประมาณ ๖๐ เปอร์เซ็นต์ ก็คือ ใน ๑๐๐ สามารถบอกได้ประมาณ ๖๐ แล้วยังมีจรรยามารยาทอะไรต่าง ๆ อีกมากที่จะต้องยึดถือ อย่างเช่นว่า ถ้าหากว่าเด็กอายุยังไม่ถึง ๗ ขวบ ไม่ควรที่จะดูหมอให้ ที่ครูบาอาจารย์สั่งเอาไว้แบบนี้ เพราะว่าเด็กบางคนนั้น ดวงไม่สมพงษ์กับพ่อแม่ตัวเอง ถ้าถึงเวลาบอกว่าไม่ดี พ่อแม่ที่สิ้นสติก็จะทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ ไม่ดูแลลูกตัวเอง

ดังนั้น...เรื่องพวกนี้จึงเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังเป็นอย่างสูง แล้วบอกได้แค่ ๖๐ เปอร์เซ็นต์ ถ้าหากว่าใช้ทิพจักขุญาณ โอกาสรู้ได้แม่นยำถึง ๘๐ เปอร์เซ็นต์ กระผม/อาตมภาพถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อว่า "ทำไมได้แค่นั้นละครับ ?" ท่านบอกว่า "อีก ๒๐ เปอร์เซ็นต์ เป็นพวกนอกเหตุเหนือผล เหมือนอย่างแกนี่แหละ..!"

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าบุคคลประเภทนี้กำลังใจล้นเกิน ต่อให้บอกว่าไม่ดี ก็มุมานะเอาจนดีได้ ท่านบอกว่าส่วนใหญ่พวกนี้จะมาจากสายพระโพธิสัตว์ ในเมื่อกำลังใจของเขาล้นเกิน ก็เลยทำให้การดูหมอผิดพลาดได้ แบบเดียวกับที่หลวงพ่อพระปลัดวิรัช โอภาโส ดู
กระผม/อาตมภาพไป ว่าต้องสึก แล้วกระผม/อาตมภาพก็รั้นอยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้ ทั้ง ๆ ที่ท่านกำหนดไว้ชัดเจนเลยว่า วันนั้น เดือนนั้น ปีนั้น ต้องสึกแน่นอน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-07-2022 เมื่อ 01:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 19-07-2022, 23:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,704
ได้ให้อนุโมทนา: 152,039
ได้รับอนุโมทนา 4,418,397 ครั้ง ใน 34,294 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ก็แปลว่าในเรื่องของหมอดูนั้น นอกจากมีหลักการอะไรมากมายแล้ว ต่อให้เรื่องไม่ดี ก็ยังต้องพยายามพูดให้กำลังใจ เพราะว่าส่วนที่สำคัญที่สุดของคนก็คือกำลังใจ ถ้ากำลังใจบอกว่าดี ก็จะกลายเป็น มโนมยา คือสำเร็จด้วยใจ

อย่าลืมบาลีที่ว่า มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา ธรรมทั้งหลายย่อมมีใจเป็นหัวหน้า มโนเสฏฺฐา สูงสุดก็ที่ใจ มโนมยา สำเร็จก็ที่ใจ

ดังนั้น...ถ้าหากว่าเราไปหาหมอดู แล้วหมอดูบอกว่าไม่ดี ความจริงเรื่องที่ไม่ดีอาจจะแค่ ๑๐ เปอร์เซ็นต์ ๒๐ เปอร์เซ็นต์ แต่กลับมาซ้ำหนักถึง ๗๐-๘๐ เปอร์เซ็นต์ หรือ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ที่ตัวเราเอง เพราะว่าตัวเราจะไปคิดตอกย้ำกับตัวเองว่า "ไม่ดี..ไม่ดี..ไม่ดี" อยู่ตลอด กลายเป็นเราแช่งตัวเราเอง แล้วกลายก็เป็นมโนมยา คือสำเร็จด้วยใจ เราทำตัวเราเอง..!

อย่างที่กระผม/อาตมภาพเคยบอกกับพวกเราว่า อะไรเกิดขึ้นกับ
กระผม/อาตมภาพ อย่างเขม่นตาซ้าย โบราณเขาว่า "เขม่นตาซ้าย ร้ายจะมา" ของกระผม/อาตมภาพนะหรือ ? "เขม่นตาซ้าย ลาภใหญ่จะมา ถ้าเขม่นตาขวา ลาภใหญ่ยิ่งกว่านั้นจะมา" แล้วไอ้คนกำลังใจแบบนี้ ดวงจะไปทำอะไรได้ ก็แปลว่าในเรื่องของหมอดูนั้น สำคัญที่สุดอยู่ที่กำลังใจของเราเอง โดยเฉพาะถ้าเขาบอกว่าไม่ดี แล้ววิธีแก้ไขก็มักจะราคาแพง

กระผม/อาตมภาพขอยืนยันว่า วิธีแก้ไขที่ดีที่สุดก็คือ ให้ตั้งใจสมาทานศีลทุกสิกขาบทให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ได้ศีล ๘ ยิ่งดี จากนั้นตั้งหน้าตั้งตาภาวนาสักเช้าชั่วโมงหนึ่ง เย็นชั่วโมงหนึ่ง ติดต่อกันไปสัก ๗ วัน แล้วอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรไป ไอ้ที่บอกไม่ดีแค่ไหนก็รอดได้ เพราะว่าเรื่องของ ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นบุญใหญ่ที่สุดในพระพุทธศาสนา สามารถที่จะผ่อนหนักเป็นเบา จากเบาเป็นหาย เคราะห์กรรมต่าง ๆ ตามได้ยาก

แต่ส่วนใหญ่แล้ว คนเราไม่ชอบอะไรที่ลำบาก ให้ทำเองก็บอกว่าไม่ไหว มักง่าย หมอดูเขาแนะนำอะไรก็ไปทำแทน อย่างระยะนี้อะไรนะ ? "ยิ่งเมามากเท่าไรก็ยิ่งได้ลาภมากเท่านั้น" ใช่ไหม ? ลองไปเชื่อดูสิ อันดับแรก...ก่อนที่มึงจะเมา เงินก็หายจากกระเป๋าไปแล้ว เพราะว่าต้องไปซื้อเหล้าซื้อเบียร์

อย่างที่กระผม/อาตมภาพเคยใช้คำพูดแรง ๆ ว่า "ใช้หัวแม่ตีนตรองดูก็รู้แล้วว่าไม่ใช่" แต่คนเราที่สร้างเวรสร้างกรรมมา กลับกลายเป็นว่ามีความเห็นเป็นมิจฉาทิฎฐิ แล้วก็ไปเชื่อ ไปคล้อยตามเขา

ดังนั้น...บางเรื่องต้องบอกว่าเป็นเรื่องของเวรของกรรม บุคคลที่สร้างบุญเอาไว้ดี ถึงจะได้พบครูบาอาจารย์ที่ดี หรือว่าพบแต่เรื่องดี ๆ ส่วนที่เหลือก็แล้วแต่เวรแต่กรรม
ไปจัดการกันเองก็แล้วกัน

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๑๙ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-07-2022 เมื่อ 01:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:34



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว