ช้างเผือก

[โอรส]

ถาม : อุทยานที่ในหลวงท่านดู ๆ ไว้ ๒ ที่ ข้างล่างมีช้างเผือกด้วย ?

ตอบ : ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ว่าช้างเผือกที่นี่สวยจริง ๆ ยังไม่รู้ว่าที่ท่านว่ามาแต่ว่าที่เห็นจริง ๆ ของเมืองลาวเขา ตอนที่สมเด็จพระเทพฯ เสด็จไป เขาพาไปดูอายุประมาณ ๕ ปี สีอย่างกับนากเลย สุกปลั่งเป็นทองแดงขัดใหม่เลย

สมัยโบราณเขาบอกว่าช้างเผือกมี ๑๐ ตระกูล อุโบสถหัตถี สีกายเหมือนทองคำ ฉัททันต์หัตถี สีขาวเหมือนสีสังข์ เสร็จแล้วมันมีตระกูลตามพหัตถี สีเหมือนทองแดง เราไม่เคยพบเห็นช้างอะไรเหมือนทองแดง พอไปเห็นเข้าถึงได้ยอมรับสีเหมือนทองแดงจริง ๆ ชื่อนางพญาคำแก้วมิ่งเมืองลาว

แล้วหลังจากนั้นไม่นาน ลาวได้อีกตัวหนึ่งเป็นช้างอายุมากแล้ว และเป็นช้างใช้งานอยู่ เจ้าของเขาใช้งานมา ๓๐ กว่าปีแล้ว แต่ว่าพอช่วงหมดงานแล้วจะปล่อยเข้าป่าไปหากิน แต่ว่าจะให้โซ่ติดตัวอยู่ถึงเวลาจะได้ตามคืนมาได้ ปีนั้นไม่ทราบว่ามันเกิดอะไรขึ้น กลับมากลายเป็นช้างเผือกขาวผ่องไปทั้งตัวเลย

ช้างเผือกขาวสีสังข์มันต้องขาวออกวาว ๆ มันเหมือนกับหอยสังข์ขัด อันนี้มันจะเป็นตระกูลปัณฑรหัตถี เขาบอกว่าสีขาวเหมือนดอกบัวมันน่าจะเป็นเชือกนี้ เขาตั้งชื่อว่า “พระยาไชยมงคล”

คราวนี้ของประเทศลาวเขามีคำสาปอยู่ สมัยพระยาโคตรบองครองเมืองลาวอยู่ คราวนี้พระยาโคตรบองแกเป็นคนอยู่ยงคงกระพัน ไม่มีอาวุธอะไรทำร้ายแกได้ มีพวกญาติพี่น้องอยากจะแย่งชิงเมือง ก็อยากจะรู้ว่าทำอย่างไรถึงจะฆ่าพระยาโคตรบองได้ อุตส่าห์ส่งลูกสาวตัวเองเข้าไปยอมให้เป็นเมีย พออยู่กันไปอยู่กันมาแกไว้ใจขึ้นมา พอถึงเวลาเมียก็แอบ ๆ ถามว่าพี่เหนียวอย่างนี้มันมีวิธีไหนที่ทำให้ถึงอันตรายได้ไหม ? แกก็บอกว่าถ้าหากว่าใช้หอกสวนทวารแกจะตาย

ทางด้านนี้ก็ไปกระซิบบอกทางญาติพี่น้องตัวเอง พอแกเข้าส้วม ส้วมของเมืองลาวมันจะเป็นคอกสูง ๆ แล้วก็ถ่ายลงไปข้างล่างได้ จังหวะพอดี ใช้หอกแทงขึ้นไป ก่อนแกจะตายแกก็เลยสาป ด้วยความที่แกมีวิชา มีฌานสมาบัติ มีอภิญญา พอแกตั้งใจให้เป็นอย่างไรมันก็เป็นอย่างนั้น แกสาปเอาไว้ว่า ถ้าตราบใดที่เมืองลาวยังไม่มีช้างเผือก หินฟู งูใหญ่ แล้วก็พระเจ้าแผ่นดินที่เป็นธรรมิกราชมาเหยียบประเทศนี้ ขออย่าให้มีความเจริญเลย

เพราะว่าแผ่นดินของแกแท้ ๆ แล้วคนอื่นมาแย่งของแกไป พอลาวได้ช้างเผือกแล้ว หินฟูนั่นก็หินลอยน้ำ เขาบอกว่าคงจะหมายถึงสะพานมิตรภาพไทย - ลาว งูใหญ่นั่นมีมานานแล้วคือถนนทางรถยนต์ คราวนี้ก็รออยู่อย่างเดียวว่าพระราชาที่เป็นธรรมิกราชจะไป ปรากฏว่าปีนั้นในหลวงเสด็จ ไม่ทราบว่าปี ๔๐ หรือ ๔๑ ไม่รู้จำไม่ได้นะ ในหลวงเสด็จเมืองลาว ๒๗ ปีแล้วไม่เคยเสด็จไปต่างประเทศเลย เสด็จไปลาวไม่พอค้างคืนด้วย โน่น..คนตามเสด็จในหลวงมันถ่ายรูปมาเป็นกุรุสเลย กลัวตัวเองจะไม่มีหน้าอยู่ใกล้ในหลวง

เขาก็เลยเชื่อกันว่า ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาลาวก็น่าจะค่อย ๆ เจริญขึ้น เพราะถือว่าทุกอย่างที่พระยาโคตรบองแกสาปเอาไว้ก็คงจะหมดอาถรรพ์ลงตั้งแต่ในหลวงไปเหยียบแผ่นดิน เพราะของอื่นเขาได้ครบแล้ว แต่คราวนี้ว่าช้างเผือกที่สวยจริง ๆ ของเขานั้นน่าจะอยู่ธรรมชาตินะ อยู่ในป่าเลยใช่ไหม ?

[โอรส]

ถาม : เห็นท่านบอกว่าท่านจะไปเยี่ยมเหมือนกันเพราะว่าตอนนั้นก็เห็นใกล้ ๆ เลยว่าดูอย่างนี้แล้วก็น่าจะเป็นจ่าฝูงด้วย แล้วถ้าเชือกนี้ร้อง เชือกอื่นก็ต้องร้องด้วย ?

ตอบ : ช้างเผือกนี่ส่วนใหญ่อยู่ที่ไหนจะเป็นจ่าโขลง ที่เขาไล่มาตั้งแต่อุโบสถหัตถี ฉัททันต์หัตถี ไล่ลงมาเรื่อย ๆ มันจะมีปิงคลหัตถี คังไคยหัตถี ปัณฑรหัตถี ไล่ลงมาแต่ละตระกูลจะแข็งแรงกว่าช้างทั่วไป ๑๐ เท่า แล้วลองคิดดูซิ ๑๐ คูณ ๑๐ กว่าจะถึงข้างบน ตัวหนึ่งมันเท่ากับเหนือกว่าเขาเป็น ๑๐๐ เพราะฉะนั้นอยู่ที่ไหนก็ต้องเป็นหัวหน้าเขาอยู่แล้ว

ถาม : แล้วเจอหรือยังครับ ?

ตอบ : ลองถามท่านดูว่ามันอยู่ตรงไหน เผื่อว่าน่าสนใจก็ได้ไปดูด้วย เพราะของอย่างนี้มันได้ดูได้เห็นเป็นขวัญตา ไม่ใช่รู้ว่าจริง ๆ แล้วโบราณของเราตำราคชศาสตร์ที่เขาว่าไว้มันมีจริง ๆ เพียงแต่ว่าถ้าบุญคนมันยังไม่ถึงของมันก็ยังไม่เกิดขึ้น ของเราเองก็ไม่คิดหรอก เพราะถ้าตามความคิดของเราช้างเผือกมันก็ต้องขาวใช่ไหม ? แต่ปรากฏว่าขาวจริง ๆ นั่นไปเห็นของลาวนั่นแหละ

พระยาไชยมงคลขาวผ่องจริง ๆ แล้ว ตามพหัตถีสีทองแดงนั่นแบบพังแต๋นของเราตอนนี้เป็นพระยากิริณี พังแต๋นของเราก็ตระกูลตามพหัตถีแต่มันไม่ได้อย่างของลาว ของลาวนี่ของเขามันสีทองแดงจริง ๆ ขนแต่ละเส้นอย่างกับลวดทองแดงอย่างนั้นสวยจริง ๆ เลย สมเด็จพระเทพฯ ไปเขาทูลเชิญเสด็จทอดพระเนตรแล้วก็ทีวีมันถ่ายออกมา โอ้โห ! เห็นแล้วบอกเจ้าพระคุณของแท้เขามีจริง ๆ ด้วย

สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๔๔