เห็นนิมิตขณะภาวนาบ่อยมาก

[ปาริชาต]

กราบเรียนหลวงพ่อเล็ก

โยมอยู่ต่างประเทศ อยู่ห่างไกลครูบาอาจารย์ ไม่มีความรู้ในพระไตรปิฏกเลย โยมมีข้อสงสัยกราบเรียนหลวงพ่อดังนี้

๑. เมื่อคืนตอนที่นั่งปฏิบัติ โยมเห็นความดับข้างใน พอสิ่งนี้ค่อย ๆ ดับ ก็มีอีกสิ่งหนึ่งที่สว่างขึ้นมา โยมสงสัยว่าอะไรที่ดับไป แล้วอะไรที่สว่างขึ้นมา และสภาวธรรมอย่างนี้เรียกว่าอะไรคะ

๒. ก่อนที่จะเห็นความดับเกิดขึ้นข้างใน จิตมีความเย็นสบายมาก จึงอยากจะแผ่กระแสแห่งความเย็นนี้ให้กับสรรพสัตว์ทั้งหลายที่มีความทุกข์ แต่คราวนี้ได้สังเกตว่าสิ่งนี้สามารถกำหนดให้เล็กลงก็ได้ขยายให้ใหญ่ขึ้นก็ได้ ซึ่งโยมไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใด โดยปกติโยมพิจารณาว่าทุกสิ่งอยู่ใต้อำนาจไตรลักษณ์ แต่ว่าเหตุใดพลังงานที่เย็นสบายนี้เราสามารถกำหนดให้เล็กลงได้ขยายใหญ่ก็ได้ตามอำนาจจิตของเราคะ และอย่างนี้เรียกว่าอะไรคะ

๓. โยมมักจะเห็นนิมิตในสมาธิสองอย่างอยู่บ่อยมากจนเกิดความสงสัย คือเห็นพระพุธรูปหนึ่งและเห็นจักรวาลหนึ่ง มีความหมายไหมคะ กราบเรียนหลวงพ่อเมตตาแนะนำเพื่อการปฏิบัติที่ถูกทางต่อไปด้วยนะคะ

โยมปาริชาต

[ตัวเล็ก]

ถาม : ก่อนที่จะเห็นความดับเกิดขึ้นข้างใน จิตมีความเย็นสบายมาก จึงอยากจะแผ่กระแสแห่งความเย็นนี้ให้กับสรรพสัตว์ทั้งหลายที่มีความทุกข์ แต่คราวนี้ได้สังเกตว่าสิ่งนี้สามารถกำหนดให้เล็กลงก็ได้ ขยายให้ใหญ่ขึ้นก็ได้ ซึ่งโยมไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใด โดยปกติโยมพิจารณาว่าทุกสิ่งอยู่ใต้อำนาจไตรลักษณ์ แต่ว่าเหตุใดพลังงานที่เย็นสบายนี้ เราสามารถกำหนดให้เล็กลงได้ขยายใหญ่ก็ได้ตามอำนาจจิตของเราคะ และอย่างนี้เรียกว่าอะไรคะ ?
ตอบ : แล้วที่ใหญ่ขึ้นเล็กลงไม่ใช่ไตรลักษณ์ใช่ไหม ? ถ้าสภาพจิตมีความคล่องตัว สามารถกำหนดให้ใหญ่ให้เล็กได้ เจาะจงเฉพาะบุคคลได้ หรือว่าให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลายพร้อมกันก็ได้ อยู่ที่เราจะทำ

[ตัวเล็ก]

ถาม : โยมมักจะเห็นนิมิตในสมาธิสองอย่างอยู่บ่อยมากจนเกิดความสงสัย คือเห็นพระพุทธรูป ๑ และเห็นจักรวาล ๑ มีความหมายไหมคะ ?
ตอบ : ก็คือสรรพสิ่งทั้งหลายในจักรวาลล้วนแต่ไม่เที่ยง ล้วนแต่เป็นทุกข์ หาอะไรเป็นเรา เป็นของเราไม่ได้ มีเพียงที่เดียวที่เราควรจะไปก็คือพระนิพพาน ซึ่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอยู่ที่นั่น