| 
	|||||||
| เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป | 
![]()  | 
	
	
| 
		 | 
	คำสั่งเพิ่มเติม | 
| 
		 
			 
			#81  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติส่งเอกสารไปแล้ว ยืนยันวันเวลาในการรับพัด แล้วก็บอกว่าต้องเอาเอกสารไปยืนยันตัวด้วย และเอาพัดเก่าไปคืนถึงจะได้พัดใหม่  
		
		
		
		
		
		
			ตอนช่วงนั้นพอดีว่าขึ้นเป็นเจ้าคณะตำบล ปกติจากเจ้าอาวาสขึ้นเป็นเจ้าคณะตำบล ถ้าไม่ได้อยู่ในช่วงพระราชทานสมณศักดิ์ เขาจะใช้วิธีปรับเลื่อนอัตโนมัติ ก็คือขอให้ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจัดการให้ แต่คราวนี้พอปรับเลื่อนแล้วก็ต้องไปตามกติกาเขา ก็คือว่าต้องหยุด ๓ ปี ๕ ปีตามแต่ตำแหน่งตัวเอง เว้นไป ๓ ปี ๕ ปีถึงขอได้ อาตมาก็ว่าอีกปีเดียวเราจะครบ ๕ ปี ถ้าอยู่ ๆ เลื่อนแล้วหยุดไปอีก ๓ ปีก็จะนาน ก็เลยบอกเขาว่าอย่างนั้นไม่เอา ยังไม่เอาเจ้าคณะตำบลชั้นโท ขอเป็นเจ้าอาวาสชั้นโทอย่างนี้แหละ แล้วไปปรับเลื่อนตอนครบ ๕ ปีแทน ปรากฏว่าพอครบ ๕ ปี ปี ๒๕๕๙ ขอไปแล้วเงียบไปเลย ก็คิดว่าไม่ได้แล้ว ปรากฏว่าอยู่ ๆ หลุดออกมา ได้เยอะกว่าที่คิดอีกด้วย ตอนนี้ทางทองผาภูมิทั้งอำเภออาตมาแค่นั่งถัดจากเจ้าคณะอำเภอกับท่านอาจารย์มหาวริศ อาจารย์มหาวริศท่านเป็นเปรียญธรรม ๕ ประโยค เป็นเจ้าคณะตำบลด้วย ได้เทียบเท่าผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระรามหลวงชั้นพิเศษ ท่านนั่งเหนือกว่าหนึ่งตำแหน่ง 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-11-2019 เมื่อ 14:42  | 
| สมาชิก 156 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#82  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ถาม : ในระบอบการปกครอง  การมีตำแหน่งทำให้งานสะดวกขึ้นไหมคะ ? 
		
		
		
		
		
		
			ตอบ : ถ้าสำหรับคนที่ไม่ไปเมายศเมาตำแหน่ง จะได้รับความสะดวกขึ้นเยอะ เพราะว่าคนอื่นเขาเกรงใจ แบบเดียวกับหลวงพ่อนิล ท่านบอกว่าผมเป็นพระธวัชชัย ไปไม่มีใครเห็นหัวเลย คราวนี้เป็นพระครูวินัยธรคนเริ่มมองเห็นแล้ว อาตมาเห็นว่าท่านเป็นคนทำงาน อย่างครูบาหน่อแก้วฟ้าก็เช่นกัน ก็เลยขอหลวงพ่อจังหวัด...ขอฐานานุกรมให้ท่าน เป็นการขอข้ามจังหวัด ซึ่งปกติขอยากมาก แล้วหลวงพ่อจังหวัดท่านบอกไว้แล้ว ท่านบอกว่า "อาจารย์เล็กไม่เคยขอให้ตัวเองเลย...เพราะฉะนั้น..ผมให้" 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-11-2019 เมื่อ 14:23  | 
| สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#83  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ต้องบอกว่าเป็นวาระพิเศษที่ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ ทรงครองราชย์ พระองค์ท่านถึงถวายตำแหน่งให้ เป็นไปตามพระราชประเพณีโบราณ สรุปว่ายังดวงเฮงอยู่ ไม่อย่างนั้นก็ติดอยู่แค่นั้น คราวนี้ที่ติดอยู่ของอาตมา ก็เป็นพระครูสัญญาบัตรไปแล้ว คนที่เขาติดโดยที่ไม่มีอะไรให้เลยนี่น่าสงสาร  
		
		
		
		
		
		
			หลายท่านก็ยังต้องอาศัยตรงนี้ เพราะว่าเวลาญาติโยมเขาเห็นครูบาอาจารย์ตัวเองได้แล้วก็จะรู้สึกดีใจ ตื่นเต้น ปลื้มใจ แล้วอาตมาก็เหมือนเดิม ไปรับพัดก็ไปแค่ ๒ คน ไม่มีขบวนแห่ ไม่มีอะไรกับใครทั้งนั้น รับเสร็จก็เผ่นเลย ถามว่าทำไมรีบไป ? ช้าไม่ได้ ถ้ารถคนอื่นออกเมื่อไรเราจะออกไม่ได้เลย เพราะว่าบางคนมานี่รถบัส ๓๐ คันอะไรแบบนี้ ก็คือลูกศิษย์เขาประเภทมายินดีกับพระอาจารย์ ของอาตมาถ้าคนไปเยอะ ๆ แล้วรำคาญ ไม่ว่าจะรับอะไรก็ไปคนเดียวหรือไม่ก็ไป ๒ คนเท่านั้น ไม่เกินนั้น บางคนก็ถามไม่มีลูกศิษย์มาเลยหรือ ? บอกว่าไม่มี รำคาญตอนเขาตามไม่ทัน 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-11-2019 เมื่อ 14:26  | 
| สมาชิก 163 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#84  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			พระอาจารย์เล่าว่า  "มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ไปเมืองจีน คุณตั้วหัวหน้าทัวร์เขาเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ ก็ติดพวกเรามา  กลางคืนนอนรู้สึกว่าเตียงหมุน ๆ แสดงว่ายากดประสาท ท่าน  อาจารย์บ๊ะตอนนี้ก็แย่เลย รักษาคนอื่นแล้วก็โดนเสียเอง ช่วงนี้เลยไม่กล้าไปรบกวนท่าน อาจจะเป็นเพราะบารมีท้าวแสนโกฏิที่ป้าจี๋ (วินิตา) ถวายไปก็ได้ ไปเมืองจีนเที่ยวนี้ก็เลยไม่ได้ป่วยหนักเหมือนทุกครั้ง ปกติกลับมาจะป่วยแย่ไปเลย หรือหลวงพ่อไห่ทงท่านเอาอยู่ก็ไม่รู้ อาตมาขอท่านแล้วว่ากลับมาขอให้ทำงานได้ 
		
		
		
		
		
		
			ความจริงอาจารย์บ๊ะท่านชื่อบะ คนไทยออกเสียงไม่ถนัดกลายเป็นบ๊ะ บะแปลว่าเนื้อ ตือบะก็เนื้อหมู โกยบะก็เนื้อไก่ ฮื้อบะก็เนื้อปลา แต่ถ้าจีนกลางออกเสียงโร่ว งู้บะเนื้อวัว ไปถึงเมืองจีนกลายเป็นหนิวโร่ว ภาษาจีนกลางออกเสียงคนละอย่างกัน" 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-11-2019 เมื่อ 16:55  | 
| สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#85  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			มีคนมาขอความรู้เรื่องเลขยันต์  "เรื่องเลขเรื่องยันต์เป็นเรื่องแปลกมาก อาตมาไม่ได้คิดจะศึกษา แต่พอมองแล้วเข้าใจว่าคืออะไร แล้วก็ทำได้ ก็เลยงง ๆ อยู่เหมือนกัน พอไปถามหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอก “ของเก่ามีเยอะ ของเก่าตามมา”
		 
		
		
		
		
		
		
			
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-11-2019 เมื่อ 14:27  | 
| สมาชิก 161 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#86  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ถาม :  ถ้าวางอักขระเรียงสลับที่กันจะมีผลไหมคะ ? 
		
		
		
		
		
		
			ตอบ : สำคัญตรงใจของเรา ก็คือถ้าใจมุ่งด้านไหนก็จะไปด้านนั้น เพียงแต่ว่าถ้าหากว่าถูกต้องก็จะดีกว่า แต่ถ้าคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย จะทำพวกนี้ได้ขึ้นที่สุด คนรู้มากนี่ไม่ค่อยได้เรื่อง เพราะว่ารู้มากแล้วไปเห็นว่าผิด 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-11-2019 เมื่อ 14:28  | 
| สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#87  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ถาม :  ตอนนี้เรียนหนังสืออยู่  จะต้องสอบให้ผ่าน  มีอะไรแนะนำไหมคะ ? 
		
		
		
		
		
		
			ตอบ : ไปภาวนาคาถาท่านปู่พระอินทร์เยอะ ๆ เคยได้ยินไหม ? คาถาสหัสสเนตโต เทวินโท ทิพจักขุง วิโสธายิ บางคนเรียกว่าคาถาตาทิพย์ จะช่วยให้เข้าใจบทเรียนและอะไรต่อมิอะไรได้ดีขึ้น อาตมาเรียนปริญญาเอกไม่ครบ ๓ ปีเสียด้วยซ้ำ โดนเขาไล่ให้จบเพราะว่าเก่งเกิน ตอนแรกอาจารย์บอกว่าเป็นตายถ้าไม่ครบ ๓ ปีก็ไม่ให้สอบ ปรากฏว่าพอเข็นรุ่นพี่ไม่ไปเลยมาเข็นอาตมาแทน วันก่อนเจอกันในงานวางศิลาฤกษ์วิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรี ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดก็ชมให้ท่านรองอธิการบดีฟัง ท่านรองอธิการบดีก็ชมให้ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดฟัง ก็เลยต่างคนต่างชมกัน อาตมาก็ฟังไปเต็ม ๒ รูหู ตกลงว่าตอนเรียนอยู่นี่เคี่ยวเข็ญอาตมาเสียปางตาย ตอนนี้มาแย่งกันชม 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-11-2019 เมื่อ 14:30  | 
| สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#88  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			พระอาจารย์กล่าวว่า  "ในมหาปุริสวิตก ๘ ประการของพระอนุรุทธ มีอยู่ข้อหนึ่งว่า ‘บุคคลผู้มีสติตั้งมั่น ย่อมระลึกถึงเรื่องที่ผ่านไปแล้วนาน’ แปลว่านึกได้ นานแค่ไหนก็นึกได้ ที่เขียนบันทึกการเดินทาง บางคนบอกว่าทำไมรายละเอียดมาก  เพราะว่านึกย้อนหลังไปแล้วก็นึกได้ เท่ากับเป็นการซ้อมอตีตังสญาณไปด้วย"
		 
		
		
		
		
		
		
			
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-11-2019 เมื่อ 14:30  | 
| สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#89  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			พระอาจารย์กล่าวว่า  "ซื้อของต่างประเทศอย่ากลัวเขาด่า ต่อราคาให้ต่ำติดดินไปเลย โดยเฉพาะประเทศที่บอกผ่านมาก ๆ อย่างอินเดีย กระเป๋าใบละ ๑,๕๐๐ รูปี คนโน้นก็จะเอา  คนนี้ก็จะเอา ต่อไปต่อมาเหลือ ๑,๒๐๐ พอกระโดดขึ้นรถ ๒๐๐ ก็ให้ ถ้าซื้อของที่ประเทศอินเดียให้ซื้อตอนที่รถกำลังจะออก  
		
		
		
		
		
		
			ไปเมืองจีนงวดก่อนโน้น จำได้ว่าเขาพาไปซื้อเสื้อขนชามัวร์ ๑,๕๐๐ หยวน คือต่อราคาเหลือแค่นั้น พอซื้อมาแล้วแท็กซี่เขาบอกว่า ถ้าให้เขาซื้อก็แค่ ๒๐๐ หยวนเท่านั้น" 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-11-2019 เมื่อ 14:31  | 
| สมาชิก 156 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#90  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			พระอาจารย์กล่าวว่า  "ตอนนี้ประเทศฮ่องกงจากเศรษฐกิจรุ่ง ๆ อยู่ในระดับต้น ๆ ของโลก กลายเป็นดิ่งเหวไปเลย ฮ่องกงออกธนบัตรโดยธนาคาร ๔-๕ แห่ง แล้วรัฐบาลรับประกันเป็นธนบัตรที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย บางทีเราเห็นเงินฮ่องกงแล้วจะสงสัยว่าทำไมธนาคารโน้นออกได้  ธนาคารนี้ออกได้ ก็เพราะว่าสภาพคล่องของธนาคาร แล้วก็ความน่าเชื่อถือมีมาก ถึงขนาดสามารถออกธนบัตรเองได้  
		
		
		
		
		
		
			คราวนี้พอโดนประท้วงก็เละเทะไม่เป็นท่า ภาษิตจีนบอกว่า ยกหินทุ่มใส่เท้าตัวเอง ยกก้อนหินแทนที่จะไปขว้างหัวคนอื่น แต่กลายเป็นทุ่มใส่เท้าตัวเอง...เจ็บเอง เกิดจากคนฮ่องกงคนหนึ่งก่อคดีฆาตกรรม แต่ดันทะลึ่งไปมอบตัวกับรัฐบาลไต้หวัน จีนก็เลยต้องออกกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ปรากฏว่าคนฮ่องกงถือตรงนี้เป็นจุดไม่พอใจ แล้วประท้วงกันจนเละเทะไปทั้งประเทศ อีกอย่างหนึ่งก็ต้องบอกว่าคนที่ไปมอบตัวก็ไม่รู้จักตาย ไต้หวันเองก็จะเอาตัวไม่รอดอยู่แล้ว รัฐบาลไต้หวันถ้าไม่ใช่คิดจะลองของก็คงไม่กล้ารับเอาไว้ ตอนนี้ก็เลยกลายเป็นว่ารัฐบาลไต้หวันรับเผือกร้อนเอาไว้ในมือ" 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-11-2019 เมื่อ 14:32  | 
| สมาชิก 156 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#91  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			"เด็กรุ่นหลังไม่เคยกินเผือกต้ม เผือกเผา  ไม่รู้หรอกว่าร้อนอย่างไร ดูเหมือนไม่มีอะไรแต่อมความร้อนไว้ได้สูงมาก ถือไว้ในมือจะโยนต่อให้คนอื่นก็ไม่มีใครรับ  
		
		
		
		
		
		
			เรื่องพวกนี้เป็นการเมืองระหว่างประเทศที่มีความละเอียดอ่อนมาก ต้องใช้ความระมัดระวังในการดำเนินการอย่างรอบคอบ อย่างรัฐบาลของเราพอจะแบนสารพิษ ๓-๔ ตัว เราจะเห็นว่ารัฐบาลต่างประเทศก็จะป้องกัน หรือว่าปกป้องบริษัทของประเทศเขา หรือคนของเขาทันที โดยการตัดสิทธิพิเศษทางภาษีของประเทศเรา ก็ต้องหาอะไรที่มีกำลังเพียงพอที่จะไปต่อรองเขา ไม่ใช่ว่าอนุญาตให้เขาส่งถั่วเหลืองเข้ามา หรือว่าส่งหมูเนื้อแดงเข้ามา ไอ้นั่นมันบ้า..! อะไรที่ห้ามแล้วเราไปอนุญาต แล้วต่อไปจะห้ามเขาอย่างไร ?" 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-11-2019 เมื่อ 14:33  | 
| สมาชิก 155 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#92  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			"เมื่อเห็นรัฐบาลของเราทำงานกันอย่างกับเด็กหัดใหม่  อาตมาก็กลุ้ม เรื่องที่จะต่อรองกับเขามีเยอะแยะไป โดยเฉพาะความร่วมมือทางการทหาร ที่ระยะหลังเขากลัวว่าเราจะไปร่วมมือกับจีนหรือรัสเซีย ยกขึ้นมาเป็นข้ออ้างเลย ส่งพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือว่าพลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ก็ได้ ไปเยี่ยมรัฐมนตรีกลาโหมที่ประเทศจีนหรือประเทศรัสเซีย...เดี๋ยวก็จบ...! ไม่มีอะไรหรอก ก็ไปนั่งจิบชาคุยกัน ส่วนคุยกันเรื่องอะไรกูไม่บอกมึง แค่นั้นพวกเขาก็วิ่งขี้แตกแล้ว ถ้าไม่อยากให้คุยกันก็จงยกเลิกกฎหมายที่คุณใช้ยกเลิกระบบภาษีกับของเรา แค่นี้ก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว  
		
		
		
		
		
		
			ต้องบอกว่าไร้ชั้นเชิงสิ้นดี ทำอะไรไม่เป็นมวยสักอย่าง ปัญหาที่แก้ได้ง่าย ๆ ด้วยการทำ กลับไปแก้ด้วยคำพูด ประมาณว่ารู้ตัวตั้งแต่เดือนกันยายนแล้ว หรือไม่ก็เพราะประเทศของเราเศรษฐกิจดีขึ้น ก็เลยโดนตัดสิทธิพิเศษทางภาษี ประสาชาวบ้านเรียกว่า "โชว์โง่" รู้ตั้งแต่กันยายนทำไมไม่หาทางป้องกัน ? ทำไมไม่หาทางเจรจา ? ถึงได้เตือนไปตั้งนานแล้วว่า บ้านเราต้องจับตาดูเรื่องของสงครามเศรษฐกิจ โดยเฉพาะระหว่างสหรัฐกับจีนให้มากเข้าไว้ แล้วก็เตรียมตัวที่จะป้องกัน ทีนี้อาตมาตัวเล็กเกินไป พูดไปก็ไม่มีใครฟัง" 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-11-2019 เมื่อ 14:35  | 
| สมาชิก 156 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#93  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ถาม : เขาฟังไม่รู้เรื่องกระมังคะ ? 
		
		
		
		
		
		
			ตอบ : ไม่หรอก...เรื่องอย่างนี้ปกติไม่มีใครรายงานอยู่แล้ว เพราะรู้ว่าเจ้านายไม่ชอบฟัง ถึงบอกว่าบุคคลถ้าก้าวขึ้นไปสู่ระดับบริหารแล้วก็มักจะโดนปิดหูปิดตา เพราะว่าคนเขาจะเลือกพูดแต่สิ่งที่คุณอยากฟัง ของบางอย่างไม่จำเป็นต้องไปเกรี้ยวกราด อย่างบรรดาฝ่ายค้านหรือพวกนอกสภาที่แนะนำให้ไทยเราตอบโต้อย่างนั้นอย่างนี้ เรื่องพวกนั้นเขาเรียกว่าโฉ่งฉ่างเหมือนมวยวัด ก็แค่ขอไปดูรถถังรัสเซียบ้าง ดูเรือดำน้ำจีนบ้าง..ก็จบแล้ว ไม่เห็นจะต้องไปทำอะไรมากมาย ต่างประเทศเขาเวลาที่บริษัทหรือว่าเอกชนของเขาจะเสียเปรียบทางการค้าเมื่อไร รัฐบาลเขาจะยื่นมือเข้ามาช่วยกดดัน แต่ของเรานี่บรรดาเอกชนหรือบริษัทระหว่างประเทศต่างก็บอกว่า ถ้าไม่มีรัฐบาลทุกอย่างจะดีมาก เพราะเขาค้าขายกันเองได้ ก็เลยกลายเป็นอะไรที่ลักลั่นสิ้นดี 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-11-2019 เมื่อ 14:36  | 
| สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#94  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			บ้านเราส่วนใหญ่มีตัวอย่างดี ๆ เราไม่ใช้กัน หรือว่าเลียนแบบเขาไม่เป็น ? หรือไม่ก็เกิดความหยิ่งแบบโง่ ๆ กลัวว่าไปเลียนแบบคนอื่นเขาเป็นที่น่าอับอาย อะไรที่เลียนแบบแล้วได้ประโยชน์เราต้องทำ โดยเฉพาะประโยชน์นั้นตกกับประเทศชาติและประชาชนของเรา หลักวิธีทางการทูตเขาก็มีอยู่  แทบจะเป็นสูตรสำเร็จอยู่แล้วก็คือ ‘พูดให้ชัดแต่เตะไม่ถึง’ โดยเฉพาะวิธีการทูตแบบจีน เราจะเห็นว่าสหรัฐกดดันจีนทุกวิถีทาง แต่เราเคยได้ยินประธานาธิบดีสีจิ้นผิงที่กุมอำนาจเต็ม พูดอะไรเกี่ยวกับสหรัฐบ้าง ? ...ไม่มี ปล่อยให้บรรดาอาจารย์มหาวิทยาลัยบ้าง ผู้ช่วยรัฐมนตรีบ้างออกมาพูด ถ้าผลกระทบเกิดขึ้นในด้านไม่ดีก็ปฏิเสธได้ ว่านั่นเป็นความเห็นส่วนตัว 
		
		
		
		
		
		
			ตอนนี้ปัญหาใหญ่ที่อยากให้รัฐบาลเตรียมพร้อมที่สุดก็คือภัยแล้ง เพราะว่าปีนี้แม้แต่หน้าฝนบางพื้นที่ยังแล้งสาหัส ตอนนี้เขื่อนจำนวนหลายเขื่อน โดยเฉพาะทางด้านเหนือหรืออีสาน มีปริมาณน้ำสำรองไม่ถึง ๕๐% ต้องคิดวิธีแก้ไปแต่เนิ่น ๆ ไม่ใช่รอจนกระทั่งไฟไหม้บ้านแล้วค่อยหาน้ำมาดับ 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-11-2019 เมื่อ 16:51  | 
| สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#95  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ปัญหาภัยแล้ง ปัญหาพืชผลการเกษตรราคาตกต่ำ มีอยู่ทุกปี ต้องวางแผนแก้ไขอย่างยั่งยืน  ในบ้านของเราไม่มีตรงนี้ ทั้ง ๆ ที่ผู้ที่เรียนจบด็อกเตอร์สารพัดมีเป็นพันเป็นหมื่นคน อาตมาเองตั้งแต่เข้าเรียนชั้น ป. ๑ สินค้าส่งออกหลักของไทยก็คือ ข้าว ข้าวโพด ไม้สัก ยางพารา ปัจจุบันนี้ตัดไม้สักออกไปก็ยังมี ข้าว ข้าวโพด ยางพารา  ตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้เราก็ยังส่งยางแผ่น ไม่มีการทำวิจัยเลยหรือว่าจะทำอะไรให้เกิดมูลราคาเพิ่มมากขึ้น ผลิตเป็นสินค้าอะไรเป็นที่ต้องการของเขา แล้วก็ส่งออกไปจำหน่ายกลับมา 
		
		
		
		
		
		
			ปีนี้อาตมาอายุ ๖๐ เรียน ผ่านมา ๕๒ ปีไม่ได้มีงานวิจัยอะไรที่จะเพิ่มมูลราคาสินค้าการเกษตรของเราให้ชัด ๆ บ้างเลยหรือ ? แล้วพวกที่เขาเรียนจบออกมาเป็นพันเป็นหมื่นมีเอาไว้ทำอะไร ? ประเทศจีน ประเทศเวียดนาม แม้กระทั่งประเทศอินเดีย กลายเป็นคู่แข่งการส่งออกข้าวที่น่ากลัว เขาศึกษาวิจัยกันว่าในพื้นที่เท่าเดิม ทำอย่างไรจะเพิ่มผลผลิตต่อไร่ต่อถังให้มากขึ้น เราเองนักวิชาการเกษตรพยายามแทบตาย แต่พอปลูกข้าวออกมา รัฐบาลประกันราคาข้าวแล้วโดนปฏิวัติ...ตูจะบ้า...! 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-11-2019 เมื่อ 14:38  | 
| สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#96  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ประกาศเป็นนโยบายรัฐบาลแล้วไม่ทำก็ซวย พอทำแล้วกลายเป็นข้ออ้างให้ปฏิวัติ ช่วงรัฐบาลทักษิณ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวที่จำนวนเกษตรกรเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ทั่วโลกลดลงเพราะพืชผลการเกษตรตกต่ำ พอมาถึงปัจจุบันนี้คนก็ทิ้งแล้ว ราคายางก็ตก ราคาน้ำมันปาล์มก็ตก ราคาข้าวก็ตก ราคาข้าวโพดก็ตก ราคามันสำปะหลังก็ตก  
		
		
		
		
		
		
			ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ศึกษาวิจัยการใช้ไบโอดีเซล อาตมาจำได้ตั้งแต่โตโยต้าโซลูน่ารุ่นเครื่อง ๑๕๐๐ รุ่นแรกออกมา จนป่านนี้ระยะเวลากี่ปีแล้ว ? ๓๐ กว่าปี ได้มีใครรับช่วงไปทำบ้าง ? ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเป็นวิธีหนึ่งในการแก้ไขราคาน้ำมันแพง และแก้ไขปัญหาพืชผลการเกษตรราคาตกต่ำ ไม่ว่าจะเป็นไบโอดีเซล เป็นแก๊สโซฮอล์ บ้านเราฮือฮาเป็นพัก ๆ เอาอ้อยมาทำแก๊สโซฮอล์ได้...ไม่ทำ เอามันสำปะหลังไปทำแก๊สโซฮอล์ได้...ไม่ทำ ปาล์มน้ำมันทำไบโอดีเซลได้...ไม่ทำ สู้ซื้อน้ำมันดิบจากต่างประเทศไม่ได้ ฟาดคอมมิชชั่นทีเป็นร้อยล้านพันล้าน กลายเป็นเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าส่วนรวม ถึงว่าถ้าไม่ได้บารมีระดับในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่ต่อสู้มา ๗๐ ปีเพื่อประชาชน คงไม่เห็นใครเลยที่ทำเพื่อชาวบ้านอย่างแท้จริง ปฏิบัติธรรมกันได้แล้ว..ฟังแล้วเครียด 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-11-2019 เมื่อ 14:39  | 
| สมาชิก 150 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#97  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			พระอาจารย์กล่าวว่า  "พระมหาเจดีย์ชเวดากองมีของดี ๆ ซ่อนอยู่เยอะแยะ ถ้าหากว่าไม่ใช่เจ้าถิ่นพาไปจริง ๆ ก็ไม่เจอ  มีพระพุทธรูปอยู่องค์หนึ่งที่ชี้นิ้วแล้วมีน้ำไหลออกจากนิ้ว เดี๋ยวก็หยด ๆ พวกคนในแอบเอาถ้วยเล็ก ๆ ไปตั้งไว้  ถึงเวลาก็เก็บไว้ใช้เอง  คนนอกเข้าไม่ถึง  เป็นกระจก  ถ้าไม่มีกุญแจ ก็ได้แต่ยืนดูอย่างเดียว 
		
		
		
		
		
		
			แบบเดียวกับหลวงพ่อวัดตูม มีน้ำออกจากเศียร เขาตักแล้วตักอีกก็ไม่หมดสักที ออกมาได้เรื่อย ๆ" 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-11-2019 เมื่อ 20:19  | 
| สมาชิก 152 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#98  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			พระอาจารย์เล่าว่า  "อาตมาไปเสฉวนตะวันตกมา มีแต่ยอดเขาหิมะ ระยะทางตั้งแต่เฉิงตูไปถึงซื่อกูเหนียงซาน ๒๒๙ กิโลเมตร รถวิ่ง ๔ ชั่วโมง ถ้าเป็นบ้านเรา ๒ ชั่วโมงก็ถึงแล้ว เหตุที่เป็นอย่างนั้น เพราะว่ากฎหมายจีนเขาบังคับไว้ รถห้ามวิ่งเกิน ๖๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไม่มีใครกล้าฝืน เพราะว่าเขาจะมีกล้องถ่ายอยู่เป็นระยะ ๆ ไป จากระยะนี้ไปถึงตรงโน้นกี่กิโลเมตร คุณใช้เวลากี่นาทีมาถึง เขาเช็คได้หมด"
		 
		
		
		
		
		
		
			
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-11-2019 เมื่อ 02:24  | 
| สมาชิก 148 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#99  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			"เส้นทางจากเมืองเฉิงตูขึ้นไปถึงลาซาของทิเบต ที่ออกทางเสฉวนตะวันตก ประมาณ ๒,๒๐๐ กิโลเมตร สมัยโบราณพวกกองคาราวานค้าขายระหว่างเฉิงตูกับลาซาใช้เวลาเดินทาง ๒ ปี แปลว่าเอาของไปขายปีหนึ่ง ซื้อของกลับมาขายอีกปีหนึ่ง ก็คือค้าขายระหว่างทางไปเรื่อย ๆ 
		
		
		
		
		
		
			ไกด์ที่เขาดูแลคณะของเราชื่อ Eric น้ำหนักเป็นร้อยกิโลกรัมเลยนะ อาตมาเรียกว่า "กังฟูแพนด้า" ปั่นจักรยานเส้นนั้นมาแล้ว เขาบอกว่าสะสมระยะการปั่นจักรยานมาเป็นแสนกิโลเมตรแล้ว น้ำหนักเป็นร้อยเลยนะ อะไรจะแข็งแรงปานนั้น..?! ตอนแรกก็ไม่เชื่อว่าจะแข็งแรงขนาดนั้น ปรากฏว่าตอนที่เดินขึ้นอุทยานย่าติงที่ไปทะเลสาบน้ำนม เขาไปถึงเป็นคนที่สาม อาตมากับทิดเฟิร์สไปถึงสองคนแรก ไปถ่ายรูปทะเลสาบน้ำนมเสร็จ ตอนเดินกลับ มีเสียงเรียกอยู่ข้างหลัง “ซือฟู่..ซือฟู่” หันไปดู อ้าว...Eric มาได้อย่างไรวะ ? อ้วนขนาดนั้นแต่แข็งแรงจริง ๆ ยอมรับเลย" 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-11-2019 เมื่อ 02:26  | 
| สมาชิก 146 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#100  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			"เขาบอกว่า ๒,๒๐๐  กิโลเมตร ผ่านภูเขาที่สูงเกิน ๔,๐๐๐ เมตรทั้งหมด ๖๑ ลูก ขนาดนั้นนี่เราแค่เดินยังหายใจไม่ทัน แล้วเขาปั่นจักรยานไป   ทิดดอยถามว่า "แล้วกินอย่างไร ? นอนอย่างไร ?" เขาบอกกินบนรถ ค่ำไหนนอนนั่น ต้องเอาเต็นท์ เอาถุงนอนอะไรไปเอง   
		
		
		
		
		
		
			คำว่า กินบนรถ ก็คือซื้อเสบียงติดตัว ขี่ไปเคี้ยวไปอะไรประมาณนั้นแหละ เขาช่างมีวิริยอุตสาหะมาก สภาพอากาศแบบนั้น เราแค่เดินก็จะขาดใจตายแล้ว แต่นี่เขาปั่นจักรยานไปได้" 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-11-2019 เมื่อ 02:28  | 
| สมาชิก 146 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]()  | 
	
	
		
| ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
| คำสั่งเพิ่มเติม | |
		
  | 
	
		
  |