กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 22-05-2022, 18:01
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,650
ได้ให้อนุโมทนา: 216,898
ได้รับอนุโมทนา 747,625 ครั้ง ใน 36,420 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 23-05-2022, 00:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,657
ได้ให้อนุโมทนา: 151,979
ได้รับอนุโมทนา 4,416,232 ครั้ง ใน 34,247 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๒๒ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ กระผม/อาตมภาพยังคงวนเวียนอยู่กับงานอบรมเจ้าอาวาสใหม่ ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ ที่กระผม/อาตมภาพได้ปรารภกับเจ้าอาวาสใหม่ส่วนหนึ่ง ซึ่งถ้าไม่ใช่พรรคพวกเพื่อนฝูงก็กลายเป็นลูกศิษย์ เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วก็เรียนในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็นวิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี หรือว่าวิทยาลัยสงฆ์สุพรรณบุรีศรีสุวรรณภูมิ แม้กระทั่งวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์

ที่ปรารภก็คือว่า กระผม/อาตมภาพเป็นคนที่ชอบงานอบรมต่าง ๆ เพราะว่าไปเมื่อไรก็ได้ความรู้ใหม่เมื่อนั้น ซึ่งก็มีเจ้าอาวาสใหม่หลายท่านที่มีความคิดความเห็นไปในแนวเดียวกัน

สำหรับวันนี้ที่จะนำมาบอกกล่าวแก่พวกเราก็คือ ความเห็นของพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระเทพมหาเจติยาจารย์ (ชัยวัฒน์ ปญฺญาสิริ ป.ธ.๙) เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม หรือที่กระผม/อาตมภาพเรียกด้วยความเคารพนับถือคุ้นเคยว่า หลวงพ่อเจ้าคุณชัยวัฒน์ ท่านบอกว่า "การเป็นเจ้าอาวาส ต้องรักษาระยะห่างเอาไว้บ้าง อย่าใกล้ชิดกับญาติโยมจนเกินไป อย่าห่างเหินกับญาติโยมจนเกินไป และท้ายที่สุดก็คือ อย่าขอเขามากจนเกินไป"

ความใกล้ชิดจนเกินไปนั้น อาจจะทำให้ท่านทั้งหลายต้องอาบัติโดยไม่รู้ตัว ก็คือกลายเป็นบุคคลผู้ประทุษร้ายตระกูลของพระพุทธเจ้าด้วยการประจบคฤหัสถ์ ซึ่งตรงนี้กระผม/อาตมภาพมองเห็นมามากต่อมากด้วยกันแล้ว

บรรดาเจ้าอาวาสที่รู้จัก ท่านจะใช้คำว่า "รักษาลูกศิษย์รวย ๆ เอาไว้ให้อยู่กับเรา" ด้วยการที่จะชักชวนให้ทำบุญอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วมีการประกาศยกย่องถึงระดับ "มหาอุบาสก มหาอุบาสิกา ผู้ค้ำจุนพระพุทธศาสนา" ถ้าในลักษณะอย่างนั้นโปรดระมัดระวังไว้ด้วยว่า ท่านทั้งหลายจะต้องอาบัติศีลขาด เพราะประทุษร้ายตระกูลของพระพุทธเจ้า..!

ส่วนคำว่า "อย่าห่างเหินจนเกินไป" ก็คือ ญาติโยมเป็นผู้ที่มีบุญคุณแก่เรา ไม่ว่าจะช่วยทำบุญใส่บาตร หรือว่าอุปถัมภ์ค้ำจุนวัดวาอารามในลักษณะไหนก็ตาม ถ้าหากว่าเขาเจ็บ เขาป่วย มีเรื่องเดือดร้อนอะไร ก็ไปเยี่ยมไปยามบ้าง แต่ว่าไปในลักษณะนาน ๆ ครั้ง ไม่ใช่ว่าไปทุกวัน เพราะว่าจะกลายเป็นลักษณะของการคลุกคลีไป

ส่วนการ "อย่าขอมากจนเกินไป" ตรงจุดนี้องค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ได้ตรัสเอาไว้แล้วว่า ภิกษุควรทำตัวเหมือนผึ้ง เมื่อนำเอาน้ำหวานไป ก็ไม่ได้ทำให้กลีบดอกไม้นั้นชอกช้ำ ก็แปลว่า ต้องมีเวลาที่พอเหมาะ พอดี พอควร จึงจะเอ่ยปากขอจากญาติโยมเขาได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-05-2022 เมื่อ 03:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 23-05-2022, 00:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,657
ได้ให้อนุโมทนา: 151,979
ได้รับอนุโมทนา 4,416,232 ครั้ง ใน 34,247 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่ว่าตรงนี้กระผม/อาตมภาพรอดตัวแน่นอน เพราะว่าในปีแรกที่ออกจากวัดท่าซุงไปอยู่ที่เกาะพระฤๅษี เมื่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านมาบอกว่า "แกช่วยสร้างศาลาสักหลังหนึ่ง เผื่อมีคนมาหา แกจะได้มีที่ให้เขาหลบแดดหลบฝน" กระผม/อาตมภาพกราบเรียนหลวงพ่อท่านไปว่า "ถ้าหากว่ามีคนมา ส้วมสำคัญกว่าศาลาอีกครับ" พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านบอกว่า "ข้าก็กำลังจะสั่งให้แกสร้างส้วมด้วย"

กระผม/อาตมภาพรู้ท่า ถึงได้กราบเรียนพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านไปว่า "หลวงพ่อจะให้ทำอะไรบ้าง โปรดบอกมาทีเดียวเลยครับ กระผมไม่ชอบฟังหลาย ๆ ครั้ง เพิ่มขึ้นมาทีละเล็กทีละน้อย ในลักษณะแบบเดียวกับหลวงพ่อ"

ก็คือ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น เริ่มการสร้างวิหารแก้ว ๑๐๐ เมตร ด้วยการให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านทำเป็นเพิงหมาแหงนเท่านั้น แล้วไป ๆ มา ๆ เพิงหมาแหงนก็กลายเป็นมหาวิหารแก้ว ๑๐๐ เมตรอย่างที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน

พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านทราบดีว่า กระผม/อาตมภาพเป็นคนพูดน้อย ดังนั้น..จึงได้บอกว่าจะต้องสร้างอะไรบ้าง ปรากฏว่ามีทั้งศาลา มีทั้งห้องน้ำ มีทั้งกุฏิพระ โรงครัว ห้องเก็บพัสดุและอาคารแทนโบสถ์ กระผม/อาตมภาพคิดจะหาทางเบี้ยว จึงได้กราบเรียนหลวงพ่อไปว่า "จะให้กระผมสร้างก็ได้ แต่ต้องไม่ให้กระผมขอใครแม้แต่บาทเดียว..!"

พระเดชพระคุณหลวงพ่อมองหน้าแล้วถามว่า "แกต้องการแบบนั้นแน่นะ ?" กระผม/อาตมภาพกราบเรียนว่า "ครับ" ในเมื่อเป็นเช่นนั้น พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านจึงได้บอกว่า "ถ้าแกจะเอาอย่างนั้นก็ได้" ตั้งแต่บัดนั้นมาจนบัดนี้ กระผมซึ่งไม่ได้ขอใครแม้แต่บาทเดียว ก็ต้องทำสารพัดงานมา เป็นระยะเวลาที่ยาวนานเกือบ ๓๐ ปีแล้ว..!

ดังนั้น...ตรงจุดนี้ที่พระเดชพระคุณพระเทพมหาเจติยาจารย์ หรือหลวงพ่อเจ้าคุณอาจารย์ชัยวัฒน์ท่านบอกกล่าวเอาไว้ว่า การเป็นเจ้าอาวาสนั้น อย่าคลุกคลีกับญาติโยมใกล้ชิดจนเกินไป อย่าห่างเหินจนเกินไป และขณะเดียวกัน ก็อย่าขอเขามากจนเกินไป จึงเป็นเรื่องที่เจ้าอาวาสใหม่ควรที่จะตระหนักเป็นอย่างยิ่ง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-05-2022 เมื่อ 03:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 23-05-2022, 00:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,657
ได้ให้อนุโมทนา: 151,979
ได้รับอนุโมทนา 4,416,232 ครั้ง ใน 34,247 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนพระเดชพระคุณพระพรหมกวี (ประกอบ ธมฺมเสฏฺโฐ ป.ธ. ๙, Ph.D.) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะภาค ๓ เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร ท่านได้ให้ข้อคิดเอาไว้ว่า "การเป็นเจ้าอาวาสนั้นต้องมีเวลา มีเสนา มีวิสัยทัศน์ และมีความยุติธรรม"

คำว่า มีเวลา ก็คือ ไม่ว่าเราจะเหน็ดเหนื่อยมาขนาดไหนก็ตาม แต่ว่าเรื่องของพระภิกษุสามเณรภายในวัดนั้น เป็นเรื่องที่ต้องจัดแจงให้เป็นระเบียบเรียบร้อย กิจการงานคณะสงฆ์ทั้ง ๖ ด้านก็ต้องกระทำให้สมกับที่ได้รับมอบหมาย

ดังนั้น...ไม่ว่าเราจะมีเวลามาก หรือว่ามีเวลาน้อย ก็ต้องสละหาเวลามาให้ได้ ในการที่จะปฏิบัติภารกิจผูกพันให้สมกับตำแหน่งสมภาร ซึ่งถ้าหากว่าแปลก็คือ เสมอด้วยภาระ แปลว่า ทันทีที่ทำหน้าที่เจ้าอาวาสก็ต้องแบกภาระแล้ว

ส่วนคำว่า มีเสนา ก็คือ ต้องมีพระเณรบริวารที่เป็นทีมงาน ช่วยทำหน้าที่ต่าง ๆ ให้ ไม่ว่าท่านจะเก่งกาจขนาดไหนก็ตาม ถ้าภาระหน้าที่มากจนเกินกำลัง ก็ต้องอาศัยผู้อื่นอยู่ดี

ในส่วนของคำว่า มีวิสัยทัศน์ นั้น ก็คือจะต้องรู้ว่าสิ่งหนึ่งประการใดที่จะเกิดขึ้นในพระพุทธศาสนา และเกิดขึ้นกับบุคคลทั่วไป แล้วเราเองก็จะได้เตรียมการรับมือแก้ไขเอาไว้เสียก่อน ไม่เช่นนั้นแล้วถ้าหากว่าปุบปับ สิ่งที่เกิดขึ้นโดยฉุกเฉิน อาจจะทำให้เราเองตั้งหลักไม่ทัน ก็อาจจะเสียทีเสียท่าแก่เขาได้

ส่วนข้อสุดท้ายที่ว่า มีความยุติธรรมนั้น ก็คือจะต้องไม่เป็นคนหลายมาตรฐาน ไม่ว่าจะคนจน จะคนรวย จะมีอำนาจวาสนา หรือว่าจะไร้อำนาจวาสนาก็ตาม ถ้าหากว่าเราเป็นเจ้าอาวาสแล้วก็ต้องให้การสงเคราะห์เสมอหน้ากัน

แบบเดียวกับที่กระผม/อาตมภาพได้เจอมา ก็คือออกกิจนิมนต์ไปยังบ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นงานสวดมนต์ฉันเพลเนื่องจากการฉลองขึ้นบ้านใหม่ เจ้าของบ้านพอเห็นหน้ากระผม/อาตมภาพก็ดีอกดีใจเป็นนักหนา วิ่งมากราบ ออกปากเองเลยว่า "ดีใจมากที่หลวงพ่อมาด้วยตนเอง ไม่นึกเลยว่าบ้านคนจน ๆ อย่างผม หลวงพ่อก็มาด้วย..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-05-2022 เมื่อ 03:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 23-05-2022, 00:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,657
ได้ให้อนุโมทนา: 151,979
ได้รับอนุโมทนา 4,416,232 ครั้ง ใน 34,247 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพได้บอกให้ทราบว่า ทางวัดท่าขนุนนั้น มอบหมายหน้าที่การจัดกิจนิมนต์แก่พระภัตตุเทศก์อย่างเป็นทางการ ดังนั้น...จึงต้องหมุนเวียนกันไปตามลำดับ จนกว่าที่จะตรงกับตนเองถึงจะได้ไป

กระผม/อาตมภาพในฐานะเจ้าอาวาส ก็ไม่ได้สิทธิพิเศษแม้แต่ประการใด เมื่อถึงเวลา ถ้าหากว่าไม่ถึงคิวก็ไม่ได้ไปเช่นกัน ดังนั้น...ไม่ใช่ว่าบ้านไหนจนแล้วไม่ไป บ้านไหนรวยแล้วไป หากแต่ว่าไปตามที่พระเจ้าหน้าที่จัดการมอบหมายให้ต่างหาก

เมื่อเรามีความยุติธรรมเช่นนี้ ทางด้านญาติโยมก็ตำหนิไม่ได้ ขณะเดียวกันทางด้านพระภิกษุสามเณรก็ตำหนิไม่ได้ว่า "ให้แต่คนนี้ไป คนนั้นไม่ได้ไป" ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ความยุติธรรมจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งเจ้าอาวาสทั้งหลายจะต้องตระหนัก

แล้วท่านยังบอกว่า "การเป็นเจ้าอาวาสนั้น ต้องเป็นหลัก ต้องเป็นแรง ต้องเป็นแบบ แก่พระภิกษุสามเณร"

คำว่า เป็นหลัก ก็คือ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการศึกษาเล่าเรียน ในเรื่องของการสวดมนต์ ทำวัตร บิณฑบาต ถ้าหากว่าเราไม่ได้ทำด้วยตนเอง พระภิกษุสามเณรก็ไม่มีอารมณ์ที่จะทำ

มีญาติโยมหลายท่านที่เคยมาใส่บาตร แล้วถามกระผม/อาตมภาพว่า "หลวงพ่อ..เป็นใหญ่เป็นโตขนาดนี้แล้ว ยังต้องบิณฑบาตเองอีกหรือ ? วัดโน้นแค่เป็นเจ้าอาวาส ก็ให้เณรบิณฑบาตให้ฉันแล้ว" ถ้าหากว่าคิดแบบนี้ก็เป็นอันว่าจบกัน..!

เนื่องเพราะว่าญาติโยมทั้งหลายเห็นอยู่ว่า เจ้าอาวาสของตนเองเป็นอย่างไร ในเมื่อไม่ได้เป็นหลักให้แก่พระภิกษุสามเณร เอาแต่ตัวเองรอด เอาแต่ตัวเองสบาย แล้ววัดวาอารามจะอยู่ได้อย่างไร ?

คำว่า เป็นแรง ท่านบอกว่าเป็นทั้งแรงกาย เป็นทั้งแรงใจ คำว่า เป็นแรงกายก็คือ ถ้าหากว่ามีเหตุ มีอันตรายใด ๆ เกิดขึ้นกับพระภิกษุสามเณรของเรา ก็ต้องเข้าไปป้องกันต้านทานให้ ในเรื่องของแรงใจก็คือ ต้องคอยกระตุ้น คอยให้กำลังใจอยู่เสมอ เพื่อให้พระภิกษุสามเณรของเรามีแก่ใจที่บวชปฏิบัติอยู่ในพระพุทธศาสนาสืบไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-05-2022 เมื่อ 03:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 23-05-2022, 00:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,657
ได้ให้อนุโมทนา: 151,979
ได้รับอนุโมทนา 4,416,232 ครั้ง ใน 34,247 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนข้อสุดท้ายที่ว่า เป็นแบบนั้นก็คือ ส่วนใหญ่แล้วพระภิกษุสามเณรที่บวชอาศัยอยู่กับพระอุปัชฌาย์อาจารย์ท่านใด ส่วนหนึ่งก็คือความชอบใจในปฏิปทาที่พระอุปัชฌาย์อาจารย์ท่านนั้น ๆ แสดงออกมา เราจึงต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับท่าน

เรื่องนี้กระผม/อาตมภาพเห็นมาด้วยตัวเอง ก็คือว่ามีวัดวาอารามหนึ่ง ซึ่งมีญาติโยมเข้าไปให้การสนับสนุนในระดับเป็นล้านคน พระภิกษุสามเณรในวัดนั้นก็จะแต่งตัวในลักษณะที่สวยงาม เป็นระเบียบเรียบร้อย "เนี้ยบสุด ๆ" ใช้แต่ของดีของแพงเข้าว่า เลียนแบบตามเจ้าอาวาสที่ท่านทำอย่างนั้น

ส่วนอีกสำนักหนึ่งก็ทำตัวปอน ๆ แม้กระทั่งรองเท้าก็ไม่ใส่ ถึงเวลาฉันภัตตาหารก็ต้องฉันมังสวิรัติ เป็นต้น บรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายก็เลียนแบบทำตาม ถึงขนาดอาบน้ำก็ต้องไม่เกิน ๕ ขัน..! ก็แปลว่าสิ่งที่เจ้าอาวาสท่านได้กระทำนั้น เป็นแบบอย่างให้แก่พระภิกษุสามเณร และญาติโยมทั้งหลายได้เลียนแบบและกระทำตาม

ท้ายสุดพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระพรหมกวี ท่านสรุปให้เจ้าอาวาสทั้งหลายได้ฟังว่า โบราณกล่าวว่า "อยากเป็นเปรตให้เป็นทายก อยากตกนรกให้เป็นสมภาร"

ตรงนี้เราท่านทั้งหลายต้องคิดให้ดีว่าทำไมทายกถึงต้องเป็นเปรต ? และทำไมสมภารถึงต้องตกนรก ? เราจะมีวิธีการใดที่จะกันตัวเองออกมา ไม่ให้เป็นเปรตหรือว่าไม่ให้ตกนรก ก็ฝากเป็นการบ้านให้แก่เจ้าอาวาสใหม่ทั้งหลายนำไปคิดไปตรองดู

สำหรับวันนี้กระผม/อาตมภาพได้เก็บเอาความรู้จากในงานอบรมเจ้าอาวาส มาฝากแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๒๒ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-05-2022 เมื่อ 03:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 20:08



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว