|
ฝากคำถามถึงหลวงพ่อ คุณสามารถตั้งคำถาม และทีมงานจะรวบรวม และคัดกรองเพื่อนำไปถามหลวงพ่อในตอนเย็นวันอาทิตย์ที่หลวงพ่อมารับสังฆทาน |
![]() |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#1
|
|||
|
|||
![]()
กราบเรียนพระอาจารย์ที่เคารพเป็นอย่างสูงกระผมมีข้อสงสัยขอรบกวนสอบถามพระอาจารย์ดังนี้ครับ
๑. การทำบุญในหมวดทานและเราได้อธิษฐานขอไปพระนิพพาน ผลที่จะส่งให้ถึงซึ่งพระนิพพานจะส่งผลในรูปแบบใดครับ บุญจะมาดลใจให้เราตอนกำลังจะตายให้เรามีกำลังใจละกิเลส ละความยึดติดจากทรัพย์สินหรือไม่ครับ ๒. การที่บุคคลคนนึงมีความปราถนาจะนิพพานในชาติปัจจุบันโดยที่คนนั้นก็ไม่ได้เป็นคนที่มีความชอบในการเข้าร่วมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา หรือชอบเข้าวัด ไปใส่บาตรพระตอนเช้า หรือชอบสวดมนต์ทุกวัน กล่าวคือเป็นคนที่ไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนามากมาย แต่เป็นคนที่บริจาคทานเป็นปกติ ตามมูลนิธิ ตามโรงพยาบาลหรือกระทั่งต่อขอทานและต่อบิดามารดาเพื่อเป็นการแทนคุณ ใครมาบอกบุญก็บริจาค ชวนไปวัดก็ไปด้วย ไม่ได้ปฎิเสธหรือต่อต้านแต่อย่างใด และเป็นคนที่มีศีลห้าครบในส่วนใหญ่ของชีวิต ไม่เคยคิดคดโกง ไม่เคยลักทรัพย์ ไม่เป็นคนไม่ซื่อสัตย์ต่อคู่ครอง ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เป็นคนไม่พูดโกหก ไม่เอาเปรียบผู้อื่น และมีดื่มสุราบ้างตามงานที่จะต้องทำ แต่ไม่ดื่มจนเมา ดื่มแค่เป็นพิธี แล้วก็ดื่มไม่ได้บ่อย และด้วยความที่ไม่ได้ศึกษาเกี่ยวกับพระพุทธศาสนามากมาย จึงไม่ได้ฝึกสมาธิบ่อย ทำให้สมาธิไม่ได้มั่นคง เป็นสมาธิขั้นต้น นั่งไปก็มีความฟุ้งซ่านและง่วงนอนจนหลับบางครั้ง แต่มีความต้องการที่จะไม่เกิดอีกมาตั้งแต่เด็ก พอรู้จักคำว่าพระนิพพานและเข้าใจความหมายก็ต้องการนิพพานเสมอมาแต่ไม่ได้ปฎิบัติเพื่อมุ่งนิพพานเป็นพิเศษ มีแต่เป้าหมายในใจซึ่งหนักแน่นมากว่าจะไม่มาเกิดอีกไม่ว่าจะภพใดภูมิใด หากบุคคลนี้พยายามอธิษฐานขอนิพพานวันละสองครั้งหรือวันละครั้งในช่วงเช้าหรือช่วงก่อนนอน เป็นคำอธิษฐานว่า ถ้าตายเมื่อใดขอไปพระนิพพาน เพียงเท่านี้ หากทำแบบนี้ประจำและการทำสมาธิไม่ได้ไปหน้ามาหลังแม้จะพยายามแล้ว บุคคลคนนี้จะสามารถไปนิพพานได้ดังที่หวังไว้ในชาตินี้หรือไม่ครับ ๓. การที่เราอธิษฐานขอนิพพานในชาตินี้แล้วพลาดไปเกิดเป็นเทวดา ภูมิเทวดา หรือกลับมาเป็นมนุษย์อีก เราจะยังจำได้หรือไม่ครับว่าเราเคยปรารถนาพระนิพพานมาก่อน ๔. การที่เทวดาไปฟังธรรมกับองค์พระพุทธเจ้าบนเทวสภา ถือว่าเป็นการทำบุญเพิ่มหรือไม่ครับ แล้วถ้าเกิดบรรลุธรรม จะต้องรอหมดอายุการเป็นเทวดาอีกหรือไม่ครับหรือไปนิพพานได้เลยทันที ๕. สำหรับคนที่เคยได้มโนมยิทธิแต่ภายหลังมีการเฝือไป แต่จำภาพได้ว่าพระท่านบนนิพพานเป็นอย่างไร บนนิพพานมีลักษณะอย่างไร ก็เลยจินตนาาการไปถึงภาพนั้นและจินตนาการว่าตัวเองกำลังสวดมนต์บูชาพระอยู่บนนั้นในขณะที่ตนก็สวดอยู่ในใจ หากทำเช่นนี้จะมีผลเท่ากับคนที่ได้มโนมยิทธิและไปที่พระนิพพานจริงหรือไม่ครับ และหากทำประจำเป็นนิสัยจินตนาการว่าไปสวดมนต์บนนิพพานเป็นประจำพร้อมทั้งอธิษฐานว่า หากตายเมื่อใดขอมาอยู่นิพพานกับพระพุทธเจ้า การกระทำเช่นนี้จะทำให้ถึงพระนิพพานได้หรือไม่ครับ ๖. การจินตนาการถึงภาพพระ คนที่จะจินตนาการได้นั้นจะต้องมีสมาธิระดับใดครับ ถึงจะสามารถจินตนาการภาพพระแล้วทรงอยู่ได้เป็นสิบห้านาทีถึงครึ่งชั่วโมง โดยที่มีการเคลื่อนบ้างไปนึกถึงเรื่องอื่นบ้าง ๗. การที่คนทั่วไปไม่บรรลุธรรมขั้นใดเลยแต่มาบรรลุเป็นพระอรหันต์ก่อนที่จะตายในชั่วขณะเดียวเพราะคิดได้ปล่อยวางได้จริง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอันใด มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนครับ และเคยมีเกิดขึ้นจริงหรือไม่ครับ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ประเคน : 16-12-2021 เมื่อ 19:17 |
สมาชิก 18 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ประเคน ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : การทำบุญในหมวดทานและเราได้อธิษฐานขอไปพระนิพพาน ผลที่จะส่งให้ถึงซึ่งพระนิพพานจะส่งผลในรูปแบบใดครับ บุญจะมาดลใจให้เราตอนกำลังจะตายให้เรามีกำลังใจละกิเลส ละความยึดติดจากทรัพย์สินหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถ้าไม่มีศีลและภาวนามาต่อท้าย ก็ไปแค่สวรรค์หรือพรหมเท่านั้น การที่หวังบุญมาบันดาลให้ตอนท้ายถือว่าประมาทมาก ถาม : การที่บุคคลคนหนึ่งมีความปราถนาจะนิพพานในชาติปัจจุบัน โดยที่คนนั้นก็ไม่ได้เป็นคนที่มีความชอบในการเข้าร่วมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา หรือชอบเข้าวัด ไปใส่บาตรพระตอนเช้า หรือชอบสวดมนต์ทุกวัน กล่าวคือเป็นคนที่ไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนามากมาย แต่เป็นคนที่บริจาคทานเป็นปกติ ตามมูลนิธิ ตามโรงพยาบาลหรือกระทั่งต่อขอทานและต่อบิดามารดาเพื่อเป็นการแทนคุณ ใครมาบอกบุญก็บริจาค ชวนไปวัดก็ไปด้วย ไม่ได้ปฎิเสธหรือต่อต้านแต่อย่างใด และเป็นคนที่มีศีลห้าครบในส่วนใหญ่ของชีวิต ไม่เคยคิดคดโกง ไม่เคยลักทรัพย์ ไม่เป็นคนไม่ซื่อสัตย์ต่อคู่ครอง ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เป็นคนไม่พูดโกหก ไม่เอาเปรียบผู้อื่น และมีดื่มสุราบ้างตามงานที่จะต้องทำ แต่ไม่ดื่มจนเมา ดื่มแค่เป็นพิธี แล้วก็ดื่มไม่ได้บ่อย และด้วยความที่ไม่ได้ศึกษาเกี่ยวกับพระพุทธศาสนามากมาย จึงไม่ได้ฝึกสมาธิบ่อย ทำให้สมาธิไม่ได้มั่นคง เป็นสมาธิขั้นต้น นั่งไปก็มีความฟุ้งซ่านและง่วงนอนจนหลับบางครั้ง แต่มีความต้องการที่จะไม่เกิดอีกมาตั้งแต่เด็ก พอรู้จักคำว่าพระนิพพานและเข้าใจความหมายก็ต้องการนิพพานเสมอมาแต่ไม่ได้ปฎิบัติเพื่อมุ่งนิพพานเป็นพิเศษ มีแต่เป้าหมายในใจซึ่งหนักแน่นมากว่าจะไม่มาเกิดอีกไม่ว่าจะภพใดภูมิใด หากบุคคลนี้พยายามอธิษฐานขอนิพพานวันละสองครั้งหรือวันละครั้งในช่วงเช้าหรือช่วงก่อนนอน เป็นคำอธิษฐานว่า ถ้าตายเมื่อใดขอไปพระนิพพาน เพียงเท่านี้ หากทำแบบนี้ประจำและการทำสมาธิไม่ได้ไปหน้ามาหลังแม้จะพยายามแล้ว บุคคลคนนี้จะสามารถไปนิพพานได้ดังที่หวังไว้ในชาตินี้หรือไม่ครับ ? ตอบ : ตราบใดที่ศีลยังไม่ครบ ปัญญายังไม่เห็นทุกข์จนเบื่อหน่าย ต่อให้หวังแค่ไหนก็ไม่มีโอกาสที่จะไปได้ ถาม : การที่เราอธิษฐานขอนิพพานในชาตินี้แล้วพลาดไปเกิดเป็นเทวดา ภูมิเทวดา หรือกลับมาเป็นมนุษย์อีก เราจะยังจำได้หรือไม่ครับว่าเราเคยปรารถนาพระนิพพานมาก่อน ? ตอบ : ยากที่จะจำได้ แต่ผลของอธิษฐานบารมีจะให้เราสร้างบุญต่อไปเอง ถาม : การที่เทวดาไปฟังธรรมกับองค์พระพุทธเจ้าบนเทวสภา ถือว่าเป็นการทำบุญเพิ่มหรือไม่ครับ ? แล้วถ้าเกิดบรรลุธรรม จะต้องรอหมดอายุการเป็นเทวดาอีกหรือไม่ครับหรือไปนิพพานได้เลยทันที ? ตอบ : ฟังที่ไหนก็เป็นบุญ ถ้าบรรลุธรรมก็ไปได้ทันทีเลย ถาม : สำหรับคนที่เคยได้มโนมยิทธิแต่ภายหลังมีการเฝือไป แต่จำภาพได้ว่าพระท่านบนนิพพานเป็นอย่างไร บนนิพพานมีลักษณะอย่างไร ก็เลยจินตนาการไปถึงภาพนั้นและจินตนาการว่าตัวเองกำลังสวดมนต์บูชาพระอยู่บนนั้นในขณะที่ตนก็สวดอยู่ในใจ หากทำเช่นนี้จะมีผลเท่ากับคนที่ได้มโนมยิทธิและไปที่พระนิพพานจริงหรือไม่ครับ ? และหากทำประจำเป็นนิสัยจินตนาการว่าไปสวดมนต์บนนิพพานเป็นประจำพร้อมทั้งอธิษฐานว่า หากตายเมื่อใดขอมาอยู่นิพพานกับพระพุทธเจ้า การกระทำเช่นนี้จะทำให้ถึงพระนิพพานได้หรือไม่ครับ ? ตอบ : เป็นแค่อุปสมานุสติเท่านั้น ถ้าต่อท้ายไม่เป็นก็ไปไม่รอด ถาม : การจินตนาการถึงภาพพระ คนที่จะจินตนาการได้นั้นจะต้องมีสมาธิระดับใดครับ ถึงจะสามารถจินตนาการภาพพระแล้วทรงอยู่ได้เป็นสิบห้านาทีถึงครึ่งชั่วโมง โดยที่มีการเคลื่อนบ้างไปนึกถึงเรื่องอื่นบ้าง ? ตอบ : อย่างน้อยต้องเป็นปฐมฌานละเอียดขึ้นไป ถาม : การที่คนทั่วไปไม่บรรลุธรรมขั้นใดเลย แต่มาบรรลุเป็นพระอรหันต์ก่อนที่จะตายในชั่วขณะเดียว เพราะคิดได้ ปล่อยวางได้จริง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอันใด มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนครับ และเคยมีเกิดขึ้นจริงหรือไม่ครับ ? ตอบ : เป็นไปได้ และเป็นกันไปเยอะแล้ว |
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]() |
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
|
|