กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #61  
เก่า 23-01-2013, 09:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,520 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การที่เดินไปด้วยแล้วกำหนดก้าวย่างหนอ เดินย่างหนอ อารมณ์จะเป็นฌานได้หรือครับ ?
ตอบ : กี่สิบอารมณ์ก็เป็นได้ สำคัญว่าเรามีความคล่องตัวหรือเปล่า

ถาม : ถ้าไม่มีความคล่องตัว ?
ตอบ : ถ้าไม่มีความคล่องตัวก้าวยังไม่ออกเลย พออารมณ์ใจเริ่มทรงตัว จิตกับประสาทร่างกายเริ่มแยกออกจากกัน ก็จะเดินไม่ได้

ถาม : ถ้าคนที่ฝึกใหม่ ก็ไม่ควรไปฝึกเพิ่ม ?
ตอบ : ต้องเอาของเดิมเป็นหลักไว้ก่อน หลังจากนั้นค่อยซักซ้อมของใหม่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-01-2013 เมื่อ 09:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 220 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #62  
เก่า 23-01-2013, 09:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,520 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาพระท่านทำน้ำมนต์ ท่านใช้สมาธิอย่างไร ?
ตอบ : อยู่ที่ว่าสายการปฏิบัติของท่านทำมาอย่างไร

ถาม : ต้องใช้กสิณน้ำโดยเฉพาะหรือครับ ?
ตอบ : ใครได้สมาธิก็ใช้สมาธิ ใครได้กสิณก็ใช้กสิณ แต่สายวัดท่าซุงท่านให้ขอบารมีพระแทน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-01-2013 เมื่อ 10:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 234 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #63  
เก่า 23-01-2013, 10:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,520 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาเจริญอานาปานสติแล้วเดินเตโชกสิณ ท่านบอกว่าจะต้องทรงกรรมฐานอานาปานสติไว้ด้วยใช่ไหมครับ ?
ตอบ : เตโชกสิณเริ่มจากไม่มีอะไรเลยก็ได้ เพราะว่าการภาวนาก็ต้องควบกับลมหายใจอยู่แล้ว ต่อให้ไปเริ่มต้นนับ ๑ ในอานาปานสติ ถึงเวลาถ้าอุคหนิมิตเกิดก็คือเริ่มได้สมาธิแล้ว

ถาม : จะทำอรูปฌาน ก็ต้องเพิกปฏิภาคนิมิตตอนถึงฌานสี่แล้วค่อยพิจารณาหรือครับ ?
ตอบ : ตั้งภาพกสิณขึ้นมาก่อน แค่อุปจารสมาธิก็พอแล้ว อย่าไปเพิกภาพเลยทีเดียว ไม่อย่างนั้นจะพิจารณาไม่ได้ พอภาพชัดเจนแจ่มใสแล้วค่อยเพิกภาพกสิณนั้นเสีย แล้วพิจารณาไปเรื่อย ๆ กำลังสมาธิจะดิ่งลึกลงไป พอเข้าไปถึงฌาน ๔ ก็เท่ากับว่าสำเร็จอรูปฌานชั้นนั้น

ถาม : การเพิกนิมิต ?
ตอบ : นิมิตที่จะใช้ในอรูปฌานต้องเป็นนิมิตในกสิณทั้ง ๘ กองเท่านั้น คนที่มีความสามารถสูง ๆ ถึงจะทำกองที่ ๙ คือ อาโลกกสิณได้ แต่อากาสกสิณเก่งแค่ไหนก็ทำไม่ได้ เพราะอากาสกสิณมีสภาพคล้ายคลึงกับอากาสานัญจายตนฌานอยู่แล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-01-2013 เมื่อ 14:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 217 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #64  
เก่า 23-01-2013, 10:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,520 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พระธุดงค์ที่ไปนั่งกรรมฐานตอนกลางคืน เขาบอกว่าจะมีแร่ที่มีพลังงานมาส่งเสริมการปฏิบัติ จริงหรือเปล่า ?
ตอบ : สรุปง่าย ๆ ว่าความกลัวช่วยส่งเสริมมากที่สุด อย่างอื่นยังเป็นรอง สถานที่สัปปายะเป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้านั้นตรัสไว้อยู่แล้ว คือสถานที่ซึ่งเหมาะสมกับแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน ถ้าคนไหนเหมาะสมกับสถานที่อย่างไร ได้ไปสถานที่นั้นก็จะหนุนเสริมการปฏิบัติได้ดี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-01-2013 เมื่อ 14:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 235 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #65  
เก่า 23-01-2013, 11:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,520 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ในภาวะปกติ ถ้าเราเข้าใจว่าเรากลัวอะไร...?
ตอบ : สรุปทุกอย่างว่าเรากลัวตาย ถ้าแก้ตัวกลัวตายได้ก็เลิกกลัวทุกอย่าง ดูตอนข่าวลือโลกแตกที่ผ่านมาก็พอ

ถาม : แสดงว่าเขาไม่ศรัทธาคำสอนพระพุทธเจ้า ?
ตอบ : บางคนศรัทธาอยู่ แต่ความกลัวตายมีมากกว่าเลยไปบดบังสติปัญญา ในเมื่อสติปัญญาโดนบดบังก็ไหลไปตามกระแสข่าวลือ ก็ที่พระครูปลัดปรีชาอุตส่าห์เตรียมไฟแช็ก เตรียมถ่าน เตรียมเทียนไขไว้ในเป้ แล้วมาถามว่าอาจารย์เตรียมไว้บ้างหรือเปล่า ? อาจารย์ไม่ได้เตรียมอะไรเลย

พระครูปลัดบอกว่าที่น่ากลัวไม่ใช่โลกแตก แต่เป็นพายุสุริยะ ถ้าวูบมาได้ความร้อนระดับนั้นก็ประเภททีเดียวสุกเลย อาตมาบอกว่า "อ๋อ..อย่างนั้นยิ่งไม่น่ากลัวใหญ่ ตายแบบไม่รู้ตัวจะต้องไปกลัวอะไร" สรุปแล้วคนกล้าตายครั้งเดียว คนกลัวนี่ตายหลายครั้ง กลัวแล้วกลัวอีก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-01-2013 เมื่อ 14:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 226 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #66  
เก่า 23-01-2013, 11:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,520 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ช่วงหมดลมหายใจมีระยะเวลาให้คิดพิจารณาว่าจะไปไหนใช่หรือไม่ ?
ตอบ : ต้องได้รับการฝึกมามากพอ ถ้าไม่ได้รับการฝึกมามากพอ สภาพจิตไม่มีที่เกาะ เคว้งคว้างไปไม่ถูก ก็จะโดนแรงกรรมที่เป็นอาสันนกรรมดึงไปได้ แต่ถ้าได้รับการฝึกมามากพอ มีเป้าหมายที่แน่นอน สภาพจิตก็จะไปตามนั้น ช่วงหมดลมหายใจแล้วสภาพจิตยังรับรู้อยู่

ถาม : น่าฝึกลองตาย
ตอบ : ต้องลองตาย

ถาม : ถ้าไม่ถึงอายุขัยเราก็ลองได้ใช่ไหมคะ ?
ตอบ : ไม่ถึงอายุขัยหรอกแต่ถ้าอุปฆาตกรรมมา ไปยาวเลย อาตมาเคยตั้งใจดูว่าตายแล้วจิตจะออกไปตอนไหน ปรากฏว่าใจจดจ่อมากไม่กลับไปไหนเลย อยู่อย่างนั้นแหละ ทั้ง ๆ ที่ร่างหมดลมไปตั้งหลายชั่วโมงก็อยู่แค่นั้น ไปจ้องมากคงจะอาย กลัวเราจะรู้ว่าไปอย่างไร

ช่วงนั้นอาการไข้กำเริบมาก รู้สึกเหมือนกับไฟธาตุหมด เย็นจากมือจากเท้า เย็นเข้ามา ๆ พอความเย็นลามมาถึงตัวถึงอกก็รู้ว่าไม่รอดแน่แล้ว จึงตั้งใจดูว่าจะตายอย่างไร คราวนี้พอความเย็นมากขึ้น ๆ เกิดเกิดนิมิตหลอนเหมือนกับจมน้ำ เพราะว่าพอรู้สึกเย็นก็เหมือนกับว่าตัวเราจมน้ำ พอน้ำท่วมจมูกมิดคือตอนที่ร่างกายหยุดหายใจแล้ว ก็คอยดูว่าจะไปอย่างไร

ความรู้สึกเหมือนกับว่าดิ่งลง ๆ จนกระทั่งกระทบพื้น เหมือนกับจมจนกระทั่งถึงก้นแม่น้ำ แล้วค่อย ๆ ลอยขึ้น ๆ พอจมูกพ้นน้ำ ร่างกายก็กระตุกเฮือกหายใจเอง คราวนี้พอประสาทร่างกายกลับคืนมาสมบูรณ์ ลืมตามาดูนาฬิกาเกือบตีห้า ตอนเริ่มเป็นดูนาฬิกาอยู่ที่ห้าทุ่มกว่า ตั้งใจดูว่าจะไปตอนไหน

ตอนช่วงที่อยู่ในน้ำก็รู้สึกตลอด ไปตอนที่แตะพื้นรู้สึกมากที่สุดเลย เหมือนกับโคลนเละ ๆ เย็น ๆ เย็นเจี๊ยบเลย ลองตายดูได้จ้ะ ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก

ทางด้านสายทิเบตมีการฝึกลองตาย เขาใช้เชือกรัดคอตัวเองแล้วก็โยงกับขา เหยียดออกไปให้รัดแน่นขึ้นเรื่อย ๆ แต่บางคนหดกลับมาไม่ทัน เลย ตายจริง ๆ เขาจะฝึกดูว่าสภาพจิตมีการกลัวตายไหม ระหว่างนั้นมีความมั่นคงต่อสิ่งที่ตนเองฝึกปรือมาหรือเปล่า เขาเลยผูกล่ามกับขาตัวเองในลักษณะงอเข่าแล้วค่อย ๆ เหยียดออกไป เชือกที่รัดคอไว้ก็ตึงขึ้นเรื่อย ๆ ที่เขาผูกก็คือเล่นผูกอ้อมไปด้านหลัง ไม่มีโอกาสที่จะช่วยแกะได้ เรียกว่าฝึกกันอย่างเอาชีวิตเข้าแลก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 23-01-2013 เมื่อ 21:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 221 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #67  
เก่า 23-01-2013, 11:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,520 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีโยมนำพระเครื่องมาถวาย พระอาจารย์กล่าวว่า "พระทางเหนือเวลาทำพระเครื่องแต่ละองค์ไม่ได้คิดจะให้เข้าชุดกันเลย ใหญ่บ้างเล็กบ้าง ยิ่งถ้าไปเจอพระเปิมแต่ละองค์ ๓ นิ้วมือเลย คำว่า "เปิม" ภาษาเหนือก็บอกอยู่แล้ว ถ้าไม่ใหญ่ก็ไม่เปิม

คนโบราณเขาไม่แขวนพระ เขาว่าพระเป็นของสูง ต้องอยู่ในวัด ก็เลยใช้พวกเครื่องรางแทน มายุคปัจจุบันค่านิยมเปลี่ยน ยิ่งแขวนเยอะยิ่งดี มีลุงคนหนึ่งที่แขวนจตุคามฯ คนเดียว ๓๐๐ องค์ แสดงว่าแข็งแรงมาก ถึงแบกน้ำหนักขนาดนั้นไหว

อาตมามีจตุคามฯ อยู่ ๒ องค์ที่ตั้งใจเลี่ยมทองสวิสเก็บไว้เลยเพราะแบบสวยมาก แต่ว่าตั้งแต่ปี ๕๐ นี่เลี่ยมทองไปสี่หมื่นกว่า ๆ ลองคิดดูว่าราคาทองปัจจุบันนี่เท่าไร เดี๋ยวไว้
เอาลงตอนเปิดกระทู้ใหม่ก็แล้วกัน

อาตมารบกวนท่านจตุคามรามเทพตั้งแต่ท่านยังไม่ดัง จนกระทั่งท่านดัง จนกระทั่งคนเลิกเห่อ อาตมาก็ยังคงกวนท่านอยู่เป็นปกติ ด้วยความที่ใคร ๆ ก็โหนกระแสท่าน วัดแทบทุกวัดในประเทศไทยต้องสร้าง หน่วยราชการหลายหน่วยก็สร้าง จตุคามฯ ก็เลยออกมาน่าจะเกินพันรุ่น ปริมาณที่ออกมารวม ๆ แล้วน่าจะเกินจำนวนประชากรในประเทศไทย เพราะฉะนั้น..ไม่ต้องแปลกใจหรอกว่าทำไมถึงได้ราคาตกปานนั้น

ตอนที่รุ่นหลักเมืองปี ๓๐ ราคาขึ้นเป็นล้าน พอคุณเชษฐ์เอาไปปล่อยได้แค่ครึ่งเดียวเอง แบบเดียวกับรุ่นเจดีย์ราย ราคาหลายหมื่น ของอาตมาเอาออกหน้าตาเฉยในราคาไม่กี่พัน ตอนนั้นพ่อปู่ขุนพันธ์ท่านเป็นประธานบูรณะเจดีย์รอบพระธาตุเมืองนคร เมื่อท่านบอกบุญมา อาตมาไม่รังเกียจก็ทำอยู่แล้ว ช่วงนั้นจะมีวัตถุมงคลของท่านแทบทุกรุ่น งานศพพ่อปู่ขุนพันธ์นี่คนไปกันหลายหมื่น ตั้งใจไปรับวัตถุมงคลอย่างเดียวก็มาก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-01-2013 เมื่อ 14:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 235 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #68  
เก่า 23-01-2013, 11:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,520 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เท่าที่ผ่านมาที่นิตยสาร Forbes เขาประกาศมหาเศรษฐีติดระดับโลก ส่วนใหญ่แล้วเป็นพวกอสังหาริมทรัพย์กับพวกหุ้น คนที่จะถือเงินสดทีเจ็ดแปดหมื่นล้านนี่คงจะยาก ไม่อย่างนั้นพิมพ์เงินมาครึ่งโลกก็คงไม่พอให้เขาถือหรอก

ที่น่ากลัวมากคือคุณเฉลียว อยู่วิทยา เจ้าพ่อกระทิงแดง และคุณเจริญ สิริวัฒนภักดี สรุปว่าบ้านเรากินของมึนเมากับของชูกำลังจนเจ้าของรวยติดระดับโลกไปเลย ดู ๆ แล้วน่ากลัวมาก ตอนนี้บ้านเรา เบียร์สิงห์ เบียร์ช้าง ไฮเนเก้น คิริน กำลังแย่งกันทำตลาด ก็แสดงว่าโอกาสที่ตลาดบ้านเราจะโตยังมีอีกมาก ต่างประเทศเขามองเห็นเขาถึงได้กล้ามาลงทุน

ไม่ใช่ข่าวดีสำหรับพระเลย เพราะแปลว่าคนไทยพร้อมที่จะเมาอยู่ตลอดเวลา ที่เขาบอกว่า "วันไหน ๆ พี่ไทยก็เมา" กิจการพวกนี้พอโตขึ้น ๆ เขาใช้วิธีแตกบริษัทลูกออกไป เพื่อจะขยายกิจการเพิ่มขึ้น ถ้าเป็นกิจการมหาชนก็คือควักกระเป๋าคนอื่นมาลงทุน เขาซื้อหุ้นเรา เราก็มีเงินมาลงทุน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-01-2013 เมื่อ 14:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 221 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #69  
เก่า 23-01-2013, 11:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,520 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีโยมนำพระบูชาหลวงพ่อไหลมาเทมามาถวาย พระอาจารย์กล่าวว่า "ที่เขาเขียนว่า "หลวงพ่อเงินไหลมาเทมา" จริง ๆ แล้วหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเรียกว่า “หลวงพ่อไหลมาเทมา” แปลว่าเอาทุกอย่าง แต่อันนี้เอาเงินอย่างเดียว ถ้าเป็นทองมาไม่เอา..ว่าอย่างนั้นเถอะ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-01-2013 เมื่อ 14:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 229 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #70  
เก่า 23-01-2013, 11:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,520 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "มีคำถามว่าปีใหม่จริง ๆ แล้ว ควรที่จะยินดีหรือควรที่จะเสียใจ ? เพราะแก่ขึ้นอีกปีหนึ่งก็เท่ากับอายุลดน้อยถอยไปปีหนึ่ง แปลว่าที่เราฉลองปีใหม่ก็คือฉลองที่อายุหมดไปปีหนึ่ง ต้องเป็นคนที่เข้าถึงธรรมเท่านั้นที่จะทำใจสนุกสนานได้ เพราะดีใจที่ใกล้ตายแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-01-2013 เมื่อ 14:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 228 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #71  
เก่า 23-01-2013, 12:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,520 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พิธีการกราบขอขมาพระอาจารย์เนื่องในโอกาสวันปีใหม่ "อาตมาถือว่าเป็นตัวแทนของพระรัตนตรัย รับการขอขมาเนื่องในวาระดิถีขึ้นปีใหม่จากญาติโยมทุกท่าน จะว่าไปแล้ว ปีใหม่ ๒๕๕๖ เป็นปีที่บ้านเราเมืองเรากำลังจะพลิกฟื้นขึ้นมาสู่ความดี แต่เราต้องคิดด้วยว่า การที่ประเทศชาติของเราตกต่ำมาเป็นระยะเวลาหลายปี อยู่ ๆ จะให้ดีทีเดียวนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้ ในช่วงที่จะค่อยพลิกฟื้นคืนมาก็เหมือนกับการไต่ขึ้นที่สูง ย่อมต้องมีความยากลำบากอยู่บ้าง ซึ่งต้องอาศัยความอดทน อดกลั้น และความรักใคร่สามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จึงจะช่วยนำพาประเทศชาติของเรา ให้ก้าวไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองอย่างที่ทุกคนต้องการ

การที่ท่านทั้งหลายได้มาตั้งใจขอขมาพระรัตนตรัยในช่วงวาระดิถีขึ้นปีใหม่ ก็ถือว่าเราเริ่มต้นปีใหม่ เริ่มต้นชีวิตใหม่ ด้วยการกระทำในสิ่งที่เป็นความดี ความงาม ขณะเดียวกัน..ท่านทั้งหลายจำนวนมากด้วยกัน ก็ยังได้ประกอบกรรมความดี อย่างเช่น การสวดมนต์ข้ามปี โดยเฉพาะเพื่ออุทิศถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ก็แปลว่าสิ่งทั้งหลายที่เราทำความดีนั้น จะเป็นบุญเป็นกุศลในการส่งเสริมอุดหนุน ประคับประคองประเทศชาติของเราให้ก้าวขึ้นไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง สมดังที่เราปรารถนาทุก ๆ ประการ

ท้ายสุดนี้อาตมภาพในฐานะตัวแทน ก็ขออ้างคุณศรีรัตนตรัย มีพระพุทธรัตนะ พระธรรมรัตนะ และสังฆรัตนะเป็นประธาน มีกุศลบารมีที่ท่านทั้งหลายได้ร่วมกันเสริมสร้างมาตั้งแต่ต้นจนบัดนี้เป็นที่สุด จงมารวมกันเป็นตบะเดชะ พลวปัจจัย ดลบันดาลให้ทุกท่านไม่ว่าจะประกอบกิจการงานใดก็ตาม ให้ประสบแต่ความสำเร็จ มีความเจริญรุ่งเรือง แม้ปรารถนาสิ่งใดที่เป็นไปโดยชอบ ประกอบด้วยธรรมวินัยแล้วไซร้

ขอบารมีคุณพระศรีรัตนตรัยได้โปรดดลบันดาลให้ท่านทั้งหลาย ประสบความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคล สมบูรณ์พูนผลจงทุกประการ มีความสมหวังในสิ่งที่ปรารถนาอันเป็นไปโดยชอบทุกท่านทุกคนด้วยเทอญ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-01-2013 เมื่อ 14:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 241 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #72  
เก่า 23-01-2013, 12:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,520 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "หลายคนเวลาทำบุญแล้วกลัวจะไม่ได้บุญ อย่างไปซื้ออาหารในตลาดถวายพระกลัวจะไม่ได้บุญเลยทำเอง จำไว้เลยว่าทำเองนั่นแหละจะไม่ได้บุญ เพราะทำไปทำมาเหนื่อยขึ้นมาก็โมโห บุญลดลงอีก อะไรที่ทำแล้วสบายใจที่สุดให้ทำอย่างนั้น กำลังใจของเราทรงตัวบุญจะได้มากหน่อย ประเภทยกไปยกมาแถมบ่นอีกว่าทำไมหนักอย่างนี้ อารมณ์ไม่ดีขึ้นมาบุญกลับลดลงอีก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-01-2013 เมื่อ 14:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 237 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #73  
เก่า 23-01-2013, 12:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,520 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องของการหล่อพระพุทธรูปทองคำ เมื่อวานกำลังนั่งรับสังฆทานอยู่ ท่านทำภาพให้เห็นลักษณะเหมือนกับพระพุทธรูปไม่มีพระเกตุมาลา ก็เลยกำหนดใจถามว่าหมายความว่าอย่างไร ? ท่านบอกว่าถ้าหล่อพระลักษณะนี้เราจะได้สร้างเครื่องทรงถวายด้วย ถ้าเอาลักษณะอย่างนั้นจะเสร็จเร็วเลย ไม่ต้องใช้ทองคำถึง ๔๐ กิโลกรัม

ตอนแรกตั้งใจจะหล่อเป็นแบบพระพุทธชินราชก็คือสมเด็จองค์ปฐมปางพระพุทธชินราช หน้าตัก ๑๐ นิ้ว ต้องใช้ทองคำประมาณ ๔๐ กิโลกรัม แต่ถ้าเป็นทรงอย่างที่ท่านว่ามาหน้าตัก ๑๐ นิ้ว ใช้ทองไม่กี่กิโลกรัมหรอก อย่างเก่งก็ ๑๐ กว่ากิโลกรัมเท่านั้น แล้วเราค่อยไปสร้างเครื่องทรงถวายทีหลัง ตีเสียว่าถ้าอายุ ๖๐ ปีสร้างองค์ท่าน แล้วอายุ ๗๒ ปี ถ้าตะกายอยู่ไปถึง ก็สร้างเครื่องทรงถวายท่านอีกรอบ

อาตมารู้จักช่างที่สร้างเครื่องทรงถวายพระแก้วมรกตด้วย เดี๋ยวจะลองถามดูว่าจะเอากี่สิบล้าน ความภูมิใจชีวิตของเขาก็คือได้รับความไว้วางพระราชหฤทัย สร้างเครื่องทรงถวายพระแก้วมรกต แต่อาตมาดู ๆ แล้วพระทรงเครื่องถ้าจะเอาสวย ต้องทรงเครื่องฤดูร้อน แต่ถ้าจะเอาแพงต้องฤดูหนาว แต่ไม่เป็นไร..เป้าหมายยังไม่เปลี่ยน เดี๋ยว ๖๐ ปีแล้วค่อยสร้าง หาช่างปั้นหุ่นฝีมือดี ๆ ก่อน ตอนนี้ช่างปรัชญ์ค่าตัวแพง หุ่นละหนึ่งแสนบาท..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-01-2013 เมื่อ 14:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 237 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #74  
เก่า 25-01-2013, 08:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,520 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : วงสมาธิกับขอบเขตในการแผ่เมตตา อันเดียวกันหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : อันเดียวกัน มีกำลังสมาธิแค่ไหนก็ไปได้แค่นั้น

ถาม : เราควรจะให้ใหญ่สุดเท่าที่จะใหญ่ได้ ?
ตอบ : ไปจนกระทั่งทุกภพทุกภูมิได้จะดีมาก ซ้อมไว้บ่อย ๆ เดี๋ยวก็ทำได้เอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-01-2013 เมื่อ 09:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 198 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #75  
เก่า 25-01-2013, 09:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,520 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "การปฏิบัติธรรมช่วงมาฆบูชามีการอุปสมบทหมู่ ตอนแรกจะมีการฉลองพระพุทธพลังจิตทองคำด้วย แต่ช่างเขากลัวว่าถ้าเร่งทำแล้ว เกิดผิดพลาดอะไรขึ้นมาจะแก้ไขไม่ทัน ฉะนั้น..จึงขอเลื่อนการฉลองพระพุทธพลังจิตทองคำไปเป็นวิสาขบูชาแทน แปลว่าตามรายการลงไว้ว่ามีการฉลองพระ ก็เป็นงานทำบุญวันมาฆบูชาเฉย ๆ

สำหรับปีใหม่ปกติอาตมาจะอัญเชิญพระบรมธาตุเขี้ยวแก้วมาให้พวกเราได้สักการะกันที่บ้านวิริยบารมี แต่ปีนี้เชิญมาได้แต่ผอบ ท่านกลับไปนอนที่วัดเรียบร้อยแล้ว อุตส่าห์ห่อมาอย่างดิบดี ใส่กล่องแถมยังมีพลาสติกกันกระแทกมาด้วย สงสัยอากาศกรุงเทพฯ จะร้อน ท่านจึงหนีกลับไปนอนที่วัด เพราะฉะนั้น..ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปใครจะสักการะท่านก็ไปตอนวันวิสาขะฯ มาฆะฯ หรืออาสาฬหะฯ นะจ๊ะ

ถ้าศาลาใหม่สร้างเสร็จ อาตมาจะอัญเชิญไปจะตั้งไว้ ให้เข้าไปถวายสักการบูชาได้ทุกวัน ตอนนี้บอกกับช่างเขาว่า ถ้าพร้อมเมื่อไรให้เริ่มลงมือรื้อศาลาได้เลย จะวางศิลาฤกษ์วันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๖ หลังจากงานเป่ายันต์เกราะเพชรแล้ว ๑๑ วัน ก็แปลว่ามีเวลา ๑๐ วันหลังงานเป่ายันต์ฯ ให้เตรียมงาน

ศาลาการเปรียญเก่านั้น เสาทุกต้นส่วนที่เป็นปูนหมดสภาพแล้ว สนิม
ขึ้นดันปูนแตกหมดแล้ว ภาษาช่างเขาเรียกว่าเสาระเบิด ส่วนด้านบนปลวกกินไส้ตรงกลางเสาหมดแล้ว วันดีคืนดีหน้าฝนกำลังทำวัตรกันอยู่ แมลงเม่าก็บินพรูจากต้นเสามาเป็นทางเลย ถ้าไม่สร้างใหม่วันดีคืนดีศาลาทรุดลงไปเดี๋ยวจะเดือดร้อนกันใหญ่ ตอนทำจะขยายพื้นที่จากศาลาหลังเดิมให้คลุมหอฉันเก่าไปด้วย ศาลาหลังใหม่จะมีพื้นที่กว้าง ๔๐ เมตร ยาว ๔๐ เมตร คือ ๑ ไร่พอดี ทำเป็น ๒ ชั้น ชั้นล่างสูง ๘ เมตร เขาจะทำหลอกตาดูข้างนอกเหมือนกับเป็น ๒ ชั้นแต่เป็นชั้นเดียว ส่วนชั้นกลางจะเป็นที่ปฏิบัติธรรม ชั้นบนสุดที่เป็นดาดฟ้าจะตั้งหมู่เรือนไทยไว้เป็นชั้นที่ ๓

เมื่อ ๒ ปีก่อนไปสืบถามราคามา เขาบอกว่าพื้นที่ ๑ ไร่ ถ้าจะทำหมู่เรือนไทย ให้เตรียมงบฯ ไว้เลย ต่ำสุด ๒๐ ล้านบาท ตอนนี้อาตมากำลังคิดว่าถ้าไม้ราคาแพง เรือนไทยเราก็ทำเป็นคอนกรีต ถึงเวลาแล้วทาสีให้ดูเป็นไม้ก็ได้ เดี๋ยวนี้สีแบบไม้มี หรือไม่ก็ทำเป็นเรือนไทยแบบคอนกรีตนั่นแหละ หลังคาทรงไทยก็ทำได้ ราคาถูกกว่าไม้ตั้งเยอะ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-01-2013 เมื่อ 09:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 201 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #76  
เก่า 25-01-2013, 09:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,520 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

โยมกำลังตัดฝ้ายเตรียมทำไส้ผางประทีป แก้ออกมาแล้วพันกันยุ่งไปหมด พระอาจารย์กล่าวว่า "เคยได้ยินสำนวนโบราณที่เขาบอกว่า ลิงแก้แหไหม ? ประเภทยิ่งแก้ก็ยิ่งยุ่ง หาหัวหาท้ายไม่เจอ พันกันมั่วไปหมด เราต้องตัดไล่ไปเรื่อย ๆ ถ้าไปแก้อย่างนั้นก็มั่วอยู่แค่นั้นแหละ

"ลิงแก้แห" กับ "ลิงติดตัง" ก็พอ ๆ กัน ลิงแก้แหนี่ยิ่งแก้ก็ยิ่งยุ่ง ท้ายสุดก็พันตัวเองนัวเนียไปหมด ลิงติดตังนี่ก็ยิ่งแกะก็ยิ่งติด

“ตัง” เป็นน้ำมันจากต้นไม้ ยางต้นไม้ที่เขาเจาะมา แล้วเอามาเคี่ยวจนเหนียว เสร็จแล้วก็เอาไปป้ายไว้ดักนก เขาเอาทาก้านไม้เอาไว้ ลักษณะประมาณตะเกียบยาวกว่านิดหน่อย แล้วก็เอาไปเสียบไว้ตามต้นไม้ เวลานกมาเกาะก็ติด พอขาติดอยู่จะขยับปีกบิน ปีกก็ติดไปด้วย คนก็ขึ้นไปแกะ ปรากฏว่าลิงก็มาติดอยู่ด้วย พอติดแล้วลิงแข็งแรงกว่าก็ดึงมือออกได้ คราวนี้พอมือขวาแกะก็ติด มือซ้ายแกะก็ติด เท้าแกะก็ติดให้ยุ่งไปหมด"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-01-2013 เมื่อ 09:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #77  
เก่า 25-01-2013, 10:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,520 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หลักฮวงจุ้ยที่ทำให้คนเจริญรุ่งเรือง ?
ตอบ : เกิดจากกรรมเก่า...ถ้ากรรมเก่าทำไว้ดีก็ได้ฮวงจุ้ยดี ถ้ากรรมเก่าทำไว้เฮงซวยก็ได้ฮวงจุ้ยไม่ดี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-01-2013 เมื่อ 10:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 204 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #78  
เก่า 25-01-2013, 18:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,520 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ได้สูตรยาน้ำหัวไชเท้าแล้วอาการดีขึ้นมากเลย
ตอบ : ต่อไปจำไว้ แพ้ยาเมื่อไรก็ต้มหัวไชเท้ากิน แล้วก็ไม่ใช่ไปกินส่งเดชเรื่อยเปื่อยนะ ของทุกอย่างต้องพอดี ไม่ใช่เห็นว่ากินแล้วหาย ไปกินมาก ๆ เข้าเดี๋ยวเป็นเรื่องอีก
ของที่น่ากลัวที่สุดก็คือถั่วงอก อย่าไปกินถั่วงอกดิบเป็นอันขาด เพราะเป็นตัวทำลายวิตามินและสารอาหารในร่างกายได้เด็ดขาดที่สุดแล้ว กินไปมาก ๆ เดี๋ยวจะหมดสภาพไปโดยไม่รู้สาเหตุ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-01-2013 เมื่อ 02:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 194 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #79  
เก่า 25-01-2013, 18:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,520 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมไปหล่อพระที่วัดแห่งหนึ่ง ทางวัดจัดให้บูชาแท่งทองราคาต่าง ๆ กัน มีแท่งทองเหลืองราคา ๒,๙๙๙ บาท พวกผมรวมเงินกันแล้วไม่ถึง แต่กรรมการเขาเห็นว่าเป็นเงินที่รวมกันมาหลายคน เขาจึงอนุญาตให้ทำบุญนำแท่งทองเหลืองนั้นไปหล่อพระได้ กรณีนี้พวกผมจะเป็นหนี้สงฆ์ไหมครับ ?
ตอบ : ติดตรงไหนล่ะ ? ถ้าไปขโมยเขามาสิถึงจะติด..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-01-2013 เมื่อ 02:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #80  
เก่า 25-01-2013, 18:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,520 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องของเจ็บไข้ได้ป่วยจริง ๆ แล้วเป็นธรรมดาของร่างกาย ความเจ็บป่วยมีคุณมหาศาลตรงที่ทำให้เราไม่ประมาทในชีวิต ระลึกรู้อยู่เสมอว่าร่างกายนี้ไม่ใช่ของเรา บังคับบัญชาไม่ได้ ท้ายที่สุดคือเห็นว่าความตายอยู่ใกล้นิดเดียว ในเมื่อเป็นอย่างนั้น ยิ่งเจ็บป่วยก็ต้องยิ่งระมัดระวังรักษากำลังใจให้ดี โดยเฉพาะใช้วัดตัวเองว่าสิ่งที่ทำมา ทำไปถึงไหนแล้ว

นักปฏิบัติถ้ามีอุบัติเหตุหนัก ๆ หรือเจ็บไข้ได้ป่วยหนัก ๆ จะเห็นกำลังใจตัวเองชัดมาก ถึงเวลานั้นจะรู้ว่าต้นทุนของตัวเองเพียงพอหรือไม่ ถ้ายังไม่พอก็เร่งสุดชีวิตได้แล้ว ถ้าพอแล้วก็อย่าประมาท เร่งสั่งสมให้มากยิ่ง ๆ ขึ้นไป

ตั้งแต่อาตมาไม่ฉันยามา ๒ ปี รู้สึกว่าการเจ็บป่วยน้อยลงไปมาก แสดงว่าก่อนหน้านี้ป่วยเพราะยาเสียส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะปัจจุบันร่างกายไม่มีภูมิคุ้มกันเหลือเลย ตอนช่วงที่เขาเอาไปทดลองยารักษามาลาเรียตัวใหม่อยู่ตัวหนึ่ง คำเตือนระบุไว้ว่ายาตัวนี้จะไปกดภูมิคุ้มกันร่างกาย จะยินดีรักษาหรือไม่ ? ปัจจุบันนี้หมอเขาตรวจแล้วบอกว่าอาการใกล้เคียงกับคนเป็นเอดส์ คือไม่มีภูมิคุ้มกันเลย

ฉะนั้น..ถ้าอยู่ใกล้คนที่เป็นโรคที่สามารถระบาดได้จะติดทันที ใครเอาหวัดมาฝากนี่อาตมารับด้วยความยินดี..มาถึงก็ได้เลย โบราณเขาเก่งจริง ๆ เขาเรียกว่า “ยา” ยาคือการอุดรูรั่ว แสดงว่าร่างกายรั่ว เจ็บไข้ได้ป่วยเลยต้องยาให้ดี"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-01-2013 เมื่อ 02:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:14



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว