กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมิถุนายน ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 17-06-2022, 07:23
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,628
ได้ให้อนุโมทนา: 216,934
ได้รับอนุโมทนา 747,832 ครั้ง ใน 36,422 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 45 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 18-06-2022, 00:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,704
ได้ให้อนุโมทนา: 152,039
ได้รับอนุโมทนา 4,418,397 ครั้ง ใน 34,294 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๑๗ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ กระผม/อาตมภาพบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนนี้ เวลาตี ๓ ครึ่งของเมืองไทย ซึ่งตรงกับตี ๒ ของที่นี่ อากาศอุ่นพรวดพราดขึ้นมาจาก ๑๔ องศาเซลเซียส เป็น ๑๙ องศาเซลเซียส ต้องขอบคุณ "นภิสราเทวี" ยายหนูตัวแสบ หรือที่กระผม/อาตมภาพไปพบมาก็คือ เธอดำรงตำแหน่งเจ้าแม่หลักเมืองประเทศเนปาล..!

เมื่อถามว่าทำไมโผล่มาที่นี่ได้ ? คุณเธอบอกว่า "ถ้าหากว่าพระคุณท่านนึกถึงภาพเมืองดาร์จีลิงก์ ซ้ายมือก็คือเนปาล ข้างบนก็คือสิกขิม ขวามือก็คือภูฏาน " บริเวณนี้ทั้งหมดยังอยู่ใต้การรับผิดชอบดูแลของเจ้าแม่นภิสราเทวีนี่เอง

ในเมื่อเจอคนคุ้นเคย กระผม/อาตมภาพที่รู้สึกว่าสังขารของตนเองปีนี้ชำรุดเป็นอย่างมาก เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่ามีอาการกระดูกทับเส้น แล้วร้าวลงไปที่ขาข้างซ้าย บางจังหวะถึงขนาดหมดแรง ไม่สามารถที่จะค้ำยันตัวเองได้ ถ้าหากว่าเจอท่านอาจารย์บ๊ะ (พระอาจารย์ศิริชัย ชยธมฺโม วัดโพธิ์ลังกา) ท่านใช้เวลาแค่นาทีสองนาทีก็ช่วยให้เป็นปกติได้

อาการนี้น่าจะเกิดจากการที่กระผม/อาตมภาพได้นั่งสมาธิในท่าพับเพียบมาเป็นเวลานานเกินกว่า ๔๐ ปีแล้วอย่างหนึ่ง อีกอย่างหนึ่งก็คือ การที่ตนเองเดินบิณฑบาต สะพายบาตรมา ๓๐ กว่าปีนั้น เวลาอาหารหนัก ๆ ก็จะถ่วงไปด้านหนึ่ง ทำให้ต้องเกร็ง ต้องฝืนไปต้านเอาไว้ ประการสุดท้ายก็คือท่านอน ที่มักจะนอนตามความเคยชินเดิม ๆ ถึงเวลาก็เลยทำให้กระดูกกลับไปทับเส้นเหมือนเดิมทุกครั้ง

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จึงต้องพึ่งพาอาศัย "เทวีอำนาจ" ไม่ใช่ "เทวอำนาจ" ขอเธอช่วยอนุเคราะห์สงเคราะห์ ให้การเดินทางในครั้งนี้ไม่หนักหนาสาหัสจนเกินไปนัก ซึ่งก็เป็นไปได้อย่างใจแทบทุกประการ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-06-2022 เมื่อ 03:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 18-06-2022, 00:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,704
ได้ให้อนุโมทนา: 152,039
ได้รับอนุโมทนา 4,418,397 ครั้ง ใน 34,294 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ครั้งที่แล้วซึ่งกระผม/อาตมภาพไปทิเบตนั้น อากาศโดยเฉลี่ยอยู่ที่ ๕ องศาเซลเซียส ท่านผู้เมตตาสามารถที่จะทำให้อยู่ที่ ๑๗-๑๘ องศาเซลเซียสตลอดการเดินทาง แต่ว่าทันทีทันใดที่ขึ้นรถไฟความเร็วสูงเพื่อลงมายังเมืองชิงไห่และเมืองซีหนิงนั้น อากาศก็ลดฮวบลงไปที่ ๑๑ องศาเซลเซียส หลังจากที่ออกมาได้ระยะหนึ่ง มีผู้ตรวจสอบด้วยโทรศัพท์มือถือผ่านดาวเทียม ปรากฏว่าลงมไปที่ ๙ องศาเซลเซียสแล้ว คาดว่าหลังจากที่คณะของพวกเราพ้นไปไม่นาน ก็คงจะกลับไปที่ ๕ องศาเซลเซียสตามเดิม

ในที่นี้ขอเจริญพรขอบคุณนภิสราเทวี ตลอดจนกระทั่งบริษัทบริวารของเธอ และเจ้าที่เจ้าทางทั้งหลาย ที่รักษาตลอดเส้นทางการเดินทางในครั้งนี้ของคณะกระผม/อาตมภาพ บุญกุศลใดที่กระผม/อาตมภาพได้บำเพ็ญมาตั้งแต่ต้นจนบัดนี้ โดยเฉพาะในส่วนของทาน ของศีล ของภาวนา ขอเธอทั้งหลายจงอนุโมทนา ประโยชน์และความสุขเท่าไรที่กระผม/อาตมภาพจะพึงได้รับ ก็ขอให้เธอและคณะทั้งหลายจงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด

สำหรับวันนี้ขอเล่าถึงการเดินทางของเมื่อวาน ซึ่งพวกเรายังอยู่ที่เมืองดาร์จีลิงก์ ตั้งแต่ตอนช่วงเช้ามีเวลาเหลือเฟือมาก เพราะว่าทางด้านนี้นั้น เวลาแม้ว่าจะเดินช้ากว่าเมืองไทยถึงชั่วโมงครึ่ง แต่ว่าก็สว่างใกล้เคียงกัน จึงทำให้พวกเรากลายเป็นคนตกงาน กระผม/อาตมภาพที่เหลือหนังสืออยู่เพียงเล่มเดียว ก็ไม่สามารถที่จะอ่านหนังสือได้ เพราะกลัว
ว่าจะหมด..! จะออกไปเดินถ่ายรูปข้างนอก ฝนฟ้าก็ตกพรำอยู่ตลอดเวลา อาจจะทำให้อาการมาลาเรียเรื้อรังกำเริบก็ได้ จึงกลายเป็นคนตกงานไปโดยปริยาย

ตามกำหนดการเดิมของเขานั้น
ช่วงเช้าห้องอาหารจะเปิดตอน ๘ โมงของที่นี่ ซึ่งก็คือ ๙ โมงครึ่งของเมืองไทย ตรงนี้ต้องขอบคุณคุณเอ (ฉัตตริน เพียรธรรม) หัวหน้าคณะทัวร์จากเอ็นซีทัวร์ของเรา และคุณสุเรศวร์มัคคุเทศก์ท้องถิ่นของที่นี่ ที่ไปช่วยเจรจาจนกระทั่งทางด้านโรงแรมที่พัก ก็คือโรงแรมซีดาร์ อินน์นั้น ยอมเปิดห้องอาหารให้เราตอน ๗ โมงเช้า ซึ่งก็ยังคงเท่ากับ ๘ โมงครึ่งของเมืองไทยอยู่ดี เมื่อฉันเช้าเสร็จเรียบร้อย พวกเราก็เก็บข้าวของออกเดินทางกันต่อไป

เนื่องจากว่าวันก่อนนั้น ตามความนิยมของที่นี่ก็คือ นำเอากระเป๋าเดินทางทั้งหมด
ไว้บนหลังคารถ แล้วคลุมด้วยผ้าพลาสติก แต่ปรากฏว่ากระเป๋าของคุณยายเล็ก (ภัทริณ จันทรนิภาพงศ์) ซึ่งเป็นกระเป๋าผ้านั้น ไม่สามารถที่จะต้านฝนได้ ทำให้เสื้อผ้าหลายชิ้นเปียก ต้องเอามาผึ่งไว้ในห้องนอน ในเมื่อเป็นเช่นนั้น พวกเราจึงต้องจัดระเบียบกันใหม่ ใครที่ตัวเล็ก ๆ ก็ไปยัดรวมกันในรถคันหนึ่ง ให้เหลือที่ว่างในรถเอาไว้สำหรับเอากระเป๋าทั้งหมด เมื่อแก้ไขปัญหาได้แล้วก็ออกเดินทาง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-06-2022 เมื่อ 04:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 18-06-2022, 00:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,704
ได้ให้อนุโมทนา: 152,039
ได้รับอนุโมทนา 4,418,397 ครั้ง ใน 34,294 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในช่วงเช้านี้เห็นได้ชัดเลยว่า พวกเรานั้นเป็น "เซียนเหยียบเมฆ" หรือว่า "มาเหนือเมฆ" เพราะว่ารถทั้งหมดนั้นลงเขามาโดยตลอด จนกระทั่งไปถึงไร่ชา Happy Valley ซึ่งเป็นไร่ชา ๑ ใน ๘๗ แห่งที่มีชื่อเสียงมากของเมืองดาร์จีลิงก์

คำว่ามีชื่อเสียงมากก็คือ นอกจากจะเป็นไร่ชาเก่าแก่ดั้งเดิมแล้ว ก็ยังมีตราสัญลักษณ์ ตลอดจนกระทั่ง Brand หรือยี่ห้อเฉพาะของแต่ละไร่ แต่ว่าเมื่อไปถึงแล้ว ก็ปรากฏว่าทางด้านไร่ชานั้นเกิดปัญหา คือว่าบรรดาคนงานเก็บชานั้นทำการประท้วงขอขึ้นค่าแรง

การเก็บชาในดาร์จีลิงก์นั้นจะเก็บเป็น ๓ ระยะด้วยกัน ก็คือช่วง มีนาคม-เมษายน-พฤษภาคม ระยะหนึ่ง ช่วง มิถุนายน-กรกฎาคม-สิงหาคม ระยะหนึ่ง และช่วง กันยายน-ตุลาคม-พฤศจิกายน อีกระยะหนึ่ง ซึ่งชาที่เก็บได้นั้น คุณภาพก็จะลดหลั่นกันลงไป หลังจากนั้นก็จะปล่อยให้ต้นชาได้ฟื้นคืนมา แล้วก็เริ่มเก็บครั้งที่ ๑ ในรอบปีต่อไป

แต่เนื่องจากว่าปีนี้นั้นภาวะโลกร้อนทำให้อากาศทางด้านนี้เปลี่ยนแปลง ฝนตกลงมาเร็วกว่าปกติถึง ๒ เดือน แม้กระทั่งหิมะก็ตกหนักที่สุดในรอบ ๗ ปี ทำให้คนงานต้องตากฝนเก็บใบชาอยู่ทั้งวัน จึงมรการเรียกร้องขอค่าแรงขึ้น ทำให้ทางไร่ Happy Valley
ไม่สามารถที่จะนำพวกเราให้เข้าไปชมระบบการผลิตชาภายในได้ พวกเราจึงได้แต่เดินชมไร่ชาอยู่ภายนอกเท่านั้น

กระผม/อาตมภาพนั้นเป็นลูกคนจีน เห็นใบชา ต้นชา ตลอดจนกระทั่งดื่มน้ำชาตามคำสั่งของท่านอาจารย์บ๊ะมาเป็นตันแล้ว..! จึงไม่ค่อยมีความสนใจตรงนั้น แต่ว่าไปสนใจ "ต้นสนซีดาร์" ที่สูงลิบลิ่วแต่ละต้นโตประมาณโอบครึ่ง..! ซึ่งต้นสนทั้งหลายเหล่านั้น ก็มีบรรดารุกขเทวา รุกขเทวีโผล่กันมาขอส่วนกุศลกันหน้าสลอน จนต้องอุทิศให้ไปตามระเบียบ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-06-2022 เมื่อ 04:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 18-06-2022, 00:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,704
ได้ให้อนุโมทนา: 152,039
ได้รับอนุโมทนา 4,418,397 ครั้ง ใน 34,294 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อชมไร่ชาของเขาและฟังข้อมูลจากคุณสุเรศวร์จนครบถ้วนแล้ว พวกเราก็เดินทางกลับเข้าไปยังเมืองดาร์จีลิงก์ เพื่อที่จะไปชิมชา ซึ่งถ้าหากว่าร้าน Nathmull's นี้ ออกเสียงตามที่กระผม/อาตมภาพชอบแปลงเสียงที่ใกล้เคียงภาษาไทย ก็ต้องชื่อว่า "ร้านณัฐมน" ซึ่งเปิดมาตั้งแต่ปีคริสต์ศักราช ๑๙๓๑ ก่อนกระผม/อาตมภาพจะเกิดถึง ๒๘ ปี..!

ในเมื่อมาถึงแล้ว ทางด้านคุณสุเรศวร์ก็ได้แนะนำว่า ชาทั้งหลายที่จำหน่ายอยู่ในเมืองดาร์จีลิงก์นี้ก็ดี ที่เมืองกัลกัตตาก็ดี ส่วนใหญ่แล้วประกอบไปด้วย ๕ ประเภทด้วยกัน ประเภทที่ ๑ ก็คือชาดำ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วผลิตในรัฐอัสสัม รสชาติเลวร้ายมาก..! คุณสุเรศวร์เขาใช้คำเปรียบเทียบ ฟังดูแล้วทำให้หมดอารมณ์ เป็นชาคุณภาพต่ำ รสและกลิ่นออกไปทางรุนแรงและค่อนข้างขม ดังนั้น..จึงนิยมไปทำ "กะลัมไจ" ก็คือชานม เพื่อเอากลิ่นนม กลิ่นเนยมากลบกลิ่นชาและรสชาแทน

ประเภทที่ ๒ ที่ ๓ ที่ ๔ นั้น ความจริงก็เป็นประเภทเดียวกัน ก็คือชาดำดาร์จีลิงก์ คำว่าชาดำนั้น เกิดจากขั้นตอนการเก็บและการผลิต ซึ่งจะมีขั้นตอนหนึ่งที่เอามาผึ่งอยู่ในลักษณะที่หมักไว้ จนกระทั่งใบชานั้นมีสีดำ เขาแบ่งออกเป็น ๓ เกรดด้วยกัน ราคาก็จะแพงขึ้นไปตามลำดับ คือเกรด ๓ ราคาต่ำสุด เกรด ๒ ราคาสูงขึ้นมา และเกรด ๑ ราคาสูงสุด

ส่วนที่เขาแนะนำพวกเราก็คือ สุดยอดชาขาวดาร์จีลิงก์ ซึ่งจะเก็บเฉพาะยอดชาไม่เกิน ๓ ใบเท่านั้น แล้วกรรมวิธีในการตาก การหมัก ขั้นตอนต่าง ๆ ในการอบและผลิตนั้น ทำให้ใบชานี้มีกลิ่นและรสที่เลิศที่สุดสำหรับชาของดาร์จีลิงก์

เมื่อเขาเอามาให้กระผม/อาตมภาพลองชิมดูแล้ว ปรากฏว่า ๔ อย่างแรกก็คือชาลิปตันดี ๆ นี่เอง เพียงแต่ว่ากลิ่นและรสนั้น หนักเบาต่างกันไป แล้วก็ไม่ใช่กลิ่นที่กระผม/อาตมภาพชอบใจเลย แต่ว่าชาขาวดาร์จีลิงก์นั้นพอใช้ได้ มีกลิ่นและรสออกไปทางชาจีนที่เคยชิน

คนอื่นก็อาจจะสงสัยว่ากระผม/อาตมภาพนั้น ทำไมนั่งดมอยู่นานก่อนที่จะทดลองดื่ม ทดลองชิม ? ก็เพราะว่าชาทั้งหลายเหล่านั้น อันดับแรกเลยก็คือพิสูจน์ด้วยกลิ่น ถัดไปถึงจะพิสูจน์ด้วยรส ส่วนประกอบที่สำคัญก็คือน้ำในการที่เราชงชา และฟืนไฟที่ใช้ชงชานั้นแรงเบาต่างกัน ก็จะทำให้รสชาต่างกันได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-06-2022 เมื่อ 04:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 18-06-2022, 01:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,704
ได้ให้อนุโมทนา: 152,039
ได้รับอนุโมทนา 4,418,397 ครั้ง ใน 34,294 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น กระผม/อาตมภาพจึงซื้อชาขาวดาร์จีลิงก์มา ๑ ห่อ น้ำหนัก ๑๐๐ กรัม ราคามาตรฐานของเขาก็คือ ๑,๘๕๐ รูปี แต่ได้รับการลดราคาลงมาเหลือ ๑,๗๐๐ รูปีถ้วน ทางร้านณัฐมนลดราคาให้เองโดยที่พวกเราไม่ได้เรียกร้อง

เมื่อหลายคนพากันซื้อแล้ว ทางด้านครอบครัวของคุณยายเล็ก (ภัทริณ จันทรนิภาพงศ์) ก็ให้ลูกเขย ก็คือคุณหนึ่ง (บัญชา เซ็นภักดี) ที่กระผม/อาตมภาพมักจะเผลอเรียกว่า "นายมะพร้าว" เพราะว่าเป็นยูสเซอร์เนมในเว็บวัดท่าขนุน นำเอาชามาถวายเพิ่มอีก ๑ ห่อ พาให้ปวดหัวเป็นอย่างมาก เพราะว่ากระผม/อาตมภาพนั้น ไม่ได้นิยมเลยที่จะดื่มชาแบบนี้ แต่ว่าที่ซื้อก็เพื่อเอาไปเปรียบเทียบดู และเอาไปให้คนอื่นลองชิมดูเท่านั้น

ในเมื่อเวลายังเหลืออยู่ พวกเราออกจากร้านณัฐมนแล้ว ก็ไปเดินดูสินค้าต่าง ๆ ตามอัธยาศัย กระผม/อาตมภาพนั้นทนรถติดและคนจำนวนมากมายมหาศาลไม่ได้ จึงหลบเข้าไปในภัตตาคาร The Park ซึ่งเป็นร้านอาหารกลางวันของพวกเรา ปรากฏว่าทางร้านเพิ่งจะทำความสะอาดร้าน..! แต่ด้วยมารยาทที่ดี ถึงคณะของเรามาผิดเวลา ทางเจ้าของร้านก็จัดน้ำชาดาร์จีลิงก์มาให้พวกเราที่ทยอย
กันกลับเข้ามา จากที่ตกลงกันไว้ว่าจะฉันเพลตอน ๑๑ โมงครึ่งของที่นี่ ก็เลยกลายเป็นการเร่งรัดให้ทางร้านนำเอาอาหารมาเสิร์ฟตั้งแต่ก่อนจะ ๑๑ โมง..!

ภัตตาคาร The Park นี้เป็นร้านที่ได้ชื่อว่าทำอาหารไทยได้อร่อยที่สุด รสชาติใกล้เคียงที่สุด แต่ปรากฏว่าอาหารที่เขายกมานั้น ประกอบไปด้วยข้าวผัด ก๋วยเตี๋ยวผัดไทย ซึ่งกระผม/อาตมภาพเห็นแล้วก็ยังทึ่ง ว่าที่นี่เขาอุตส่าห์หาเส้นก๋วยเตี๋ยวมาได้ แล้วยังมีส้มตำที่ทำรสชาติ
ได้ใกล้เคียงเมืองไทยมาก โดยเฉพาะรสหวาน..!

นอกจากนั้นยังมียำคอหมูย่าง ผัดผักกูดไฟแดง ต้มยำไก่ ซึ่ง
กระผม/อาตมภาพตอนแรกคิดว่าเป็นต้มยำกุ้ง แต่เมื่อชิมเข้าไปแล้ว ปรากฏว่าเป็น "ต้มยำข่าไก่" อาจจะเป็นเพราะว่าทางผู้ที่ไปศึกษาการทำอาหารที่ประเทศไทยนั้น ไป "หลง" รสชาติระหว่างต้มข่าไก่กับต้มยำไก่ จึงมีการเติมข่าลงไปในต้มยำ จึงทำให้รสชาติค่อนข้างจะแปลกประหลาด..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-06-2022 เมื่อ 04:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #7  
เก่า 18-06-2022, 01:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,704
ได้ให้อนุโมทนา: 152,039
ได้รับอนุโมทนา 4,418,397 ครั้ง ใน 34,294 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อาหารที่เขาจัดมานั้น ต้องบอกว่าทางเอ็นซีทัวร์ทุ่มทุนสร้างมาก..! ไม่ว่าจะมื้อไหนก็ตาม จัดมาอย่างเต็มที่จนพวกเราไม่มีปัญญาที่จะกินจะฉันได้หมด

ตอนแรกที่ทุกคนบอกว่าเอ็นซีทัวร์แจ้งราคามาค่อนข้างแพง แต่
กระผม/อาตมภาพยืนยันว่าขอใช้บริการของบริษัทนี้ เหตุเพราะว่าทางด้านคุณนวลจันทร์ เพียรธรรมก็ดี ทางด้านคุณเอ (ฉัตตริน เพียรธรรม) ก็ดี รู้ว่าจะจัดการอย่างไรให้คณะของเราได้รับความสะดวกสบายที่สุด ไม่ว่าจะที่พัก อาหาร ยานพาหนะ ซึ่งในทริปนี้ของพวกเราต้องบอกว่าหรูเลิศมาก..!

เมื่อฉันเพลกันเสร็จเรียบร้อย ก็นั่งรอคุณสุเรศวร์ ที่ไปขอหนังสือผ่านทางเข้าเมืองสิกขิม ซึ่งเมืองสิกขิมนั้นต้องบอกว่าเป็นประเทศต่างหากจากอินเดีย ในที่นี้
กระผม/อาตมภาพขอเรียกว่า นครรัฐสิกขิม แต่ด้วยความที่กลัวอังกฤษจะยึดไป กลัวทิเบตหรือว่าจีนจะยึดไป ก็เลยขอเป็นประเทศของตัวเอง แต่อยู่ใต้อำนาจการปกครองของอินเดีย ทำให้มีที่พึ่งเป็นมหาอำนาจ ทำให้จีนหรือว่าทางด้านทิเบตนั้นไม่มายุ่งเกี่ยวด้วย จึงต้องเข้าออกโดยมีการขอวีซ่าต่างหาก

เมื่อนายสุเรศวร์กลับมาแล้ว พวกเราก็เดินทางไปยังเมืองเพลลิงก์ ซึ่งจะเป็นเมืองที่เราพักในคืนนี้ ระหว่างทางก็ผ่านโรงงานผลิตชาใหญ่มากโรงงานหนึ่ง ซึ่งคุณสุเรศวร์ของเรามีความคุ้นเคยมาก ได้แวะเข้าไปบอกเจ้าหน้าที่ว่า คณะของเราไปเยี่ยมไร่ชา Happy Valley มาแล้ว แต่ไม่สามารถที่จะเข้าไปชมระบบการผลิตภายในได้ จึงขอมาชมการผลิตภายในโรงงานนี้แทน

โรงผลิตชานี้ยี่ห้อ Puttabong ก็คือยี่ห้อพระตะบองนั่นเอง แต่ว่าไม่มีอะไรที่เป็นความเป็นเอเซียตะวันออกเฉียงใต้เลยแม้แต่น้อย เรียกว่าตั้งชื่อไปอย่างนั้นเอง ทันทีที่พวกเราเหยียบย่างเข้าไป กลิ่นชาก็ตลบอบอวล บอกให้รู้อย่างชัดเจนว่านี่คือชาอินเดีย ไม่ใช่ชาจีน

เมื่อพวกเราชมขั้นตอนการผลิตต่าง ๆ จนจบแล้ว ออกเดินทางต่อมาได้ไม่กี่กิโลเมตร ก็มีคนงานของทางด้านโรงงานนี้กำลังเก็บใบชาอยู่ พวกเราจึงได้ชมขั้นตอนของการชิมชา ตลอดจนกระทั่งระบบการผลิตชานั้นกลับด้านกัน คือแทนที่จะเข้าไปชมไร่ชา ชมการเก็บชา ชมการผลิตชา แล้วค่อยมาชิมชา แต่ปรากฏว่างานนี้กลับหัวกลับหางกันหมด..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-06-2022 เมื่อ 04:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #8  
เก่า 18-06-2022, 01:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,704
ได้ให้อนุโมทนา: 152,039
ได้รับอนุโมทนา 4,418,397 ครั้ง ใน 34,294 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

บรรดาโชเฟอร์ของรถยนต์ทั้ง ๓ คันของเรานั้นสุดยอดฝีมือมาก พาพวกเราผ่านหนทางที่คดเคี้ยววกวนยิ่งกว่าเส้นทางลี้-เถิน และที่อันตรายก็คือ มีเส้นทางที่คับแคบ และบางส่วนก็ถล่มหายไปเหลือจนถนนเพียงซีกกว่า ๆ เท่านั้นเอง..!

จนกระทั่งมาข้ามแม่น้ำที่มีสะพานแขวนขนาดใหญ่มหึมา เป็นเขตแดนระหว่างเมืองดาร์จีลิงก์ของอินเดียกับนครรัฐสิกขิม ก็ต้องไปทำการประทับตราขอวีซ่าในเล่มพาสปอร์ต

หลังจากนั้นแล้วสิ่งที่พวกเราเห็นก็คือหินถล่ม ซึ่งโครมครามตลอดลงมาเส้นทาง..! บางแห่งรถยนต์ก็กำลังเกรดอยู่ บางแห่งก็เกรดเสร็จสรรพเรียบร้อยแล้ว บางแห่งก็เพิ่งถล่มลงมาใหม่ ๆ ให้หลบหลีกกันเอาเอง แทบจะเรียกว่าทุก ๆ ๑๐๐ เมตรก็ได้ ที่พวกเราต้องเจอเช่นนั้น และเป็นระยะทางหลายสิบกิโลเมตร จนบางช่วงทางนครรัฐสิกขิมได้ทำอุโมงค์เอาไว้ เพื่อให้หลบปัญหาหินถล่มที่รุนแรงในจุดนั้น..!

เมื่อรถคันของ
กระผม/อาตมภาพผ่านพ้นออกมาได้ ปรากฏว่ารถอีก ๒ คันตามมาไม่ทัน เนื่องจากว่าจังหวะการหลบหลีก การหลีกรถที่สวนมา ตลอดจนกระทั่งการขับรถนั้น ต้องบอกว่าคนขับคันของกระผม/อาตมภาพนั้นมีฝีมือมากที่สุด จึงต้องมีการจอดรอกัน

หลังจากที่มากันครบแล้ว เดินทางต่อมาได้ประมาณกิโลเมตรเดียว เจ้าแม่นภิสราเทวีก็บอกว่า "เส้นทางข้างหน้าปลอดภัยแล้ว ไม่มีหินถล่ม" กระผม/อาตมภาพจึงได้แจ้งต่อคนในรถของเรา โดยเฉพาะพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ดร. จากนั้นก็เกิดเมฆหมอกมืดมัวแทบจะปิดหนทาง เหมือนกับว่าพวกเราวิ่งไปในเมืองลับแลก็ปาน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-06-2022 เมื่อ 04:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #9  
เก่า 18-06-2022, 01:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,704
ได้ให้อนุโมทนา: 152,039
ได้รับอนุโมทนา 4,418,397 ครั้ง ใน 34,294 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

โดยเฉพาะระยะทาง ๘ กิโลเมตรสุดท้ายนั้น ฝนก็ตก หมอกก็หนัก กระผม/อาตมภาพเอง ซึ่งมีสายตาคนแก่อายุย่าง ๖๔ ปี ขอสารภาพว่าเห็นข้างหน้าเป็นเพียงเงา ๆ เท่านั้น แต่ว่าสุดยอดพลขับของเราสามารถทำความเร็วได้ตามปกติ..! ฝ่าฟันมาได้ทุกสภาพถนน ต้องขอชมเชยมาในที่นี้ จนกระทั่งพวกเราก็มาถึงยังโรงแรมนอร์บูกัง หรือว่า นอร์บูคัง ในเวลาเกิน ๕ โมงเย็นของที่นี่ไปนิดหน่อย

ต้องขอชื่นชมว่าท่านทั้งหลายนั้นดวงดีมาก ๆ ที่มาด้วยกันในงานนี้ เนื่องจากว่าได้รับการอนุเคราะห์สงเคราะห์จากบรรดาเจ้าที่เจ้าทาง โดยเฉพาะได้รับการติดต่อประสานงานอย่างยอดเยี่ยมจากทางเอ็นซีทัวร์ และที่แน่ ๆ ก็คือเจ้าแม่นภิสราเทวี ตลอดจนกระทั่งบริษัทบริวาร และเจ้าที่เจ้าทางทั้งหลายที่ให้การอนุเคราะห์สงเคราะห์ตลอดเส้นทาง

ที่พักในคืนแรกของพวกเราในเมืองเพลลิงก์นั้น คณะของเราได้วิลล่าขนาดใหญ่ชื่อ Azalea ไปทั้งหลัง กระผม/อาตมภาพได้ห้องพักที่ใหญ่มาก ๆ ใหญ่เสียจนกระทั่งเครื่องทำความร้อนไม่สามารถที่จะให้ความอบอุ่นได้ทั่วถึง จนต้องมาขดอยู่ใกล้ ๆ เครื่องถึงจะอุ่นขึ้นมาบ้าง..!

วันนี้จึงขอเรียนถวายการเดินทางจากเมืองดาร์จีลิงก์ของอินเดีย ไปสู่เมืองเพลลิงก์
ของนครรัฐสิกขิม ไว้สำหรับพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวให้ญาติโยมทั้งหลายที่เอาใจช่วยอยู่ตั้งแต่ต้นไว้แต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๑๗ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-06-2022 เมื่อ 04:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:15



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว