| 
	|||||||
| ฝากคำถามถึงหลวงพ่อ คุณสามารถตั้งคำถาม และทีมงานจะรวบรวม และคัดกรองเพื่อนำไปถามหลวงพ่อในตอนเย็นวันอาทิตย์ที่หลวงพ่อมารับสังฆทาน | 
![]()  | 
	
	
| 
		 | 
	คำสั่งเพิ่มเติม | 
| 
		 
			 
			#1  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
|||
		
		
  | 
|||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			๑. กาม กับ ราคะ นี่เป็นอย่างเดียวกันไหมคะ หรือมีความเหมือนหรือต่างกันอย่างไร 
		
		
		
		
		
		
		
		
			๒. หลวงพ่อฤๅษีลิงดำกล่าวไว้ว่า อวิชชาคือฉันทะและราคะ ราคะในที่นี้หมายถึงกามใช่ไหมคะ ๓. ในทางพระพุทธศาสนาได้กล่าวถึงอารมณ์กลัวไว้บ้างไหมคะ อารมณ์กลัวจัดว่าเป็นกิเลสหรือไม่คะ ๔. อนัตตา แปลว่าไม่แบ่งแยกเป็นตัวตนหรือไม่เป็นตัวตนคะ โยมเข้าใจว่าเพราะสรรพสิ่งแท้จริงเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่มีเราหรือเขาเพราะเป็นสิ่งเดียวกัน โยมเข้าใจถูกไหมคะ ฉะนั้นถ้าเราจะเปรียบอนัตตาเหมือนตัวเลข อนัตตาคือเลขหนึ่ง ไม่ใช่เลขศูนย์ คือความเป็นตัวตนนั้นไม่ใช่ไม่มี แต่แบ่งแยกไม่ได้ กราบหลวงพ่อเมตตาอธิบายค่ะ กราบขอบพระคุณพระอาจารย์ค่ะ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ปาริชาต : 04-03-2020 เมื่อ 14:47 เหตุผล: แก้คำผิด  | 
| สมาชิก 25 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ปาริชาต ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#2  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ถาม : กาม กับ ราคะ เป็นอย่างเดียวกันไหมคะ หรือมีความเหมือนหรือต่างกันอย่างไร ? 
		
		
		
		
		
		
			ตอบ : ราคะ..แค่ยินดีก็เป็นต้นเหตุของราคะแล้ว ส่วนกามนั้นเป็นตัวของอยากได้ใคร่มี อย่างหนึ่งแม้ว่าจะเบาบางแต่ฝังรากลึกมาก ขุดคุ้ยหาได้ยาก ส่วนอีกอย่างหนึ่งแม้ว่าจะดูอาการรุนแรงกว่า แต่กลับตัดละได้ง่ายกว่า 
				__________________ 
		
		
		
		
		
	
	........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม  | 
| สมาชิก 18 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#3  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ถาม : หลวงพ่อฤๅษีลิงดำกล่าวไว้ว่า อวิชชาคือฉันทะและราคะ ราคะในที่นี้หมายถึงกามใช่ไหมคะ ? 
		
		
		
		
		
		
			ตอบ : ราคะในที่นี้หมายถึงต้นกำเนิดของกาม..คือตัวยินดี พอยินดีก็อยากมีอยากได้ 
				__________________ 
		
		
		
		
		
	
	........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม  | 
| สมาชิก 18 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#4  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ถาม : ในทางพระพุทธศาสนาได้กล่าวถึงอารมณ์กลัวไว้บ้างไหมคะ และอารมณ์กลัวจัดว่าเป็นกิเลสหรือไม่คะ ? 
		
		
		
		
		
		
			ตอบ : อารมณ์กลัวทุกอย่างมาจากกลัวตายทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น..ถ้าเราตั้งใจมอบกายถวายชีวิตให้กับพระพุทธศาสนา หรือให้กับคุณพระรัตนตรัย โอกาสที่จะก้าวข้ามความกลัวก็จะมีมาก ความกลัวจัดเป็นกิเลสใหญ่ คือ โมหะ ความหลงผิด 
				__________________ 
		
		
		
		
		
	
	........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม  | 
| สมาชิก 18 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#5  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ถาม : “อนัตตา” แปลว่าไม่แบ่งแยกเป็นตัวตน  หรือไม่เป็นตัวตนคะ ?   
		
		
		
		
		
		
			ตอบ : อนัตตา ตามรากศัพท์แปลว่า ไม่ใช่ตัวตน ที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านสรุปง่าย ๆ ว่าไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา แต่ว่าความหมายในบาลีมีหลายความหมาย แม้กระทั่งการบังคับบัญชาไม่ได้ก็ถือว่าเป็นอนัตตาด้วย 
				__________________ 
		
		
		
		
		
	
	........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม  | 
| สมาชิก 18 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]()  | 
	
	
| ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
| คำสั่งเพิ่มเติม | |
		
  | 
	
		
  |