เรื่องของการ “ทรง”

[โอรส]

ถาม : กำลังสงสัยว่าเรื่องของ “ทรง” นี่โดยปกติมนุษย์เราก็จะมีสภาพของตัวเราอยู่ ที่นี้ถ้าจะพูดถึงว่าจะมีอะไรสักอย่างหนึ่งที่เข้ามาแทรกได้ในตัวเรา ในกรณีที่เราถือว่าเราเชื่อว่าเป็นจิต จะมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งเขามาแทรกตัวเรา คือ สภาพของจิตช่วงนั้น การรับรู้เรื่องเป็นอย่างไรคะ ?
ตอบ : เอาอย่างนี้นะ ที่อธิบายพอเข้าใจ แต่พูดเป็นคำพูดยาก ฟังพระดีกว่า สภาพร่างกายของเรานี่เป็นแค่เปลือกนอก แล้วจิตของเรานั้นเป็นผู้ที่ควบคุมอยู่ข้างใน เพราะฉะนั้น..ร่างกายของเรานี่เป็น “รถ” จิตของเราคือ “คนขับรถ” ตอนที่เขาจะทรง จะสวมจะทับนี่ เขาเอาคนขับรถออกไป แล้วเขาก็เข้าไปทำหน้าที่ขับรถแทนเรา

ถาม : เขาจะเอาเราออกไปได้อย่างไร ?
ตอบ : เขาใช้วิธีบีบบังคับด้วยกำลังที่เหนือกว่า สภาพจิตของเราที่ขาดการฝึกปรือมาจะมีกำลังน้อย ในเมื่อกำลังน้อย พวกที่ท่านอยู่ในเขตของความเป็นทิพย์ ถึงจะเป็น โอปปาติกะ หรือ เปรต อสุรกาย ก็ตาม กำลังท่านจะสูงกว่า ท่านจะเบียดเราออกไปชั่วคราว

ถาม : ตรงนั้นนี่ การเบียดออกไป จิตตรงนั้นไปอยู่ที่ไหน ?
ตอบ : ตอนนั้นอาจจะอยู่ใกล้ ๆ นั่นเองแหละ เดินพล่านไปหมดว่าเมื่อไรเขาจะคืนร่างกายให้ หรือไม่อีกทีหนึ่งเขาจะใช้อำนาจจิตที่สูงกว่าบังคับจิตของเราให้ทำตามที่เขาต้องการ ถ้าหากว่าเป็นเทวดาเขาจะใช้ลักษณะนี้

ถาม : การบังคับนี่ก็แสดงว่าไม่ได้เข้าไปแทรก ?
ตอบ : ไม่ได้เข้าไปแทรก บังคับอยู่ภายนอก โดยส่งพลังจิตที่สูงกว่าบังคับเข้าไป

ถาม : เหมือนการสะกดจิต ?
ตอบ : ลักษณะเหมือนอย่างกับว่าตัวเราเป็นหุ่นยนต์ แล้วเขาใช้คลื่นวิทยุบังคับเรา

ถาม : ใกล้เคียงกับการสะกดจิต ?
ตอบ : ก็คล้าย ๆ กันเลย

[โอรส]

ถาม : แต่ทีนี้ถ้าพูดถึงเรื่องของการแทรก นี่คือเบียดออกไปเลย ?
ตอบ : พวกนี้ส่วนใหญ่จะเป็นพวกที่มาร้าย ถ้าหากว่ามาร้ายนี่ส่วนใหญ่จะใช้ลักษณะนี้ บางทีก็จะยึดร่างกายของเราเป็นของเขาเลย ยึดรถเราเป็นรถของเขาไปเลย

คราวนี้พวกที่ยึดรถของเราเป็นรถของพวกเขานี่ ส่วนใหญ่แล้วในปัจจุบันนี้ ถ้าเรารู้ก็อย่างเช่นพวก “ผีปอบ” พวกนี้อยู่ไม่พอ ยึดเป็นของเขาแล้วก็ไม่ดูแล ไม่รักษาอะไร เอาแต่อาศัยกินไปวัน ๆ

บางทีร่างกายของเราพังแล้ว แต่ว่าสามารถทรงอยู่ได้ เพราะสภาพจิตของเขาแทรกอยู่ บังคับอยู่ พอเขาทิ้งไปตัวคนนั้นก็ตายเดี๋ยวนั้นเลย แล้วเน่าเดี๋ยวนั้นเลยก็มี เพราะว่าจริง ๆ แล้วก็คือตายมานาน เพราะจิตของเขาโดนเบียดมานานแล้ว แต่ว่ามีตัวอื่นคอยบังคับอยู่แทนอยู่

ถาม : ยังสงสัยอยู่นะครับ คนที่ถูกเบียดออกไปก็คือไม่รู้ตัว ?
ตอบ : ถึงรู้ตัวแล้วคุณจะไปสู้อะไรเขาได้ ? อันนั้นจริง ๆ แสดงว่าของเขาต้องมีวาระกรรมของเขาอยู่ วาระกรรมที่เคยเนื่องกันมาทำให้ตัวที่มาแทนเขา สามารถที่จะเบียดเขาออกไปได้ ก็หมายความว่าบางทีอุปฆาตกรรมที่มาตัดรอนของเขา ทำให้เขาต้องตายลงในช่วงนั้นเลย

ถาม : กรรมอะไรคะ ถึงทำให้มีในลักษณะนั้น ?
ตอบ : ส่วนใหญ่แล้วก็เป็นอุปฆาตกรรม จะเกิดจากกรรมปาณาติบาต การฆ่าคนหรือฆ่าสัตว์ใหญ่ต้องใช้กำลังใจสูงในการกระทำ ฆ่าสัตว์เล็ก ๆ ไม่ต้องใช้กำลังใจมาก ฆ่าคนหรือฆ่าสัตว์ใหญ่มาต้องใช้กำลังใจสูง โทษก็สูงไปด้วย ดังนั้น..เมื่อถึงเวลารับโทษไปแล้ว ดอกเบี้ยที่ตามมาก็แพงหน่อย เขาเอาถึงตายเหมือนกัน

ถาม : จิตดวงนั้นนี่ ไม่เป็นไปตามวาระกรรมหรอกหรือคะ ?
ตอบ : เป็นไปตามวาระ เรื่องของวาระกรรมนี่มีก่อนมีหลัง อันไหนมาถึงก็ให้ผลก่อน คราวนี้ว่าความดีรออยู่ก็จริง แต่อุปฆาตกรรมเข้ามาถึงก่อนก็ต้องไปตามนี้ก่อน พอคุณพ้นจากตรงนี้แล้ว คุณค่อยไปรับความดีต่อ แต่บังเอิญว่ากรรมนี้แรงไปหน่อยเราก็เลยตายเลย พอตายก็ต้องดูต้นทุนของเราตอนนั้น ว่าดีกับชั่วเป็นอย่างไร สภาพจิตของเราตอนนั้นเกาะอะไร ? เราก็ต้องไปหารถคันใหม่ตามบุญตามกรรมของเรา

สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนสิงหาคมและกันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๔