| 
		 
			 
			#1  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			การปฏิบัติธรรมต้องมีไฟสม่ำเสมอ เพราะว่าการปฏิบัติธรรมเป็นเรื่องของบุคคลที่เข้าถึงปรมัตถบารมี กำลังใจสูงสุด ปรมัตถบารมีต้องจริงจัง จริงใจ แน่วแน่ ไม่แปรผัน ทำอะไรไม่สำเร็จไม่เลิก แต่ถ้ารู้ว่าทำแบบโง่ ๆ ก็รีบเลิกเสียนะ
		 
		
		
		
		
		
		
			
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-02-2020 เมื่อ 02:44  | 
| สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#2  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			กำลังใจต้องจดจ่ออยู่กับภาระหน้าที่การงานของตน สมัยฝึกปฏิบัติกรรมฐานใหม่ ๆ อาตมาทำไม่เลือกเวลา ไม่เลือกว่ากลางวัน ไม่เลือกว่ากลางคืน บางทีอย่างช่วงธุดงค์ก็ปฏิบัติตั้งแต่ตีสาม ฉันอาหารมื้อเดียว ๑๕ นาที แล้วว่ายาวต่อไปถึงหนึ่งทุ่มค่อยเลิกไปพักผ่อน ตอนนั้นเดินจงกรมจนพื้นเป็นร่อง แต่ก่อนก็สงสัยว่าเดินจงกรมจนเท้าแตก เดินจนพื้นเป็นร่องนั้นเดินกันอย่างไร ? พอเดินได้สองเดือนพื้นเป็นร่องจริง ๆ เดินไปเดินมาพอจะขึ้นเดือนที่สามฝ่าเท้าเริ่มแตก เลือดออกซิบ ๆ
		 
		
		
		
		
		
		
			
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-02-2020 เมื่อ 02:45  | 
| สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#3  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ลองให้คะแนนตัวเองว่าเราสอบได้หรือสอบตก ในเวลา ๒๔ ชั่วโมงเราสอบได้กี่ชั่วโมง..? เวลาที่จิตว่างจากกิเลส กับช่วงเวลาที่กิเลสท่วมทับจิต พอสมควรกันไหม..? คาดว่าถ้าให้คะแนนก็คงจะได้ดีกันหมดทุกคน ดีในที่นี้คือดีภาษาอังกฤษ เกรด A B C D..!
		 
		
		
		
		
		
		
			
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-02-2020 เมื่อ 02:46  | 
| สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#4  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ไม่ว่าจะการปฏิบัติธรรม หรือการทำงานทางโลก ต้องทุ่มเทจริงจังเกิน ๑๐๐  เปอร์เซ็นต์ อาจารย์ถ่ายทอดเก่งอย่างไร ลูกศิษย์ก็ได้ไม่เกิน ๘๐ เปอร์เซ็นต์ แล้วถ้าลูกศิษย์เอาไปถ่ายทอดต่อ หลานศิษย์ก็ได้ไม่เกิน ๘๐ เปอร์เซ็นต์ของลูกศิษย์ หลานศิษย์เอาไปถ่ายทอดต่อ เหลนศิษย์ก็ได้ไม่เกิน ๘๐ เปอร์เซ็นต์ ของหลานศิษย์ ได้น้อยลงไปเรื่อย ๆ  
		
		
		
		
		
		
			อยากประสบความสำเร็จในชีวิต อยากเก่งเหมือนอาจารย์ ต้องทุ่มเท ๒๐๐ เปอร์เซ็นต์ เพราะว่าถ้าพวกเราทุ่มเท ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ เราจะได้แค่ ๘๐ เปอร์เซ็นต์ของอาจารย์ 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-02-2020 เมื่อ 02:46  | 
| สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#5  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			พระอนุรุทธหลังจากบรรลุมรรคผลแล้ว ตลอด ๕๕ พรรษาไม่เคยนอนหลังแตะพื้นเลย ท่านใช้วิธีนั่งหลับ  
		
		
		
		
		
		
			พระอานนท์เป็นบุคคลผู้อัศจรรย์ คนอื่น ๆ ท่านเป็นพระอรหันต์ หมดกิเลส พระอานนท์เป็นแค่พระโสดาบัน พระโสดาบันมี รัก โลภ โกรธ หลง เต็มตัว แต่ว่าเป็นบุคคลชั้นดี เพราะว่าอย่างไรก็ไม่ยอมละเมิดศีล พระอานนท์ท่านบอกว่า ตลอดระยะเวลาอันยาวนานที่ทำหน้าที่พุทธอุปัฏฐากมา แม้แต่กามสัญญาก็ไม่เคยเกิดขึ้นเลย ใจที่จะไปประหวัดถึงเรื่องเพศแม้แต่นิดเดียวก็ไม่มี ประวัติของท่านในเถราปทาน ขุททกนิกาย ธรรมบทบอกเอาไว้ว่า 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-02-2020 เมื่อ 02:48  | 
| สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#6  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ปฐมยาม (หกโมงเย็นถึงสามทุ่ม) มีมืออันถือคบไฟดวงใหญ่ เดินจงกรมรอบคันธกุฎี เผื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะทรงเรียกใช้ เมื่อเห็นว่าไม่มีการเรียกใช้ ก็เข้าที่ ขัดสมาธิคู้บัลลังก์ ก็คือนั่งภาวนา 
		
		
		
		
		
		
			มัชฌิมยาม (สามทุ่มถึงเที่ยงคืน) มีมืออันถือคบไฟดวงใหญ่ เดินจงกรมรอบคันธกุฎี เผื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะทรงเรียกใช้ เมื่อไม่มีก็เข้าสู่ที่ นั่งคู้บัลลังก์ นั่งสมาธิต่อ ปัจฉิมยาม (เที่ยงคืนถึงตีสาม) มีมืออันถือคบไฟดวงใหญ่ เดินจงกรมรอบคันธกุฎี เผื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะเรียกใช้ เมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่เรียกใช้ ก็เตรียมน้ำใช้ น้ำฉัน เตรียมไม้สีฟัน เตรียมบาตร เตรียมผ้าซับพระพักตร์ ให้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าใช้เมื่อตื่นจากบรรทมแล้ว พระอานนท์มีเวลานอนหรือไม่..? ท่านถวายการรับใช้พระพุทธเจ้าแบบนี้อยู่ ๒๕ ปีเต็ม ๆ..! 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย นายกระรอก : 26-07-2022 เมื่อ 22:17  | 
| สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#7  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายิ่งกว่านั้นอีก  
		
		
		
		
		
		
			ปุพฺพณฺเห ปิณฺฑปาตญฺจ เช้าขึ้นมาเสด็จออกบิณฑบาต สายณฺเห ธมฺมเทสนํ ตอนเย็นแสดงธรรมโปรดญาติโยม เช้ากับเย็นอย่าคิดว่าห่างกันหลายชั่วโมง พระองค์เสด็จบิณฑบาตบางทีไปตั้งครึ่งโลก..! อยู่ชมพูทวีปเสด็จมาโปรดที่เชียงแสน เป็นต้น ปโทเส ภิกฺขุโอวาทํ ค่ำลงมาให้โอวาทภิกษุ ภิกษุณี สามเณร สามเณรี นางสิกขมานา แก้ไขปัญหาการปกครองคณะสงฆ์ ตำหนิบุคคลที่กระทำผิดพลาด ออกกฎป้องกันไม่ให้กระทำผิดพลาดอีก อฑฺฒรตฺเต เทวปญฺหนํ ครึ่งคืนไปแล้วแก้ปัญหาให้พรหม เทวดา ครึ่งคืนนี้คือเที่ยงคืน สมมติว่าแก้ปัญหาสัก ๒ ชั่วโมง ปจฺจูเสว คเต กาเล ภพฺพาภพฺเพ วิโลกนํ ใกล้รุ่งตรวจดูอุปนิสัยสัตว์โลกเพื่อเตรียมจะไปโปรดในวันพรุ่งนี้ สมมติว่าใกล้รุ่งคือตีห้า ก็แปลว่าจากตีสองถึงตีห้า ได้บรรทมคืนละ ๓ ชั่วโมง ในขณะที่พวกเรานอน ๖ ชั่วโมง ได้ ๘ ชั่วโมงก็ยิ่งดี ถ้าวันไหนวันหยุดขอตื่นสักบ่ายสองโมง..! นี่คือสิ่งที่พวกเราทำกัน 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-02-2020 เมื่อ 02:51  | 
| สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#8  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ดังนั้น...ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมพระท่านบรรลุอรหันต์ ทำไมพระพุทธเจ้าท่านบรรลุเป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วทำไมพวกเรายังอยู่แค่นี้ 
		
		
		
		
		
		
			ที่เตือนพวกเราก็เพราะว่า พวกเราทุ่มเท เอาเวลาที่คนอื่นไปเที่ยวมาปฏิบัติธรรม ดังนั้น..ต้องทำให้คุ้มกับที่ตั้งใจมาแล้ว 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-02-2020 เมื่อ 02:52  | 
| สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#9  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			เจโตปริยญาณ ที่สำคัญที่สุดคือดูใจตัวเอง ดูว่าใจเรามีความชั่วอยู่หรือไม่ ถ้ามีก็ขับไล่ความชั่วนั้นออกไป ระมัดระวังไว้อย่าให้ความชั่วนั้นเข้ามา ดูว่าใจเรามีความดีหรือไม่ ถ้าไม่มีก็สร้างความดีขึ้นมา ถ้ามีอยู่แล้วก็ทำให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป  
		
		
		
		
		
		
			แต่พวกเราเอาไปใช้ผิดกันหมด ปฏิบัติธรรมไม่ต้องไปหวังฤทธิ์ ถึงเวลาแล้วจะได้เอง ซื้อรถต้องได้ล้อมาอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นรถจะวิ่งไม่ได้ เรามีหน้าที่ตั้งหน้าตั้งตาเก็บเงินซื้อรถ อย่าไปหวังว่าจะต้องได้ล้อรถมา ถ้าใจเราสงบถึงระดับ ของเก่าจะมาเอง เพราะว่าพวกเราเคยทำกันมาไว้มากแล้ว 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-02-2020 เมื่อ 02:53  | 
| สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#10  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			แล้วอย่าถามว่าถ้าไม่เคยทำมาทางนี้ล่ะ..? คนไหนที่อยากได้ ต้องเคยทำมาแล้ว เกิดมาจนนับชาติไม่ถ้วน ถ้าใจนิ่งได้ระดับ ความสามารถเดิม ๆ จะกลับมาเอง ถึงเวลานั้นแล้วจะเบื่อ ว่าทำไมโลกมนุษย์นี้มีแต่คนเพ้อเจ้อ..! 
		 
		
		
		
		
		
		
			
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-02-2020 เมื่อ 02:53  | 
| สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#11  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			หลายคนกลัวว่าคิดอะไรแล้วหลวงพ่อจะรู้ ทำชั่วอะไรแล้วหลวงพ่อจะรู้ จำไว้ว่าพระท่านไม่ได้ดูว่าเราทำชั่วอะไรมา เพราะว่านั่นเป็นเรื่องของเรา ไม่ใช่เรื่องของท่าน แต่พระท่านดูว่าจะช่วยเราให้พ้นความชั่วได้อย่างไร  
		
		
		
		
		
		
			สรุปก็คือ อยากจะชั่วโยมก็ทำไป ถ้าอาตมายังมีแรงอยู่ ก็จะพยายามช่วยให้ดี แต่คำว่า ช่วย ในที่นี้ก็คือ ช่วยบอก บอกแล้วถ้าไม่เอา ก็เป็นเรื่องของโยม ฟังดูเหมือนกับใจจืดใจดำ แต่ในเมื่อบอกแล้วไม่เอา ส่งข้าวให้แล้วไม่กิน จะให้ทำอย่างไร ? 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-02-2020 เมื่อ 02:54  | 
| สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#12  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			แค่ตัวกูของกูก็แย่แล้ว นี่ยังลูกกู เมียกู ผัวกู พ่อกู แม่กู หนักเข้าไปเรื่อย ๆ  
		
		
		
		
		
		
			ภาราหะเว ปัญจักขันธา ขันธ์ ๕ คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ที่รวมเป็นตัวตนนี้ เป็นภาระที่หนักยิ่งหนอ ภาราหะโร จะ ปุคคะโล บุคคลก็ได้แต่แบกภาระอันหนักนี้ไป และไม่ได้แบกแค่ ๕ ถ้ามีครอบครัว มีผัว มีเมีย ก็แบกไปอีก ๕ เป็น ๑๐ มีลูกก็แบกเพิ่มไปอีกทีละ ๕ 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-02-2020 เมื่อ 02:55  | 
| สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#13  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			พยายามกันหน่อย ไม่ใช่เป็นกรวดแล้วก็เป็นกรวดไปตลอดชีวิต เพิ่มความร้อนหน่อย เปลี่ยนจากกรวดให้เป็นเพชรบ้าง เป็นเพชรไม่ได้ อย่างน้อยก็เปลี่ยนซิลิกาในกรวดให้เป็นแก้วหุงก็ยังดี  
		
		
		
		
		
		
			อบ คือ ทำให้เข้าเนื้อ รม คือ ทำให้จับผิว แปลว่า ถ้าอบรมแล้วต้องดีทั้งในทั้งนอก พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. ปกิณกธรรม ช่วงบวชเนกขัมมะปีใหม่ ๒๕๖๓ ณ วัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๓๐ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทะเลและนาทาม) 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย นายกระรอก : 07-03-2020 เมื่อ 16:57  | 
| สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]()  | 
	
	
| ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
| คำสั่งเพิ่มเติม | |
		
  | 
	
		
  |