กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #121  
เก่า 12-12-2013, 09:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,540 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าเราทำบุญสังฆทานไป ผู้ตายเขาจะได้รับหรือไม่คะ ถ้าอาหารนั้นไม่ได้เป็นอาหารสด ?
ตอบ : ถ้าเขาโมทนาได้ก็ได้รับทั้งนั้น ในสังฆทานมีอาหารอยู่แล้ว จะสดหรือแห้งก็ทำให้เขามีความอิ่มทิพย์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-12-2013 เมื่อ 10:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 200 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #122  
เก่า 12-12-2013, 09:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,540 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การช่วยเหลือคนอื่นไม่ว่าเป็นญาติก็ดีหรือไม่เป็นญาติก็ดี เราควรวางกำลังใจอย่างไรเพื่อไม่ให้ รัก โลภ โกรธ หลง กินใจเราครับ ?
ตอบ : ก็คือเมตตาพรหมวิหารนั่นแหละ เพียงแต่ต้องขีดขอบเขตให้ชัดเจน เพราะว่าถ้าไม่ชัดเจน การช่วยเหลือสงเคราะห์เพศตรงข้ามจะทำให้เขาเข้าใจผิดด้วย ถ้าเขาเข้าใจผิดว่าเราไปช่วยเขาเพราะเราชอบเขา นั่นยังไม่มีปัญหา แต่ถ้าเขาชอบเราคืนมาจะเฮงไม่รู้จบ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-12-2013 เมื่อ 10:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #123  
เก่า 12-12-2013, 09:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,540 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "บริษัทที่รับสร้างพระไพรีพินาศเขาเสนอราคามาสูง อาตมากดราคาลดฮวบลงไปแล้ว เขาบอกว่าขาดทุน แต่ก็อาสาจะทำ ก็เลยงง ๆ ว่าโลกนี้มีคนดีขนาดนี้ด้วยหรือ ?"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-12-2013 เมื่อ 10:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 209 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #124  
เก่า 12-12-2013, 09:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,540 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : เอาคาถาเงินล้านไปภาวนา ให้ตั้งใจทำจริง ๆ ทำด้วยความเคารพ ถ้าทำจริง ๆ รับรองว่ามีความคล่องตัวแน่ ๆ ส่วนใหญ่พอให้ไปทำเองแล้วไม่ค่อยจะทำกัน

ในตัวคาถาเงินล้านจะมีคาถาปัดอุปสรรค คาถาให้สำเร็จ และคาถาเรียกเงิน ปนอยู่ในนั้น ตั้งหน้าตั้งตาทำไป ถ้าเวลามีไม่มากก็เอาวันละ ๑๐๘ จบก็พอ ถ้ามีเวลามาก ๆ อย่างอาตมาภาวนาวันละ ๑,๐๐๐ จบ ทำให้สม่ำเสมอ ทำได้มากที่สุดเท่าไรให้ทำเท่านั้น สัก ๒ เดือนเห็นผลแล้ว

ต้องบอกว่าอาตมาดวงยากเข็ญ เกิดมาไม่เคยตกงาน ไม่เคยตกงานไม่พอ งานล้นมืออีกต่างหาก เวลาได้ยินคนอื่นเขาตกงานหรือลำบากเรื่องงานก็นั่งแปลกใจ ตกลงว่าอาตมาทำบุญด้วยอะไรมา งานแต่ละอย่างทำกันแทบเป็นแทบตาย บางช่วงเขาเร่ง ๆ ทำกันข้ามวันข้ามคืน การทำงานล่วงเวลาเขาไม่ให้เกิน ๓ แรง แต่เจอเกิน ๓ แรงเป็นประจำ ท่วมเงินเดือน ใช้คาถานี้บทเดียว โยมไปลงทำดู ขอให้เคารพจริง ๆ เท่านั้นแหละ


ถาม : การงานติดขัดตลอด ?
ตอบ : ไม่ต้องไปใส่ใจเรื่องนั้นเลย บอกแล้วว่าคาถาที่ว่ามีปัดอุปสรรค เรื่องติดขัดเรื่องอะไร ถ้าเราตั้งใจว่าคาถาก็ไม่มีปัญหา เสียเวลาถาม ไปเริ่มทำได้เลยจ้ะ

ถ้าตามพระไตรปิฎก ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีถึงขนาดกลายเป็นคนจนเลย เพราะว่ากองเรือที่ไปค้าขายต่างประเทศก็โดนคลื่นซัดหายไป กองสินค้าที่อยู่ริมน้ำก็โดนน้ำเซาะถล่มลงน้ำไป กองเกวียนที่ไปค้าขายต่างเมืองก็ไม่ได้ข่าวไม่ได้คราว แต่ว่าท่านเองไม่ได้เสื่อมศรัทธาในพระพุทธศาสนา เพราะรู้ว่าบางทีกรรมเก่ามาพอดี ท่านก็ยังคงเลี้ยงพระวันละ ๕๐๐ รูปเหมือนเดิม แต่จากที่เคยเลี้ยงด้วยข้าวมธุปายาสที่เป็นของแพง ก็เลี้ยงด้วยข้าวต้มกับน้ำผักดอง แต่ก็ยังเลี้ยงอยู่เป็นปกติ

ท้ายที่สุดก็ได้ทุกอย่างได้กลับคืนมา กองเรือที่ถูกคลื่นซัดหายไปในทะเล ถึงเวลาพอจับทิศได้ก็กลับมา กองเกวียนก็กลับมา คลังสินค้าที่ถล่มลงน้ำไป เทวดาก็ขนของมาคืน ฉะนั้น..บางวาระกรรมเก่าที่เราเคยทำไว้ส่งผล ก็จะเกิดอุปสรรค วิธีแก้ไขอุปสรรคได้ดีที่สุด คือทาน ศีล ภาวนา ทานทำ ๑ ได้ ๑๐๐ ศีลทำ ๑ ได้ ๑๐,๐๐๐ ภาวนาทำ ๑ ได้ ๑,๐๐๐,๐๐๐ ไปภาวนาคาถาเงินล้านจะสะดวกที่สุด ส่วนใหญ่จะไปหาหมอดูสะเดาะเคราะห์ เขาก็แนะนำให้เราเปลืองเงินทุกที วิธีที่อาตมาแนะนำไป ไม่เสียเงิน ถ้าทำดีทำถูกก็รวยอีกต่างหาก โยมลองไปทำดู
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-12-2013 เมื่อ 10:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 206 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #125  
เก่า 12-12-2013, 10:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,540 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "เมื่อวันที่ ๒๗ ไปพุทธาภิเษกที่วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ ญาติโยมทำบุญกับอาตมาไว้มาก อาตมาก็ยกเข้ากองกฐินของวัดไป ตุ๊พ่อสิงห์ท่านไม่ยอม ท่านคว้าซองไปเรี่ยไรโยมมาถวายใหม่ ท่านบอกว่าอย่าไปใส่ขัน ใส่ขันแล้วครูบาเล็กท่านคืนมาหมด ท่านเลยไปเรี่ยไรโยมมาใหม่ ตั้งใจจะถวายกลับวัด อาตมากลับวัดก็เอาเข้าบัญชีสร้างพระทองคำ เห็นศรัทธาโยมอยากทำก็ต้องการให้เขาได้บุญมาก นับไปนับมาตั้ง ๓ หมื่นกว่าบาทก็ตกใจ ทำไมถวายกันมาเยอะนัก

ที่ขำที่สุดก็คือ ไม่รู้หรอกว่าที่นั่นมีช้างของท่านแม่จามเทวีอยู่ ท่านแม่จามเทวีมีช้างคู่บารมี ซึ่งพอพระองค์ท่านขึ้นครองราชย์ก็ตั้งให้เป็นพญางาเขียวศัตรูพินาศ คำว่า "เขียว" ก็คือดำนั่นแหละ เป็นช้างเผือกงาสีดำ คำว่า "นิล" บางคนเขาบอกว่าเป็นสีเขียว บางคนบอกว่าเป็นสีดำ ต้องเข้าใจว่าดำจนเขียวเป็นอย่างไร ดำจริง ๆ แบบที่เขาบอกว่าพระรามผิวเขียว จริง ๆ แล้วก็คือดำมาก

คราวนี้อาตมาไปทำบวงสรวงให้ ปรากฏว่าพญาช้างท่านก็มา พญาช้างนี้เขาเรียกทั่ว ๆ ไปว่าปู้ก่ำงาเขียว ก็คือช้างพลายงาดำ คราวนี้พอท่านมา ท่านบอกว่าขอพวงมาลัยสักพวงหนึ่ง เพื่อแสดงออกว่ายินดีให้ท่านมาช่วยงาน จึงเรียนให้ตุ๊พ่อสิงห์ทราบ อาตมาก็ยังคิดว่าต้องไปถึงโน่น อนุสาวรีย์พระแม่เจ้าจามเทวีที่ในตัวเมืองลำพูน เพราะว่าเขาทำอนุสาวรีย์รูปช้างปู้ก่ำงาเขียวที่นั่น ปรากฏกว่าตุ๊พ่อสิงห์สร้างช้างไว้หน้าศาลา อาตมาไม่เคยมองเห็นเลย เพราะว่าทุกครั้งที่ไปงานจะติดเต็นท์โรงทาน แล้วคนเต็มไปหมด มองไม่เคยเห็นช้างสักที

พอพุทธาภิเษก พระท่านบอกว่างานพุทธาภิเษกนี้ ท่านให้พรเอาไว้ว่า ให้มีความสำเร็จทุกที่ เหมือนพญาช้างเอราวัณ ที่ช่วยงานมฆมานพจนสำเร็จทุกประการ ผลบุญนั้นส่งผลให้มฆมานพกลายเป็นพระอินทร์ และพญาช้างเอราวัณก็ขึ้นไปอยู่บนสวรรค์
ติดตามไปคอยรับใช้ด้วย ให้มีชัยชนะในทุกทิศ เหมือนพญาช้างปู้ก่ำงาเขียว ที่ออกรบที่ไหนไม่เคยแพ้ ช่วยให้พระแม่เจ้าจามเทวีสามารถสถาปนาอาณาจักรหริภุญชัยได้ยิ่งใหญ่ ครอบคลุมทั่วทั้งภาคเหนือ

ให้กลับร้ายกลายเป็นดี เหมือนพญาช้างนาฬาคีรี ที่เปลี่ยนจากมิจฉาทิฐิเป็นสัมมาทิฐิ คือเปลี่ยนจากความคิดจะทำร้ายพระพุทธเจ้า กลายเป็นเคารพเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา จนกระทั่งจะได้บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระพุทธเจ้าอีกพระองค์หนึ่ง ท่านให้พรไว้ ๓ อย่างด้วยกัน

ใครที่ทำบุญกฐินวัดถ้ำป่าไผ่ในเว็บไซต์ ก็น่าจะได้บูชาพญาช้างเอราวัณมา แล้วตุ๊พ่อสิงห์ท่านยังมีคาถาขอสับช้างไว้เรียกคนมาช่วยงาน ลองไปสอบถามดู"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-12-2013 เมื่อ 10:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 217 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #126  
เก่า 12-12-2013, 10:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,540 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"อาตมาขี้เกียจเรียนวิชา ปวดหัว เรียนมากรู้มาก ก็ลำบากมาก สมัยบวชใหม่ ๆ อยู่ที่วัดท่าซุง ถึงเวลาอะไรก็ตาม บรรดาพี่ ๆ ก็บอกให้ท่านเล็กไปทำ อาตมาทำจนเซ็ง เพราะว่าถึงเวลาไปสวดมนต์บ้าน ก็จะมีคนให้เจิมบ้าน คนโน้นก็ให้เจิมรถ สารพัด บางทีเหนื่อย ๆ ขึ้นมาก็บ่น แต่ละคนทำไมไม่เรียนไว้บ้าง พี่เขาก็หัวเราะ "เป็นแล้วก็เหนื่อย"

อาตมาเองดวงหมาแก่ ประเภทลำบากตัวเองยังไม่พอ ลำบากลูกหลานด้วย บางอย่างก็ไม่ได้เจตนาเรียน แต่เหมือนหลวงพ่อท่านเจตนาให้ อาตมาจะพอดีอยู่ในเหตุการณ์ทุกที ถึงเวลาท่านทำให้ดู ก็จำแบบอย่างไว้มาทำต่อ กลายเป็นว่าปัจจุบันรู้สึกว่าจะเหนื่อยกว่าเพื่อน

พี่ ๆ น้อง ๆ ทั่วประเทศไทย พุทธาภิเษกที่ไหน เรียกแต่อาตมา อย่างหลวงพ่อองอาจ "อาจารย์เล็กนิมนต์ไปพุทธาภิเษกหน่อย กำหนดงานได้เองเลยนะ ว่างวันไหนมาหน่อยแล้วกัน" แบบนี้มัดมือชกชัด ๆ กะว่าให้เขานิมนต์ แล้วอาตมาบอกว่าวันนี้ ติดงาน ไม่ว่าง ไม่ไป ที่ไหนได้ให้กำหนดงานเอง

งานหลวงพ่อชลอ วัดศาลพันท้ายนรสิงห์ ก็เหมือนกัน "อาจารย์เล็กสะดวกเมื่อไรก็เอาวันนั้นแหละ" ตกลงท่านพี่ทั้งหลายจับอาตมาเป็นตัวประกันทุกที"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-12-2013 เมื่อ 10:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 206 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #127  
เก่า 12-12-2013, 10:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,540 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีโยมมาถวายน้ำปานะ พระอาจารย์กล่าวว่า "น้ำปานะพระพุทธเจ้าท่านไม่ให้ข้ามวัน คุณเอามาขนาดนี้ต้องอาบด้วยถึงจะหมด เขาเรียกว่าทำบุญแบบไร้สติ ที่ท่านไม่ให้ข้ามวันเพราะว่าของสดเสียง่าย แล้วพระองค์ท่านตรัสว่าทำให้สุกก็ไม่ควร จะเห็นอัจฉริยภาพของพระพุทธเจ้าท่าน ถ้าน้ำผลไม้ไปทำให้สุก พวกวิตามินแร่ธาตุต่าง ๆ จะเสียหมด จึงต้องคั้นสด แล้วก็ห้ามข้ามวัน เพราะถ้าข้ามวันมักจะบูด ดีไม่ดีก็กลายเป็นไวน์ เมาหัวทิ่ม..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-12-2013 เมื่อ 10:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #128  
เก่า 12-12-2013, 10:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,540 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ความจริงอาตมาอยากจะทำกุมารทองนะ แต่เข็ดมาตั้งแต่สมัยที่ยังไม่ได้บวช ที่เข็ดก็คือเขาซน ห้ามไม่ค่อยอยู่ หลานสาวตอนนี้ก็อายุน่าจะถึง ๓๐ ปีแล้ว เชื่อไหมว่าจากบันไดชั้นบน หลานสาวกลิ้งลงไปถึงข้างล่างเลย เขาปล้ำกันกลิ้งลงไป บันไดตั้ง ๑๐ กว่าขั้น ไม่ตายก็บุญโขแล้ว เล่นกันตึงตังโครมคราม ท้ายสุดอาตมาทนไม่ไหว เอาใส่กองผ้าป่าถวายวัดไปเลย คือวิญญาณเด็กก็ซนเหมือนเด็ก ต่อให้เราถวายสังฆทานให้เขาจนเป็นเทวดา เขาก็ยังมีนิสัยแบบเด็ก ๆ

เรื่องกุมารทอง ถ้าเป็นของพระเกจิอาจารย์ก็ต้องหลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม คราวนี้หลวงพ่อเต๋ท่านสิ้นไปแล้ว ก็เป็นหลวงพ่อแย้ม ท่านทำต่อมา ถ้าเป็นรุ่นหลวงพ่อเต๋ก็แน่ใจได้ เพราะท่านบอกว่าทำจนเป็นเทวดาหมดแล้ว ถ้าเป็นฆราวาสที่เจ๋ง ๆ คาตาเลย ต้องสมัยอาจารย์ชุม ไชยคีรี กุมารทองของอาจารย์ชุมทุกตัวต้องฝังตะกรุดสะกดวิญญาณไว้ เหตุที่ต้องสะกดไว้คือป้องกันเขาซน ถึงเวลาจะใช้งาน ค่อยอ่านคาถาคลายสะกด พอใช้งานเสร็จก็ต้องรีบสะกดไว้ต่อ ถ้าวันไหนลืมสะกดก็คงสนุกสนานกันเป็นแน่..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-12-2013 เมื่อ 10:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 203 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #129  
เก่า 12-12-2013, 10:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,540 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เห็นว่าการปรุงแต่งไม่ได้เกิดจากปัจจัยด้านนอก แต่เป็นปัจจัยด้านการคิดคือตัวเราเอง ?
ตอบ : อยู่ที่ใจเราคิด เราถึงต้องหยุดคิดให้ได้ การที่จะหยุดคิดให้ได้ อันดับแรกต้องเห็นโทษ ว่าคิดแล้วเกิดโทษอย่างไร เราจึงจะหยุดความคิดนั้น เพราะว่าเราปรุงไปในทางไม่ดี เราโกรธ ก็พาเราลงต่ำ ถ้าปรุงไปในทางดี เกิดปีติขึ้นมา อย่างดีก็แค่กามาวจรสวรรค์ ไปไกลกว่านั้นไม่ได้

จิตคือเรา จิตไม่ใช่ของเราหรอก จิตเป็นเราเลย เพียงแต่ว่าถ้าเราแบกนั่นแบกนี่ก็หนัก ไปไหนไม่รอด ต้องสลัดทิ้งให้มากที่สุด จะได้ไปให้ไกลที่สุด


ถาม : การที่เราพิจารณาก็เป็นตัวปรุงแต่ง ?
ตอบ : ปรุง..แต่ว่าปรุงแล้วปัญญาเกิด แต่ถ้าปรุงเอาอร่อยอย่างเดียวก็ไปไม่รอด

ถาม : การพูดก็มีการปรุงในถ้อยคำหรือความจำของเรา แล้วเราจะทันกิเลสหรือคะ ?
ตอบ : อยากจะบอกว่ากิเลสเร็วเท่าความคิดของเรา แต่บางทีก็เร็วกว่า เพราะว่าสติเราตามไม่ทัน ปรุงไปแล้วยังไม่รู้ตัวเลยว่าปรุงแล้ว ถึงแม้ว่าจะเร็วเท่าความคิดของเราก็จริง แต่ตอนปรุง ถ้าสติเรารู้ไม่ทันกิเลสก็เร็วกว่า

ถาม : จริง ๆ ค่ะ บางคนเขาไม่ค่อยรู้ตัว
ตอบ : ดูที่ตัวเอง ดูคนอื่นไม่มีประโยชน์ ดูที่ตัวเองเราจะแก้ไขตัวเองได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-12-2013 เมื่อ 10:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #130  
เก่า 12-12-2013, 10:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,540 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "หลายคนระยะหลังตั้งใจมาบูชาวัตถุมงคลเพื่อไปปล่อยต่อโดยเฉพาะ บางคนก็ใจถึงมาก บอกว่า “คิดว่าเป็นค่าเดินทางของผมแล้วกัน บวกราคาไปจากวัด” แต่บางท่านก็ประเภทปล่อยไปราคาแพงหลายเท่าแบบหน้าตาเฉย

สมเด็จองค์ปฐมหลังพระสิวลีองค์จิ๋ว ๆ ที่พวกเราเวียนเทียนรับกันสนุกสนาน เขาไปปล่อยกันองค์ละ ๓๕๐ บาท นี่ถ้าเขาเวียนเทียนสัก ๑๐ รอบก็สบายแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-12-2013 เมื่อ 10:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 197 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #131  
เก่า 13-12-2013, 14:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,540 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เราภาวนา แล้วกายในหลุดออกมาเอง แต่ก็ยืนอยู่ตรงนั้น ?
ตอบ : ถ้าไม่มีการตั้งใจไว้ก่อน จะไปไหนไม่ถูก ฉะนั้น..ก่อนนอนให้ตั้งใจตัดร่างกายนี้ให้ดี ให้เห็นจริง ๆ ว่าไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา คิดว่าขึ้นชื่อว่าการเกิดมาเช่นนี้ไม่มีอีกแล้ว เราขอไปพระนิพพาน แล้วเอากำลังใจเกาะพระหรือเกาะพระนิพพาน แล้วภาวนาหลับไป ถ้าหลุดก็จะไปตรงนั้นเลย

ถาม : อย่างนี้เป็นครึ่งกำลังหรือครับ ?
ตอบ : เต็มกำลังนั่นแหละ แต่ว่าเราไม่ได้กำหนดเป้าหมายไว้ เลยไปไหนไม่เป็น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-12-2013 เมื่อ 17:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #132  
เก่า 13-12-2013, 14:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,540 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เมื่อปี ๒๔๕๐ เหมือนสมเด็จพระสังฆราชมีการให้พระที่มีอภิญญามาทำให้...(ไม่ชัด) ?
ตอบ : สมัยนั้นท่านมีความเห็นว่า เรื่องที่เขาทำได้กันเป็นข่าวลือเสียมากกว่า เลยอยากทดสอบดูว่าทำได้จริงหรือไม่ ด้วยความที่ท่านไม่เข้าใจว่าพระเรามีหลายระดับ ในขณะเดียวกัน มีทั้งที่ได้อภิญญา มีทั้งที่ใช้แค่พลังจิตก็คือตัวสมาธิกับคาถาอาคม แล้วท่านกะจะให้เขาใช้อภิญญาใหญ่ ก็เลยทำกันไม่ได้ ที่ทำได้จริง ๆ มีแค่ไม่กี่องค์

ถาม : ท่านที่ทำได้เป็นพระอภิญญา ?
ตอบ : ส่วนใหญ่มาทางสายกสิณ ๑๐
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-12-2013 เมื่อ 17:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 173 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #133  
เก่า 13-12-2013, 14:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,540 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เราจะทราบได้ไหมคะว่าคนที่เสียชีวิตไปแล้วเขาไปสุคติภูมิหรือทุคติภูมิ ?
ตอบ : ถ้าไม่มีทิพจักขุญาณก็ต้องเดาเอาอย่างเดียวเลยจ้ะ

ถาม : ถ้าเป็นความฝัน ?
ตอบ : ถ้าฝันหลังเที่ยงคืนไปแล้ว ก็พอจะประมาณได้อยู่ ถ้าก่อนหน้านั้นก็ถือว่าเลอะเทอะ ส่วนใหญ่ฝันตอนใกล้รุ่งจะแม่น เพราะจิตที่ฟุ้งมาทั้งวันเริ่มนิ่งแล้วจ้ะ

ถาม : ถ้าเรานั่งกรรมฐานแล้วอุทิศให้เลย กับวันถัดไปอุทิศไป ?
ตอบ : จริง ๆ แล้วนึกได้เมื่อไร ก็อุทิศได้เมื่อนั้น ให้ตั้งใจว่าผลบุญทั้งหมดที่เราทำมาตั้งแต่ต้นจนบัดนี้ ขออุทิศให้แก่เธอ เพราะว่าเราทำมาเยอะแยะแล้ว บุญก็ไม่ได้ไปไหนหรอก นึกถึงเมื่อไรก็รวมตัวอุทิศให้เขาไป ถ้าไม่แน่ใจก็ไปเริ่มต้นทำบุญใหม่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-12-2013 เมื่อ 17:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #134  
เก่า 13-12-2013, 15:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,540 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : สบงเป็นบริวารกฐินได้หรือเปล่าคะ ?
ตอบ : ไม่ใช่บริวารกฐินแล้ว แต่เป็นผ้ากฐินเลย ไม่ว่าจะเป็นสบง จะเป็นจีวร จะเป็นสังฆาฏิ ถ้าหาไม่ได้ ให้หาผ้ากว้างคืบยาวคืบ ก็ถือเป็นผ้ากฐิน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-12-2013 เมื่อ 17:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #135  
เก่า 13-12-2013, 15:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,540 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เราเสียใจ ร้องไห้คิดถึงคนที่เสียไป จะทำให้ใจของเขาเศร้าหมองไหมคะ ?
ตอบ : อยู่ที่ว่าเขารับได้ไหม ส่วนใหญ่น้อยรายที่จะรับได้ ถ้ากำลังใจอยู่ในระดับรับความรู้สึกของคนอื่นได้ ส่วนใหญ่สมาธิต้องทรงตัว คนที่สมาธิทรงตัวตอนนั้นจะไม่ยินดียินร้ายกับเรา ตอนนั้นเขาก็ไม่ได้เศร้าไปกับเราหรอก แต่รับรู้ว่าเราเป็นอย่างไร

ถาม : ระดับที่เขารับได้ต้องอยู่สุคติภูมิเป็นต้นไปหรือเปล่าคะ หรือไม่จำเป็น ?
ตอบ : จริง ๆ แล้วพวกที่อยู่ทุคติภูมิก็รู้นะ อย่างพวกอสุรกายหรือเปรต พวกนี้เขาถือว่าอยู่ในเขตของความเป็นทิพย์ รับรู้อะไรง่ายกว่าเรา

ถาม : อย่างหนูนั่งสมาธิแล้วอุทิศให้เขา หนูนั่งได้แค่ขณิกสมาธิเอง ?
ตอบ : ขอให้ได้ทำ จะได้มากได้น้อยเป็นกุศลทั้งนั้น ตั้งใจอุทิศให้เขาไป ไม่ใช่ว่าต้องนั่งให้ได้ฌาน ๔ หรือสมาบัติ ๘ แล้วค่อยไปให้เขา ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องไปรับประทานพอดี

ถาม : เพื่อนรวมทั้งพี่น้องทั้งหมดฝันถึงเขา ฝันในแง่ที่เขามาดีค่ะ ไม่ได้มาขอให้ช่วยเหลือ เดาได้ไหมคะว่าเขาไปในที่ ๆ ดี ?
ตอบ : ลักษณะนั้นน่าจะไปดีจ้ะ โดยเฉพาะที่มาเข้าฝันได้ ไม่ลำบากหรอก พวกที่ลำบากจริง ๆ จะมาไม่ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-12-2013 เมื่อ 17:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #136  
เก่า 13-12-2013, 15:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,540 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ฝรั่งเขาทำวิจัยว่า ถ้าเราทำอะไรซ้ำ ๆ กันสัก ๓ วันขึ้นไป จะกลายเป็นความเคยชิน ดังนั้น..ที่เขาบอกว่าคนอ้วนที่ต้องการลดความอ้วนด้วยการลดอาหาร ถ้ายอมอดต่อเนื่องสัก ๓ วัน ร่างกายจะเกิดความเคยชิน เพราะว่าถึงเวลานั้นแล้วไม่ได้ ร่างกายก็จะเลิกทวงไปเอง แต่ส่วนใหญ่ที่พบมาก็คือ ทนการอาละวาดของร่างกายไม่ไหว ก็เลยกลับไปกินตามเดิม ถ้าอดได้สัก ๓ วันก็จะชินไปเอง

คราวนี้หลังออกพรรษา ปรากฏว่ามีพระวัดท่าขนุนบางรูป มัวแต่รอเสียงตีระฆังย่ำรุ่งและเสียงตีกลองย่ำค่ำอยู่ ซึ่งเขาตีกันเฉพาะในช่วงเข้าพรรษาเท่านั้น ระยะเวลาการเข้าพรรษาตั้ง ๙๐ วัน เขาก็เลยเคยชิน พอออกพรรษามัวแต่ไปรอเสียงอยู่ จึงไปทำวัตรไม่ทัน ตื่นไม่ทัน เขาว่าแค่ ๓ วันก็เป็นความเคยชิน นี่ปาไปตั้ง ๙๐ วัน

อาตมาเองถึงไม่กล้าใช้อานิสงส์กฐิน ท่านบอกว่าบุคคลที่รับกฐินแล้ว มีอานิสงส์ผ่อนคลายสิกขาบท (ศีลพระ) ได้ไปถึงกลางเดือน ๔ ผ่อนไปได้หลายข้อ มีอยู่ข้อหนึ่งที่ว่าไปไหนไม่ต้องเอาผ้าไตรจีวรไปครบสำรับก็ได้ ตรงจุดนี้แหละที่ทำให้อาตมาไม่คิดจะใช้เลย เพราะว่าถ้าเคยชินแล้ว เดี๋ยวเลยกลางเดือน ๔ จะโดนอาบัติศีลขาด ฉะนั้น..ตั้งแต่บวชมาจนป่านนี้ ยังไม่เคยใช้อานิสงส์กฐินเลย

การที่อานิสงส์กฐินขาดช่วงลงเรียกว่า กฐินเดาะ ก็แปลว่าอาตมาเดาะกฐินเสียเองตั้งแต่รับเลย แค่ ๓ วันเขาบอกเคยชิน นี่ตั้งแต่แรม ๑ ค่ำเดือน ๑๑ ถึงกลางเดือน ๔ ระยะเวลาตั้ง ๖ เดือน ผ่อนให้ตั้งครึ่งปี"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-12-2013 เมื่อ 17:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #137  
เก่า 13-12-2013, 15:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,540 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "รุ่นของเราจะมีโอกาสได้เห็นธนบัตรใบละ ๑ แสนไหม ? ธนบัตรใบยิ่งใหญ่เท่าไร ค่าเงินจะลดลงเท่านั้น แบบเดียวกับของที่รวันดา ไข่ ๒ ฟอง ราคา ๓ ล้าน รับเงินเดือนทีต้องเอารถเข็นไปรับ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-12-2013 เมื่อ 17:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #138  
เก่า 18-12-2013, 12:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,540 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พลอยทำเป็นกสิณได้ไหมคะ ?
ตอบ : ได้..ให้ดูว่าพลอยสีอะไร ถ้าอยู่ในกลุ่มเขียว ขาว แดง เหลือง ก็เป็นกสิณได้อยู่แล้ว เลือกเอาสีที่ชอบแล้วก็บรรเลงเลย ตอนสมัยเด็ก ๆ เวลางานศพ อาตมาไปดูผู้ใหญ่เขาเล่นไพ่กัน ตอนนั้นยังไม่เข้าใจว่ากสิณคืออย่างไร แต่พอมานอนพัก เห็นโพธิ์ดำ โพธิ์แดง ดอกจิก ข้าวหลามตัด บินว่อนไปหมดเลย เพิ่งจะรู้ว่าพื้นฐานเดิมที่เคยฝึกกสิณมา มองอะไรก็ติดตาได้ง่าย

ถาม : ถ้าคนที่ไม่เคยได้มา ?
ตอบ : ถ้าไม่เคยได้มาจะไม่จำง่าย ๆ แบบเดียวกับไปงานศพตอนเด็ก ๆ ภาพศพติดตาไป ๓ - ๔ วัน กว่าจะรู้ก็ตอนมาฝึกกรรมฐานแล้ว ความที่เป็นเด็กก็กลัวผีแทบตาย ทำไมถึงเห็นชัดอย่างนี้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-12-2013 เมื่อ 15:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 146 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #139  
เก่า 18-12-2013, 12:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,540 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ตอนที่หมอผ่าตัด ยายเขาให้หนูภาวนาพุทโธ ใครจะไปพุทโธทัน เจ็บจะตายอยู่แล้ว..!
ตอบ : เขาให้พุทโธก่อนผ่า ถ้ากำลังผ่าจะไปพุทโธอะไรทัน

ถาม : ยายชอบบ่น
ตอบ : เหมือนกันหมด แม่ที่บ้านก็เหมือนกัน ถึงเวลาก็บ่น ๆ อาตมาบอกว่า "แม่..หยุดเลย ภาวนาพุทโธไปก่อน ๕๐๐ ครั้ง" แม่ก็นั่งเงียบไปพักหนึ่ง แล้วก็บ่นต่อ อาตมาถามว่า "พุทโธครบห้าร้อยครั้งหรือยัง ?" "ครบแล้ว" "ถ้าครบแล้วก็บ่นต่อได้"

ตอนแม่ยังอยู่ เวลาคุยกับแม่ คนส่วนใหญ่จะคิดว่าอกตัญญู เพราะคอยถามว่า "แม่..เมื่อไรจะตาย ? " แม่เขาบอกว่า "แม่ไม่อยู่ให้เอ็งรำคาญนานนักหรอก" "ตายแล้วแม่จะไปไหน ?" "ก็ไปนิพพานอย่างที่หลวงพ่อ (ฤๅษี) บอก" "ถ้าอย่างนั้นแม่ภาวนาพุทโธไว้เลยนะ" แต่คนอื่นหาว่าอาตมาแช่งแม่ ความจริงเตือนสติให้แม่รู้ว่าใกล้ตายแล้ว ต้องภาวนาไว้ก่อน คราวนี้ระหว่างแม่กับลูกไม่เป็นไร เพราะรู้กัน แต่คนอื่นฟังแล้วหาว่าอาตมาอกตัญญูทุกที


ถาม : จะเป็นมโนกรรมของเขาหรือเปล่า ?
ตอบ : ความเข้าใจผิดว่ากันไม่ได้ คือถ้าเขาไม่เข้าใจ เขาน่าจะถาม แต่เขาไปตำหนิเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 18-12-2013 เมื่อ 18:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 154 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #140  
เก่า 18-12-2013, 12:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,540 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เวลาเด็ก ๆ ถาม เราต้องตอบเขานะจ๊ะ เขาอยู่ในช่วงกำลังพัฒนาการ เขาอยากรู้อยากเห็นอะไร ต้องตอบเขา ไม่ว่าคำถามจะมั่วสุดชีวิตอย่างไรก็ต้องตอบ ต้องปรับทัศนคติของเขาให้ถูกให้ได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-12-2013 เมื่อ 15:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 151 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 20:24



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว