กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #81  
เก่า 25-01-2013, 18:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,572 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คนที่หาซื้อของมาถวายสังฆทานเอง กับคนที่มาถึงก็แค่ยกถังกับพระพุทธรูปที่เรามีไว้ให้แล้ว ผลจะต่างกันไหมครับ ?
ตอบ : สำคัญอยู่ที่เราตั้งใจ

ถาม : แต่บางทีใช้ของที่เขาเตรียมไว้ก็ไม่รู้ว่าในถังมีอะไรบ้าง ?
ตอบ : ไม่จำเป็นต้องรู้ ก็ได้แบบไม่รู้ ไม่เปิดดูก็ไม่รู้สักทีว่าตัวเองได้อะไรมา ขอให้ได้ถวาย ไม่ได้สำคัญตรงที่ได้ถวายอะไร ต่อให้เป็นทาสทานก็ยังมีผลอยู่

ถาม : แล้วอย่างคนที่เข้าครัวทำกับข้าวมาทำบุญเอง กับคนที่ซื้อมาทำบุญครับ ?
ตอบ : คนที่ซื้อมาน่าจะได้เปรียบกว่า อารมณ์ใจไม่ขึ้น ๆ ลง ๆ เข้าครัวทำเองแล้วเหนื่อย เกิดโมโหขึ้นมาก็บุญหายไปเยอะแล้ว สมัยหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านยังอยู่ ท่านแนะนำเสมอว่า ถ้าตั้งใจจะทำบุญบ้านก็ดี จัดงานทำบุญใหญ่อะไรก็ดี ให้หาคนมาเป็นแม่งานรับผิดชอบแทน อย่าลงไปคลุกงานด้วยตัวเอง ไม่อย่างนั้นถ้าใจหมองบุญก็ลด

สมมติว่าเราจะทำบุญวันเกิด นิมนต์พระ ๙ รูปมาเจริญพุทธมนต์แล้วถวายภัตตาหารที่บ้าน มัวแต่ไปชี้นิ้วสั่งการอยู่ อันไหนไม่ถูกใจเดี๋ยวก็ได้ด่า กำลังใจจะตก ท่านก็เลยบอกว่าให้หาคนมาเป็นแม่งานรับผิดชอบแทน ตัวเราก็นั่งรักษาอารมณ์ไว้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-01-2013 เมื่อ 02:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 229 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #82  
เก่า 25-01-2013, 18:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,572 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : รักษาอารมณ์ใจให้ดี ยากมาก
ตอบ : ยากมาก ของมีง่ายกว่าทำของง่ายเถอะ อย่างในเรื่องขุนช้างขุนแผน

“ครานั้นจึ่งนางทองประศรี.......เรียกข้าด่ามี่อยู่ไจ่ไจ่
อ้ายโม่งอีมาช้าอยู่ไย............มึงเอาขันใบใหญ่ไปใส่น้ำ
ขมิ้นดินสองพองเอาไว้ไหน......เมื่อวานกูใส่ไว้ในถ้ำ
มึงอาบน้ำลูกยาทาขมิ้นตำ.......ระน้ำร่ำรดหมดเหงื่อไคล”

นั่นบวชลูกชายนะ ด่าลูกน้องไปเท่าไรก็ไม่รู้ ถ้าไม่ได้มาปลื้มตอนเห็นลูกครองผ้าเหลืองนี่ รับรองไว้ว่าบุญหายไปเยอะเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-01-2013 เมื่อ 02:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #83  
เก่า 25-01-2013, 19:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,572 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าลูกบวช แล้วบุพการีได้บุญโดยไม่ต้องโมทนาหรือครับ
ตอบ : ไปเป็นบุพการีเอง..ถึงเวลาลูกบวชดูซิว่าได้จริงไหม ? ไม่อย่างนั้นยืนยันไปก็เท่านั้นเอง

เด็กรุ่นหลังได้เรียนขุนช้างขุนแผนหรือเปล่าไม่รู้ ? อาตมาเรียนพลายแก้วบวชเณรมาตั้งแต่ ป.๔

จะกล่าวถึงพลายแก้วแววไว......เมื่อบิดาบรรลัยแม่พาหนี
ไปอาศัยอยู่กาญจนบุรี.............กับนางทองประศรีผู้มารดา
อยู่มาจนเจ้าจำเริญวัย..............อายุนั้นได้ถึงสิบห้า
ไม่วายคิดถึงพ่อที่มรณา...........แต่นึกตรึกตรามากว่าปี
อยากจะเป็นทหารชาญชัย.........ให้เหมือนพ่อขุนไกรที่เป็นผี ฯลฯ

ขุนไกรเก่งแค่ไหนก็ตาย เพราะว่าไม่สามารถที่จะขัดรับสั่งเจ้าเหนือหัวได้

จึงอ้อนวอนมารดาได้ปรานี..........ลูกนี้จักใคร่รู้วิชาการ
พระสงฆ์องค์ใดวิชาดี.................แม่จงพาลูกนี้ไปฝากท่าน
ให้เป็นอุปัชฌาย์อาจารย์.............อธิษฐานบวชลูกเป็นเณรไว้

ตั้งใจบวชไปเรียน สมัยก่อนเขาถึงได้ใช้คำว่าบวชเรียน

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-01-2013 เมื่อ 02:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 220 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #84  
เก่า 25-01-2013, 19:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,572 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ครานั้นทองประศรีผู้มารดา............ได้ฟังลูกว่าหาขัดไม่
อันสมภารที่ชำนาญในทางใน........ท่านขรัววัดส้มใหญ่แหละดีครัน

วัดส้มใหญ่อยู่แถวหนองขาว แสดงว่าบ้านท่านอยู่แถว ๆ นั้นแหละ หลวงตาบุญ วัดส้มใหญ่

เจ้าคิดนี้ดีแล้วแก้วแม่อา...........แม่จะพาไปฝากขรัวบุญท่าน
จะได้รู้การณรงค์คงกระพัน...........ให้เหมือนกันสืบต่อพ่อขุนไกร

แสดงว่าสมัยเก่าคนที่ฝึกอภิญญาเป็นเรื่องปกติ ส่งลูกไปเรียนต้องสำเร็จแน่นอน บอกเลยนะว่าถ้าไปหาอาจารย์คนนี้รับรองทำได้แน่เหมือนพ่อเลย ต้องบอกว่าสภาพจิตและเรื่องของสภาพสังคมเขายังเอื้อกันอยู่ ไม่มีใครไปรบกวนให้เสียสมาธิ ยกเว้นนางพิมจะไปถวายผ้าสไบติดกัณฑ์เทศน์..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-01-2013 เมื่อ 02:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 219 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #85  
เก่า 25-01-2013, 19:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,572 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "ตอนนี้สมเด็จองค์ปฐมทองคำเขาขอบูชาไปแล้ว ถ้าอาตมาจะสร้างลูกแก้วจักรพรรดิก็ต้องไปยืมเขากลับมา เพราะว่าสมเด็จองค์ปฐมองค์นั้นอาตมาอาราธนาลูกแก้วจักรพรรดิหลวงปู่ทวดใส่ไว้ ยังขำ ๆ ก็คือมีคนไปอธิษฐานขอใช้อานุภาพแก้วจักรพรรดิ แต่หลวงปู่ท่านบอกให้ไปเอาที่อาตมา ท่านยืนยันว่าให้มาแล้วจริง ๆ เพราะไปเห็นเขาแล้ว เขาไม่ได้ทำในลักษณะที่ว่าสมกับเป็นแก้วคู่บารมีหลวงปู่ เขาอยู่ในลักษณะต้อนคนไปซื้อวัตถุมงคลมากกว่า

อาตมาเห็นแล้วก็นั่งเซ็ง สถานที่สำคัญออกปานนั้น ครูบาอาจารย์สำคัญออกปานนั้น ของวิเศษอย่างนั้น มีสักอย่างหนึ่งก็ทำให้วัดดังแล้วดังอีกได้ ดันไปเน้นด้านการจำหน่ายวัตถุมงคล ก็เลยไปขอหลวงปู่ท่าน บอกว่า “ในเมื่อเขาไม่รู้คุณค่าก็ขอผมเถอะครับ” ท่านก็ตกลง คราวนี้จะเอาไปอย่างไร ทั้งเนื้อทั้งตัวมีสมเด็จองค์ปฐมทองคำอยู่องค์หนึ่ง จึงอาราธนาอานุภาพลูกแก้วใส่สมเด็จองค์ปฐม

ต่อไปถ้าจะสร้างลูกแก้วจักรพรรดิต้องไปยืมเขา แต่ไม่เป็นไรหรอก ไปเอาลูกที่วัดเขาวงได้ เพราะลูกแก้วของวัดเขาวงอาตมายังพกอยู่ เพียงแต่ว่าของวัดเขาวงยังเหลือหรือเปล่าเท่านั้นแหละ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-01-2013 เมื่อ 02:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 242 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #86  
เก่า 05-02-2013, 19:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,572 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หนูบูชาธงพิชัยสงครามไปไว้บ้านที่หาดใหญ่ บ้านพังตลอด น้ำท่วมด้วยค่ะ ?
ตอบ : เกี่ยวอะไรกับพระเล่า ? ประเภทนี่แหละจะเป็นมิจฉาทิฐิเอาง่าย ๆ เอาพระเข้าบ้านแล้วได้จังหวะบ้านพังพอดี ก็โทษว่าเอาพระไปอยู่แล้วบ้านพัง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-02-2013 เมื่อ 02:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 210 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #87  
เก่า 05-02-2013, 19:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,572 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : บางครั้งเราภาวนา อยู่ ๆ ทำไมเหมือนโลกหยุดไปเฉย ๆ ทุกสิ่งทุกอย่างไม่เคลื่อนไหว ?
ตอบ : สมาธิเข้าสู่ขั้นที่ละเอียดกว่าเดิม

ถาม : จะเป็นฌานหรือไม่ครับ ?
ตอบ : จะเป็นหรือไม่เป็นต้องไปสังเกตเอง แต่เป็นการก้าวเข้าไปสู่ขั้นที่ละเอียดกว่าเดิม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-02-2013 เมื่อ 02:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 209 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #88  
เก่า 05-02-2013, 19:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,572 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทำสมาธิอย่างไรให้มีสติ ?
ตอบ: ทำอย่างไรก็ได้ ให้สมาธิอยู่กับลมหายใจเข้าออกเฉพาะหน้าตอนนั้น

ถาม : ถ้าเราส่งจิตออกนอกไป แล้วเรารู้ทันดึงกลับมาใช่ไหมครับ ?
ตอบ: ได้อยู่...แต่ก็เสียท่าเขาไปเยอะแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-02-2013 เมื่อ 02:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 205 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #89  
เก่า 05-02-2013, 19:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,572 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "มีหลายคำถามที่นอกจากกำกวมแล้วยังต้องใช้เวลาอธิบายมาก อย่างเช่น เขาถามว่าการเลือกเสาเอกจะเลือกอย่างไร ? ลักษณะคำถามนี้แบ่งได้ ๒ อย่าง ก็คือควรจะเลือกเสาต้นไหนเป็นเสาเอกของบ้านนั้น ? ซึ่งเราต้องไปเปิดตำราดูว่าเราปรารถนาอะไร ต้องการเรื่องอำนาจ เรื่องของบริวาร เรื่องของลาภยศ ต้องการเรื่องของทรัพย์สินเงินทอง เขาจะมีอยู่ว่าทิศไหนของเสาเอกให้ผลอย่างไร

ส่วนอีกวิธีหนึ่งของคำถามนี้ ก็คือจะเลือกเสาแบบไหนมาทำเสาเอก ? ซึ่งลักษณะของสมัยก่อนเป็นเสาไม้ ลักษณะการเลือกเสาไม้ของสมัยก่อนนั้น เขาจะเลือกเสาที่ไม่มีตาไม้อยู่ในระดับต่ำ อย่างน้อย ๆ ต้องให้ตาไม้สูงระดับเอวขึ้นไป

เขาให้คำว่า "หมูสี เป็ดไซ้ ไก่ตอด" หมูสีก็คือหมูมาเอาสีข้างถูต้นเสา ถ้าตาไม้อยู่บริเวณนั้นเขาถือว่าไม่ดี ถ้าเป็ดไซ้ก็คือเมื่อถึงเวลาฝังเสาลงไปแล้วตาไม้อยู่ระดับเสมอพื้นดิน ถ้าไก่ตอด ก็คือในระดับที่ไก่จิกถึงก็สูงจากพื้นประมาณคืบเศษ ๆ ถ้าตาไม้อยู่บริเวณนั้นเขาถือว่าไม่ดีจะทำให้เดือดร้อน

ดังนั้น..คำถามบางคำถาม เป็นคำถามที่ยาวเกินกว่าจะอธิบายความได้ ขณะเดียวกันบางทีลักษณะของคำถามก็ถามเกินความจำเป็น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-02-2013 เมื่อ 02:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 200 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #90  
เก่า 05-02-2013, 19:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,572 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ส่วนใหญ่แล้วตำราการปลูกบ้านของแต่ละชาติจะมีการถือเคล็ดที่ไม่เหมือนกัน แต่ส่วนหนึ่งที่คล้าย ๆ กันก็คืออย่าไปปลูกเรือนคร่อมตอ อย่าไปปลูกเรือนคร่อมบ่อน้ำเก่า ซึ่งลักษณะการถือตรงนี้คล้าย ๆ กันไปหมด ส่วนจะเอาทิศไหนทางไหนก็ต้องดูเรื่องของทางน้ำทางลมด้วย

โบราณเราส่วนใหญ่แล้วคล้อยตามธรรมชาติ ในเมื่อคล้อยตามธรรมชาติ โอกาสที่จะเดือดร้อนเพราะธรรมชาติก็มีน้อย แต่สมัยใหม่มักจะปลูกไปเรื่อยเปื่อย ถ้าไม่ได้ดูเรื่องของทางน้ำทางลมหรือทิศทางของแสง ถึงเวลาก็อาจจะเดือดร้อนกว่าที่คิด

ส่วนแต่ละทิศที่เราเลือก หรือเสาเอกที่เราเลือก จะมีผลตามตำราอย่างไรก็คงต้องตามใจเจ้าของบ้าน ปลูกเรือนต้องตามใจผู้อยู่ ผูกอู่ต้องตามใจผู้นอน ปลูกเรือนตามใจผู้อยู่นะพอได้ แต่ผูกอู่ไม่ต้องตามใจผู้นอนหรอก ให้มีนอนก็พอ เด็ก ๆ เลือกมากไม่ได้หรอก เลือกมากเดี๋ยวโดนไม้..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-02-2013 เมื่อ 02:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 198 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #91  
เก่า 05-02-2013, 19:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,572 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เข้ามาถวายสังฆทานพร้อม ๆ กันได้ อาตมายิ่งเป็นหวัดหายใจไม่ค่อยจะออกอยู่แล้ว ต้องมาให้พรทีละชุดก็ตายพอดี ทำอะไรไม่ค่อยจะใช้ปัญญากันเลย สมัยก่อนไปกราบหลวงพ่อเกษมที่สุสานไตรลักษณ์ ก็เจอลูกศิษย์ฉลาดที่จะทำอาจารย์ตายเร็ว

วันเกิดหลวงพ่อเกษมเขากั้นให้เข้าทีละคน ถ้าเป็นอาตมาก็ปล่อยให้พรวดเดียวเข้าไปเต็มห้อง กราบเสร็จแล้วก็ไล่ออกมา ใครเขาจะไปว่าอะไร เพราะรู้ ๆ อยู่ ปรากฏว่าเขากั้นให้เข้าทีละคน แถวข้างนอกยาวเกือบ ๓ กิโลเมตร แล้วเมื่อไรหลวงพ่อท่านจะได้พัก พอเขาเห็นอาตมาเป็นพระ เขาก็บอกให้โยมหยุดก่อน ให้พระเข้าก่อน อาตมาบอกว่าไม่ต้องหรอก ว่าแล้วก็กราบตรงข้างนอกนั่นแหละ เสร็จแล้วก็กลับเลย

เวลาจะทำอะไรก็ให้ดูด้วย ถ้าทำบุญแบบไม่ได้ใช้ปัญญาประกอบ บางทีก็สร้างกรรมให้ตนเองแบบไม่รู้ตัว คนไปก็หวังจะไปกราบหลวงพ่อกันทุกคน ถ้าปล่อยพรวดเดียวเข้าไปเต็มห้อง อย่างน้อย ๆ ก็ได้ ๒๐ - ๓๐ คน กราบเสร็จแล้วขอร้องให้เขาออก คนข้างนอกยังอีกหลายพันคน เขาก็รู้ภาษาอยู่แล้ว นี่กั้นให้เข้าไปทีละคน หลวงพ่อจะได้สบายไม่ต้องรับแขกมาก แต่ลืมนึกถึงเวลาว่าเจอไปทั้งวันแล้วท่านจะเป็นอย่างไร"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-02-2013 เมื่อ 02:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 209 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #92  
เก่า 05-02-2013, 19:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,572 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ในเรื่องหลักคำสอน ปัจจุบันนี้ดีตรงที่ว่า การค้นข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตทำได้ง่าย แต่กระนั้นก็ดี บางรายก็เคารพครูบาอาจารย์แบบไม่ลืมหูลืมตา ต่อให้เขายกพระพุทธวจนะจากพระไตรปิฏกมา ก็พยายามจะค้าน กลายเป็นทะเลาะเบาะแว้งกันไป เพราะฉะนั้น..เราต้องทำตามที่พระพุทธเจ้าท่านสอนไว้ว่า “อย่ากล่าววาจาอันเป็นเหตุให้เถียงกัน”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-02-2013 เมื่อ 02:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 205 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #93  
เก่า 05-02-2013, 20:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,572 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีโยมเอาวัตถุมงคลมาถวาย พระอาจารย์จึงกล่าวว่า "อันนี้ตะกรุดหลวงปู่สาย ทำจากฝาบาตรแล้วอุดผงวิเศษ สมัยโบราณเขาหาวัสดุยาก บรรดาตะกรุดหรือแผ่นยันต์ก็เลยใช้ตะกั่วถ้ำชา ก็คือตัวหุ้มป้านน้ำชา เอาตะกั่วมาหุ้มนวมแล้วก็เอาป้านน้ำชาใส่ไว้เพื่อรักษาความร้อน เขาเลยเรียกตะกั่วถ้ำชา เอาตะกั่วถ้ำชามาทุบ ตีแผ่ รีดเป็นแผ่น แล้วก็ทำเป็นตะกรุด หรือง่าย ๆ เลยก็คือถ้าบาตรชำรุดก็เอาฝาบาตรมาทำตะกรุด โดยเฉพาะตรงขอบ ตัดมาแล้วจะม้วนได้ง่าย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-02-2013 เมื่อ 02:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 200 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #94  
เก่า 05-02-2013, 20:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,572 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ตัดไม้ใหญ่ แล้วนำกิ่งมาตั้งไว้ในศาล ?
ตอบ : ขอให้ตั้งปลายขึ้นฟ้าเท่านั้น เขาก็อยู่ได้แล้ว

ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : ได้....เพราะไม่ใช่ศาลพระภูมิ เขาสร้างให้รุกขเทวดา จึงอยู่ทิศนั้นได้ หน้าตาก็ศาลพระภูมิดี ๆ นี่เอง เพราะเล่นยกศาลพระภูมิไปตั้ง ต้องไปดูที่ศาลา ๒ ไร่ด้านบน ตอนหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านทำศาลา ๒ ไร่ ท่านให้ตัดต้นทองกวาวออกไปเยอะ ท่านต้องตั้งศาลไว้ข้างบนเรียงเป็นตับเลย ต้นหนึ่งก็หลังหนึ่ง

ถาม : ไม้ที่ตัดต้องกิ่งขนาดไหนครับ ?
ตอบ :สักประมาณท่อนแขน ยาวประมาณคืบหนึ่งก็ได้ ตั้งหันปลายขึ้น เขาจะได้เอาวิมานไปแปะต่อได้

ถาม : ปกติต้นไม้จะมีรุกขเทวดาทุกต้นไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าไม้มีแก่นสูงตั้งแต่คืบหนึ่งขึ้นไปมีรุกขเทวดาทั้งนั้น ยกเว้นพวกไม้ที่ขึ้นส่งเดช เช่นขึ้นตามกำแพง ถอนทิ้งได้เลย..ไม่เป็นอะไร เทวดาเขาไม่อยู่ให้เสียเวลาหรอก เขารู้ว่าเดี๋ยวก็โดนรื้อ แต่อย่าลืมว่าหันปลายขึ้น ถ้าหันโคนขึ้นเขาก็หมดสิทธิ์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-02-2013 เมื่อ 02:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 199 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #95  
เก่า 05-02-2013, 20:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,572 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : แบบเดียวกับที่เสาตกน้ำมันนั่นแหละ พอถึงเวลาเสาล้ม วิมานเขาก็สลายตัว เขาก็ต้องตามไปเรื่อย ตามไปด้วยความหวังว่าคนจะตั้งเสาขึ้น พอถึงเวลาตั้งเสาขึ้นก็เอาวิมานไปแปะต่อได้ เขาก็แสดงอาการให้รู้ด้วยการตกน้ำมัน แต่ที่แปลกที่สุดก็คือพระนาคปรกที่แกะจากไม้สารคาม อาตมาบูชามาจากพม่า ปีรุ่งขึ้นน้ำมันตกนองพื้นเลย

ถาม : เกิดจากอะไรครับ ?
ตอบ : ท่านคงจะบอกให้รู้ว่า จะใช้อะไรท่านก็ใช้เถอะ น้ำมันตกท่วมพื้นเลย ตอนแรกไม่ได้สังเกต ว่าจะยกท่านออกจากกล่องกระจกที่พื้นเป็นกำมะหยี่ ปรากฏว่าดูดติดกำมะหยี่ อาตมาก็ลองไปแตะดูว่าทำไมเปียก ๆ เอาขึ้นมาดมเป็นกลิ่นน้ำมันไม้สารคาม น้ำมันตกท่วมพื้นเลย องค์ท่านก็เลยติดกับกำมะหยี่ องค์ที่หน้าตักเป็นคืบ ทำจากไม้จันทน์ ถวายหลวงพ่อสมเด็จฯ วัดสระเกศไปแล้ว องค์ไม้สารคามนี้ยังเก็บอยู่ ท่านตกน้ำมันได้ดุเดือดดีแท้

ถาม : แล้วถ้าจะตั้งศาลพระภูมิด้วยกันเลยได้ไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าไม่มีแล้วอยากจะสร้างก็สร้างให้ถูกทิศ คือทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-02-2013 เมื่อ 02:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #96  
เก่า 06-02-2013, 09:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,572 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ศาลที่ตั้งให้รุกขเทวดาต้องมีทิศไหมครับ ?
ตอบ : ต้นเดิมอยู่ตรงไหนก็ใกล้ตรงนั้นแหละ ขืนไปไกลเดี๋ยวท่านขี้เกียจตาม แล้วจะมากวนเราแทน

เสาตกน้ำมันต้องไปขอดูเรือนของลุงเฉลิม คงทอง ลุงเฉลิมเป็นคริสต์นะ แต่คริสต์กลุ่มนี้นับถือหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค แล้วก็ต่อมาถึงหลวงพ่อวัดท่าซุงด้วย

ตอนที่หลวงปู่ปานสิ้นแล้ว มีบ้านอยู่หลังหนึ่งสร้างด้วยไม้ทั้งหลัง เสาตกน้ำมันทุกต้น แม้กระทั่งเสาที่เขาปักไว้กลางลานบ้านก็ตกน้ำมัน เจ้าของบ้านก็อยู่ไม่ได้ คนไปขอซื้อบ้านก็อยู่ไม่ได้ ลุงเฉลิมเห็นว่าขายถูกมาก อยากได้ ก็ไปปรึกษาหลวงพ่อวัดท่าซุง หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่า ให้เอาพานดอกไม้ธูปเทียนพร้อมกับพวกของหอมไปจุดธูปบอกกล่าว ว่าขออนุญาตซื้อเรือนหลังนี้ ถึงเวลาก็จะทำการบูชาให้สมกับเกียรติของท่าน

ลุงเฉลิมก็ทำตาม ผลปรากฏว่าลุงเดินขึ้นบันไดเรือนเกือบจะหงายหลังลงมา เขาบอกผู้ชายตัวใหญ่เบ้อเริ่ม นุ่งแดงใส่แดงนั่งหัวค้ำหลังคาอยู่ พอลุงถือพานดอกไม้ธูปเทียนเข้าไป ท่านบอกว่า “เออ..ถ้าทำอย่างนี้ก็อยู่ด้วยกันได้” ลุงเฉลิมก็ถามว่าให้ทำอย่างไร ท่านบอกว่าให้ถอนเสาเรือนทุกต้น แล้วทำเครื่องหมายไว้ด้วยว่าด้านไหนหันขึ้น แม้กระทั่งเสาที่ลานบ้านก็ให้เอาไปด้วย ลุงเฉลิมก็เอาไปแล้วปลูกเป็นเรือนขึ้นมา ราคาสมัยนั้นไม่กี่สตางค์เอง เจ็ดแปดพันบาทท่านบอกว่าใหญ่เป็นศาลาเลย

พอสร้างเป็นบ้านขึ้นมาเขาก็มาเข้าฝัน บอกว่าทุกวันพระให้ถวายไข่ต้ม ๑ ฟอง มีอะไรจะให้เขาช่วยก็บอก ครอบครัวคุณเฉลิมอยู่ดำเนินสะดวก ปลูกพวกผัก เป็นสวนผักของคนจีน ถึงเวลาผักชนิดไหนจะราคาดีในปีนั้นท่านก็จะมาบอก ลุงเฉลิมก็ขายร่ำรวยอยู่คนเดียว พรรคพวกมีอะไรเดือดร้อนวิ่งมาหาลุงเฉลิม ลุงเฉลิมพาไปวัดท่าซุงหมด ตกลงพวกนั้นเป็นคริสต์แต่ชื่อ เข้าวัดแขวนพระกันหมด

อาตมาเจอลุงเฉลิมหลายที ตอนแรกก็นึกว่าจะแก่มากเพราะว่ารุ่นไล่ ๆ กับหลวงพ่อ ปรากฏด้วยความที่แกทำไร่ทำนา จึงแข็งแรงมาก ก็เลยดูเหมือนกับคนไม่แก่ ถ้าลุงเฉลิมไปกราบหลวงพ่อทำบุญอะไรเสร็จ ก็จะมาหาป้านนทาที่ตึกริมน้ำ อาตมาเป็นเวรหน้าห้องหลวงพ่ออยู่ ก็เลยได้เจอกันบ่อย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-02-2013 เมื่อ 14:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #97  
เก่า 06-02-2013, 10:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,572 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ลุงเสียแล้วยังครับ ?
ตอบ : ได้ยินว่าตายแล้วนะ ลุงเฉลิมตายแล้ว ลุงสมบูรณ์ เวสารัชชานนท์ตายแล้ว พวกลูกศิษย์รุ่นเก่า ๆ ไปกันเยอะแล้ว ลุงสมบูรณ์ตายแบบนั่งกรรมฐานเลย ตายคากรรมฐาน

หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านแนะนำว่า เสาตกน้ำมันให้ถอนตะปูออกให้หมด เว้นไว้แต่ที่ตีไม้ฝาติดกับเสา ให้เจิมด้วยแป้งหอมน้ำมันหอม ถ้ามีทองจะปิดทองด้วยก็ได้ ถึงเวลาให้นิมนต์ไปทำบุญเลี้ยงพระสัก ๗ รูป ๙ รูป แล้วอุทิศส่วนกุศลให้เขา ท่านบอกว่าท่านทั้งหลายเหล่านี้กตัญญู ส่วนใหญ่ชอบบอกหวย พอถึงเวลาเขาได้ดีจากเราก็ตอบแทนมาก ส่วนใหญ่ชอบบอกหวย แต่มีหลายรายเป็นยามเฝ้าบ้านที่โหดมาก ขโมยขึ้นบ้านนี่ตีจนบอบช้ำไปเลย

ขโมยเห็นผัวเมียออกไปขายของกันทุกวัน พายเรือไปกว่าจะกลับก็ค่ำมืดทุกที พอซุ่มดูจนมั่นใจแล้วก็งัดบ้าน ก่อนที่จะงัดบ้านก็เดินดูรอบบ้านเห็นหน้าต่างเปิดแง้มอยู่ ก็คิดว่าไม่ต้องงัด ไปเอาไม้กระทู้ เด็กสมัยนี้รู้จักไม้กระทู้ไหม ? เป็นไม้ไผ่ที่ตัดให้เหลือก้านไว้หน่อยไว้เดินเหยียบได้

เอาไม้กระทู้มาพาดหน้าต่างแล้วก็ปีนขึ้นไป ปรากฏว่ามีสาวโผล่มาจากหน้าต่าง บอกว่า "ทำไมพี่มาช้าจัง หนูรออยู่ตั้งนาน” ขโมยก็คิดว่าสบายล่ะงานนี้ ปรากฏว่าปีนอยู่เขาเห็นว่าปีนไม่ทันใจ จึงเอื้อมมือช่วยจับแขนแล้วดึงพรวดขึ้นไปเลย ขโมยยังไม่สังหรณ์ใจอีกว่าผู้หญิงอะไรลากผู้ชายลอยขึ้นไปทั้งตัว ปรากฏว่าโดนซ้อมซะอานเลย ประเภทตบปลิวติดข้างฝาแล้วซ้ำ โดนซะน่วม ถ้าโดดหน้าต่างหนีไม่ทันมีหวังคงล่อปางตายจริง ๆ ตั้งแต่นั้นมาไม่มีใครกล้าเข้าบ้านนั้นอีกเลย

เขาบอกว่าเจ้าที่แรง ความจริงไม่ใช่เจ้าที่แต่เป็นรุกขเทวดา ถ้าเป็นเราเจอผู้หญิงหิ้วเลยไปทั้งตัวนี่ดิ้นสุดชีวิตแล้ว ไม่เอาด้วยแล้ว บ้านรวยแค่ไหนก็ไม่ปล้นแล้ว ผิดปกติชัด ๆ ปกติผู้หญิงเขาเรี่ยวแรงน้อย ผู้ชายหนัก ๖๐-๗๐ กิโลกรัม โดนหิ้วติดมือไปยังไม่ระแวงอีก จะว่าไปแล้วพวกนี้เขาสะกดได้ ทำให้คนไม่ระแวง อาตมาโดนผีหลอกทีไรไปสงสัยหลังจากที่เขาไปแล้วทุกที ตอนอยู่ตรงหน้าเหมือนอย่างกับเขาบังไม่ให้เราสงสัย คิดแต่ด้านดีกับตัวเองไว้ก่อน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-02-2013 เมื่อ 10:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #98  
เก่า 06-02-2013, 10:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,572 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ในบทสวดมนต์ที่ลงท้ายด้วยเครื่องหมายไปยาลน้อย หมายความว่าอะไรครับ ?
ตอบ : แปลว่าจริง ๆ แล้วมีเนื้อหามากกว่านั้น แต่เป็นเนื้อหาที่ซ้ำกับข้างบน เขาเลยตัดออกเหลือแค่นั้น เพราะว่าตัดออกแล้วไม่เสียความ คือพระพุทธเจ้าเวลาท่านสอนท่านจะสอนละเอียด ท่านจะย้ำแล้วย้ำอีก ซ้ำแล้วซ้ำอีก คนรุ่นหลังอ่านจนเหนื่อย หรือไม่ก็ขี้เกียจพิมพ์ก็เลยใส่ไปยาลน้อยไว้

บางที่ก็ไปยาลน้อยแล้วก็มีตัว ป คำว่า “เปฯ” ก็มาจากเปยยาลนั่นแหละ เพราะว่าเป็นเสียง เอย ออกเสียงสระไอไม้มลายครึ่งหนึ่ง ออกเสียงเอยครึ่งหนึ่ง ก็เลยเป็นไปยาล
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-02-2013 เมื่อ 10:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #99  
เก่า 06-02-2013, 10:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,572 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : มีช่วงไหนที่ท่านห่างจากการอ่านจากหนังสือไหมครับ ?
ตอบ : ช่วงเป็นทหาร ตอนที่อยู่กองโรงเรียน ๖ เดือน แทบไม่ได้ทำอะไรเลย เพราะว่าเช้ายันค่ำ ค่ำยันเช้า ถ้าไม่อยู่ในห้องเรียนก็อยู่ในสนามฝึก

ถาม : ตอนฝึกสมาธิแรก ๆ อ่านหนังสือด้วยหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ต้องเอาตำราเป็นหลัก เพราะว่าไม่มีครูสอน อาตมาเปิดจนเปื่อยเป็นเล่ม ๆ เลย เทปของหลวงพ่อวัดท่าซุงที่ฟังประจำ ๆ มีอยู่ประมาณ ๑๕๐ ม้วน ฟังจนยืดฟังไม่ได้ ก็ยัดเข้าตู้เย็น เอาออกมาฟังใหม่ได้อีกรอบสองรอบ ก็ต้องยัดเข้าไปใหม่จนหมดสภาพ ต้องกัดฟันควักกระเป๋าไปซื้อใหม่ จนกระทั่งทุกวันนี้พระที่วัดสงสัยว่า เวลานั่งกรรมฐานฟังเสียงหลวงพ่อวัดท่าซุงอยู่ ก่อนจบนิดหนึ่งอาตมาจะลุกขึ้นไปเปิดไฟ เขาสงสัยว่ารู้ได้อย่างไรว่าจะจบ อาตมาฟังจนจำได้ทุกคำแล้ว จะให้เทศน์แทนตามนั้นทุกคำก็ยังไหว

ม้วนที่ใครที่คิดจะปฏิบัติแล้วคิดว่าครอบคลุมจริง ๆ จะอยู่ในธุดงค์และปฏิปทาปฏิบัติ ม้วน ๒ และอยู่ในพรหมวิหาร ๔ ไปลองฟังดู
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-02-2013 เมื่อ 14:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #100  
เก่า 06-02-2013, 11:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,572 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : .......แม่ย่านาง ?
ตอบ : ถ้าครูบาอาจารย์ท่านรู้ ท่านเจิมแล้วท่านขอเทวดารักษาให้ บางทีก็เป็นพ่อปู่นายไม่ใช่แม่ย่านาง แต่เรียกแม่ย่านางกันจนชิน

ถาม : ถ้าไม่เชิญท่าน ท่านจะมาหรือไม่คะ ?
ตอบ : ถ้าไม่เชิญท่านก็ไม่มาหรอก เสียเวลาท่าน คนที่จะเชิญท่านก็ต้องให้ท่านเกรงใจบ้างนะ ถ้าไม่มีที่ให้เกรงใจ อยู่ ๆ ไปเชิญอาจจะได้อะไรมาแทนก็ไม่รู้

ทางปักษ์ใต้จำไม่ไว้ว่าวัดอะไร อยู่แถว ๆ ชุมพร หลวงพ่อท่านเก่งมาก ท่านไปพลีต้นตะเคียนมาทำเรือแข่ง พอถึงเวลาพ้นฤดูกาลแข่งเรือก็ขึ้นคานไว้ เชื่อไหมว่าพอใกล้ถึงฤดูแข่งเรือ เรือจะเลื่อนจากคานลงน้ำเอง พวกชาวบ้านพอเห็นแม่ย่านางลงน้ำก็รู้ เตรียมฝึกซ้อมได้แล้ว อะไรจะเก่งปานนั้น เลื่อนจากคานลงน้ำเอง เรือลำใหญ่มหึมาขนาดนั้นลงเงียบกริบเลย ขนาดคนช่วยกันแบกกันหามยังเอะอะเอ็ดตะโรลั่น อันนี้ท่านไปเองไปเงียบกริบเลย มารู้ก็ตอนลอยลำในน้ำแล้ว

ถ้าเห็นเรือลอยอยู่ท่าน้ำหน้าวัดเมื่อไรก็รู้ได้ว่าเตรียมซ้อม ครองแชมป์จนกระทั่งไม่รู้ว่าจะเอาถ้วยไปไว้ที่ไหน ยังโชคดีว่าสมัยนั้นไม่มีการตระเวนแข่งเหมือนสมัยนี้ ถ้าสมัยนั้นมีพวกรถพ่วงแบบสมัยนี้ คงประเภทคว้าแชมป์ทั่วประเทศ เพราะอันนั้นไม่ใช่กำลังคนเฉย ๆ กำลังคนอย่างเดียวไม่พอ ยังมีแม่ย่านางช่วยอีกด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-02-2013 เมื่อ 14:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:55



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว