กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #81  
เก่า 15-09-2013, 19:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,546 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พุทธมณฑลถือเป็นที่ธรณีสงฆ์ไหมครับ ?
ตอบ : เป็น...เป็นศาสนสมบัติกลาง ดูแลโดยสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ

ถาม : วิสุงคามสีมาจะได้ทุกวัดไหมครับ ?
ตอบ : วิสุงคามสีมา ขึ้นอยู่กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทาน ถ้าพระองค์พระราชทานให้ ต่อให้เป็นศาสนสมบัติกลางก็มีได้

ถาม : เฉพาะโบสถ์หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : เฉพาะบริเวณที่ปักเขตไว้ว่าพระราชทานให้กว้างยาวเท่าไร ไม่ใช่เฉพาะเสมา บางทีพระราชทานให้กว้าง ๑๐ วา ยาว ๒๐ วา แต่ตัวโบสถ์กว้างแค่ ๒ วาครึ่งเอง

ถาม : ได้ทุกวัดหรือเปล่า ?
ตอบ : ทุกวัดจะขอไป จะช้าจะเร็วก็ต้องได้

ถาม : ถนนผ่ากลางวัด ?
ตอบ : ถนนผ่ากลางวัด ถ้าที่ตั้งวัดอยู่ด้านไหน อีกที่หนึ่งจะกลายเป็นที่ธรณีสงฆ์โดยอัตโนมัติ ต่อให้ถนนมาทีหลังก็เถอะ อย่างเช่น ที่มี ๒๐ ไร่เป็นที่ตั้งวัด แล้วอยู่ ๆ เขาตัดถนนผ่ากลางไป ตัวอาคารอยู่ด้านไหน ด้านนั้นจะเป็นที่ตั้งวัด อีกที่หนึ่งจะกลายเป็นธรณีสงฆ์ไปเลย ที่ธรณีสงฆ์จะอยู่มุมไหนของโลกก็ได้ แต่จะขึ้นอยู่กับวัดนั้น

ถาม : ไม่จำเป็นต้องติดกับวัด ?
ตอบ :ไม่จำเป็นต้องติดกับวัด อยู่ที่ไหนก็ได้

ถาม : แล้ววัดพระแก้วเป็นวิสุงคามสีมา ?
ตอบ : วัดพระแก้วไม่ได้อยู่ในที่พระราชทาน แต่เป็นที่ซึ่งพระองค์ท่านตั้งใจสร้างถวายพระแก้วอยู่แล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-09-2013 เมื่อ 02:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #82  
เก่า 15-09-2013, 19:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,546 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าเวลาเราภาวนาแล้วจับภาพพระ ถ้าภาพพระแต่ละครั้งไม่เหมือนกันเลย จะถูกไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าเราตั้งใจจับภาพ พระท่านจะมาแบบไหนก็จับไปเถอะ

ถาม : ถ้าภาพพระเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เราจะรู้ได้อย่างไรว่าถึงฌานไหน ?
ตอบ : ถ้าหากว่าเป็นแก้วใสทั้งองค์ก็เป็นฌาน ๔
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-09-2013 เมื่อ 02:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 188 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #83  
เก่า 15-09-2013, 19:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,546 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : บวชในพรรษาผิดไหมครับ ?
ตอบ : ไม่ผิด

ถาม : บวชได้ใช่ไหมครับ ?
ตอบ : บวชได้..สึกได้ ไม่มีปัญหา แต่สมัยก่อนเขาไม่นิยมสึกกลางพรรษา เพราะเขาถือว่าแค่ ๓ เดือน ถ้าทนอยู่ไม่ได้ จะไปทำมาหากินอะไรไหว สมัยก่อนใครแหกพรรษานี่ไม่มีใครคบเลย ไปขอลูกสาวบ้านไหนเขาก็ไม่ให้ แต่สมัยนี้เขาไม่ถือหรอก จะบวชตอนไหนสึกตอนไหนก็ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-09-2013 เมื่อ 02:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #84  
เก่า 15-09-2013, 20:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,546 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ภาพพระกับดวงปฐมมรรคนี่เราควรจับอย่างเดียวหรืออย่างใดอย่างหนึ่ง ?
ตอบ : ภาพพระนี่เลยดวงปฐมมรรคไปเยอะแล้ว

ถาม : ไม่ต้องสนใจดวงปฐมมรรค ?
ตอบ : ถ้าจับภาพพระได้ก็จับภาพพระเป็นหลักเลย ภาพพระนี่ถ้านับแล้วเป็นกายที่ ๑๘ ไม่ใช่ดวงปฐมมรรค เป็นประเภทจบแล้ว ไม่ใช่เริ่มต้นใหม่

ถาม : แล้วเอาภาพพระไว้ที่ไหน ?
ตอบ : ถ้ามีความคล่องตัว จะเอาไว้ที่ไหนก็ได้ ถ้าความเคยชินของเราอยู่ที่ศูนย์กลางกาย ก็เอาไว้ที่ศูนย์กลางกาย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-09-2013 เมื่อ 02:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #85  
เก่า 16-09-2013, 19:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,546 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทำไมเขาชอบอยู่ระหว่างความขัดแย้งตลอดเลย ไปที่ไหนก็เป็นแบบนั้น ?
ตอบ : บอกเขาว่าสร้างบุญไว้ดี ที่ว่าอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง ก็คือทั้งสองฝ่ายจะดึงเราเป็นพวกด้วย ในเมื่อเป็นอย่างนั้นคือเราทำบุญไว้ดี ใครเห็นก็อยากเอาเราไปเป็นพวก พยายามเอาหลักธรรมของพระพุทธเจ้าไปใช้แก้ไขความขัดแย้ง โดยเฉพาะตัวขันติ ความอดทน พยายามมองให้เห็นปัญหา ชี้ให้เห็นโทษ และหาหนทางที่เป็นประโยชน์ที่สุดแก่ผู้อื่น แล้วเขาจะทำตามเอง

ถ้าเราชี้ให้เขาเห็นโทษไม่ได้ แล้วบอกทางที่เป็นประโยชน์ไม่ได้ เขาก็จะขัดแย้งกันไปเรื่อย ๆ เพราะฉะนั้น..เราเป็นพวกเขาได้ทั้ง ๒ ฝ่าย พยายามชี้ให้เขาเห็นโทษ ทะเลาะกันไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร สามัคคีกันไว้ดีกว่า มีงานการอะไรจะได้ช่วยเหลือกัน ให้เสร็จเร็วขึ้น ให้สะดวกและง่ายขึ้น ความสามัคคีในหน่วยงานเมื่อเป็นไปด้วยดี ภาพพจน์ของหน่วยงานและตัวบุคคลก็จะดีขึ้นไปด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-09-2013 เมื่อ 02:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #86  
เก่า 16-09-2013, 19:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,546 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : มีตาทิพย์ เห็นภาพพระได้ แต่อย่างหนึ่งหนูสงสัยก็คือ เรื่องหวยไม่แม่น ?
ตอบ : เพราะโลภ..! ถ้าเอาตัวเองเข้าไปมีส่วนได้ส่วนเสีย สภาพจิตจะโดนย้อมไปด้วยกิเลส การรู้เห็นจะผิดพลาด หรือไม่ก็เป็นการทดสอบเราว่าโลภหรือไม่ ? แล้วเราก็สอบตก..!

ถ้าอยากจะเล่นหวยให้แม่น ให้คนอื่นไปเล่นแทน ถ้าเราเล่นเมื่อไร ผลได้ผลเสียจะทำให้จิตของเราไม่นิ่ง ถึงเวลาอยากได้เท่านั้น อยากได้เท่านี้ก็ตั้งใจดู แล้วพลาด ฉะนั้น..บอกแม่ให้เล่น พอถูกแล้วแบ่งให้หนูครึ่งหนึ่งก็แล้วกัน คราวนี้จะโดนแม่ด่า เพราะพาแม่เสียไปด้วย..!

ปัญหาพวกนี้ อาตมาทำมาเองแล้วทั้งนั้น ถึงขนาดดูรางวัลที่ ๑ สมัยนั้นมีเลข ๗ ตัว ดูครบ ๗ ตัวเลยแต่หาซื้อไม่ได้ พอตัดเลขท้าย ๓ ตัวมาเล่น ดันออก ๒ ตัว ตัด ๒ ตัวมาเล่นดันออก ๑ ตัว ตัด ๑ ตัวมาเล่น กลับไม่ออกเลย เสร็จเขาทุกวิธีแล้ว ถึงได้ตอบปัญหานี้ได้ แต่ถ้าบอกคนอื่นโดยที่ตัวเองไม่เล่น ออกเป๊ะเลยทุกที บังเอิญอาตมาขี้สงสัยว่าบอกคนอื่นทำไมจึงถูก ? ดูให้ตัวเองทำไมไม่ถูก ? อ๋อ..สังเกตใจตัวเองว่าไม่สะอาดจริง ตัวโลภขึ้นหน้ามาแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-09-2013 เมื่อ 02:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #87  
เก่า 16-09-2013, 20:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,546 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "คนสมัยก่อนถึงเป็นฆราวาส เขาก็มีวิชาความรู้ติดตัวทั้งนั้น จะเห็นว่าหลวงปู่หลวงพ่อครูบาอาจารย์หลายท่าน ก็ไปเรียนกับครูที่เป็นฆราวาส ถึงเวลาไหว้ครูก็ต้องน้อมนึกถึงบุญที่ท่านช่วยสั่งสอนมาให้ สมัยก่อนเขายึดมั่นจริง ๆ ทุกอย่างถึงได้ขลัง สมัยนี้เขาไม่ค่อยจะยึดกัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-09-2013 เมื่อ 02:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #88  
เก่า 16-09-2013, 20:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,546 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เวลาอาตมาไม่มีโทรศัพท์ รู้สึกมีความสุขมาก ไม่มีเจ้ากรรมนายเวรคอยเรียก เดี๋ยวนี้เวลาเจ้านายหรือเพื่อน ๆ โทรมาชักจะชิน ตอนแรก ๆ เวลาน้องเล็กรับ เขาจำได้ว่าเบอร์พระ แต่ทำไมเสียงผู้หญิงรับ ?

อดีตเจ้าอาวาสวัดถ้ำมังกรทองโดนอธิกรณ์ เพราะไปไหนกับผู้หญิงสองต่อสอง ในที่สุดก็โดนปลดออกจากตำแหน่ง บรรดาเพื่อนก็ว่า "เฮ้ย..แล้วอาจารย์เล็กทำไมไม่โดนวะ ?" เพราะไปไหนกับน้องเล็ก ๒ คนบ่อยไป อาตมาบอกว่า "มึงก็ดูความประพฤติของเขาสิ เขาไปไหนกลางค่ำกลางคืน ดึกดื่นก็ออกจากวัด ผมออกเฉพาะกลางวัน เลิกงานแล้วก็กลับเลย ไม่เคยเถลไถลไปแวะที่ไหน"

สมัยอาจารย์สมพงษ์เป็นเจ้าอาวาส เวลาไปไหนชอบแวะนั่นแวะนี่ นิสัยของอาตมาพองานเสร็จจะตรงดิ่งกลับเลย คือกลับไป
ให้ทันทำวัตรเย็น อาจารย์สมพงษ์ไปด้วย ๒ ครั้ง..เข็ดเลย ไม่ไปด้วยอีกแล้ว แกชอบแวะหลายที่ เป็นประเภทไม่ค่ำหาทางกลับวัดไม่เจอ ส่วนอาตมาหมดธุระก็กลับวัดทันที จึงกลายเป็นคนละเรื่องกัน เจ้านายท่านมีตา เห็นอยู่ว่าใครทำอะไร"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-09-2013 เมื่อ 02:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #89  
เก่า 16-09-2013, 20:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,546 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พระเอามีดแทงคนแล้วไม่ตาย เป็นแผลบาดทะยักแล้วเขารักษาไม่ดี จนเสียชีวิตลง ?
ตอบ : ถ้าตายเพราะบาดแผลโดนอาบัติปาราชิก ขาดจากความเป็นพระ เพราะเจตนาฆ่าเขาแต่แรกแล้ว สัมฤทธิ์ผลตามเจตนา แม้จะช้าหน่อย ก็ขาดความเป็นพระ

ถาม : แต่ที่ นาย ก. ใช้ให้ฆ่า นาย ข. ไม่ผิดใช่ไหมครับ เพราะคนละคนกัน ?
ตอบ : ถ้าใช้โดยกำหนดเวลา ถ้าเขาไปฆ่าผิดเวลา คนสั่งก็ไม่ผิด สมมติว่าเราเป็นพระ แล้วสั่งว่าคืนนี้แกไปฆ่านาย ก. เวลาสองทุ่มให้ได้นะ ปรากฏว่านาย ข. ไปฆ่านาย ก. วันพรุ่งนี้ ถ้าเป็นพระไม่ต้องอาบัติปาราชิก เพราะถือว่าทำคนละเวลากับที่สั่ง พระวินัยจะละเอียดมาก แต่ถ้าเป็นทางโลกก็เรียบร้อย คุณเป็นคนสั่ง จะทำเวลาไหนก็โดน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-09-2013 เมื่อ 02:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #90  
เก่า 17-09-2013, 19:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,546 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าฟังคนอื่นภาวนาคาถาสะหัสสะเนตโต ๕ นาที กับท่องเอง ๕ นาที อย่างไหนจะได้ผลกว่ากัน ?
ตอบ : ดูคนอื่นกินข้าวกับตัวเองกิน อย่างไหนดีกว่ากันเล่า ? ต้องกินเองใช่ไหม ? เพราะฉะนั้น..ไปกินเองจ้ะ ประเภทเดียวกับเปิดเทปคาถาเงินล้านในบ้านแล้วเมื่อไรจะรวยสักที ต่อให้เปิดจนตายก็เหมือนเดิม ต้องภาวนาเอง

ไปนึกถึงหลวงพี่สมาน ท่านเป็นเด็กชาวเขา หากินกับป่า ท่านเล่าให้ฟัง
ว่า ตอนเป็นฆราวาสไปตีผึ้ง ผึ้งหลวงตัวใหญ่ประมาณครึ่งนิ้วก้อย โดนเข้าไปแต่ละตัวเป็นเรื่องเลย แกก็เที่ยวหาคาถาหัวใจหมี ถ้าได้มาภาวนาแล้วผึ้งจะไม่ต่อย แกก็ภาวนาอยู่โคนต้น แล้วให้เพื่อนปีนขึ้นไปตี รับรองตัวเองไม่โดนแน่เพราะอยู่โคนต้น..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-09-2013 เมื่อ 19:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 173 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #91  
เก่า 18-09-2013, 10:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,546 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีโยมที่เป็นศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุงด้วยกันมาทำบุญ พระอาจารย์จึงกล่าวขึ้นว่า "นึกถึงสมัยวิ่งรับใช้หลวงพ่ออยู่ด้วยกัน ยังหนุ่มแน่นแข็งแรงกันดี ตอนนี้กลายเป็นแต่ละคนลูก ๆ โตกันหมดแล้ว อาตมาเองไม่รู้รอดมาได้อย่างไร ไม่ได้คิดจะบวช ตั้งใจจะบวชแค่ ๗ วันยังอยู่เรื่อยเปื่อยมาได้ ขนาดก่อนบวชยังเรียนถามหลวงพ่อ ถามแล้วถามอีกว่าตกลงจะเอากี่วัน กลัวจะบวชนาน ...(หัวเราะ)...

ตอนนั้นมาพิจารณาดูว่า ตัวเองก็อายุพอสมควร ๒๗ ปีเข้าไปแล้ว แม่เรียกร้องให้บวชมาทุกปี ก็บวชให้ท่านไม่ได้สักที แล้วอยู่ ๆ หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านขอให้บวชให้ท่านสักหน่อย ก็มาคิดว่า โอกาสอย่างนี้ไม่เคยมีมาก่อน แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ เสียดายชีวิตฆราวาส รู้สึกว่าเป็นฆราวาสเราก็ปฏิบัติได้ ถ้าไปเป็นพระแล้วจะเสี่ยงนรกมาก..! ตอนนั้นความคิดของตัวเองคือ ต้องปฏิบัติให้ได้อย่างน้อยเป็นพระโสดาบันก่อน หรือถ้าจะเอาปลอดภัยก็เป็นพระอนาคามีไปเลย แล้วค่อยไปบวช บวชเข้าไปแล้วให้โยมเขาไหว้ได้เต็มมือไปเลย

แต่ปรากฏว่าเป้าหมายที่หวังเอาไว้นั้น ไม่ใช่เป้าหมายในชีวิตของฆราวาส ทำเท่าไรก็ไม่ถึงสักที คราวนี้หลวงพ่อท่านไปบนพระเอาไว้ เนื่องจากตอนนั้น
ภายในวัดพวกไสยศาสตร์ระบาดมาก ฝ่ายที่รับเคราะห์ก็เป็นบรรดาสารพัดหมา ท่านเหล่านี้ส่วนใหญ่แล้วลงมาจากข้างบน เพื่อมาถวายการรับใช้หลวงพ่อ ในเมื่อเขามีน้ำจิต หลวงพ่อก็มีน้ำใจ เห็นว่าเขามาอยู่วัดแล้วตายแทนพระแทนเณรได้ ท่านก็เลยบวชพระให้พวกเขา

ท่านบอกว่าจะบวชพระให้เขา ๓ รูปด้วยกัน อาตมาก็ไปชวนเพื่อนคนอื่นบวช เขาก็ปฏิเสธกันหมด ไปได้ลุงพุฒิคนเดียว แกชื่อพุฒิจริง ๆ นะ อายุมากกว่าก็เลยเรียกลุงพุฒิจนติดปาก ตอนนั้นลุงพุฒิอายุ ๔๐ กว่าปีแล้ว อาตมา ๒๗ ปีเรียกแกเป็นลุงก็ไม่น่าเกลียดเท่าไหรอก

มากราบเรียนหลวงพ่อว่า “ตกลงผมจะบวชให้ครับ แต่ว่าผมหาได้แค่อีกคนเดียว ยังขาดอยู่คนหนึ่ง” ท่านบอกว่า “เฮ้ย..ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้น คนของข้าไม่เคยขาด” แล้วก็จริง ๆ จาก ๒ คนโด่เด่ พรวดเดียวกลายเป็น ๓๖ คน ต้องการ ๓ คนกลายเป็น ๓ โหลไปเลย แล้วก็หมดเกลี้ยง สูญพันธุ์ เหลืออาตมาโด่เด่อยู่คนเดียว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-09-2013 เมื่อ 10:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #92  
เก่า 18-09-2013, 10:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,546 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ใหม่ ๆ อาตมาก็อยากสึก แต่ต้องบอกว่าเป็นความเมตตาของหลวงปู่ขนมจีน ท่านเล่นอาตมาตั้งแต่ภายใน ๗ วันแรกเลย พอโดนเข้าก็เลยคิดว่า คนตายไปเป็นร้อย ๆ ปีแล้วยังมาเป็นตัวเป็นตนได้อีก เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มาก พอกราบขอขมาท่านเสร็จสรรพถึงได้ขอกับท่าน อาตมาเป็นคนหน้าด้าน ก็ว่า “หลวงปู่เล่นผมเป็นคนแรก ผมก็ถือว่าผมเป็นลูกคนโต ขอหลวงปู่โปรดเมตตาสงเคราะห์ให้หน่อย ว่าอารมณ์ความเป็นพระอริยเจ้าเป็นอย่างไร ถ้าหลวงปู่สามารถสงเคราะห์ได้ เมื่อผมทำถึง ผมจะได้รู้ว่าถึงแล้ว”

ท่านไม่ได้ปฏิเสธสักคำ ท่านถามว่าจะเอานานเท่าไร ก็กราบเรียนท่านไปว่า “ถ้าเป็นไปได้ขอ ๓ เดือนเลยครับ ผมจะได้บวชเอาพรรษาไปเลย” หลวงปู่ท่านบอกว่า “ได้” พอสิ้นคำที่ท่านบอกว่าได้ อาตมาคิดว่าตัวเองเป็นพระอรหันต์ไปแล้ว สภาพจิตรู้รอบขนาดนั้น ทุกสิ่งทุกอย่าง ตาเห็น หูได้ยิน จมูกได้กลิ่น ลิ้นได้รส กายสัมผัส ใจครุ่นคิด แยกแยะออกอย่างละเอียดยิบภายในพริบตาเดียวว่า ถ้าเราคิดอย่างไรจะเป็นรัก คิดอย่างไรจะเป็นโลภ คิดอย่างไรจะเป็นโกรธ คิดอย่างไรจะเป็นหลง เห็นโทษตลอดทั้งหมดเลย

ในเมื่อรู้ ก็เลยไม่ทำ จึงทำให้เห็นว่าถ้าเราดับเหตุได้ ทุกอย่างก็ดับหมด แล้วก็เลยเข้าใจว่าจริง ๆ พระอรหันต์นั้นท่านก็มีกิเลสเหมือนกับเราเต็มเพียบเลย เพียงแต่ว่าท่านไม่สร้างเหตุ กิเลสจึงกำเริบไม่ได้ แล้วบุคคลที่สติสัมปชัญญะสมบูรณ์พร้อมถึงขนาดไม่สร้างเหตุอะไรเลย ต้องระดับนั้นเท่านั้น ระดับอื่นเดี๋ยวก็เผลอ พอครบ ๓ เดือนอาตมาก็เป็นหมาเหมือนเดิม ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเป็นได้ ท่านให้ได้จริง ๆ..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-09-2013 เมื่อ 10:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 180 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #93  
เก่า 18-09-2013, 12:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,546 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : จริง ๆ ไม่ต้องอยู่ในเพศพระก็ได้นี่คะ ?
ตอบ : เป้าหมายนั้นไม่ใช่เป้าหมายของฆราวาสแล้ว มาตอนที่หลังจากรับกฐินแล้วลากลับบ้าน สิ่งที่พี่น้องญาติโยมเขาปฏิบัติกับอาตมา รู้สึกว่าไม่ใช่เราคนเดิม ก็เลยเกิดความรู้สึกขึ้นมาว่า "นี่ไม่ใช่บ้านของเรา อยู่ไม่ได้แล้ว..!" รู้สึกร้อนไปหมด อยู่บ้านได้สิบกว่านาทีเท่านั้น ก็ขอตัวหนีไปนอนกับหลวงปู่มหาอำพันที่วัดเทพศิรินทร์ฯ แทน ตั้งแต่นั้นมาความคิดจะกลับบ้านไม่มีอีกเลย บอกตัวเองเลยว่า "นี่ไม่ใช่บ้านของเราแล้ว" ในเมื่อไม่ใช่บ้านของเราแล้วก็ไม่รู้ว่าจะไปไหน ต้องลากถูลู่ถูกังบวชไปเรื่อย ๆ

พระใหม่ท่านสงสัยว่า นอกจากไปกิจนิมนต์หรือธุระแล้ว ไม่เคยกลับบ้านเลยหรือ ? อาตมาบอกว่า ไม่รู้ว่าจะกลับไปทำไม มีญาติโยมเขาขอร้องให้ไปร่วมงานตรุษจีน ไปได้ ๒ ครั้ง ครั้งที่ ๓ ก็ไม่ไปแล้ว เพราะเวลาไปเขาถวายเงินแต๊ะเอียกันมา คนนั้นให้ คนนี้ให้ เหมือนอย่างกับว่าเจตนาไปเอาเงิน คนอื่นเขาเต็มใจให้ก็จริง แต่ความรู้สึกของอาตมา ถ้าไปก็แฝงไว้ด้วยความโลภที่ว่า เจตนาไปเอาเงิน ฉะนั้น..ไม่ไปเสียก็หมดเรื่อง

ตั้งแต่นั้นมาเรื่องของญาติของโยม พิธีกรรม ถ้าไม่ใช่สำคัญจริง ๆ ประเภทพ่อตายแม่ตายนี่ไม่ต้องมาชวนไปบ้าน ไม่ไปหรอก บรรดาหลาน ๆ แต่งงานก็นิมนต์หลวงน้า นิมนต์หลวงตา ไม่ต้องนิมนต์หรอก..กูไม่ไป รู้สึกว่าไม่มีอะไรเป็นของเรา ไม่รู้จะไปทำไม คนไหนที่อาตมาไปทำธุระพอดี แล้วไปงานของเขาได้ เขาก็หน้าบานเป็นจานเชิง หารู้ไม่ว่าอาตมาไปทำธุระ ไม่ได้ตั้งใจมางานเขา แต่ไหน ๆ ผ่านเฉียดไปแล้ว ก็แวะสักหน่อย..แค่นั้นเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 18-09-2013 เมื่อ 18:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #94  
เก่า 18-09-2013, 14:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,546 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พระพักตร์ของพระองค์ ๑๐ ?
ตอบ : พระพักตร์ของพระองค์ที่ ๑๐ ท่านเหมือนกับหลวงพ่อพระพุทธลีลาที่พุทธมณฑล เหมือนอย่างนั้นเลย ลองไปดูให้ดี ๆ ไม่ว่าจะลักษณะของหน้าผาก จมูก ปาก มาอย่างนั้นเลย

ถาม : แล้วรูปบูชาท่านที่วัดท่าซุง ?
ตอบ : ไม่รู้..คนปั้นที่วัดท่าซุงคือช่างประเสริฐ ช่างเสริฐตอนแรกปั้นหน้าพระเป็นหน้าตัวเองตลอด ช่วงแรกที่ช่างประเสริฐปั้นพระคือที่ศาลาหลวงพ่อ ๔ องค์ ไปดูพระประธานองค์ใหญ่ในศาลาตรงหัวอาสน์สงฆ์ นั่นหน้าช่างเสริฐเองเลย จนกระทั่งหลวงพ่อท่านต้องบอกวิธีว่า ให้จุดธูปขอพระท่านสงเคราะห์ ขอให้มือปั้นไปได้ ถึงได้กลายเป็นแบบพระชำระหนี้สงฆ์แบบวัดท่าซุง ไม่อย่างนั้นแล้วช่างปั้นพระเกือบทุกคน จะเคยชินกับการปั้นแล้วเผลอออกมาเป็นใบหน้าตัวเอง จัดเป็น “ตัวกู ของกู” ที่ฝังอยู่ลึกมาก ลึกขนาดตัวเองก็ไม่รู้ว่าปั้นสวยเป็นที่พอใจก็คือสวยแบบหน้าของตัวเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-09-2013 เมื่อ 14:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 169 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #95  
เก่า 18-09-2013, 17:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,546 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องอดีตที่ผ่านพ้นยังมีโครงเรื่องที่อยากเขียนอีกตั้งเยอะ ที่มอง ๆ ไว้ก็อย่างเรื่องลูกกรอก เรื่องปรอทสำเร็จ เพราะว่าไปเจอหลังจากออกจากวัดท่าซุงแล้ว โดยเฉพาะลูกกรอกให้หวยแม่นด้วย ออกตรงเป๊ะเลย ลูกกรอกตัวนั้นแปลกมาก อายุ ๒๐ กว่าปี ปกติเขาจะไม่อยู่นานขนาดนั้น แต่ว่ารายนี้เป็นหลานคุณพนม เป็นลูกของพี่สาวคุณพนม เขาบอกว่าพี่สาวเขาท้องแปลกมาก เดี๋ยวก็ท้องโต เดี๋ยวก็ท้องยุบ บางวันก็ต้องใส่ชุดคลุมท้องเบ้อเร่อ บางวันก็นุ่งกางเกงยีนส์ฟิต ๆ ไปเต้นรำได้เลย

ลักษณะของลูกกรอกจะเป็นอย่างนั้น ถ้าเขายังอยู่จะท้องโต แต่ถ้าเขาไปเที่ยวท้องจะยุบ พอคลอดออกมาตัวนิดเดียวเท่านิ้วก้อยเอง หรือบางทีก็ตั้งท้องเป็นปี อยู่ที่อารมณ์ว่าอยากจะออกมาเมื่อไร ปกติแล้วอายุไม่เท่าไร"

ถาม : ทำไมเขาถึงอยู่นานขนาดนั้น ?
ตอบ : เขาจะมีอายุจำกัด อาจจะเป็นเพราะว่าเจ้าของทำอะไรไม่เป็น ในเมื่อไม่ได้ใช้เขา งานไม่ได้ทำสักที งานไม่จบก็เลยไปไม่ได้

พอคุณพนมรู้จักลูกกรอก ช่วงระยะไล่ ๆ กันคนอื่นก็รู้เข้าเช่นกัน เพราะว่าแกไปร้านอาหารแล้วก็ทำเหมือนกับอยู่ที่บ้าน ก็คือสั่งอาหารเผื่อลูกกรอกชุดหนึ่ง เจ้าของร้านดันรู้ เดินมาถามว่า "เลี้ยงลูกกรอกใช่ไหม ?" คราวนี้ก็ตกใจว่าเขารู้ คุณพนมเขาเคยได้ยินมาว่า ถ้าเขารู้เดี๋ยวเขาเรียกไป เขาก็เลยรีบพาพี่สาวเขา เอาลูกกรอกใส่พานมาให้อาตมา บอกว่าให้ช่วยทำให้หน่อย พอจัดการเสร็จสรรพเรียบร้อยอาตมาบอกว่า “ไหน..ลองดูหน่อยซิ..เก่งจริงหรือเปล่า ? เอาหวยมา ๒ ตัว” ปรากฏว่าถูกจริง ๆ

ปกติไม่กี่ปีเขาก็ไปแล้ว นี่อยู่มา ๒๐ กว่าปีเพราะแม่ไม่ได้ใช้งานเลย มีอยู่อย่างเดียวก็คือเรียกกินข้าว


ถาม : ลูกกรอกคืออะไรคะ ?
ตอบ : จริง ๆ ลูกกรอกเป็นโอปปาติกะนั่นแหละ กึ่งผีกึ่งเทวดา ส่วนใหญ่มาสงเคราะห์พ่อแม่ญาติโยมของตัวเอง สมัยโบราณใครมีลูกกรอกก็สบาย "ลูกกรอก..วันนี้แม่จะไปค้าขาย ไปทางไหนขายได้ดี ช่วยพาไปทางนั้นด้วย" ถึงเวลาผลักเรือออกจากท่าพาไปเองเลย เรือหันหัวไปทางไหนก็แจวไปทางนั้นแหละ ข้าวของมีเท่าไรก็ขายเกลี้ยง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-09-2013 เมื่อ 19:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #96  
เก่า 18-09-2013, 18:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,546 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พระพุทธเจ้ามีพระเกตุโมลีแหลม ๆ จริง ๆ หรือครับ ?
ตอบ : ไม่มี...ช่างปั้นพระรุ่นหลังเขาใส่ไปแทนพระปัญญาของท่าน เวลาปั้นแล้วอยากจะแสดงออกซึ่งพระบริสุทธิคุณ กรุณาธิคุณ และปัญญาธิคุณของท่าน คราวนี้พยายามปั้นลักษณะของพระองค์ท่านออกมา สวยที่สุดเท่าที่ตัวเองนึกแล้ว แต่ไม่รู้จะเอาอะไรแทนปัญญาได้ เพราะปัญญาเป็นนามธรรม ท้ายสุดก็เอาตามพระบาลีที่ว่ามีพระเกตุมาลา ก็เลยสมมติปั้นขึ้นมาเป็นเปลว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-09-2013 เมื่อ 19:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 163 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #97  
เก่า 18-09-2013, 18:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,546 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าสมเด็จองค์ปฐมท่านคลุม หลวงพ่อท่านจะดำ แต่ถ้าสมเด็จองค์ปัจจุบันคลุมหลวงพ่อท่านจะขาว ?
ตอบ : ถ้าคนที่ถ่ายรูปไว้จะรู้ เพราะว่าแต่ละรูปสีสันหลวงพ่อท่านจะไม่เหมือนกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-09-2013 เมื่อ 19:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 165 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #98  
เก่า 18-09-2013, 18:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,546 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พระอาจารย์ลาพุทธภูมิมากี่ปีแล้วครับ ?
ตอบ : ลาตั้งแต่ก่อนบวช ลาก็เหมือนกับไม่ได้ลา ท่านบอกให้ทำงานไปก่อน เหมือนอย่างกับว่า "แน่จริงเอ็งก็ไปพระนิพพานได้ ไม่แน่จริงก็ต่อไปก็แล้วกัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-09-2013 เมื่อ 19:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 162 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #99  
เก่า 18-09-2013, 19:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,546 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การที่สัตว์บางชนิดสูญพันธุ์ไปแล้ว แสดงว่าเราไม่ต้องไปใช้กรรมเกิดเป็นสัตว์ชนิดนั้นแล้วใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ส่วนใหญ่การเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานมีอยู่ ๒ อย่างคือ ตั้งใจจะไปเกิดเป็นสัตว์ชนิดนั้น ซึ่งน้อยคนจะเป็น อีกอย่างหนึ่งเคยฆ่าสัตว์ชนิดนั้นมา แล้วต้องไปชดใช้กรรม ด้วยการไปเกิดเป็นสัตว์ชนิดนั้นให้คนอื่นเขาฆ่า ในเมื่อไม่มีแล้ว ฆ่าไม่ได้ก็ไม่ต้องเกิด ก็ต้องปิดโปรโมชั่นไปโดยปริยาย ส่วนญี่ปุ่นที่ฆ่าจนกระทั่งน้ำทั้งอ่าวแดงหมดไม่ต้องห่วง นั่นรอรอบต่อไป ถึงเวลาโลกฟื้นใหม่ มีใหม่ก็โดนแน่..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-09-2013 เมื่อ 19:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 160 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #100  
เก่า 18-09-2013, 19:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,546 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หน แปลว่า เจ้าคณะหนกลางหรือครับ ?
ตอบ :หน เป็นคณะปกครองที่ใหญ่ที่สุด เป็นการปกครองในส่วนกลาง จะแบ่งออกเป็น ๕ หนด้วยกัน คือ หนกลาง หนเหนือ หนตะวันออก หนใต้ และคณะธรรมยุติ ในหนหนึ่งจะประกอบไปด้วย ๕ - ๖ ภาคแล้วแต่ว่าใหญ่หรือเล็ก แต่ละภาคจะมี ๒ - ๓ - ๔ จังหวัด แล้วแต่จังหวัดใหญ่เล็ก จากภาคลงไปก็จะเป็นจังหวัด เป็นอำเภอ เป็นตำบล เป็นวัด

ตั้งแต่ภาคลงไปเขาถือเป็นการปกครองคณะสงฆ์ส่วนภูมิภาค ถ้าหนกับมหาเถรสมาคมจะเป็นการปกครองส่วนกลาง ส่วนกลางจะคุมส่วนภูมิภาคอีกที หนเปรียบกับสมัยก่อนก็เป็นมณฑล มณฑลหนึ่งก็มีหลายจังหวัด อย่างสมัยก่อนก็มีมณฑลลาวเฉียง มณฑลลาวพวน ของมหานิกายมี ๔ หน ๑๘ ภาคด้วยกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-09-2013 เมื่อ 02:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 150 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:19



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว