|
#1
|
||||
|
||||
|
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๘
|
| สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
|
#2
|
||||
|
||||
|
วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๑๒ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ กระผม/อาตมภาพเพิ่งนำพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ ๑๐ รูป สวดพระพุทธมนต์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในวาระปัญญาสมวาร พูดกันง่าย ๆ ภาษาชาวบ้านก็คือครบ ๕๐ วันที่เสด็จสวรรคต คราวนี้ของคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิเรา ไปจัดรวมกันทีเดียวที่วัดปรังกาสี หมู่ที่ ๓ ตำบลท่าขนุน โดยที่ท่านนายอำเภอชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส
ในเรื่องของสถาบันพระมหากษัตริย์ เราท่านทั้งหลายก็คงเห็นชัดเจนแล้วว่าสำคัญขนาดไหน ? เรื่องวุ่นวายทั้งหมดที่เกิดจากการบริหารแผ่นดิน โดยไม่เห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติ แต่ว่าเห็นแก่ประโยชน์ของพวกพ้องและตัวกู จบสิ้นลงทันทีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จไปเยือนประเทศจีน บรรดาเด็กรุ่นหลัง ๆ ที่เกิดไม่ทัน ไม่ได้เห็นว่าในหลวงรัชกาลที่ ๙ และสมเด็จพระพันปีหลวงทรงงานหนักขนาดไหน ประกอบกับการได้รับการยุแหย่จากบรรดาผู้ที่ไม่เข้าใจบริบทสังคมไทย เอะอะก็จะเอาแต่ความคิดของชาวตะวันตกที่คิดว่าศิวิไลซ์ คือเจริญแล้ว มาตั้งคำถามว่า "สถาบันพระมหากษัตริย์มีไว้ทำอะไร ?" ต้องบอกว่าถ้าไม่พูดก็ไม่มีใครเห็นว่าโง่ พูดออกมาทำให้คนทั้งประเทศเห็นว่าโง่ไปหมด..! พวกเราทำสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ อยู่ในลักษณะของกตเวทิตาบุคคล เพราะว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ถือเป็นบุรพการี คือผู้ทำคุณแก่เราก่อน แผ่นดินทุกตารางนิ้วนี้ก็คือบรรพบุรุษของพระองค์ท่าน ตลอดจนกระทั่งทหารหาญทั้งปวง เอาเลือดทาแผ่นดินเพื่อรักษาไว้ ให้พวกเราได้อยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุข แต่ด้วยความที่ร่มเย็นจนเกินไป ก็เลยทำให้บุคคลที่ปัญญาน้อยทั้งหลายเหล่านี้ มองไม่เห็นคุณค่าหรือความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ ดังนั้น..ประชาชนทุกหมู่เหล่าที่จงรักภักดี จึงแสดงออกซึ่งความรังเกียจคนเหล่านี้อย่างชัดเจน ล่าสุดนี่ก็เพิ่งมีบุคคลซึ่งละเมิดมาตรา ๑๑๒ ที่คุ้มครองสถาบันพระมหากษัตริย์ โดนศาลฎีกาสั่งจำคุก ๔๖ ปี ก็ต้องไปแก่ตายในคุก หรือไม่ก็ถ้าได้รับพระเมตตาอภัยโทษ อย่างน้อย ๆ ก็คงอยู่ในคุกหลายปี แต่บุคคลจำพวกนี้ต้องบอกว่าปัญญาน้อย ใครจะทำดีแค่ไหนไม่ได้ใส่ใจ ใส่ใจอยู่อย่างเดียวคือความคิดของตนเองเท่านั้น..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 01:56 |
| สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
|
#3
|
||||
|
||||
|
เรื่องต่อไปที่จะพูดถึงในวันนี้ ก็คือการรบระหว่างไทยกับเขมรที่เกิดขึ้น ก็เพราะว่าการยั่วยุอยู่ทุกวันของเขมรยังไม่พอ เขมรยังเป็นฝ่ายยิงก่อนอีกต่างหาก แล้วก็แหกปากฟ้องชาวโลกว่าไทยยิงก่อน แล้วก็เจ้าประคุณเถอะ...ต้องบอกว่าเจอมหาสะท้อนเข้าหรืออย่างไรก็ไม่รู้ ? พอดีบรรดาคณะทูตและสื่อมวลชน ได้ออกไปดูสถานการณ์ที่ชายแดน แล้วระเบิดที่ฝ่ายเขมรยิงมา ลงใกล้ ๆ ให้เห็นต่อหน้าต่อตา พูดง่าย ๆ ว่าจะโกหกชาวโลก แต่ว่าเทวดาฟ้าดินไม่เข้าข้างด้วย..!
แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายและน่าเสียใจเป็นอย่างยิ่ง ก็คือทหารหาญของเราเสียชีวิตไป ในบัดนี้ ๙ นายแล้ว ยังมีที่บาดเจ็บสาหัส และบาดเจ็บไม่สาหัสอีกหลายสิบนาย ก็ต้องรอดูว่าทางกองทัพจะตอบแทนกำลังพลซึ่งสละชีวิต สละเลือดเนื้อ อวัยวะของตนเอง ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ โดยเสียทั้งชีวิตเสียทั้งอวัยวะ ปกติแล้วก็จะมีการเลื่อนยศ เลื่อนขั้น หรือว่ามีรางวัลของทหารผ่านศึก ชั้น ๑ ชั้น ๒ ตามฐานานุรูปของตนว่าโดนไปหนักเบาเท่าไร..!? แต่สิ่งที่กระผม/อาตมภาพอยากให้เป็นก็คือ เลื่อนยศขึ้นไปให้สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แล้วจะได้มีบำนาญให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิต ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ถ้าหากว่าพิการ ทำงานไม่ได้ ก็เลื่อนยศสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จะได้มีบำนาญกินไปตลอดชีวิตเหมือนกัน ที่บาดเจ็บน้อยก็มีในส่วนของรางวัลทหารผ่านศึกอยู่แล้ว ได้แต่หวังว่าทางผู้บังคับบัญชาคงจะเหมือนกระผม/อาตมภาพสมัยนั้น ที่ตามทวงสิทธิ์ให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา จนต้องไปงัดข้อกับผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ขออนุญาตไม่ออกชื่อพลตรีท่านนั้น ได้ยินว่ายุคนี้สมัยนี้ ตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก มียศถึงพลเอกแล้ว..! เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าทันทีที่กำลังพลเสียชีวิต กำลังพลทุกนายจะโดนหักเบี้ยเลี้ยงคนละ ๒ บาท อย่าคิดว่าน้อย..! รวมกันแล้วก็มากโขทีเดียว เพื่อที่จะมอบให้กับครอบครัวของผู้ตายในเบื้องต้น แล้วภายใน ๓ วัน จะมีเงินจากมูลนิธิสายใจไทย ของกรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ส่งถึงครอบครัว ๓๐,๐๐๐ บาท ท่านทั้งหลายต้องคิดว่า ๓๐,๐๐๐ บาทนี่ เป็นเงินในสมัยที่ทองคำบาทละ ๒,๐๐๐ บาท..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 02:00 |
| สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
|
#4
|
||||
|
||||
|
แต่องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ซึ่งเป็นองค์การที่รับผิดชอบโดยตรง ผ่านไปเป็นปี ยังไม่มีอะไรให้ครอบครัวเขาเลย ทั้ง ๆ ที่ระเบียบระบุไว้ชัดเจนแน่นอนแล้ว กระผม/อาตมภาพจึงจำเป็นที่จะต้องบุกเข้าไปอาละวาด เพื่อนฝูงก็ยังถามว่า "มึงไม่กลัวเขาเลยหรือ ?" กระผม/อาตมภาพตอบว่า "มันไม่ได้ตัวใหญ่กว่ากูนี่หว่า ทิ้งหมัดเดียวก็ลงแล้ว ทำไมต้องไปกลัวมันด้วย..!" เล่นเอาทุกคนตีหน้าบอกไม่ถูก เพราะส่วนใหญ่เขากลัวกันที่ชั้นยศ แต่อาตมภาพไม่ได้ดูที่ชั้นยศ ดูแค่ว่าใครตัวใหญ่กว่า..!
ดังนั้น..เรื่องพวกนี้จึงเป็นเรื่องที่ควรจะจัดการให้เขาให้เร็วที่สุด ไม่ใช่ดองเงินเอาไว้ฝากประจำในธนาคาร ๓ เดือน เบิกดอกเบี้ยไปใช้เองทีหนึ่ง ไอ้แบบนั้นก็ชั่วเกินไป..! ส่วนอีกเรื่องหนึ่งที่จะกล่าวถึงในวันนี้ก็คือการยุบสภาของรัฐบาลท่านนายกฯ หนู (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) ต้องบอกว่าพรรคการเมืองที่หลงคารมมาโหวตให้ท่านเป็นนายก ฯ อ่อนหัดสุด ๆ..! ก็เลยโดนบรรดาผู้ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการ ฉวยโอกาสยุบสภา ผู้ที่ฉลาดคิดว่าตนเองจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ได้ ประมาณว่าแตกหักกัน ก็เลยจั่วลมฟรี..! กระผม/อาตมภาพทึ่งมาก เมื่อศึกษาในเรื่องของการเมืองการปกครองของไทย ซึ่งเป็นวิชาหนึ่งที่เรียนตอนปริญญาตรี อริสโตเติลนักปราชญ์กรีกกล่าวไว้เป็นพันปีแล้วว่า "ความดีของมนุษย์หมดสิ้นไปทันทีที่เล่นการเมือง" ตอนนั้นยังไม่ชัดเจน ตอนนี้ชัดมากว่าเป็นภูมิปัญญาที่ตกผลึกสรุปมา อย่างชนิดที่ใครก็เถียงไม่ได้ เกือบ ๆ จะเป็นอริยสัจอยู่แล้ว..! แต่ว่าเรื่องพวกนี้ก็ขอให้ทุกคนอย่าเพิ่งเบื่อ อย่าเพิ่งหน่าย เราต้องรู้ว่าพัฒนาการของการเมืองจะมีในลักษณะแบบนี้ พยายามหาทางเลือกคนที่เลวน้อยที่สุดเข้าไปก็แล้วกัน ถ้าท่านไม่ใช้สิทธิ์เลือก หรือไปโหวตโน ก็จะกลายเป็นเปิดโอกาสให้ท่านทั้งหลายเหล่านี้เข้ามาอีก แล้วประเทศชาติของเราก็จะวุ่นวายไปหมดแบบนี้อีก
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 02:03 |
| สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
|
#5
|
||||
|
||||
|
เรื่องพวกนี้ต้องถือว่าเป็นหน้าที่ของพลเมืองทุกคน เสียดายที่พระภิกษุสงฆ์สามเณรของเราโดนจำกัดสิทธิ์ จำกัดแบบที่เขาจำกัดให้ ทั้ง ๆ ที่กระผม/อาตมภาพสอบถามครูบาอาจารย์แล้วว่า "เอากฎหมายข้อไหนมาห้ามพระสงฆ์เลือกตั้ง ?" ครูบาอาจารย์ตอบไม่ได้ เนื่องเพราะว่าพระภิกษุสงฆ์สามเณรของเราก็คือพลเมืองไทยคนหนึ่ง
พูดง่าย ๆ ว่าถ้าอยากให้ผิด ก็ยัดฐานะบรรดาเจ้าอาวาส เจ้าคณะปกครองว่าเป็นเจ้าพนักงาน แต่พอถึงเวลาจะใช้สิทธิ์เจ้าพนักงานไปเลือกตั้ง กลับบอกว่าไม่ได้ กระผม/อาตมภาพถึงได้สรุปว่า พระภิกษุสามเณรของเราเป็นอะไรที่เขาต้องการให้เป็น ถ้าส่วนไหนเขาไม่ต้องการให้เป็น เขาก็จะอ้างและจำกัดสิทธิ์เอาไว้ ก็ได้แต่หวังว่าญาติโยมทั้งหลายที่มีสิทธิ์ในการเลือกตั้ง พยายามพิจารณาหาพรรคการเมืองที่เลวน้อยที่สุด แล้วก็เลือกเข้าไป บรรดาบุคคลที่ดีแต่ตีโวหารว่า "สถาบันกษัตริย์มีไว้ทำอะไร ?" "ทหารมีไว้ทำอะไร ?" อย่าไปเสียเวลาเลือกพวกนี้เข้ามาถาม ไอ้ทุกวันนี้ที่ถามว่า "ทำไมเอาทหารเกณฑ์ไปรบ ?" ก็เพราะว่าเขาเกณฑ์มาเพื่อเป็นกำลังพลในการป้องกันประเทศ ก็ดันเสือกแกล้งโง่..! อยากจะถามว่า "ถ้าคุณเป็นเจ้าของบริษัท ถึงเวลามีงานกรรมกร คุณจะลงไปทำไหม ?" ถ้าถามแบบนี้ก็น่าจะลงไปทำ ดังนั้น..บรรดาบุคคลโง่ ๆ เหล่านี้ อย่าไปเอาเป็นตัวแทนของเราเข้าไป เพราะว่าจะไปทำเรื่องโง่ ๆ ในสภาต่อไป พยายามอดทนอดกลั้นต่อสภาพการเมืองที่เหลวไหลไร้สาระของเรา ได้แต่หวังว่าสักวันหนึ่งเขาทั้งหลายเหล่านั้นจะเห็นแก่ส่วนรวมมากกว่าส่วนตัวเสียที..! สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๒ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 02:06 |
| สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]() |
| ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|