กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #101  
เก่า 15-12-2014, 20:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,256 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ต้นขี้อ้าย ?
ตอบ : ต้นขี้อ้ายสมัยนี้หาดูยากแล้ว แถวบ้านอาตมาขนาดมี "ทุ่งขี้อ้าย" ยังหมดเลย ไม้บางอย่างคนเขาไม่รู้จัก อย่างชื่อโบราณเขาเรียกต้นตุมกา สมัยใหม่เขาเรียกว่าต้นแสลงใจ เขาเอาเม็ดมา ๑ เม็ดมาแช่น้ำร้อน แช่พักเดียวนะ ห้ามแช่นาน กินลงไปถ่ายท้องระเบิดเทิดเถิงเลย ถ้าหากว่าแช่นานนี่ถ่ายถึงตาย หมอสมัยก่อนพอคนไข้หมักหมมโรคไว้เยอะ เขาจะทำให้กิน เรียกว่า "ถ่ายรุ" คือถ่ายของที่เสีย ๆ ในร่างกายออกไปให้หมดก่อน แล้วค่อยให้ยารักษา แต่ว่าหมอต้องเก่ง เพราะว่าใช้เม็ดเดียว แล้วก็แช่น้ำร้อนพักเดียว แช่นานเกินก็ไม่ได้ เพราะพิษแรง ส่วนใหญ่คนป่วยร่างกายอ่อนแออยู่แล้ว ถ้ายาแรงบางทีถึงตาย กินลงไปมีเท่าไรก็ถ่ายหมด

ถาม : แล้วสลอดละคะ ?
ตอบ : สลอดถ่ายแล้วหมดแรง ส่วนใหญ่เขาไม่ค่อยใช้กัน

โบราณเขาแต่งโคลงไว้ว่า

กาฝากกาจับต้น.....................ตุมกา
กาลอดกาลากา......................ร่อนร้อง
เพกาหมู่กามา........................จับอยู่
กาม่ายมัดกาซร้อง...................กิ่งก้านกาหลง

มีต้นกาฝาก ต้นตุมกา ต้นการ่อน ต้นเพกาที่บางทีเรียกว่าลิ้นฟ้า แล้วก็กาหลง บ้านน้องทรายที่ด่านช้างมีต้นกาหลงเถาเบ้อเร่อ ใหญ่เกือบเท่าขาอ่อน เลื้อยพันบ้านไปครึ่งหลัง เขาบอกว่าหลวงพ่อจะเอาไปทำวัตถุมงคลเมื่อไรให้ไปเอาได้เลย ไม่ได้ไปเอาสักที ประเภททำพวกสายเสน่ห์เขาจะใช้กัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 16-12-2014 เมื่อ 11:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #102  
เก่า 15-12-2014, 20:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,256 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทำไมถึงชื่อกาหลงครับ ?
ตอบ : หน้าตาต้นเหมือน ๆ กันหมด แล้วชอบขึ้นเป็นหมู่ ในเมื่อเหมือนกันหมดคนยังหลงเลย อย่าว่าแต่กา เขาถึงได้เรียกกาหลง หรือกาหลงรัง แต่ว่าต้นกาหลงที่กาญจนบุรีนั้น พวกนกมาเกาะอยู่แล้วไม่ไปไหน จนอดตายเป็นแถว ๆ เลย นั่นเขาเรียกว่ากาหลงเหมือนกัน แต่ว่าแบบที่เมืองกาญจน์ฯ น่าจะมีอำนาจพิเศษอะไรมากกว่า ส่วนกาหลงทั่ว ๆ ไปนั่นเป็นเพราะชื่อ

ถาม : เป็นไม้เถา ?
ตอบ : เป็นไม้ต้นกึ่งเถา เพราะถ้าขึ้นสูงแล้วมักจะเลื้อย ถ้าต้นเล็กจะยืนต้น

ถาม : แล้วลูกสวาด ?
ตอบ : ลูกสวาดส่วนใหญ่เขาจะเอาไปทำเสน่ห์กัน ถึงเวลาต้องกลืนลงท้องไปก่อน ผ่านไฟธาตุของเราย่อยก่อน พอถ่ายออกมาแล้วไปเขี่ยมาล้าง ค่อยเอามาใช้งาน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-12-2014 เมื่อ 03:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #103  
เก่า 15-12-2014, 20:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,256 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : กรณีคนที่ฆ่าตัวตาย เราจะทำอย่างไรเพื่อช่วยเขาได้คะ ?
ตอบ : ฆ่าตัวตายทำบุญอะไรไปให้เขาก็ได้ทั้งนั้นแหละจ้ะ เพราะว่ายังตายโดยไม่หมดอายุ เขาโมทนาได้หมดเลย จะว่าไปแล้วพวกนี้โชคดีนะ ฆ่าตัวตายเขามักเป็นอุปฆาตกรรม คือ กรรมที่มาตัดรอนให้ตายตั้งแต่ยังไม่หมดอายุ ไปรับดีรับชั่วก็ไม่ได้ ต้องเป็นสัมภเวสีเร่ร่อนไปเรื่อย ใครทำบุญไปให้ก็ได้หมด ถึงได้บอกว่าบางทีโชคดี แต่ก็ต้องดูนะ ไม่ใช่เห็นว่าโชคดีก็เลยลองไปฆ่าตัวตายดูบ้าง

ถาม : คนที่ฆ่าตัวตายต้องกำลังใจเข้มแข็งมาก เพราะปกติแล้วคนเราจะรักร่างกาย ?
ตอบ : เศร้าหมองเสียจนไม่เห็นประโยชน์ในการมีชีวิต ไม่ใช่เข้มแข็ง ถ้าไม่มีใครทำบุญให้ หมดอายุความเป็นมนุษย์มักจะลงข้างล่างไปเลย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 16-12-2014 เมื่อ 10:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #104  
เก่า 15-12-2014, 20:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,256 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ก่อนหน้านี้ไปช่วยงานภูเขาทอง เหมือนกับเราช่วยไปเรื่อย ๆ แต่ก็เพิ่มภาระงานขึ้น พอไม่มีงานก็รู้สึกว่าอยากจะทำ ...(ไม่ชัด).... ?
ตอบ : ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด คิดว่าทุกอย่างทำเพื่อเป็นพุทธบูชา ธัมมบูชา สังฆบูชา ตายเมื่อไรขอไปพระนิพพานที่เดียว เอาแค่นั้นแหละ โดยเฉพาะภูเขาทองมีพระบรมสารีริกธาตุ เท่ากับเราได้รับใช้อยู่ใกล้เบื้องพระยุคลบาทขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ถาม : ถ้าเราทำงานด้วยตั้งใจว่าถวายเป็นพุทธบูชา ธัมมบูชา สังฆบูชา อย่างนี้งานอื่น ๆ เราก็ทำได้ ?
ตอบ : ทำได้..ถ้าเป็นงานเพื่อส่วนรวมทำได้ทั้งนั้น

ถาม : เท่ากับเราปฏิบัติไปด้วยหรือเปล่า ?
ตอบ : เท่ากับเป็นการปฏิบัติธรรม อยู่ที่เราตั้งกำลังใจ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-12-2014 เมื่อ 03:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #105  
เก่า 16-12-2014, 12:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,256 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “คนเป็นพ่อแม่จำไว้เลยว่า ถ้ารักลูกต้องปล่อยให้ลูกทำอะไรด้วยตัวเองให้เร็วที่สุด เผื่อว่าอยู่ ๆ ไม่มีเราแล้ว เขาจะได้เอาตัวรอดได้ อาตมาหุงข้าวเองซักผ้าเองตั้งแต่อยู่ชั้น ป.๒ ทำกับข้าวเองเสร็จสรรพ เพราะว่าติดนิสัยชอบไปโรงเรียนแต่เช้า คราวนี้พี่สะใภ้เขาก็ต้องทำงานบ้าน ต้องเลี้ยงหมูเลี้ยงไก่ กว่าจะเสร็จแล้วค่อยมาหุงข้าวก็ช้า จึงทำเองเลยหมดเรื่อง”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-12-2014 เมื่อ 16:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #106  
เก่า 16-12-2014, 12:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,256 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “ในวรรณคดีทั้งบาลีและไทย นายพรานที่ดังมาก ๆ เลยก็จะมีพรานบุญในเรื่องพระสุธน-มโนราห์ พรานเจตบุตรในพระเวสสันดรชาดก แล้วก็พรานโสณุดรในฉัททันต์ชาดก พรานโสณุดรนี่ต้องบอกว่าแกสุดยอดเลย เพราะว่าทางที่จะเข้าไปถึงสถานที่อยู่ของพญาฉัททันต์ บางช่วงต้องปีนหน้าผาสูงเป็นร้อย ๆ วา แกก็อุตส่าห์ฟั่นเชือกหนัง ตอกหมุดโยงตัวเองลงไปจนถึง ปรากฏว่าขากลับพญาฉัททันต์ให้คาถาพญาช้างสารมา ก็เลยแบกงากลับได้แบบเดินภูเขาเป็นที่ราบเลย”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-12-2014 เมื่อ 16:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #107  
เก่า 16-12-2014, 12:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,256 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวกับโยมที่ตั้งใจถือศีลแปดอยู่ช่วงหนึ่งว่า “ไม่ต้องเสียเวลาไปลาศีลนะ กลับไปถือศีล ๕ ต่อได้เลย สมัยก่อนการที่เขาลาศีล เพราะว่าโยมไม่ค่อยจะรู้ว่าศีลมีอะไรบ้าง ในเมื่อเรารู้แล้วว่าศีล ๕ เป็นอย่างไร ศีล ๘ เป็นอย่างไร ก็ลดจากศีล ๘ ไปถือศีล ๕ เท่านั้นก็พอ ไม่ต้องไปลาแล้วก็สมาทานศีล ๕ ใหม่”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-12-2014 เมื่อ 03:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #108  
เก่า 16-12-2014, 13:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,256 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีโยมพาลูกมาทำบุญ "ได้กี่เดือนแล้วจ๊ะ ? (๑๑ เดือนค่ะ) รับรองว่าถ้าถามเดือนไม่มีทางถึงปี อาตมาเลี้ยงหลานมาเยอะ พอเลี้ยงเยอะ ๆ ก็เกิดความชำนาญ พอเกิดความชำนาญแค่มองก็รู้ว่าเด็กอายุกี่เดือนแล้ว ลักษณะการปฏิบัติธรรมก็ต้องซักซ้อมเยอะ ๆ จะเกิดความชำนาญ พอมีความคล่องตัวมาก ๆ เราจะเข้าสมาธิระดับไหนก็ได้ สลับกันไปสลับกันมาก็ได้ อย่างพวกมีทิพจักขุญาณ มีทิพโสต เวลารำคาญก็เข้าฌานสองฌานสามไป ไม่รู้ไม่เห็นอะไร แต่ถ้าอยู่อุปจารสมาธิหรือฌานสี่ก็เห็นหรือได้ยินหมด"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-12-2014 เมื่อ 16:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #109  
เก่า 16-12-2014, 13:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,256 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ความจริงคำว่า ๑๘ มงกุฎสมัยก่อนก็คือสุดยอดพญาลิง ๑๘ ตัว ความหมายมาเพี้ยนตอนหลัง มีความหมายของลิงหลอกเจ้าเข้ามาด้วย พอมาตอนหลังคำว่า ๑๘ มงกุฎเขาก็เลยเอาไปใช้กับพวกที่ล่อลวงคนอื่นเขา

ถ้าใครอ่านรามเกียรติ์รุ่นเก่า ๆ จะจำได้ “นิลเอกนิลนนท์นิลขันธ์ สุรเสนสุรกานต์ทหารใหญ่ อีกชามภูวราชฤทธิไกร มีอายุได้โกฏิปีปลาย” อาตมาเองรู้จักว่า “บัดนั้น” กับ “เมื่อนั้น” ต่างกันอย่างไรก็จากเรื่องนี้แหละ คุณครูท่านบอกว่าถ้าเป็นตัวเจ้าใช้ “เมื่อนั้น” แต่ถ้าหากว่าเป็นเสนาทหารจะใช้ “บัดนั้น” เช่น "เมื่อนั้น พระตรีภูวนาถนาถา กับ บัดนั้น พญาพิเภกยักษี" เป็นต้น

บางทีคำบรรยายในวรรณคดีต้องใช้จินตนาการตามไปเยอะมากเลย ที่ตลกที่สุดคือนิลนนท์วิ่งไปส่งข่าวกับพระราม ตอนไปไม่เป็นไรไปได้ แต่ขากลับหลงทาง

บัดนั้น.......................นิลนนท์ฤทธิไกรใจหาญ
ได้ฟังสุครีพบัญชาการ ............ก็วิ่งลนลานเข้ามา
ประโยคเดียวเท่านั้นเองวิ่งถึงพลับพลาเลย

ครั้นถึงน้อมเศียรอภิวาท .............พระตรีภูวนารถนาถา
สะอื้นพลางทางทูลกิจจา............ ว่าพระอนุชาวิลาวัณย์
ออกไปสัประยุทธ์ชิงชัย ...............กับอ้ายกุมภกรรณโมหัน
บัดนี้ต้องโมกขศักดิ์มัน............... พระน้องนั้นสุดสิ้นชนมาน

เขาใช้บรรยายคำเดียวว่า “ก็วิ่งลนลานเข้ามา” ถึงแล้ว แต่ตอนกลับบรรยายระยะทางยาวดีจัง จึงหลงทาง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-12-2014 เมื่อ 16:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 169 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #110  
เก่า 16-12-2014, 13:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,256 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาจินตนาการจะได้อรรถรส ต้องปรุงแต่ง แล้วเวลาเราจะเสพอรรถรสควรทำอย่างไร ?
ตอบ : จำเป็นต้องปรุง ไม่ปรุงก็ไม่อร่อย แต่ต้องมีสติคอยควบคุม อย่าให้เกินเลย ฉะนั้น..ต้องรู้ว่าอะไรก็ตาม ถ้าส่งจิตออกนอกจะเป็นสาเหตุของทุกข์ ถึงเวลาไม่มีให้เสพก็เริ่มแสวงหา ก็คือต้องยากลำบาก ต้องทุกข์ เราเห็นทุกข์จึงรู้จักระงับยับยั้ง ไม่คล้อยตามไปทั้งหมด

มืดคลุ้มอับแสงดาวเดือน........... เมฆเกลื่อนบดบังรัศมี
ไม่เห็นมรรคาพนาลี ................กระบี่พาหลงวงไป

ตอนมาวิ่งพรวดเดียวถึงเลย ตอนกลับดันพาหลงเสียได้ แต่ต้องบอกว่ายุคนั้นทันสมัยมากเลย พระรามยิงพลุนำวิถี ๓ ดวง..สว่างโร่เลย

ว่าแล้วจับจันทราทิตย์ ...............ทรงฤทธิ์พาดสายเงื้อง่า
น้าวหน่วงแผลงไปในเมฆา.......... เสียงสนั่นลั่นฟ้าธาตรี
เกิดเป็นศศิธรสามดวง ...............โชติช่วงจำรัสรัศมี
แสงสว่างพ่างพื้นธรณี............... ภูมีเร่งรีบเสด็จจร

ตอนวิ่งไปหาพระรามบรรยายประโยคเดียว ตอนกลับบรรยายเสียยาวเป็นหน้ากระดาษเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-12-2014 เมื่อ 16:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 164 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #111  
เก่า 16-12-2014, 13:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,256 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หนุมานเป็นลูกพระพายกับนางสวาหะ ก็เลยได้พรพิเศษว่า ถ้าสิ้นชีวิต ลมพัดมาต้องเมื่อไรก็ฟื้นใหม่ แล้วตามเรื่องหนุมานรบไม่เคยแพ้ ทำงานสำเร็จทุกครั้ง โบราณาจารย์ก็เลยสร้างเครื่องรางของขลังรูปหนุมานขึ้นมา ลักษณะถือเคล็ดว่าเป็นผู้ไม่ตาย แล้วประสบความสำเร็จในหน้าที่ทุกอย่าง มีหลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน เครื่องรางหนุมานดังที่สุด แล้วก็มีหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว เขาเรียกว่าลิงจับหลัก หลวงพ่อเชย วัดบางกระสอบ เป็นองคต องคตถือว่าทำงานสำเร็จก็จริง แต่ว่าถ้าเป็นสมัยนี้ต้องบอกว่าทำเกินหน้าที่ เป็นทูตเจรจา แต่ดันไปฆ่าทหารของทศกัณฑ์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-12-2014 เมื่อ 16:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #112  
เก่า 17-12-2014, 18:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,256 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "พอหลังวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๗ ในหลวงก็จะมีพระชนมายุ ๘๘ พรรษา ไปนึกถึงคนอายุ ๘๘ นี่จะเอาสมบูรณ์จริง ๆ ก็คงยาก เพราะว่าคนที่จะร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงทั้งที่อายุมาก ก็คือคนที่สร้างปาณาติบาตมาน้อย แต่ในอดีตชาติในหลวงเป็นจอมทัพในการกู้ชาติกู้แผ่นดิน ต้องบอกว่าสังหารฆ่าศึกมาจนนับไม่ถ้วน สุขภาพของพระองค์ท่านจึงได้ชำรุดทรุดโทรมไปตามแรงกรรมเก่าที่ได้ทำไว้ ขณะเดียวกัน..ในชาตินี้พระองค์ท่านก็ทรงงานจนแทบจะไม่มีเวลาพักผ่อน ก็ยิ่งทำให้พระวรกาย..ต้องใช้คำชาวบ้านคือ "กรอบ" ในเมื่อกรอบจนถึงที่สุด ทรุดลงไปครั้งหนึ่งก็ฟื้นคืนได้ยาก

สิ่งทั้งหลายเหล่านี้บางทีก็ทำให้พวกเราคิดประมาท บอกว่าได้ยินในหลวงตรัสว่าจะอยู่ถึง ๑๒๐ พรรษา ต้องบอกว่า นั่นเราได้ยินในหลวงตรัส อาตมาเองเห็นลายมือของหลวงพ่อวัดท่าซุงเขียนบอกไว้ว่า ท่านจะมรณภาพวันไหน เดือนไหน ปีไหน ก็ปรากฏว่าท่านจะต้องอยู่ถึงประมาณ ๑๑๘ ปี แล้วก็ไม่สามารถที่จะอยู่ได้ เพราะว่าร่างกายไปไม่ไหว เมื่อเป็นดังนั้นท่านก็ต้องตัดใจทิ้งร่างกาย ไปทำงานในลักษณะของกายทิพย์แทน

ถ้าพวกเราไปประมาทว่า ได้ยินในหลวงตรัสว่าจะอยู่ถึง ๑๒๐ พรรษา นั่นก็คือกำลังใจที่พระองค์ท่านตั้งใจไว้ เพื่อที่จะช่วยเหลือประเทศชาติของเรา เพื่อที่จะสร้างความสุขให้กับประชาชนให้ได้มากที่สุด..นานที่สุด แต่เราต้องดูด้วยว่าพระวรกายของพระองค์ท่านไหวหรือเปล่า ? ถัดจากนี้อีก ๒ ปี พระองค์ท่านก็ ๙๐ พรรษา อายุ ๙๐ นี่โบราณเขาบอก “ลูกหลานดูนั่งร้องไห้” ถ้าร้อยปี "ไข้ก็ตายบ่ไข้ก็ตายแล"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-12-2014 เมื่อ 02:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #113  
เก่า 17-12-2014, 20:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,256 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เมื่อทุกอย่างในโลกเป็นสมมติ เราจะพูดว่าการทำบุญเป็นสมมติได้หรือไม่ ?
ตอบ : ถ้านับแล้วทุกอย่างเป็นสมมติ แต่อย่าลืมว่าสมมติก็มีสัจจะ คือความจริงของสมมติอยู่ โดยเฉพาะในส่วนความเป็นจริงนั้น เป็นความจริงแท้ที่เถียงไม่ได้ แม้ว่าเราจะสมมติขึ้นมาว่าท่านเป็นอย่างนั้น ท่านเป็นอย่างนี้ แต่ท่านก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ เขาเลยเรียกว่าสมมติสัจจะ

ถาม : จริง ๆ แล้ว สมมติในโลกนี่ เกิดจากการสร้างขึ้นมาเองของเราทั้งหลาย ?
ตอบ : จะเรียกว่าการสร้างก็ใช่ จะเรียกว่าการปรุงแต่งก็ใช่ แต่ว่าท้ายที่สุดก็คือการถวายความเคารพต่อพระรัตนตรัย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 18-12-2014 เมื่อ 07:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 171 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #114  
เก่า 17-12-2014, 20:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,256 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : บางคนที่มีความสามารถพิเศษ เข้าใจสมมติในโลก เช่น เห็นว่าร่างกายหรือสิ่งของไม่ใช่แท่งทึบ ก็แทรกผ่านกันไปได้ เมื่อมีคนทำได้ถึงความพิเศษอันนี้แล้ว ทำไมจึงไม่เข้าใจความจริงของโลก ต้องถึงตรงไหนจึงจะเป็นปัญญา ? ?
ตอบ : ต้องเข้าถึงอริยสัจ ถ้าไม่เข้าถึงอริยสัจก็ยังเป็นปัญญาที่เอาตัวรอดไม่ได้ ในส่วนที่เขาเรียกว่าวิสุทธิ ๗ อย่างคือสีลวิสุทธิ จิตวิสุทธิ ทิฏฐิวิสุทธิ ก็คือความบริสุทธิ์ของศีล ความบริสุทธิ์ของจิต ความบริสุทธิ์ของทิฐิ คือความเห็น

บริสุทธิ์ของศีลก็จัดอยู่ในส่วนของศีลในไตรสิกขา จิตวิสุทธิจัดอยู่ในส่วนของสมาธิหรืออธิจิตสิกขา ทิฏฐิวิสุทธิจัดอยู่ในส่วนของปัญญา ก็คือปัญญาสิกขา ก็เลยกลายเป็นว่าในส่วนของปัญญาแท้ ๆ ก็ยังมีหลายระดับ เพราะยังมีกังขาวิตรณวิสุทธิ ก้าวข้ามความสงสัยเสียได้ จึงเกิดมัคคามัคคญาณวิสุทธิ เห็นหนทางที่จะมุ่งไปสู่ความบริสุทธิ์หลุดพ้น จากนั้นก็เป็นปฏิปทาญาณวิสุทธิ ทำเพื่อให้ถึงซึ่งความบริสุทธิ์หลุดพ้น จนไปถึงญาณทัสสนวิสุทธิ รู้แจ้งเห็นจริง เข้าถึงความบริสุทธิ์สิ้นเชิง เปรียบไปแล้วก็เหมือนกับคนเดินขึ้นที่สูง ยิ่งขึ้นสูงเท่าไรก็ยิ่งมองได้ไกลเท่านั้น

ฉะนั้น...ถ้ากำลังของศีล ของสมาธิของเราสูงมากเท่าไร ปัญญาของเราก็จะกว้างไกลเท่านั้น แล้วท้ายสุดก็จะสามารถเห็นทุกข์และเข้าถึงความดับทุกข์ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 02-09-2021 เมื่อ 19:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #115  
เก่า 17-12-2014, 20:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,256 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาที่รู้สึกปวดใจนี่เป็นเพราะโดนกิเลสเล่นงานใช่หรือไม่ ? อย่างเช่น เวลาที่เรารู้ตัวว่าพลาดท่ากิเลสไปแล้ว แทนที่จะวางลง ยังมาฟุ้งต่อเป็นเรื่องเจ็บใจว่าทำไมโง่นัก ?
ตอบ : ลักษณะอย่างนั้นแสดงว่าปัญญายังไม่พอ ก็จะโดนกิเลสหลอกไปเรื่อย ถ้าหากว่าปัญญาเพียงพอ จะสาวไปดูว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ? แล้วเราเลี่ยงจากสาเหตุนั้น เรื่องนั้นก็ไม่เกิดขึ้น เราก็ไม่ต้องมานั่งปวดใจอีก

ถาม : เวลาที่เราคิดชั่ว ต่อให้รู้ตัวก็ไม่ทันกิเลสไปแล้ว ทำอย่างไรก็ไม่ทันกิเลส ต้องทำอย่างไรจึงจะไม่แวบออกไป ?
ตอบ : อันดับแรกต้องไม่หลุดจากสมาธิเลย หลุดเมื่อไรกิเลสก็แทรกเข้ามาเมื่อนั้น หลังจากนั้นก็มาพิจารณาให้เห็นว่ามีทุกข์มีโทษอย่างไร ? จนกระทั่งจิตของเราเบื่อหน่าย ไม่คิดที่จะทำอย่างนั้นอีก ก็อาศัยกำลังของสมาธิช่วยเสริม ให้สภาพจิตมีความเด็ดขาดในการตัดละตรงนั้น ก็จะเลิกการกระทำอย่างนั้นได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 18-12-2014 เมื่อ 07:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #116  
เก่า 26-12-2014, 12:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,256 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เราเอาวัตถุมงคลเข้าพิธีเสกมีดหมอได้หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : เขาเสกมีดหมอ เอาวัตถุมงคลไปเสกเผื่อว่าจะกลายเป็นมีดบ้าง ได้ไหมล่ะ ?

ถาม : แล้วมีดของผมแบบนี้ล่ะครับ ?
ตอบ : มีดอะไรก็ได้แต่ต้องไม่ใช่มีดพับ เพราะว่ามีดพับเป็นมีดหมอไม่ได้

ถาม : ถ้าเอามีดสำนักอื่น ถ้าไปเสกในงานอานุภาพจะเปลี่ยนไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าท่านสงเคราะห์ให้มากกว่าก็เปลี่ยน

อาตมาเล็ง ๆ ว่าจะหาดาบคาตานาที่ญี่ปุ่นเขาตีด้วยมือ เล่มละ ๑๕๐,๐๐๐ ดอลลาร์ มาเข้าพิธี เป็นมือหนึ่งของโลกในการทำดาบซามูไร ทำกันเป็นปี ไม่ต้องห่วง..คิวยาวยันแกตาย ไม่รู้ว่าจะมีช่องให้เสียบแทนหรือเปล่า ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-12-2014 เมื่อ 14:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 161 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #117  
เก่า 26-12-2014, 12:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,256 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : โกรธโดยไม่มีสาเหตุ ?
ตอบ : ต้องมีสิ เพียงแต่ว่าเรารับแรงกระทบมาแล้วเรารู้ไม่ทันต่างหาก เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีสาเหตุ เราอาจจะไม่พอหู ไม่พอตา ไม่พอใจ เก็บ ๆ เอาไว้ ให้อภัยไปเรื่อย จนสุดท้ายให้อภัยไม่ไหว ก็ปรี๊ดแตก

ถาม : วิธีป้องกันไสยศาสตร์ ?
ตอบ : ถ้าเรามั่นใจในคุณพระรัตนตรัย ภาวนานึกถึงพระไว้เป็นปกติ อารมณ์ใจทรงตัวแค่ปฐมฌานละเอียด ไม่มีไสยศาสตร์หรืออันตรายภายนอกกล้ำกลายได้แล้ว เราก็ภาวนาของเราไป ส่วนคนอื่นจะเป็นอย่างไรก็ช่างเขา นึกถึงภาพพระคลุมเราเอาไว้มิดทั้งตัวเลย ใครทำอะไรมาก็ติดอยู่ที่พระ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-12-2014 เมื่อ 14:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 164 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #118  
เก่า 26-12-2014, 13:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,256 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เอามีดอะไรก็ได้ที่เรามั่นใจไปเข้าพิธี ถ้าไม่รู้จะเลือกอะไร อาตมาแนะนำ Gerlach หรือ Zwilling รู้จักไหม ? มีดทำครัว ใช้งานได้หลากหลายดีด้วย Zwilling ตราตุ๊กตาคู่คมสุด ๆ เลย ยี่ห้อ Gerlach ก็ได้ เหล็กหนักดี ใบมีดเขา ๗ นิ้ว ๙ นิ้ว คนเห็นแล้วสยอง แหลมเปี๊ยบเลย เล่มละไม่กี่ร้อย ไม่แพง เหล็กคุณภาพสุดยอด ไม่ขึ้นสนิมด้วย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-12-2014 เมื่อ 15:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #119  
เก่า 26-12-2014, 14:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,256 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "คุณวีรวิทย์ เหล่าวงค์ไทย เขาวิ่งรถจากลพบุรีมาทำบุญ คุณวันชัย พิทักษ์วงษ์ พาครอบครัววิ่งมาจากชลบุรี เขามีกำลังใจวิ่งทำบุญข้ามจังหวัด ถ้าเราไปเทียบกำลังใจแล้วยังสู้เขาไม่ได้ ไม่ติดฝุ่นเขาเลย ครอบครัวทิดเอฟอยู่โคราช วิ่งมาทำบุญที่นี่ทุกเดือน แล้วต้องผลัดกันมาด้วยนะ วันนี้แม่กับลูกเฝ้าบ้าน พ่อมา พรุ่งนี้พ่อเฝ้าบ้าน แม่กับลูกมา ฝากได้ก็ไม่ฝาก ขอมาทำเอง ถ้าเอกอยู่โคราชจะมาไหม ?"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-12-2014 เมื่อ 15:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 165 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #120  
เก่า 26-12-2014, 14:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,256 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "เมื่อกลางเดือนอาตมาลงไปพังงา กับภูเก็ต พังงาเพิ่งจะไปเป็นครั้งแรก โยมนิมนต์ไว้นานแล้วเพิ่งมีโอกาสแวะไป ภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สับสนวุ่นวาย เศรษฐกิจสะพัดมาก นักท่องเที่ยวฝรั่งแทบจะเดินชนกันตาย ในส่วนของพังงา จะมีนักท่องเที่ยวทางอยู่ด้านตะกั่วทุ่ง ทางด้านตะโก พอออกไปทางด้านตะกั่วป่านี่สงบเงียบ น่าอยู่ สองทุ่มแทบจะไม่มีรถบนถนนเลย

อาตมาแวะไปวัดสุวรรณคูหา วัดนี้มีพระปรมาภิไธยของพระมหากษัตริย์ตลอดจนเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงอยู่ แม้กระทั่งนายกรัฐมนตรีในอดีต อย่างเช่น พระยาพหลฯ พระยาทรงสุรเดช แต่ว่าลายพระหัตถ์ที่เห็นยากคือ ลายพระหัตถ์ของสมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมารองค์แรกเลย

ไปถึงพอลงรถ พระปลัดธนารักษ์รี่เข้ามาต้อนรับ "ดีใจมากเลยครับ ที่
พระอาจารย์มาโปรดวัดผม" อาตมาก็..เฮ้ย..! "ผมตามผลงานพระอาจารย์ในเว็บมาหลายปีแล้วครับ ยังไม่รู้จักท่านอาจารย์เลย เพิ่งมีโอกาสได้เจอตัวเป็น ๆ วันนี้เอง แล้วมาเจอที่วัดตัวเองด้วย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-12-2014 เมื่อ 13:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:00



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว