|
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
![]() |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#321
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : เมื่อเจริญสติมาก ๆ จะเข้าถึงผู้รู้ หรือธาตุรู้ จะรู้สังโยชน์หรืออวิชชาที่แฝงตัวอยู่ในผู้รู้ใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ใช่..แต่ถ้ารู้อย่างเดียวโดยไม่ละ ก็ยังไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แต่อย่างใด
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2020 เมื่อ 09:29 |
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#322
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : ศึกษาแนวทางของหลวงพ่อวัดท่าซุงมาบ้าง นอกจากสติปัฏฐานแล้วก็เพิ่มเติมอุปสมานุสสติ อธิษฐานขอพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ ทำแบบนี้ไม่ผิดใช่ไหมครับ ?
ตอบ : กองกรรมฐานใดก็ตามถ้ายังทำไม่ถึงที่สุด ไม่สามารถพูดได้ว่าถูกหรือผิดทาง จนกว่าจะเข้าถึงมรรคผลตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป จึงจะมั่นใจได้ว่ามาถูกทางแล้ว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2020 เมื่อ 09:29 |
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#323
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : การภาวนาพระคาถาเงินล้าน ส่วนใหญ่ได้รับคำแนะนำว่าให้ภาวนาช้า ๆ แต่เมื่อทำแบบนั้นแล้วรู้สึกว่าล่องลอยและเบาเกินไป เหมือนกับจะหลับ จึงท่องรัว ๆ เร็ว ๆ ตามแบบการท่องพุทโธทางสายพระอาจารย์มั่น จะได้ผลเหมือนกันไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าจะเอาผลของพระคาถา ก็เอาช้า ๆ ตามคำแนะนำที่ได้รับมา แต่ถ้าต้องการที่จะสร้างสติจากการภาวนา ก็ให้ภาวนารัว ๆ เร็ว ๆ อย่างที่ทำอยู่ตอนนี้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2020 เมื่อ 09:30 |
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#324
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : หลวงพ่อจะสร้างท้าวมหาราชทั้ง ๔ ให้บูชาอีกไหมครับ ?
ตอบ : ยังไม่มีคำสั่งให้สร้าง ถาม : ถ้าผมบูชาท้าวมหาราชทั้ง ๔ จากร้านสังฆภัณฑ์ ตอนกราบไหว้บูชาท่านจะรับรู้ไหมครับ ? ตอบ : ถ้าทำด้วยความเคารพจริง ๆ ท่านรับรู้อย่างแน่นอน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2020 เมื่อ 09:30 |
สมาชิก 170 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#325
|
||||
|
||||
![]()
พระอาจารย์กล่าวว่า "ระยะนี้มีบางเรื่องที่ต้องหยิบยกขึ้นมาพูดคุยกัน เรื่องแรกคือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-๑๙ ซึ่งน่าจะลดจำนวนลงแล้ว แต่กลับกลายเป็นมากขึ้น เพราะว่ามีพี่น้องบางศาสนา ที่กลับจากการทำศาสนกิจ แล้วนำเอาเชื้อมาแพร่กระจายเพิ่มขึ้นในบ้านเรา
ที่กล่าวตรงนี้ไม่ได้ตำหนิพี่น้องทั้งหลายที่นำเชื้อกลับมาแพร่กระจาย แต่อยากให้พุทธศาสนิกชนของเรานั้น ได้ดูศรัทธาของพี่น้องทั้งหลายเหล่านี้ ว่ามีความมั่นคงต่อพระเจ้าของเขาขนาดไหน ถึงแม้รู้ว่าไปแล้วอาจจะติดเชื้อโรคร้ายกลับมา อาจจะทำให้ต้องเสียชีวิตจากการปฏิบัติศาสนกิจครั้งนี้ แต่ท่านทั้งหลายเหล่านี้ก็ยังคงมุ่งไปด้วยศรัทธาที่มั่นคง ไม่หวั่นแม้จะต้องถึงแก่ชีวิตก็ตาม"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2020 เมื่อ 15:38 |
สมาชิก 160 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#326
|
||||
|
||||
![]()
"ตรงจุดนี้เราทั้งหลายต้องพิจารณาตัวเองว่า หลายท่านปฏิญาณว่ามอบกายถวายชีวิตต่อพระรัตนตรัย แล้วเรามีความเข้มแข็ง มีความกล้าหาญ ที่จะเผชิญหน้ากับความตายเหมือนพี่น้องทั้งหลายเหล่านี้หรือไม่ ?
ถ้าท่านทั้งหลายมีศรัทธาที่มั่นคง มีความแกล้วกล้าที่จะทุ่มเทต่อการปฏิบัติธรรม ยอมสละแม้ชีวิตเพื่อให้เข้าถึงธรรมแล้วไซร้ เชื่อได้ว่าท่านทั้งหลายมีความหวังที่จะได้เป็นพระอริยเจ้ากันทุกคน นี่เป็นจุดหนึ่งที่ขอให้ทุกท่านพิจารณาตัวเองให้ดี"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2020 เมื่อ 15:39 |
สมาชิก 164 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#327
|
||||
|
||||
![]()
"อีกจุดหนึ่ง ขอกล่าวถึงสิ่งที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากล่าวถึง คือ อธิโมกขสัทธา ได้แก่ ศรัทธาที่เชื่อโดยปราศจากปัญญาประกอบ ใครจะชักจูงไปทางไหนก็ตามไปโดยไม่ได้มีสติที่จะยั้งคิด เหมือนภาษิตจีนที่กล่าวว่า "คนตาบอดขี่ม้าตาบอด" มีแต่จะพากันตกเหวตายไปด้วยกัน..!
เมื่อพี่น้องทั้งหลายเหล่านี้กลับมา จึงพาเอาโรคร้ายมาติดคนใกล้ชิด ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นคนสำคัญในครอบครัว เป็นคนที่ท่านทั้งหลายเหล่านี้รักใคร่ จนทำให้เชื้อโรคร้ายแพร่กระจายไปในวงกว้าง กลายเป็นภาระที่แพทย์พยาบาลทั้งหลายต้องมารับ ทำให้งานของท่านทั้งหลายเหล่านี้ที่หนักมากอยู่แล้ว ก็ยิ่งซ้ำหนักขึ้นไปอีก จะเห็นได้ว่าศรัทธานั้นต้องมีปัญญาประกอบจริง ๆ ไม่เช่นนั้นแล้วอาจจะพาความเสียหายเดือดร้อนอย่างใหญ่หลวงมาให้แก่ตนเองและผู้อื่น ทำให้ทางราชการต้องเกิดความยากลำบากในการต่อสู้เพื่อเอาชนะไวรัส covid-๑๙ ทำให้บุคลากรทางการแพทย์ที่หาได้ยาก ต้องมาดูแลพี่น้องทั้งหลายเหล่านี้แทน ทำให้ตัดโอกาสในการอยู่รอดของคนอื่นลงไปอีกมาก"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2020 เมื่อ 16:17 |
สมาชิก 160 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#328
|
||||
|
||||
![]()
"อีกเรื่องหนึ่งที่จะต้องยกขึ้นมากล่าวก็คือ ข่าวคราวที่ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จะตัดเงินนิตยภัตของพระสังฆาธิการรูปละ ๒ เดือน เพื่อนำเข้ากองทุนวัดช่วยวัด แล้วเอาเงินจากกองทุนนี้ไปบรรเทาความเดือดร้อนของวัดต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส covid-๑๙
กองทุนวัดช่วยวัดนั้นเกิดจากมติมหาเถรสมาคมปี ๒๕๔๕ หักนิตยภัตหรือเงินเดือนพระสังฆาธิการ เข้ากองทุนปีละ ๑ เดือน มาตั้งแต่บัดนั้น ซึ่งในช่วงนั้นนิตยภัตของเจ้าอาวาสทั่วไป คือเดือนละ ๕๐๐ บาท จนกระทั่งมาเพิ่มขึ้นเป็นเดือนละ ๑,๘๐๐ บาท นิตยภัตนั้นคือเงินที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงถวายเพื่อเป็นค่าภัตตาหารของพระสงฆ์ที่รับภารธุระในพระพุทธศาสนามาตั้งแต่โบราณ เมื่อมาถึงยุคหลังเห็นว่าเจ้าอาวาสทุกรูป เป็นผู้รับภารธุระในพระพุทธศาสนา ทางราชการจึงได้จัดนิตยภัตถวาย แต่อย่างไรก็ไม่พอ "ยาขี้ฟัน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2020 เมื่อ 16:18 |
สมาชิก 156 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#329
|
||||
|
||||
![]()
"ขนาดนั้นแล้วก็ยังมีการมาเบียดบังเงินที่ไม่พอ "ยาขี้ฟัน" อีก ด้วยการหักเข้ากองทุนวัดช่วยวัดปีละ ๑ เดือน แล้วยังมีซ้ำเติมด้วยการหักเข้ากองทุนช่วยชาวพุทธอีกปีละ ๑ เดือน ตั้งแต่บัดนั้นมาจนถึงบัดนี้ ไม่ทราบว่ามีเงินในกองทุนจำนวนเท่าไร และไม่เคยเห็นว่าเอาไปช่วยใครบ้าง ?
จนมาถึงปี ๒๕๖๒ ทางมหาเถรสมาคมมีมติใหม่ เนื่องจากว่าการหักเงินนิตยภัตไปตั้งแต่ต้นทางนั้นผิดระเบียบราชการ จึงให้ทางจังหวัดเก็บนิตยภัตจากเจ้าอาวาสแล้วนำไปส่งเข้ากองทุนแทน ปฏิบัติมาดังนี้ได้ประมาณ ๒ ปี พอเกิดความเดือดร้อนขึ้นมาจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-๑๙ แทนที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะหางบประมาณอื่นมาถวาย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน กลับตั้งใจที่จะล้วงย่ามพระเพื่อเอาเศษเงินเหล่านี้ไปช่วยพระ เป็น "อัฐยายซื้อขนมยาย" ที่ทุเรศสุด ๆ..!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2020 เมื่อ 16:19 |
สมาชิก 157 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#330
|
||||
|
||||
![]()
"ดังนั้น...จึงเกิดเหตุการณ์ "กฐินลง" ที่เว็บไซต์สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ บรรดาพระสังฆาธิการที่ทนต่อ ผนงรจตกม ไม่ได้ ก็เข้าไปชยันโตสรรเสริญเจริญพร จนกระทั่งบรรพบุรุษของผู้อำนวยการสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติคนปัจจุบันนอนสะดุ้งอยู่ในหลุม..!
ทำให้ท่านต้องออกมาแก้ข่าวว่า เป็นความเข้าใจผิดของนักข่าว ที่เอาข่าวไปลงเองในลักษณะอย่างนั้น ท่านไม่ได้คิดที่จะหักนิตยภัตของพระสังฆาธิการดังที่ออกข่าวไป จึงทำให้ทั้งพระสงฆ์และญาติโยมมองไป ๒ แนวทาง"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2020 เมื่อ 16:19 |
สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#331
|
||||
|
||||
![]()
"ประการแรก พระภิกษุสงฆ์ท่านฉันข้าวเป็นภัตตาหาร แม้ว่าจะเป็นข้าวสวยบ้าง ข้าวเหนียวบ้าง ข้าวนึ่งบ้างก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ฉันหญ้าเป็นภัตตาหารอย่างแน่นอน ท่านโง่พอที่จะเห็นว่าพระสงฆ์ฉันหญ้าเป็นภัตตาหารหรืออย่างไร ?
ประการที่สอง ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เรียกได้ว่าเป็นข้าราชการแทบจะตำแหน่งสูงสุดที่ดูแลงานเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ควรที่จะเป็นผู้มีคุณธรรมศีลธรรมประจำใจ แต่กลับไม่ละอายที่จะบิดเบือนข่าว กล่าวคำโกหกซึ่ง ๆ หน้า เพื่อเอาตัวรอดจากสถานการณ์ฉิบหายวายวอดที่ท่านสร้างขึ้นมาเอง โดยที่ไม่ได้ละอายชั่วกลัวบาปให้สมกับตำแหน่งของตนเลย แล้วอย่างนี้พระพุทธศาสนาของเราจะไปตั้งความหวังไว้กับใครได้ ? ในเมื่อทั้งนักการเมืองและข้าราชการประจำ ต่างก็ดีแต่เอาตัวรอด เอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น ในเมื่อทุกอย่าง "เน่าใน" ขนาดนี้ พระภิกษุสามเณรของเราก็คงได้แต่ตะเกียกตะกายพึ่งตนเองต่อไป สมดังพุทธภาษิตที่ว่า อตฺตาหิ อตฺตโน นาโถ ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน ด้วยประการฉะนี้"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2020 เมื่อ 16:21 |
สมาชิก 153 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#332
|
||||
|
||||
![]()
"วิธีการช่วยเหลือพระภิกษุของสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาตินั้น เป็นขั้นเป็นตอนที่ดูน่าเลื่อมใสแต่น่าเบื่อหน่ายที่สุด คือให้ทุกจังหวัดสำรวจหาวัดที่เดือดร้อนจากผลกระทบของไวรัส covid-๑๙ แจ้งว่าเดือดร้อนเรื่องอะไรบ้าง แต่จะช่วยเฉพาะค่าภัตตาหารเป็นเวลาไม่เกิน ๑๕ วัน ฟังแล้วด็อกเตอร์อย่างอาตมายังมึน..!
ในสถานการณ์เช่นนี้เดือดร้อนกันทุกวัด ทำไมถึงต้องเสียเวลาสำรวจหาด้วย ? ถ้าจะถวายแต่ค่าภัตตาหารแล้วถามทำไมว่าเดือดร้อนเรื่องอะไรบ้าง ? เอกสารที่ต้องกรอกมากมาย ในสถานการณ์เช่นนี้คิดว่ามีใครจะมีอารมณ์ไปกรอกบ้าง ? เข้าใจอยู่ว่าขั้นตอนของทางราชการเป็นแบบนั้น แต่ในสถานการณ์พิเศษสามารถใช้วิธีการพิเศษได้หรือไม่ ? ถ้าไม่ได้ก็ไม่ต้องเสียเวลามาช่วย นอกจากทำให้หงุดหงิดรำคาญแล้วก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาเลย บางวัดกว่าจะกรอกเอกสารเสร็จอาจจะถึงแก่มรณภาพกันไปก่อนก็ได้..! ตอนเก็บเงินเก็บไปง่าย ๆ ไม่มีขั้นไม่มีตอนอะไรเลย แต่ตอนจ่ายเงินทำไมขั้นตอนถึงได้มากนัก ? เหมือนกับตั้งใจกลั่นแกล้งที่จะดึงเรื่องให้ช้าลง ถ้าพระทนรำคาญไม่ได้ก็จะได้ไม่มีใครมาขอความช่วยเหลือ ซึ่งอาจจะเกิดจากการตั้งธงว่าไม่คิดที่จะช่วยอยู่แล้วก็เป็นได้"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 11-04-2020 เมื่อ 16:25 |
สมาชิก 154 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#333
|
||||
|
||||
![]()
"ส่วนเอกสารทางราชการก็มากันแบบรัว ๆ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติส่งมาห้ามจัดงานวัดทุกประเภท แต่ให้ตั้งโรงทานตามคำสั่งของสมเด็จพระสังฆราช..!?? สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดก็ส่งเอกสารมาย้ำ ตามมาด้วยสำนักงานเจ้าคณะจังหวัด สำนักงานเจ้าคณะอำเภอ สำนักงานเจ้าคณะตำบล ซึ่งส่งเอกสารต่อกันมาตามขั้นตอน
งานไม่ให้จัด กิจนิมนต์ก็โดนงด บิณฑบาตก็แทบจะไม่พอฉัน การช่วยเหลือก็มาช้าสุด ๆ แต่ให้ตั้งโรงทานเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน โดยไม่ได้คิดว่าพระสงฆ์เองนั่นแหละเดือดร้อนที่สุด ช่างเป็นยุค ผนงรจตกม ที่น่าอเนจอนาถจริง ๆ..!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2020 เมื่อ 16:23 |
สมาชิก 156 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#334
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : ฝันว่ามีพระสงฆ์รูปร่างสูงใหญ่มาให้คาถาว่า "สมติงสบารมี" เมื่อเอามาภาวนาแล้วอารมณ์นิ่งดีมาก คำถามคือ
๑. ผมควรใช้คำภาวนานี้ต่อไปไหมครับ ? ตอบ : การภาวนาก็เพื่อระงับ รัก โลภ โกรธ หลง ไม่ให้กำเริบ ถ้าภาวนาพระคาถานี้แล้วช่วยให้สงบนิ่งได้ ก็ควรที่จะใช้ต่อไป ๒. คำภาวนานี้เมื่อถึงที่สุดจะให้ผลทางไหน ? ตอบ : โดยทั่วไปแล้วสมถภาวนาให้ผลเต็มที่ก็ไม่เกินฌาน ๔ ๓. ถ้าคำภาวนานี้ไม่เหมาะ กระผมควรจะใช้อะไรดีครับ ? ตอบ : กรรมฐาน ๔๐ กอง ไปเลือกเอาตามใจชอบได้เลย..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-04-2020 เมื่อ 10:33 |
สมาชิก 148 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#335
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : วิชาพลังแสงทิพย์อริยธรรม มีผลจริงอย่างที่เขาว่าไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าอาบแสงทิพย์อริยธรรมแล้วสามารถเข้าถึงมรรคผล หรือเลื่อนมรรคเลื่อนผลได้ พระพุทธเจ้าก็คงพาพวกเราไปพระนิพพานหมดแล้ว ไม่เหลือให้ต้องมาลำบากอยู่ทุกวันนี้หรอก..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-04-2020 เมื่อ 10:34 |
สมาชิก 151 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#336
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : น้ำมนต์มีน้ำธรรมดากระเด็นตกลงไปแบบไม่เจตนา จะเสื่อมไหมครับ ?
ตอบ : น้ำมนต์ไม่เสื่อมหรอก แต่ศรัทธาของคนรู้มากอย่างคุณน่าจะเสื่อม..! ถาม : น้ำมนต์ที่ทำโดยผู้ที่ไม่ได้เป็นพระอริยเจ้า เอามาเททับน้ำพระพุทธมนต์ที่พระพุทธเจ้าสงเคราะห์ไว้ดีแล้วจะเสื่อมไหมครับ ? ตอบ : ไม่มีอะไรทำให้พุทธานุภาพเสื่อมได้ ยกเว้นว่าคุณจะเสื่อมศรัทธาเสียเอง บุคคลที่ไม่ได้เป็นพระอริยเจ้า ถ้าอ้างคุณพระรัตนตรัยในการทำน้ำมนต์ พระพุทธเจ้าท่านย่อมสงเคราะห์อยู่แล้ว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-04-2020 เมื่อ 10:34 |
สมาชิก 154 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#337
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : บวชเป็นพระแล้วต้องอาบัติ ที่ไม่ใช่ปาราชิกหรือสังฆาทิเสส ยังไม่ได้แสดงอาบัติ จะขัดขวางผลการปฏิบัติตนหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ผู้ที่ศีลไม่บริสุทธิ์ ย่อมเกิดวิปฏิสาร คือความเดือดเนื้อร้อนใจเอง จิตใจเมื่อไม่สงบ การปฏิบัติธรรมย่อมได้ผลน้อย ถาม : ในการอุปสมบท ถ้ามีภิกษุต้องปาราชิกอยู่ในพิธี แต่มีภิกษุปกติเกิน ๕ รูป จะถือว่าบวชพระได้สมบูรณ์ไหมครับ ? ตอบ : ผู้ที่ต้องอาบัติปาราชิก หรืออาบัติสังฆาทิเสส เท่ากับขาดจากความเป็นพระภิกษุ ทั้งขาดแบบถาวร หรือขาดแบบชั่วคราว ก็เท่ากับเป็นอนุปสัมบันไปอยู่ในพิธี ย่อมไม่สามารถยกเราขึ้นเป็นพระได้ ต่อให้บวชเต็มพิธีขนาดไหนก็เป็นได้ไม่เกินสามเณรเท่านั้น
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-04-2020 เมื่อ 10:35 |
สมาชิก 148 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#338
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : เนื้อคู่จะสังเกตได้อย่างไรคะ ? บางคนบอกว่าหน้าตาจะคล้ายกัน
ตอบ : ไม่ต้องสังเกต ชอบใครก็แต่งไปเลย สำคัญที่ว่าเมื่ออยู่ด้วยกันแล้ว ต้องมีสมชีวิธรรม คือ มีศรัทธาเสมอกัน มีศีลเสมอกัน มีทานเสมอกัน มีปัญญาเสมอกัน ถึงจะอยู่ด้วยกันได้ตลอดรอดฝั่ง
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-04-2020 เมื่อ 10:35 |
สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#339
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : หนูบูชาพระคำข้าวมาแขวน แต่เคลือบแคลงสงสัยในคุณวิเศษของหลวงพ่อฤๅษีฯ จึงอธิษฐานขอพิสูจน์ ตอนนั่งสมาธิได้เห็นนิมิตสีแดงสีเหลืองสว่างจ้าเต็มไปหมด เมื่ออาราธนาคล้องคอแล้ว อาการป่วยที่เป็นอยู่ก็คลายตัวลงเกือบหมด หนูควรจะขอขมาท่านอย่างไรดีคะ ?
ตอบ : จุดธูป ๕ ดอกหน้าหิ้งพระ ตั้งนะโมฯ ๓ จบ ว่าเป็นภาษาไทยก็ได้ "กรรมอันใดซึ่งลูกได้ล่วงเกินไปแล้วต่อ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มีองค์หลวงพ่อฤๅษีฯ เป็นที่สุด จะด้วยกาย ด้วยวาจา หรือด้วยใจก็ดี ลูกกราบขอขมากรรมนั้นต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอได้โปรดเมตตาอดโทษให้กับลูกตั้งแต่บัดนี้ ตราบท้าวเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-04-2020 เมื่อ 17:26 |
สมาชิก 157 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#340
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : เวลานั่งสมาธิ จะเกิดอาการแปลก ๆ อย่างเช่น เห็นแสงสีต่าง ๆ ตัวเบาเหมือนจะลอยได้ จิตดิ่งลึกลงไปไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้รู้สึกกลัว เพราะมีคนบอกว่านั่งกรรมฐานแล้วจะบ้า หนูควรจะทำอย่างไรดีคะ ?
ตอบ : ถ้ากลัวก็ไปขึ้นครูที่สำนักกรรมฐานแห่งใดแห่งหนึ่ง แล้วให้ครูท่านช่วยคุมตอนปฏิบัติธรรม ถ้าตัดใจไม่กลัวได้ก็ทำเองไปเลย กำลังจะเริ่มดีแล้ว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-04-2020 เมื่อ 17:26 |
สมาชิก 152 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]() |
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 4 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 4 คน ) | |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
|
|