| 
	|||||||
| เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป | 
![]()  | 
	
	
| 
		 | 
	คำสั่งเพิ่มเติม | 
| 
		 
			 
			#121  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ถาม : พระอาจารย์ไปกี่วัน ? 
		
		
		
		
		
		
			ตอบ : ส่วนใหญ่ไปทีก็ประมาณอาทิตย์หนึ่ง มีบันทึกคร่าว ๆ อยู่แล้ว แต่ยังไม่ได้ไปใส่รายละเอียด อย่างที่โยมเขาถามว่าทำไมไม่เขียนอีก เอาเวลาที่ไหนมาเขียน ? งานท่วมหัวเลย นี่ขนาดไม่รับกิจนิมนต์ทั่วไปนะ ประเภทสวดมนต์ฉันเช้าฉันเพลตามบ้านชาวบ้านแบบท่านอาจารย์บ๊ะ ตูไม่ไปหรอก จะกินข้าวมื้อหนึ่งต้องไปตั้งหลายร้อยกิโลเมตร อาตมายังมีฉันทะไม่พอ อยู่ทองผาภูมิวิ่งมากรุงเทพฯ ๓ ชั่วโมงครึ่ง เพื่อที่จะมาฉันเพลนะหรือ ? ฉันอยู่ที่โน่นจะง่ายกว่ากระมัง ? 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-08-2018 เมื่อ 20:23  | 
| สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#122  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ถาม :  น้ำประปาได้จากกาญจนบุรีหรือครับ ? 
		
		
		
		
		
		
			ตอบ : ถ้ากรุงเทพฯ เอาของกาญจนบุรีมาเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะว่าจากเขื่อนวชิราลงกรณกับเขื่อนศรีนครินทร์ปล่อยมาที่เขื่อนท่าทุ่งนา กับ เขื่อนแม่กลอง มาถึงเขื่อนแม่กลองมีคลองส่งน้ำกว้าง ๒๐ เมตรตรงเข้าโรงกรองน้ำธนบุรีเลย ทางด้านเหนือนี่น้ำเจ้าพระยาค่อนข้างสกปรก ไม่เหมาะที่จะทำน้ำประปาแล้ว ฉะนั้น..โรงกรองน้ำสามเสนนี่จะตกงานแล้ว กาญจนบุรีเลยกลายเป็นแหล่งน้ำให้กรุงเทพฯ 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-08-2018 เมื่อ 20:23  | 
| สมาชิก 180 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#123  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			มีอยู่ปีหนึ่งแล้งจัด ท้าวมหาราชท่านได้รับคำขอร้องจากในหลวงรัชกาลที่ ๙ อาตมาไม่รู้ว่าท่านจะทำฝนแบบไหน  ? อยากรู้มาก ปรากฏโน่น...กลางมหาสมุทรเลย ทะเลอันดามัน  ประเภทเอากระบองกวาดไปทีหนึ่ง คลื่นพุ่งมาอย่างกับสึนามิ สูง ๕๐ - ๖๐ เมตร แต่คราวนี้คลื่นไม่ได้มีไว้ถล่มใคร มีเอาไว้กวาดความชื้นเหนือทะเลให้ข้ามเขามา เสร็จแล้วพอคลื่นใกล้ฝั่งก็สงบลงไปเอง แต่ความชื้นพอถูกดันข้ามเขาตะนาวศรีมาก็กลายเป็นฝน ท่านทำของท่านได้ 
		
		
		
		
		
		
			ในหลวง ร.๙ ท่านขอ ขอแล้วท้าวมหาราชท่านก็ช่วย คนเห็นอย่างอาตมาตอนแรกก็ใจหายว่า ถ้าคลื่นมาขนาดนี้ชายฝั่งไม่เหลือแน่เลย แต่ปรากฏว่าไม่ใช่ ท่านแค่ดันเอาความชื้นมา คลื่นมาเป็นกำแพงสูง ๕๐ - ๖๐ เมตร กวาดเอาความชื้นข้ามเขาตะนาวศรีมา พอผลักความชื้นมาได้ตามต้องการ คลื่นก็ลดระดับลงกลายเป็นปกติ ดูอย่างกับเล่นหนังเลย 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-08-2018 เมื่อ 20:25  | 
| สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#124  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ถ้าหากว่าผู้นำเป็นที่ทรงความดี เป็นที่เกรงใจของพรหมเทวดา   เรื่องอะไรที่ไม่เกินวิสัยท่านก็ช่วยสงเคราะห์ให้ ไปนึกถึงว่าเทวดามีร่างกายต่ำสุดก็ ๓ คาวุตก็คือ ๑๒ กิโลเมตร แล้วทีนี้สูงสุดอย่างท้าวมหาราชท่านจะกี่กิโลเมตร ?  ท่านแค่เอาไม้กระบองกวาดไปทีเดียว คลื่นมาตูมสูงขึ้นมา ๕๐ - ๖๐ เมตร อาตมาก็ไม่นึกว่ามีวิธีนี้ ไปคิดว่าท่านก็คงใช้ประเภทฤทธิ์บันดาลฝนฟ้า อ๋อ...ที่แท้เล่นวิธีธรรมชาติเลย 
		
		
		
		
		
		
			ถาม : สิ่งที่เราไม่รู้นี่มีเยอะจริง ? ตอบ : ผมเองก็ไม่คิดว่าในชีวิตนี้จะได้รู้เรื่องพวกนี้เหมือนกัน 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-08-2018 เมื่อ 20:26  | 
| สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#125  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			พระอาจารย์กล่าวว่า  "ตอนนี้โยมถวายอะไรมาก็มีคุณค่าทั้งหมด อาตมา กำลังเตรียมไปช่วยชาวบ้านเขา สอบถามไปทางหลวงพ่อนิลแล้ว ท่านบอกว่าน้ำยังไม่ท่วม  พวกหมู่บ้านมีท่วมบ้างนิดหน่อย แต่ยังไม่หนัก  ปีที่แล้วส่งไปช่วยท่านหมดคลังเลย"
		 
		
		
		
		
		
		
			
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-08-2018 เมื่อ 20:27  | 
| สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#126  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ถาม :  สี่จังหวัดภาคใต้มีสิทธิ์หายไปจากแผนที่ประเทศไทยไหมครับ ? 
		
		
		
		
		
		
			ตอบ : ยาก...เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้ต้องการแค่นั้น เขาต้องการทั้งประเทศ ในเมื่อเขาต้องการทั้งประเทศ ถ้าชาวพุทธประมาทก็เสร็จเขาหมด ก็อย่างที่บอกว่าเขาจ้างสื่อออกข่าวที่ไม่ดีเกี่ยวกับศาสนาพุทธอย่างเดียวเลย พอถึงเวลาพวกเราไม่มีที่พึ่งอะไร ทอดทิ้งศาสนาเมื่อไร เขาก็จะเอาศาสนาของเขาเป็นศาสนาประจำชาติ 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-08-2018 เมื่อ 20:27  | 
| สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#127  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ถาม : ตอนนี้บางท่านออกจากการเป็นเจ้าอาวาสครับ เพราะว่าโดนบีบ ?  
		
		
		
		
		
		
			ตอบ : กฎระเบียบใหม่มาบีบบังคับเจ้าอาวาสโดยเฉพาะ ทีนี้ถ้าใครไม่อยากยุ่งเกี่ยว อยากอยู่เงียบ ๆ ก็ลาออกกันหมด พวกนี้เขาประเภทบีบให้จนกระทั่งพระเราอยู่ไม่ได้ จนกระทั่งไม่มีพระเหลืออะไรประมาณนั้น เขาจะพยายามเล่นงานด้วยกฎหมายและทางวินัย สมัยก่อนเราก็ทำแบบโปร่งใส รับกฐินเท่าไรแจ้งตัวเลขทุกบาททุกสตางค์ สมัยนี้แจ้งเมื่อไรจะมีคนเอาไปใช้แทน ตรงจุดนี้ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะโดนเมื่อไร เพราะว่าของวัดเราถ่ายทอดสด เขาเห็น ๆ อยู่แล้ว ในเมื่อเขาเห็น ๆ ถึงเวลาเขาถามว่าเงินไปไหน ? ทำไมไม่เข้าบัญชีที่ต้องเสียภาษีก็เจ๊งเลย ถาม : แต่คนให้เต็มใจ ? ตอบ : คนให้เต็มใจ แต่เขาจะเอาภาษี เดี๋ยวนี้ทางด้านโน้นไม่ยอมออกบัตรประจำตัวผู้เสียภาษีให้นะ บอกว่าแจ้งเลขมาก็ใช้ได้เลย เขาเองก็ไม่อยากมีข้อผูกมัดตัวเองเหมือนกัน แต่ว่าเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมีอยู่แล้ว ถาม : เวลาตรวจสอบละคะ ? ตอบ : ก็ตรวจสอบตามหมายเลขนั่นแหละ ถึงเวลาแล้วบัญชีจะโยงอยู่กับทางสรรพากร แล้วธนาคารเป็นคนออกใบโมทนาบัตร อย่างที่พวกเราเข้าไปบริจาคกัน บางทีก็ขำ ๆ ไปลองบริจาคกันคนละบาท ดูแล้วตลกดี 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-08-2018 เมื่อ 20:29  | 
| สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#128  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			เรื่องของภาษี โดยเจตนาเดิมก็คือเอาไปพัฒนาประเทศชาติ ในเมื่อพัฒนาประเทศชาติก็อยู่ในลักษณะเดียวกับสังฆทาน คือเพื่อส่วนรวม ก็พอรับกันได้อยู่ เพียงแต่ว่าคุณทำบุญทางด้านนี้มาขอแบ่ง จะแบ่งไปพัฒนาประเทศชาติได้เท่าไร ? ส่วนใหญ่เห็นไปพัฒนาศาสนาอิสลามกันหมด  อันโน้นก็มัสยิด ๑๕๐ ล้านบาท อันนี้ก็มัสยิด ๘๐ ล้านบาท สร้างให้เขาได้สารพัด  
		
		
		
		
		
		
			แค่แถว ๆ ใกล้ ๆ เรานี่ วัดหลวงปู่เอี่ยม เขตแถววัดสะพานสูง จังหวัดนนทบุรี เขตนั้นมีวัดอยู่ ๓ วัด แต่มีมัสยิด ๒๐ กว่าหลังแล้ว ที่ ๒๐ กว่าหลังเพราอะไร ? เพราะว่าเขาออกกฎหมายง่าย ๆ ส่วนของเราคุณจะสร้างวัดได้ต้องมีที่อย่างน้อย ๖ ไร่ ต้องมีเงินทุนสนับสนุนแค่นี้ ต้องมีประชาชนสนับสนุนแค่นี้ ต้องมีถาวรวัตถุที่เป็นหลักเป็นฐานประมาณเท่านี้ถึงจะสร้างได้ ต้องห่างจากวัดอื่นอย่างน้อย ๒ กิโลเมตร แต่ของเขาไม่มี ของเขาถ้ามีประชากรถึง ๑๕ คนหรือ ๗ ครอบครัวขึ้นไปก็สร้างมัสยิดได้หลังหนึ่ง และรัฐบาลต้องจ่ายเงินด้วย ของเราก็เรี่ยไรกันเองไปสิ แล้วเขาแต่งงานกันบันยะบันยังเสียเมื่อไรละ เพราะฉะนั้น ๗ ครอบครัวหรือ ๑๕ คนของเขาก็แค่พักเดียว 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-08-2018 เมื่อ 20:30  | 
| สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#129  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ถาม :  ที่ตำบลแม่สาย  ลูกศิษย์รายงานว่ามีมัสยิดเยอะแยะเลย ? 
		
		
		
		
		
		
			ตอบ : แค่ด่านเจดีย์ ๓ องค์ พวกโรฮิงญามาจ่ออยู่สามแสนกว่า หลุดเข้ามาได้เมื่อไรนี่เป็นเรื่อง ทองผาภูมิไม่ใช่อำเภอที่ประเภทยอดฮิตเสียหน่อย ตอนนี้มัสยิดหลังที่ ๓ กำลังจะขึ้นแล้ว ถาม : คนไทยเรานี่พอเข้าไปศาสนาเขาแล้ว เขาเลี้ยงดูอย่างดี เขาเล่ามา ? ตอบ : เขามีเงินบริจาคที่บังคับบริจาคที่เรียกว่า ซะกาต แล้วทางตะวันออกกลางเขาส่งเข้ามาช่วยทีเป็นหลายพันล้าน หลายหมื่นล้าน ปัจจุบันนี้สร้างมัสยิดใหญ่ที่สุดในโลกที่นครศรีธรรมราช จะแข่งกับพระมหาธาตุเมืองนคร ประเทศไทยเป็นประเทศเล็ก ๆ มีประชากรเป็นอิสลามประมาณ ๕ เปอร์เซ็นต์ แต่สร้างมัสยิดใหญ่ที่สุดในโลก ก็เพราะว่ากฏหมายบ้านเมือง ตลอดจนกระทั่งผู้คนที่เขาสร้างมา ๔๐ กว่าปีตอนนี้กำลังให้ผล ก่อนหน้านี้เขายังต้องจ้างสื่อ ตอนนี้เขาขึ้นไปคุมสื่อระดับหัวหมดแล้ว ไม่ต้องจ้างแล้ว สั่งคำเดียวต้องลงข่าวให้เขา ก็คือลงข่าวทำลายพระให้มากที่สุด แล้วลงข่าวช่วยอิสลามให้มากที่สุด 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-08-2018 เมื่อ 20:32  | 
| สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#130  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			เรื่องพวกนี้ต้องบอกว่าถ้าไม่มีมูลฝอยหมาก็ไม่ขี้  ฉะนั้น..พระเราต้องมีส่วนผิดด้วย เขาถึงไปทำลายตรงนั้นได้   ช่วงที่ผ่านมาจะเห็นว่าอยู่ ๆ ก็มีงานของพระครูวิลาศกาญจนธรรมออกสื่อบานเบิกเลย เพราะว่าถ้าเราไม่เอาส่วนดี ๆ อย่างนี้ไปสู้เขา  เราก็จะสู้ไม่ได้ แต่ว่าพอยื่นหน้าออกไปก็เท่ากับเปิดหน้าชน อาตมาก็กลายเป็นเป้า หลวงพ่อพรหมดิลกขนาดอยู่ในคุกยังเตือนเลย “เล็ก...วัดเอ็งโดนแน่นอน” กราบเรียนว่า  “ช่างหัวมันเถอะครับหลวงพ่อ ไหน ๆ จะเดินหน้าชนกันแล้ว” 
		
		
		
		
		
		
			เป้าหมายใหญ่ที่สุดของเขาอยู่ที่ว่าเอาวัดธรรมกายเป็นสุเหร่าอิสลาม ตอนนี้ก็เท่ากับว่าเขาล้มธรรมกายสำเร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว แต่ว่าคนไทยเราขาดการตระหนักรู้ตรงนี้ พอถึงเวลาใครพูดขึ้นมา พวกสื่อก็จะยัดคำพูดประเภทว่า "สร้างความแตกแยก" แต่ถ้าเวลาเขาพูดก็จะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ คำว่าสร้างความแตกแยกไม่มี กลายเป็นเขาพูดอะไรก็ถูก แต่เราพูดอะไรก็ผิด คราวนี้พอถึงเวลาปล่อยให้กฎหมายออกมาลักษณะอย่างนี้ ก็ต้องทนรับกรรมกันไป 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-08-2018 เมื่อ 20:34  | 
| สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#131  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			คนไทยเราส่วนมากนับถือศาสนาพุทธแต่ทะเบียนบ้านเท่านั้น ไม่ได้มีใจที่จะคิดสนับสนุนช่วยเหลือหรือป้องกันพระพุทธศาสนา แต่พอถึงเวลาเห็นอะไรที่ไม่เข้าท่าไม่เข้าทาง แม้แต่พวกเขาปลอมบวชเข้ามา  แล้วไปทำชั่วให้คนเขาเห็นก็รุมกันด่าเลย พูดง่าย ๆ ว่า "เรื่องดีไม่เคยช่วย แต่เรื่องชั่วเมื่อไรซ้ำเติมทันที" ทั้ง ๆ ที่เรื่องทั้งหลายเหล่านี้มีแค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ 
		
		
		
		
		
		
			แบบเดียวกับตอนที่อาตมาเป็นเลขานุการเจ้าคณะจังหวัด กาญจนบุรีอยู่ ๕๙๐ กว่าวัด บวกสำนักสงฆ์ เฉลี่ยก็ ๖๐๐ แล้วกัน ต่อให้เกิดเดือนละครั้ง เกิดเดือนละครั้ง ปีหนึ่ง ๑๒ ครั้ง คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ได้ไหม ๖๐๐ วัด ? คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ยังไม่ได้เลย แต่พอเกิดนี่เขาจะช่วยกันด่าชนิดจมดิน ทั้ง ๆ ที่เป็นแค่ปลาเน่าตัวเดียว แต่ว่าเหม็นไปทั้งข้อง ถึงได้ต้องคอยเตือนพระรุ่นหลัง ๆ ว่า ทำอะไรให้ระมัดระวังด้วย เพราะว่าสิ่งที่เราทำไม่ได้เสียหายเฉพาะตัวเอง แต่เสียหายถึงส่วนรวม โดยเฉพาะเสียหายถึงพระศาสนา แล้วทำให้คนที่เลื่อมใสศรัทธาก็เสื่อมศรัทธา คนที่ไม่เลื่อมใสศรัทธายิ่งเป็นข้ออ้างใหญ่เลย 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-08-2018 เมื่อ 02:36  | 
| สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#132  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			พวกนี้ประเภทส่วนใหญ่ประเภทปีหนึ่งจะได้ทำบุญสักครั้งก็ยาก แต่เรียกร้องเหลือเกิน ถึงเวลาพระต้องดีอย่างนั้น พระต้องดีอย่างนี้ แบบเดียวกับนายไพบูลย์ นิติตะวัน บวชยังไม่เคยบวชเลย จะมาตั้งแง่ว่าพระจะต้องเป็นอย่างนั้น จะต้องเป็นอย่างนี้ 
		
		
		
		
		
		
			แม้กระทั่งว่าพระบวชแล้วห้ามสึกอย่างนี้ คนยิ่งไม่บวชอยู่แล้วไปตั้งกติกาว่าพระบวชแล้วห้ามสึก ลองไปถามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสิ ว่าพระองค์ท่านทำไมถึงสึก ? มึงไม่แน่จริงนี่หว่า ? ประเพณีไทยของเราบวชตามประเพณี บวชเพื่อศึกษาพระพุทธศาสนาว่าดีอย่างไร โดยเฉพาะบวชเพื่อฝึกความอดทน ความมีวุฒิภาวะ การโดนตีกรอบ โดนกดดันด้วยศีลพระอยู่ตลอด ๓ เดือน ถ้าคุณสามารถอดทนอยู่ได้ แปลว่าวุฒิภาวะของคุณมั่นคงพอที่จะเป็นหัวหน้าครอบครัวได้แล้ว สมัยก่อนเขาถึงได้มีการบวชก่อนที่จะเบียด คราวนี้ตั้งกติกามาแต่ละอย่าง ล้วนแล้วแต่กติกาชาวบ้านตั้ง ประเภทให้พระบวชแล้วให้พระทำ เป็นไปได้ไหม ? ถ้าเกิดว่าพระบังคับให้ชาวบ้านทุกคนต้องถือศีล ๒๒๘ จะทำไหม ? ศีลพระมี ๒๒๗ ข้อ เพิ่มอีกข้อหนึ่ง ข้อที่ ๒๒๘ ก็คือฆราวาสทุกคนต้องปฏิบัติตามนี้ ให้เป็น ๒๒๘ ข้อ ดูสิว่าจะทำกันไหม ? คราวนี้เป็นฆราวาสไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย แต่มาตั้งกติกาให้พระทำตาม 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-08-2018 เมื่อ 20:37  | 
| สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#133  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ถาม :   ที่มีประกาศว่า คนที่บวชแล้ว  มรดกที่ได้มาแต่เดิม...? 
		
		
		
		
		
		
			ตอบ : ถ้าหากว่าไม่จำหน่ายจ่ายโอนภายใน ๓๐ วันนี่ ยึดเป็นของกลางหมด เป็นศาสนสมบัติกลางหมด เพราะฉะนั้น...เงินทุกบาททุกสตางค์ต้องเข้าบัญชี ก็คือศาสนสมบัติกลาง คราวนี้วัดวาอารามจะพังจะทรุดจะโทรมอย่างไร ก็ไม่ต้องมีเงินไปซ่อมไปแซมแล้ว เพราะอะไรที่เข้าไปอยู่ในระบบราชการนี่เอาออกมายากสุด ๆ ทำไปแค่ที่ทำได้ สู้ไปแค่ที่สู้ไหว ไม่ต้องไปกังวล พระพุทธศาสนาของเราเป็นของจริง เป็นของแท้ ถ้าหากว่าทุกคนตั้งหน้าตั้งตาทำจนเกิดผล เป็นสิ่งที่เรียกร้องศรัทธาได้ดีที่สุด เพราะฉะนั้น...มีอยู่อย่างเดียวก็คือทำให้จริงเท่านั้น 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-08-2018 เมื่อ 20:38  | 
| สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#134  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ตอนนี้อาตมากำลังขยายชุมชนคุณธรรม เอาให้ทั่วทองผาภูมิให้เร็วที่สุด  เห็นบริเวณไหนที่เขามีศักยภาพพอนี่ คุณรีบเสนอมาเลย ถ้าตั้งคณะกรรมการมา  อาตมามีสิทธิ์เซ็นอนุมัติได้ เพราะว่าเป็นประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอ ในเขตอำเภอนั้นอาตมาเซ็นตั้งได้ทุกคน ตอนแรกก็ยังสงสัยว่าตำแหน่งการเมืองนี้หล่นมาแล้วมีประโยชน์อะไร ปรากฏว่าตอนนี้หาวิธีใช้ประโยชน์ได้แล้ว 
		
		
		
		
		
		
			คราวนี้ยังสงสัยอยู่เหมือนกันว่า เดี๋ยวพอปีหน้าต้องเลือกตั้งใหม่ตอนปลายปี จะโดนกีดกันสุดชีวิตหรือเปล่า ? เพราะว่าพอมีตำแหน่งนี้ไปแล้วกลายเป็นว่าทำงานใหญ่ขึ้นได้ 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-08-2018 เมื่อ 20:39  | 
| สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#135  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ทุกตำบลจะต้องมีตัวแทนมาเข้าสภา ทีนี้เราจะไปรู้ไหมว่าตำบลไหนที่คนของเขาจะเสียบเข้ามาแทน ? 
		
		
		
		
		
		
			ถึงเขาถอดออกจากตำแหน่ง อาตมาก็ทำงานได้ ไปสนใจอะไรกัน คนเราถ้าจะทำงานเสียอย่าง มีตำแหน่งไม่มีตำแหน่งก็เหมือนกัน ถึงได้บอกกับบรรดาเจ้านาย เจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอว่าไม่ต้องตั้งให้ผมเป็นอะไรหรอก ผมเป็นแค่อาจารย์เล็กอย่างเดียวก็พอแล้ว เพราะว่าจะถอดหรือไม่ถอด จะมีตำแหน่งหรือไม่มีตำแหน่ง ผมก็ทำงานอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าก่อนหน้านี้ทำแล้วไม่ได้ออกสื่อ ระยะนี้ที่ออกสื่อเพราะว่าไม่ออกแล้วไม่มีข่าวดีไปคานเขา มีแต่ข่าวร้ายอย่างเดียวก็แย่ บรรดาเพื่อน ๆ พระสังฆาธิการร่วมรุ่น พระอุปัชฌาย์ร่วมรุ่น นักเทศน์ร่วมรุ่น เจ้าอาวาสเขาเห็นงานแล้วตกใจ ถามว่า "นี่ทำงานเยอะขนาดนี้เลยหรือ ?" บอกว่า "เออ...แต่ไม่เคยบอกเท่านั้นเองว่าทำอะไร" คราวนี้พอมีไลน์เพื่อที่จะได้ประสานงานกันสะดวก ถึงเวลาก็ส่งงานให้เขาดู เจอเข้าไปแต่ละคนสลบกันหมด ถามว่า "เอาแรงที่ไหนมาทำ ?" ถึงได้บอกว่า "ต่อไปพวกเอ็งอย่าบ่นว่าเหนื่อย ถ้าจะบ่นว่าเหนื่อยได้คือข้าเองที่มีสิทธิ์...!" 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-08-2018 เมื่อ 20:45  | 
| สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#136  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			พระอาจารย์กล่าวว่า  "ระยะนี้อาตมากินยาเป็นอาหาร ได้กลิ่นแล้วอย่าเพิ่งอาเจียน รสชาติก็ไม่ได้แย่เท่าไรหรอก เพราะว่าอาตมากินยามาแล้วทุกชนิด ประเภทกลืนลงไปแล้วขมติดคอไป ๓ วันก็ยังมี ฉะนั้น...ยาพวกนี้ถือว่ารสชาติไม่แย่มาก พอที่จะยกเทรวดเดียวหมดได้  
		
		
		
		
		
		
			มีแต่คนสงสัยว่ากินเป็นไปได้อย่างไร ? ก็กินเป็นยา ไม่ได้กินเป็นขนม ถ้ากินเป็นขนมก็เอาอร่อยหน่อย ดังนั้น...โปรดกินอาหารเป็นยา ไม่อย่างนั้นท่านต้องกินยาเป็นอาหาร เจ้าของบริษัททาทาในอินเดียเขาบอกไว้ คำว่า ทาทา ในอินเดีย ไม่ใช่ภาษาอินเดียนะ มันเป็นภาษาอูรดู ออกเสียงต่าต้า ต่าต้าคราวนี้เขียนภาษาอังกฤษ คนไทยอ่านว่าทาทา ต่าต้าก็คือ ฮัลโหล..สวัสดี" 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-08-2018 เมื่อ 14:09  | 
| สมาชิก 162 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#137  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			พระอาจารย์กล่าวว่า  "ถ้ากินยาแบบช้า ๆ จะรู้รสนาน แล้วจะเบื่อไม่อยากกิน ฉะนั้น...ต้องกินเร็ว ๆ" 
		
		
		
		
		
		
			ถาม : ยาอะไรเจ้าคะ ? ตอบ : อันนี้เรียกยาคูณธาตุสำหรับคนแก่ แก้อาการธาตุพร่อง ร่างกายเรามีธาตุหลัก ๆ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศ อากาศเราหายใจเข้าไป ดิน น้ำ ลม ไฟจะพร่องไปเรื่อยตามอายุ ถ้าเป็นหมอสมัยใหม่เขาเรียกว่าฮอร์โมนพร่อง คนโบราณเขาเก่ง เขาศึกษาเรื่องธาตุคนและเรื่องยาแต่ละอย่างว่าเป็นธาตุอะไร ถึงเวลาก็คิดเป็นตำราขึ้นมา เขาใช้อายุของเรา คูณขึ้นมาก็จะได้ว่าแต่ละปีของเราธาตุไหนบกพร่อง แล้วจัดยามาให้ ไม่ใช่จัดส่งเดชนะ เพราะว่าแต่ละธาตุพร่องไม่เท่ากัน ก็ต้องจัดตามมาตราส่วนมากน้อยกว่ากัน ถาม : ต้องเทียบวันเดือนปีเกิดของแต่ละคน ? ตอบ : ต้องมีวันเดือนปีเกิดเลย ถ้าไม่มีไม่ได้ คราวนี้ร่างกายของคน ถ้าหากว่าธาตุพร่องก็เจ็บป่วย พร่องมากเกินไปก็ตาย ธาตุลมขาดธาตุไฟก็ดับ เพราะไม่มีลมไปเสริม พอธาตุไฟดับ ธาตุน้ำก็ล้น เพราะไม่มีไฟไปคุมให้ระเหยออก ธาตุน้ำก็ล้นจนบวมฉึ่ง ท้ายสุดน้ำก็ไปก็ทำลายธาตุดิน ผิวกายแตกปริ น้ำเลือดน้ำเหลืองไหลโทรมไปทั้งตัว เรื่องของการศึกษาเกี่ยวกับธาตุ คนโบราณลึกซึ้งกว่ามาก แต่คนรุ่นใหม่ ๆ มักจะไปคิดว่าคนโบราณโง่เง่าเต่าตุ่นไม่ทันสมัย พวกทันสมัยนี่เรียนให้ตายก็ยังไม่ทันหรอก ถาม : ยาคูณธาตุรสชาติแย่มากไหมคะ ? ตอบ : ต้องบอกว่าพอทนสำหรับคนที่เคยกินอะไรที่แย่กว่านี้มาแล้ว เป็นการพิสูจน์อย่างหนึ่งว่าปล่อยวางได้ไหม ปล่อยวางได้ก็กินได้ ปล่อยวางไม่ได้ก็..ยี้...แหวะ..! 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-08-2018 เมื่อ 14:11  | 
| สมาชิก 166 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#138  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			"อายุไม่เท่าไรก็เตรียมตัวตายกันแล้ว  อาตมายังโดนบังคับให้อยู่ยั้งยืนยง  ต้องกินยาไปเรื่อย  เข้าใจคำว่ายาไหม ?  ที่โบราณพอเรือรั่วก็เอาชันไปอุด  เรียกว่ายาเรือ พอคนรั่วก็เอายาไปคุม  ไม่อย่างนั้นอยู่ไม่ได้   คำโบราณส่วนใหญ่แล้วลึกซึ้ง  แต่เราเดาไม่ค่อยจะถูก  ไปไม่ค่อยจะถึง"
		 
		
		
		
		
		
		
			
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-08-2018 เมื่อ 14:11  | 
| สมาชิก 169 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#139  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			พระอาจารย์กล่าวกับพระว่า  "ช่วงที่มีการเสวนา งานนี้คือเรื่องของยาเสพติดที่ระบาดในวัด หน่วยงานที่มามี ปปส. ตำรวจจังหวัด หน่วยเฉพาะกิจในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในภาคที่ ๗ กระทรวงวัฒนธรรม เพราะว่าเกี่ยวกับวัด แต่ละคนโยนข้อหาให้พระ ผมโยนข้อหาคืนไปหมดแหละ ว่าเป็นเพราะพวกเขาที่ทำให้ยาระบาดในวัด เรื่องอะไรจะให้เขากล่าวหาเราอยู่ฝ่ายเดียว 
		
		
		
		
		
		
			ออกกฎหมายมา ยาบ้า ๒,๐๐๐ เม็ดประหารชีวิต เขาก็ต้องเอาให้คุ้ม มาที ๓ – ๔ ล้านเม็ด แล้วจะไม่ระบาดหนักกว่าเดิมได้อย่างไร ? ถึงเวลาประเภทติดยาหาทางออกไม่ได้ วัฒนธรรมประเพณีไทยก็ส่งเข้าบวชในวัด ถ้าเจ้าอาวาสไม่โหดจริงเอาพวกนี้ไม่อยู่หรอก ก็ระบาดใหญ่ พวกนี้ไปเมื่อไรก็จะดึงพวกติดยาเข้าไปด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจล่ะ ? ในเมื่อคุณรู้อยู่ว่าพวกนี้อยู่ในวัดตรงนี้ มีแล้วทำไมไม่มีการป้องปราม จะไปรออย่างเดียวให้คนแจ้งความมีหลักฐาน ค่อยออกหมายค้นหมายจับจะทันกินไหม ?" 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 21-08-2018 เมื่อ 21:12  | 
| สมาชิก 163 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#140  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			"ปปส. ค่อยยังชั่วหน่อยที่มีการทำโครงการดี ๆ แบบนี้มาบ้าง แต่ก็ยังคงมายื่นข้อหาใส่พระเณรอยู่ดี  พระต้องบอกว่า ที่ยาบ้าระบาดทุกวันนี้เป็นเพราะตำรวจทหาร  ตำรวจทหารเป็นคนคุม พ่อค้าเป็นคนขาย เพราะฉะนั้น...แบ่งเฉลี่ยความผิดกันไป   ไม่ใช่โยนให้พระอย่างเดียว ของพระแก้ที่ปลายเหตุ 
		
		
		
		
		
		
			ต้นเหตุเลยก็คือครอบครัว สถาบันครอบครัวล่มสลาย พ่อแม่ออกไปทำงานทั้งคู่ ไม่มีใครอบรมลูก ไปโรงเรียนสถาบันครูก็ล่มสลาย ล่มสลายตรงไหน ? ใครสอบเข้าอะไรไม่ได้ก็เข้าวิทยาลัยครู เอาพวกเหลือเลือกแล้วมาสอนคนอื่น แล้วจะดีได้อย่างไร ? คนเก่งไม่มี ทั้งบ้านทั้งครูช่วยกันสอนมาจนลูกอายุ ๒๐ ปีถึงจะบวชได้ สอนกันมา ๒๐ ปียังเอาดีไม่ได้ มาบวชพระ ๑๕ วันจะให้ดีเลย เป็นไปได้ไหม ?" 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-08-2018 เมื่อ 01:34  | 
| สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]()  | 
	
	
		
| ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
| คำสั่งเพิ่มเติม | |
		
  | 
	
		
  |