| 
	|||||||
| เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป | 
![]()  | 
	
	
| 
		 | 
	คำสั่งเพิ่มเติม | 
| 
		 
			 
			#101  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ถาม : ญาติเขาป่วย  เจ็บมาก  ใส่เครื่องหายใจ ? 
		
		
		
		
		
		
			ตอบ : ก็ให้เขาพุทโธไป เพียงแต่บอกว่าให้อยู่กับลมหายใจจริง ๆ จัง ๆ ถ้าอยู่กับลมหายใจได้ ก็จะไม่เจ็บ อย่างลุงเดฟเป็นฝรั่งด้วย เป็นกรรมการวัดของอาตมา แกเป็นมะเร็ง ลุงเดฟก็ไม่เจ็บไม่ปวดอะไร เพราะภาวนาเห็นภาพพระแล้วสบายใจ ลืมเจ็บหมด ลูกหลานเห็นเงียบ ๆ ก็ไปเขย่าเรียก พอหลุดจากสมาธิมาแกก็โวยว่าแกเจ็บ แล้วก็ภาวนาใหม่ ลูกหลานเห็นเงียบเมื่อไรก็ไปเขย่าเรียกอีก คนไม่รู้เรื่องนี่สมควรตายจริง ๆ...! สรุปแล้วลุงเดฟเป็นฝรั่ง ตายแล้วไปเป็นพรหม เราเป็นคนไทยนับถือศาสนาพุทธ ตายแล้วจะไปเป็นอะไร ? ถาม : ต้องถึงฌานสี่ไหมคะ ? ตอบ : ไม่จำเป็น แค่ปฐมฌานก็พอ จิตกับประสาทแยกจากกันก็ไม่รับรู้อาการร่างกายแล้ว บอกเขาว่าภาวนาก็ได้ แต่ให้ภาวนาอยู่กับลมหายใจจริง ๆ จัง ๆ ไม่ใช่ปากสักแต่ว่าพุทโธ ๆ ไป ฝรั่งเขาได้รับการอบรมมาในลักษณะว่า ทำอะไรแล้วทำจริงจัง เพราะฉะนั้น...เวลาทำอะไรแล้วเขาก็ทำได้ผลง่ายกว่าเรา พวกเราประเภทสบายจนเกินเหตุ เหมือนกับหนูอยู่กับถังข้าวสาร ในเมื่ออยู่บนถังข้าวสารก็ไม่มีอารมณ์ที่จะกินสักที รอแมวมางับหัวเมื่อไรแล้วจะรู้สึก..! 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-11-2016 เมื่อ 19:58  | 
| สมาชิก 206 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#102  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ถาม : ถ้าพื้นที่ธรณีสงฆ์ ทางวัดเอาไปทำเป็นที่พักอาศัยได้ไหมครับ ?  
		
		
		
		
		
		
			ตอบ : ถ้าเราเช่าที่ก็ปลูกได้ เพียงแต่ว่าไม่มีทางซื้อขาดได้ เพราะถ้าเป็นชื่อวัด จะซื้อได้ต่อเมื่อออกเป็นพระราชบัญญัติเท่านั้น แปลว่าต้องเข้าคณะรัฐมนตรี สภาบนสภาล่างอนุมัติเสร็จสรรพเท่านั้น ถาม : แต่เรามีสิทธิ์เช่าได้ ? ตอบ : มีสิทธิ์เช่าได้ ต่อให้ไปถือครองโดยปรปักษ์โดยที่พระไม่คัดค้านเลย กี่ ๑๐๐ ปีก็ไม่สามารถเอาเป็นของเราได้ เพราะว่ากฎหมายเขาบังคับไว้ เขากลัวกรรมการวัดเอาที่วัดไปขายกระมัง ? ก็เลยออกกฎหมายกันไว้เสียขนาดนั้น 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-11-2016 เมื่อ 19:58  | 
| สมาชิก 197 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#103  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ถาม : บ้านหลังใหม่อยู่แถวไหนคะ ?  
		
		
		
		
		
		
			ตอบ : อยู่ข้างสถานีรถไฟฟ้าบางรักใหญ่สายสีม่วง ลงจากสถานีเดินเข้าบ้านเลย เพราะบ้านอยู่ข้างถนนใหญ่ อยู่ที่โน่นจะอบอุ่นกว่านี้เยอะ เพราะว่าบ้านทั้งหลังใส่ลงในห้องนี้แล้วยังเหลือที่ว่างของห้องนี้อีกตั้งเยอะ ถาม : แล้วท่านย้ายไปทำไมคะ ? ตอบ : รู้สึกว่าพวกเราห่างเหินกัน อาตมาชอบนั่งคุยกันใกล้ ๆ มากกว่า...! ถาม : ท่านจะไปลองรถไฟฟ้าสายใหม่หรือคะ ? ตอบ : เห็นกิจการเขาไม่ดีก็เลยย้ายไปช่วยกิจการรถไฟฟ้าหน่อย เพราะสายนั้นขาดทุน...! ถาม : ท่านย้ายไปแล้วจะย้ายอีกไหมคะ ? ตอบ : ก็อาจจะย้ายไปเรื่อย ๆ เพราะว่าถ้าหากว่าที่ตรงนั้นหมดสัญญา ก็ย้ายใหม่ ย้ายบ่อย ๆ จะได้ฝึกความไม่ยึดติด 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-11-2016 เมื่อ 20:00  | 
| สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#104  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ถาม : หมอเขาตรวจเจอมะเร็งครับ ? 
		
		
		
		
		
		
			ตอบ : จะไปกลัวอะไรกับมะเร็ง ถ้าเราไม่กลัว มะเร็งก็จะกลัวเราเอง ถาม : จะฝากไปอยู่ทำกรรมฐานที่วัดท่าขนุน ? ตอบ : ถ้าไปอยู่แล้วทำกิจกรรมร่วมกับเขาไม่ได้ เดี๋ยวก็โดนไล่ออกมา อยู่บ้านดีกว่า ที่วัดมีระเบียบว่า ถ้าไม่ได้นอนโรงพยาบาล กิจกรรมทุกอย่างต้องทำร่วมกัน อาตมาเจอมาหลายรายแล้ว ถึงเวลาเราไม่กลัวมะเร็ง ก็หายเอาดื้อ ๆ แม้กระทั่งตัวอาตมาเอง โดนกินจนเข้ากระดูก จะเดินไม่ได้อยู่แล้ว พอไม่สนใจทำงานไปเรื่อย ๆ อยู่ ๆ ไปตรวจใหม่ก็หายไปเฉย ๆ ก็แสดงว่าแค่ขู่เราเท่านั้น พอเห็นเราไม่กลัวเข้ามะเร็งก็จากไปเอง นี่แสดงว่าพวกเราเห็นอาตมาแข็งแรงดี เลยไม่รู้ว่าเคยเป็นมะเร็งมาแล้ว เป็นแล้วก็ไม่ได้บอกใคร แต่ช่วงนั้นโดนกินกระดูก กินเส้นประสาทจนจะเดินไม่ได้ แต่ยังพอขยับได้ก็ทำงานไปเรื่อย ๆ ไม่ได้ใส่ใจหรอก ทำไปทำมาเดือนกว่าก็หายไปเฉย ๆ ทุกวันนี้หมอก็ยังสงสัยว่าหายได้อย่างไร ? 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-11-2016 เมื่อ 14:59  | 
| สมาชิก 197 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#105  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			พระอาจารย์กล่าวว่า  "ระยะนี้ราคาเงินราคาทองกระโดดขึ้น ๆ ลง ๆ หาความแน่นอนไม่ได้ อาตมาก็เลยผลักภาระให้กับญาติโยมแทน ไปหามาร่วมหล่อพระคนละ ๑ กิโลกรัม 
		
		
		
		
		
		
			มีครอบครัวแสงอุทัย เคยถวายมาหลายกิโลกรัมแล้ว วันเกิดพ่อ วันเกิดแม่ วันเกิดลูก ถวายมาครั้งละ ๑ กิโลกรัม ครอบครัวนั้นไม่ต้องถวายก็บุญเหลือเฟือแล้ว ตอนหล่อสมเด็จองค์ปฐมวัดท่าซุงครั้งแรก อาตมาถวายทองคำไป ๗ บาท แล้วก็มีสร้อยมรกตล้อมเพชรอีก ๑ เส้น ว่าจะเก็บไปหมั้นสาวก็หมดโอกาสแล้ว สละปัจจัยถวายบูชาพระไปเลย ต้องบอกว่าพออายุ ๓๐ ไปแล้วเรื่องคิดจะมีครอบครัวก็ชักจะหาย ๆ ไป มาตอนนี้ดีใจมากเลยที่มีลูกเยอะแยะไปหมด ต้องบอกว่าเป็นเผ่าพันธุ์ประหลาด ไม่มีเมียก็มีลูกได้" 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-11-2016 เมื่อ 15:00  | 
| สมาชิก 203 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#106  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ถาม : เวลาลูกหลานหลวงพ่อทะเลาะกัน  หลวงพี่ก็ไปต่อว่าหลวงพ่อว่ามีลูกเยอะ  ? 
		
		
		
		
		
		
			ตอบ : อันนั้นว่ากันไม่ได้หรอก ตอนโมโหอาตมาก็โทษเปะปะไปเรื่อย ความจริงอยู่ที่พวกเราสันดานเสียกันเอง ทำไมถึงรักกันไม่ได้ ต้องมีการชิงดีชิงเด่นกันด้วย ? 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-11-2016 เมื่อ 15:01  | 
| สมาชิก 199 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#107  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ถาม : มีดหมอหลวงพ่อกวยตีเองหรือครับ ? 
		
		
		
		
		
		
			ตอบ : ถ้าเป็นรุ่นเก่าท่านทำกันเองในวัด ถ้าเป็นรุ่นหลัง ๆ สั่งทำจากพยุหะคีรี ฉะนั้นรุ่น...แรก ๆ มีเท่าไรก็เก็บไว้เถอะ เพราะว่าท่านสะสมโลหะอาถรรพ์ พอได้สมควรแล้วท่านก็หลอมกันเองตีกันเอง คนรู้จักแต่ของรุ่นหลัง ๆ เพราะว่าท่านดังมากแล้ว ของรุ่นแรก ๆ ไม่ค่อยรู้จักกัน แต่ก็ดี...เพราะของพวกนี้จะไม่แพงมาก 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-11-2016 เมื่อ 19:46  | 
| สมาชิก 197 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#108  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			พระอาจารย์กล่าวถึงพระแก้วใสเก้านิ้วทรงเครื่องว่า "งานเป่ายันต์ครั้งที่แล้วเอาเข้าพิธีไป ๙๔ องค์ อึดใจเดียวก็หมดเกลี้ยง เพราะปกติพระปิดทองคำแท้จะแพง แต่ของเราให้บูชาองค์ละ ๒,๕๐๐ บาท พักเดียวก็หมดเกลี้ยง ตอนขนเข้าพิธีว่ากันเป็นคันรถ ๙๔ องค์ ตอนบูชาโยมยังได้ไม่ถึงครึ่งแถวเลย...หมดแล้ว"
		 
		
		
		
		
		
		
			
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-11-2016 เมื่อ 19:48  | 
| สมาชิก 195 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#109  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			พระอาจารย์เล่าว่า  "เทอมนี้เด็ก  ๆ ที่วัดก็ชวดตามเคย บอกว่าถ้าหากว่าสอบได้เกรด ๔.๐๐ เทอมไหน จะให้เงินไปดัดฟัน ปรากฏว่าไม่ได้กันสักทีหนึ่ง ลดลงมาเหลือ ๓.๕๐ ก็ยังไม่ได้อีก เทอมนี้ก็ร่อแร่ได้แค่เกรด ๒ กว่า ๆ  ได้ ๒.๘๕ เขาบอกว่าว่า “หลวงพ่อ...หนูหมดอยากที่จะดัดฟันแล้ว” 
		
		
		
		
		
		
			เวลาเห็นคนอื่นเขาเรียนกันยากลำบาก อาตมาก็สงสัยว่ายากตรงไหนวะ ? ยากตรงไม่เข้าใจใช่ไหม ? ถ้าเข้าใจก็ไม่ยาก แต่ว่าส่วนใหญ่ทำความเข้าใจในวิชาการจะยาก เพราะเขาไม่มีหลัก หลักการก็คือเรียนวิชาอะไร ให้เราศึกษา Scope ก็คือ สังเขปรายวิชากว้าง ๆ หลังจากนั้นเวลาอาจารย์อธิบายวันนี้ว่าด้วยเรื่องอะไร ? หัวข้อหลักคืออะไร ? หัวข้อรองคืออะไร ? ฟังให้เข้าใจว่าหัวข้อรองท่านอธิบายมาอย่างไร ? ถ้าเราฟังแล้วเข้าใจ ก็เท่ากับได้หมดนั่นแหละ ถ้าไม่เข้าใจก็ถาม อาตมาเรียนอยู่ชั้น ป. ๗ ถามจนคุณครูร้องไห้ คุณครูผู้หญิง ชื่อ ครูเฉลิม โพธิ์ทอง ผู้หญิงสมัยก่อนนี่เขาไม่กลัวนะว่าชื่อเฉลิมจะเป็นชื่อผู้ชาย เพื่อนเรียนชั้นเดียวกันกับอาตมา เป็นผู้หญิงสวยเช้งวับชื่อสมศักดิ์..! แม่อยากได้ลูกชาย พ่อก็อยากได้ลูกชาย ตั้งชื่อไว้ว่าสมศักดิ์ สมัยอาตมาก็ไม่ได้มีอัลตราซาวด์จะได้ตรวจดูได้ว่าลูกเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ออกมาก็ตั้งชื่อลูกประชดเลย เด็กหญิงสมศักดิ์ ก็ไม่เห็นเขาจะเดือดร้อนอะไร เขาก็สมศักดิ์มาเรื่อย คนสวยเสียอย่างจะชื่ออะไรก็ได้" 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-11-2016 เมื่อ 19:50  | 
| สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#110  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			"ครูเฉลิมสอนวิชาคณิตศาสตร์ อาตมาถามซอกถามแซก ถามจนครูอธิบายไม่ได้  โมโหจนร้องไห้เลย ท่านสอนเรื่องเศษส่วน   เศษส่วนจำนวนเกิน เศษส่วนจำนวนคละ “แล้วเศษส่วนมาจากไหน ? ทำไมต้องมีด้วย ?” เจอลูกศิษย์สงสัยแบบนี้นี่ตายเลย เรื่องของคณิตศาสตร์เป็นการลับสมอง ให้เราหาวิธีคิดหลาย ๆ วิธี เพื่อที่จะให้ออกมาเป็นคำตอบนั้น แต่ส่วนใหญ่แล้วไม่ค่อยได้ใช้งาน ก็จะมีคนอยู่ประเภทเดียวเท่านั้นที่ชอบตัวเลขพวกนี้ ก็คือ พวกประเภทถ้าไม่ใช่อัจฉริยะก็ต้องบ้าไปเลย..! 
		
		
		
		
		
		
			วันนี้ลูกสาวมาหาแต่เช้า ลูกเจนนี่สอบคณิตศาสตร์ได้ที่ ๑ ของจังหวัด แต่เลือกเรียนสายศิลป์ ครูโกรธมาก “ทำไมเธอไม่เรียนสายวิทย์...หือ ?” เจนนี่บอกว่า “มันยากค่ะ” คนสอบคณิตศาสตร์ได้ที่ ๑ ของจังหวัดบอกว่ายาก แล้วที่เหลือจะรอดไหม ? ท้ายสุดก็กลับไปคิดตัวเลขเหมือนเดิม ปัจจุบันนี้เรียนอยู่ปี ๒ บัญชีอินเตอร์จุฬาฯ คนไม่ชอบตัวเลขต้องไปเรียนตัวเลขก็คงจะเครียดเหมือนกัน แต่ว่าโปรแกรมภาษาอังกฤษน่าจะง่ายกว่าภาษาไทย สอบเข้าทีหนึ่งติดตั้ง ๔ คณะ ทั้งจุฬาฯ ทั้งธรรมศาสตร์ ติดหมดเลย เป็นอินเตอร์โปรแกรมไป ๓ คณะ นาน ๆ จะมีลูกที่เรียนได้อย่างใจสักที ที่เหลือต้องลุ้นเหนื่อยกว่าตัวเองเรียนเยอะเลย เด็ก ๆ เขาจะถอดใจ อาตมาบอกว่าไม่ต้องถอดใจหรอก เพราะหลวงพ่อเห็นมาเยอะแล้ว ยิ่งโตยิ่งเรียนเก่งก็มี...แปลกดี เหมือนอย่างกับว่าโตแล้วรู้จักคิด หรือมีความรับผิดชอบเพิ่มขึ้นก็ไม่รู้ เรียนเก่งขึ้นไปเรื่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่ตอนเด็กเรียนไม่รู้เรื่อง" 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-11-2016 เมื่อ 19:52  | 
| สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#111  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ถาม : วันก่อนหนูไปทำกายภาพบำบัด  หมอที่ทำกายภาพบำบัดก็ทักว่าหนูเป็นสายพญานาค  และมีวิญญาณตามมาเพียบเลย  หนูก็ไม่เชื่อ   หนูบอกเขาว่าหนูนับถือหลวงพ่อฤๅษี เขาก็บอกว่าหลวงพ่อฤๅษีก็สายพญานาคนั่นแหละ   เขาทักหนูเยอะเลย ใช่หรือคะ ? 
		
		
		
		
		
		
			ตอบ : ไม่ต้องไปใส่ใจหรอก ถาม : เขาจับตัวหนู จับกระดูก แล้วก็บอกว่า "ร้อนไปหมดเลย แสบไปหมดเลย" หนูก็ว่าอะไรไม่รู้ ? ตอบ : แสดงว่าเจอหมอไม่เต็มบาท..! ถาม : หนูก็ว่ามียันต์เกราะเพชร หนูก็มีพระกริ่ง มีอะไรเต็มไปหมด วิญญาณจะมายุ่งกับหนูได้อย่างไร ? ตอบ :ไม่ต้องไปใส่ใจ ทำไม่รู้ไม่ชี้ ขืนฟังมากเดี๋ยวก็บ้าไปกับเขาด้วย..! 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-11-2016 เมื่อ 02:26  | 
| สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#112  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ถาม : ในวัดท่าขนุนมีสวดพระอภิธรรมถวายในหลวงไหมครับ ? 
		
		
		
		
		
		
			ตอบ : มีสวดทุกเย็น เป็นระยะเวลา ๑ เดือน ถาม : ท่านไม่คิดจะเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมในวังบ้างหรือครับ ? ตอบ : ตูไม่ได้กินอิ่มขนาดนั้น รู้จักคำว่า "เอาเนื้อหนูไปปะเนื้อช้าง" ไหม ? ต้องใช้หนูกี่ตัวถึงจะพอปะ ? ตูไม่ใช่หนูพุกด้วย ตูเป็นแค่หนูหริ่งตัวกระเปี๊ยกเดียว ไม่คิดที่จะไปดังขนาดนั้น จำไว้ว่า ถ้าอยากดังก็อย่าไปหวังความสงบ หน่อยแน่...สวดอภิธรรมในวัง ชิชะ...กูยังไม่ได้สิ้นสติขนาดนั้น คนอย่างกูจะดัง ก็ไม่จำเป็นต้องไปโหนสถาบัน...! 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-11-2016 เมื่อ 02:29  | 
| สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#113  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ถาม : สวดพระอภิธรรมถวายในหลวงได้อานิสงส์อะไรครับ ?  
		
		
		
		
		
		
			ตอบ : อันดับแรกได้ความกตัญญู อย่างน้อยก็ได้แสดงการตอบแทนที่เรียกว่ากตเวที อันดับที่ ๒ พระได้ซักซ้อมความคล่องตัวในการสวดมนต์ อันดับที่ ๓ ถ้าแปลออกก็เท่ากับได้ปฏิบัติธรรมอยู่ทุกวัน อันดับที่ ๔ การสวดมนต์ ถ้าไม่มีสมาธิก็สวดไม่ได้ ก็เท่ากับเราปฏิบัติสมาธิภาวนาไปด้วย อันดับสุดท้าย คนสวดได้เงิน..! 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-11-2016 เมื่อ 02:29  | 
| สมาชิก 195 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#114  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ถาม : เวลาเราเกิดปัญหา  ระหว่างการที่เราหนีไปไม่ให้รู้เห็น กับหยิบมาแก้  วิธีอย่างไหนดีกว่ากันครับ ?  
		
		
		
		
		
		
			ตอบ : ไม่รับรู้ด้วยวิธีไหน ? ถาม : ถ้าหลบไปสงบสักพักหนึ่ง กับอีกแบบหนึ่งเอามาจัดการด้วยสมาธิ หรือวิปัสสนา เขาบอกว่า....? ตอบ : ต้องถามเขาสิ ใครบอกมาแทนที่จะถามคนนั้น ดันไปถามอีกคนหนึ่ง แล้วจะรู้ไหมว่าเขาหมายถึงอะไร ? ถาม : ผมเข้าใจว่า เขาหมายถึง การไม่เจริญในสติปัฏฐาน ๔ ? ตอบ : สติปัฏฐาน ๔ ในปัจจุบันทำผิดร้อยละ ๙๙ ..! ถาม : อย่างไรครับ ? ตอบ : เขาบอกว่าจะต้องรู้เท่าทันกับปัจจุบัน เสร็จแล้วก็ปล่อยวาง โดยการที่พยายามทำอินทรีย์ ๕ พละ ๕ ให้เสมอกัน อย่างในปัจจุบันที่เห็นอยู่คือเขาพยายามใช้แค่อุปจารสมาธิ ก็เหมือนกับให้มือเปล่าขึ้นไปต่อยกับไมค์ ไทสัน โอกาสตายมีเกิน ๑๐๐ %...! ทุกวันนี้ที่เขาทำผิดก็เพราะบุคคลที่มีสมาธิ เขาให้คลายสมาธิออกมา แล้วไปสู้กับกิเลส ควายชัด ๆ...! ในเมื่อคุณบอกว่าอินทรีย์ ๕ พละ ๕ ต้องเสมอกัน ทำไมไม่ยกอย่างอื่นขึ้นมาให้เท่ากับสมาธิที่มีอยู่ ทำไมเสือกทะลึ่งลดสมาธิลงไปจนโดนกิเลสฟัดตายห่..! ฉะนั้น...บรรดาอาจารย์สายนี้ในปัจจุบัน สอนผิดสัก ๙๙ เปอร์เซ็นต์ เห็นแล้วสงสารลูกศิษย์ ถาม : ก็คือ ต้องปล่อยวาง ? ตอบ : ถ้ากำลังคุณไม่พอ ตายอย่างเดียว ต้องรู้หลบรู้หลีก รู้จักผ่อนหนักเป็นเบา ฉะนั้น...ลองนึกถึงที่หลวงปู่หล้าท่านบอก ว่าหัดเป็น "นักหลบ" เสียบ้าง ไม่ใช่เป็น "นักรบ" อย่างเดียว รู้ว่ารบแล้วสู้ไม่ได้ ยังทะลึ่งไปรบเขาเรียกว่าโง่...! 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-11-2016 เมื่อ 17:15  | 
| สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#115  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ถาม : ถ้าเราเกิดในยุคที่ไม่มีพระพุทธศาสนา  ไม่มีพระพุทธเจ้า   เวลาเราทำกรรมฐาน  จะถือว่าเราได้ประโยชน์หรือไม่  หรือถ้าเกิดในยุคที่มีพระพุทธเจ้า เราจะทำประโยชน์ได้มากกว่า ? 
		
		
		
		
		
		
			ตอบ : คุณจะทำประโยชน์อะไร ? มีประโยชน์ตน มีประโยชน์ท่าน มีประโยชน์ทั้งสองส่วน พูดง่าย ๆ ว่าถ้ารู้จักพระพุทธศาสนา เวลาปฏิบัติธรรม นึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นที่พึ่ง อานิสงส์ก็ย่อมมีมากกว่าคนที่ทำสมาธิเฉย ๆ 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-11-2016 เมื่อ 17:16  | 
| สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#116  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ถาม : เวลาเราตาย ถ้าเกิดเราไม่ภาวนา แต่เราอธิษฐานเลยว่าจะไปที่นั่น  ? 
		
		
		
		
		
		
			ตอบ : รอตายไปก่อน ก็ไม่รู้ว่าจะไปไหน ขนาดตั้งใจไว้ก่อนตายยังพลาดมาเยอะแล้ว ทุกวันนี้ที่พระมัวแต่สอน จ้ำจี้จ้ำไชปากเปียกปากแฉะอยู่ ก็เพื่อตอกย้ำให้พวกคุณทำกันบ่อย ๆ ทำจนเคยชิน คติจะได้แน่นอนขึ้น คำว่า "แน่นอนขึ้น" ไม่ได้แปลว่า ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ เพราะว่ากรรมอาจแทรกระหว่างนั้นได้ แต่ก็ดีกว่าปล่อยไปตามบุญตามกรรม 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-11-2016 เมื่อ 17:17  | 
| สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#117  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ถาม : ยันต์ของหลวงพ่อแจ่ม  วัดวังแดงเหนือ ที่เป็นเอกลักษณ์บนมีดไม่มีหรือครับ ?  
		
		
		
		
		
		
			ตอบ : ไม่มี เพราะว่ายันต์ของท่านไม่ค่อยจะเหมือนกัน ตอนนั้นอยากลงอะไรท่านก็ลงไปเรื่อย เขียนไปตามแต่พื้นที่ใบมีดที่มีอยู่ ใบใหญ่ก็ได้ไปมากหน่อย อาตมาได้มีดหมอของท่านมา ๔ เล่ม ไม่เหมือนกันสักเล่ม 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-11-2016 เมื่อ 17:18  | 
| สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#118  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ถาม : ถ้ามีคนทิ้งกระดาษที่เขาบอกว่า ให้พิมพ์แจกกระดาษนี้อีก ๑๐ แผ่น  เราต้องทำตามเขาไหมครับ ? ถ้าไม่ทำแล้วจะเกิดวิบัติอย่างที่เขาว่าหรือเปล่าครับ ? 
		
		
		
		
		
		
			ตอบ : อาตมาไม่เคยทำตามสักทีก็ยังสบายดีอยู่ ที่แสบที่สุดคือมีอยู่ครั้งหนึ่งไปซื้อหนังสือ เขาสอดอยู่ในหนังสือว่าถึงคุณผู้โชคดี อาตมาก็ว่าอะไรวะ ? หนังสือใหม่เอี่ยมในร้านเลยดันมีไอ้นี่สอดอยู่ เปิดซองออกมาเขาบอกให้ส่งต่ออีก ๙ คน ไม่อย่างนั้นจะโชคร้ายแบบนั้นแบบนี้ อาตมาก็เลยส่งลงถังขยะตรงนั้นไปเลย ถาม : คนที่ทำเขาจะบาปไหมครับ ? ตอบ : จะบาปตรงไหน ? ยกเว้นว่าคุณโง่ไปเชื่อ เพราะเขาเชื่ออย่างนั้น เขาก็ส่งต่อไปเรื่อย ถ้าเราไม่เชื่อ วงจรอุบาทว์ก็จบลงแค่เรา 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-11-2016 เมื่อ 17:20  | 
| สมาชิก 173 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#119  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ถาม : สมมติเราเคยอธิษฐานในสิ่งหนึ่งและสำเร็จแล้ว  พอเวลาผ่านมาอธิษฐานซ้ำได้ไหมครับ ?  
		
		
		
		
		
		
			ตอบ : อะไรที่ได้แล้วก็แล้วกัน แต่คำอธิษฐานสามารถเปลี่ยนใหม่ได้ สามารถตอกย้ำได้ ถาม : อธิษฐานใหม่จะได้เท่ากับกำลังจิตเดิมไหมครับ ? ตอบ : จะได้เท่าไรก็ช่างเถอะ ตอกย้ำกำลังใจให้แน่วแน่มั่นคงแล้วกัน แต่อย่าลืมที่ในหลวงท่านเตือนไว้นะ "ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป" ท่านบอกนั่นเป็นอธิษฐานบารมีเลยนะ เธอแน่ใจแล้วหรือที่ว่าอย่างนั้น ถ้าเกิดตามกันไปแล้วลำบากยากเข็ญขึ้นมาก็อย่ามาโทษกัน ถาม : อธิษฐานแล้วจะต้องได้ตามนั้น ? ตอบ : ตั้งใจแล้วก็ต้องได้ตามนั้น ซื้อตั๋วแล้วขึ้นรถอย่างไรก็ต้องไปถึงปลายทาง เพียงแต่ว่าจะไปแบบไหน ถ้าหนทางเป็นเตาขนมครกตั้งแต่ต้นยันปลาย ก็เป็นเวรเป็นกรรมของคุณเอง...! 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-11-2016 เมื่อ 17:21  | 
| สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#120  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ถาม :  ในขณะที่เรากำลังทำงานอยู่  สามารถทรงอุปจารฌาน ได้ไหมครับ ?  
		
		
		
		
		
		
			ตอบ : ถ้าหากว่าทรงอิริยาบถอยู่ คนที่มีความคล่องตัว แม้แต่ฌาน ๔ ก็ทรงได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นอุปจารฌานหรือว่าปฐมฌาน เพียงแต่ปฐมฌานนั้นจะครบด้วยองค์ ๕ คือ วิตก วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตารมณ์ อุปจารฌานเพียงแต่เลยปีติไปหน่อยเดียวเท่านั้น 
				__________________ 
		
		
		
		
		
			........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-11-2016 เมื่อ 20:04  | 
| สมาชิก 162 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]()  | 
	
	
		
| ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
| คำสั่งเพิ่มเติม | |
		
  | 
	
		
  |