กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 23-05-2014, 18:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,399
ได้ให้อนุโมทนา: 157,996
ได้รับอนุโมทนา 4,479,749 ครั้ง ใน 36,008 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันศุกร์ที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๕๗

ให้ทุกคนขยับนั่งในท่าที่สบายของตัวเอง ตั้งกายให้ตรง กำหนดความรู้สึกทั้งหมดไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า..ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก..ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ ที่เรามีความถนัดมาแต่เดิม

วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ เมื่อช่วงวันที่ ๓ ที่ผ่านมา ทางวัดมีงานไหว้ครู พุทธาภิเษก และเป่ายันต์เกราะเพชร มีบุคคลจำนวนมากที่มีสิ่งที่ไม่ดี ไม่ว่าจะเป็นการแทรก การแฝงมา หรือว่าจะโดนคุณไสยต่าง ๆ มาก็ตาม เมื่ออยู่ในที่ซึ่งทำพิธีเป่ายันต์เกราะเพชร ก็จะมีการดิ้นรน ส่งเสียงร้อง พวกเราจำนวนมากเกิดความกลัว

การที่เกิดความกลัวนั้นมีอยู่ ๒ อย่างด้วยกัน อย่างแรกคือ สัญชาตญาณ ถ้าเราไม่ใช่บุคคลที่ปล่อยวางได้จริง ๆ ก็มักจะกลัวอันตรายต่าง ๆ เป็นปกติ ความกลัวอีกประการหนึ่ง เนื่องจากความไม่มั่นคงในใจของตนเอง เรื่องของไสยศาสตร์หรือว่าสิ่งไม่ดีไม่งามต่าง ๆ นั้น ถ้าเราสามารถภาวนาจนกำลังใจทรงตัวได้ระดับหนึ่ง เอาแค่ปฐมฌานก็พอ สิ่งทั้งหลายเหล่านี้จะทำอันตรายเราไม่ได้เลย

เพราะบุคคลผู้ทรงปฐมฌานได้ จะมีกำลังเท่ากับพรหมชั้นที่ ๑ หรือชั้นที่ ๒ หรือชั้นที่ ๓ ตามแต่ความหยาบความละเอียดของสมาธิของตน ในเมื่อกำลังเราสูงขนาดนั้น ถ้าไม่เผลอสติ ปล่อยให้กำลังใจขาดช่วงลง บรรดาไสยศาสตร์ต่าง ๆ จะทำอันตรายไม่ได้ ผีเจ้าต่าง ๆ เข้าสิงไม่ได้ เพราะกำลังของเราเหนือกว่า ยกเว้นท่านที่มีกำลังสูงกว่า ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นพรหมที่ชั้นสูงขึ้นไป หรือพระอริยเจ้า ซึ่งท่านทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าไม่ใช่มีกรรมเนื่องกันมาจริง ๆ ก็จะไม่มายุ่งเกี่ยวกับเรา

ดังนั้น..ในวันนี้ต้องการให้ทุกคนซักซ้อมดูลมหายใจเข้าออกของตนให้เป็นปกติ เพื่อที่จะสร้างเสริมสมาธิของเราให้มั่นคง จะได้เป็นการป้องกันอันตรายต่าง ๆ ได้ เหมือนกับบุคคลที่ฝึกซ้อมร่างกายมาคล่องตัวกว่า แข็งแรงกว่า ย่อมไม่ต้องหวาดกลัวคู่ต่อสู้ที่อ่อนแอกว่า เป็นต้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-05-2014 เมื่อ 01:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 68 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 25-05-2014, 10:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,399
ได้ให้อนุโมทนา: 157,996
ได้รับอนุโมทนา 4,479,749 ครั้ง ใน 36,008 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้าเราสามารถรักษากำลังใจของเราให้ทรงตัวได้ นอกจากอันตรายต่าง ๆ เหล่านี้จะทำอันตรายเราไม่ได้แล้ว กำลังสมาธิยังเป็นเครื่องช่วยเสริมปัญญาให้เกิดขึ้น ทำให้เราเห็นทุกข์เห็นโทษว่า การเกิดมาในโลกนี้ มีอันตรายต่าง ๆ มาเบียดเบียนรอบข้าง ไม่ว่าจะความหิว ความกระหาย ความร้อน ความหนาว ความเจ็บไข้ได้ป่วย แล้วก็ยังมีคน มีสัตว์ มีผีเจ้าเข้าสิงต่าง ๆ มาคอยเบียดเบียนอยู่ มีอันตรายจากไสยศาสตร์มาคอยเบียดเบียนอยู่ ขึ้นชื่อว่าการเกิดมามีร่างกายที่มีความทุกข์เช่นนี้ เรายังต้องการอีกหรือไม่ ?

ถ้าเราเห็นชัดเจนว่าร่างกายนี้หาความดีไม่ได้ มีชีวิตอยู่ก็เหมือนกับไต่อยู่ที่ขอบเหว ไม่ทราบว่าจะโดนทำอันตรายด้วยสิ่งต่าง ๆ เมื่อไร ก็จะเกิดความเบื่อหน่าย ไม่อยากได้ ไม่ต้องการในร่างกายนี้ หรือไม่ก็พิจารณาเห็นว่า การเกิดมามีร่างกายที่มีแต่ความทุกข์เช่นนี้ ต้องคอยหวาดกลัวอันตรายต่าง ๆ เช่นนี้ หรือว่าการเกิดมาในโลก เต็มไปด้วยความทุกข์ยากเร่าร้อน สัตว์ทั้งหลายมีการเบียดเบียนกันเป็นปกติ ขึ้นชื่อว่าการเกิดมามีร่างกายที่เป็นทุกข์เช่นนี้ การเกิดมาในโลกที่มีแต่ความทุกข์เช่นนี้เราไม่ต้องการอีก ถ้าหากว่าตายลงไปเมื่อไร เราปรารถนาที่เดียวคือพระนิพพาน

เอาใจสุดท้ายของเราเกาะที่พระนิพพาน หรือนึกถึงภาพพระพุทธรูปที่เรารักเราชอบมากที่สุด ตั้งใจว่านั่นคือพระพุทธนิมิต แทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบนพระนิพพาน เอากำลังใจเกาะเกี่ยวอยู่ที่ภาพพระ แล้วใช้คำภาวนาหรือพิจารณาของเราไปตามอัธยาศัย ตั้งใจว่าวันนี้ถ้าหมดอายุขัย ตายลงไปก็ดี หรือเกิดอุบัติเหตุอันตรายใด ๆ ถึงแก่ชีวิตก็ดี เรามาขออยู่กับองค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่พระนิพพานนี้แห่งเดียวเท่านั้น แล้วตั้งใจกำหนดดู กำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกของเราไป จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันศุกร์ที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๕๗

(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยทาริกา)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-05-2014 เมื่อ 11:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 53 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:41



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว