|
พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) |
![]() |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#1
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : บทอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร ที่บอกว่าให้เจ้ากรรมนายเวรจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าตั้งแต่วันนี้ไปจนกว่าจะเข้าพระนิพพาน อันนี้ผมก็สงสัยว่าเราท่องทุกครั้งนั้น เมื่อไรเจ้ากรรมนายเวรเขาจะอโหสิกรรมให้เรา ?
ตอบ : จริง ๆ แล้วเจ้ากรรมนายเวรตามความหมายของเรานั้น หมายความว่า คนหรือสัตว์ที่เราได้ฆ่าเขาไว้ ทำร้ายเขาไว้..ใช่ไหม ? ถ้าหากว่าเราฆ่าเขาตาย เขาไปรับบุญรับบาปตามกรรมของเขาอยู่แล้ว ที่จะมาคอยจองเราอยู่นั้นมีน้อยมาก ยกเว้นพวกตายโหงที่ยังไม่หมดอายุขัย ซึ่งมีน้อยเต็มที แล้วทำไมถึงมีการจองเวรใช้เวรกัน ? เป็นเรื่องกฎของกรรมว่าใครทำดีก็ได้ดี ใครทำชั่วก็ได้ชั่ว เหมือนกับว่าเราฆ่าคนตายเขาไม่ได้มาล้างแค้นเรา ไม่ได้มาจัดการอะไรกับเรา แต่ว่ากฎหมายจัดการเราเอง คราวนี้ว่าทำไมถึงต้องอโหสิกรรม ? ลักษณะนี้เป็นการปลดใจของเราออกจากจุดยึดนั้นว่า เราได้ทำความชั่วอันนั้นไป ถ้าจิตใจไปยึดอยู่ตรงนั้นก็จะหมองอยู่ตลอด ในเมื่อหมองอยู่ตลอดโอกาสจะไปดีก็ไม่มี เมื่อเราทำความดีแล้วเราตั้งใจอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร เรารู้สึกว่าเราได้ทำอะไรเป็นการทดแทนแล้ว จิตของเราก็ปลดปล่อยออกจากจุดนั้นมา ทำให้เราไปดีได้ ถามว่าเมื่อไรเขาจะอโหสิกรรมให้ ? ใจเราปลดออกเมื่อไรก็เมื่อนั้น หรือไม่ก็ เป็นพระอรหันต์เมื่อไรก็เมื่อนั้น เพราะการเป็นพระอรหันต์นั้น กรรมทุกอย่างที่ทำมาจะเป็นอโหสิกรรมหมด ผลกรรมจริง ๆ ทำอะไรท่านไม่ได้ เพราะท่านพ้นบุญพ้นบาปไปแล้ว ยกเว้นว่าถ้ายังครองสังขารอยู่ เศษกรรมก็จะตามเล่นงานกายสังขารของท่านได้ แต่กรรมใหญ่หมดสิทธิ์แล้ว ดูอย่างท่านองคุลีมาลสิ ท่านเป็นพระอรหันต์แล้ว ผลกรรมที่ฆ่าคนมามากมายเอาท่านลงอบายภูมิไม่ได้ แต่ออกบิณฑบาตยังโดนชาวบ้านขว้างหัวร้างข้างแตกอยู่ตั้งหลายวัน แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-09-2013 เมื่อ 10:14 |
สมาชิก 96 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โอรส ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : บางครั้งนั้นผมมีความรู้สึกว่า เมื่อเจอเหตุการณ์แล้วรู้สึกถึงในอดีตว่าเราได้เคยทำกรรมนี้ไว้ จะได้รับเหตุการณ์ที่เจอแบบนี้ แต่บางครั้งก็รู้สึกท้อแท้ว่าเมื่อไรจะหมดเสียที ?
ตอบ : อ๋อ...เป็นพระอรหันต์เมื่อไรก็หมด..ขอยืนยัน เพราะเราเองเราก็ไม่ได้ทำความดีตลอด จึงมีสิ่งที่ไม่ดีแทรกอยู่ตลอด แต่ว่ายถากัมมุตาญาณนั้นดีอยู่อย่างหนึ่ง คือ เราทำเราก็รับ เมื่อเรารู้ว่าเราทำเราต้องรับผลอันนั้น ฉะนั้น..เป็นสิ่งที่เราทำเอง ไม่ต้องไปตัดพ้อต่อว่าใคร ก็ก้มหน้ารับไป ถ้าจิตใจยอมรับอย่างนี้ได้ เรียกว่ายอมรับกฎของกรรม เมื่อยอมรับกฎของกรรม จิตใจจะมีความสุขมาก ยถากัมมุตาญาณจริง ๆ นั้นดีมาก ดีตรงที่ว่าเรายอมรับได้ ถ้าเรายอมรับไม่ได้ เมื่อรู้เข้า แหม...ไม่น่าไปทำอย่างนั้นเลย แล้วก็มานั่งหมองต่อ..ก็เสร็จ ! ถาม : บางครั้งก็อยากจะหนีเลยครับ อย่างนี้ถูกหรือเปล่า ? ตอบ : หนีไปไหนก็ไม่พ้น พระพุทธเจ้าบอกแล้วจะหนีไปซ่อนอยู่ใต้เม็ดทราย ก้นมหาสมุทรหรือจะหนีไปในซอกเขาอันลึกล้ำหรือว่าจะหนีไปอยู่ในกลีบเมฆ กรรมก็ตามถึง เพราะว่าเป็นผลของการกระทำของเราเอง เป็นเหมือนเงาติดตัวของเราเอง หนีไปไหนก็หนีไม่พ้นหรอก ยกเว้นว่ายอมรับ ยอมรับแล้วก็ชดใช้เขาไป ถ้าหากว่าชดใช้ได้หมด ถ้าไม่ได้หมดไปพระนิพพานก่อนก็เลิกแล้วกันไป จำไว้ว่าพระอรหันต์ที่ไปพระนิพพานไม่มีใครใช้หนี้หมดสักองค์เดียว หนีหนี้ไปทั้งนั้น..! สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนพฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๔๔ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-09-2013 เมื่อ 10:17 |
สมาชิก 94 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โอรส ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]() |
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
|
|