กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนสิงหาคม ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 21-08-2025, 18:26
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 570
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 27,528 ครั้ง ใน 1,058 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๖๘


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 21-08-2025, 21:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,068
ได้ให้อนุโมทนา: 159,981
ได้รับอนุโมทนา 4,504,214 ครั้ง ใน 36,679 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๒๑ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ กระผม/อาตมภาพพักอยู่ที่สวนป่าปฏิบัติธรรมบุราณรัตน์ หมู่ที่ ๙ ตำบลตะพง อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระวชิรปัญญากร (เชาวลิตร ชิตงฺกุโร) เจ้าอาวาสวัดป่าประดู่ (พระอารามหลวง) เจ้าคณะอำเภอเมืองระยอง ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นพระอุปัชฌาย์ โดยที่พักเป็นคืนที่ ๒ แล้ว คืนแรกนั้น มาพักหลังจากการตรวจประเมินยกบ้านเขาซก ขึ้นเป็นหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบของจังหวัดชลบุรี

ส่วนที่พวกเราชื่นชมกันที่สุดของทางบ้านเขาซกก็คือการแสดงทางวัฒนธรรมของเด็ก ๆ ที่สามารถประสานเอาทั้งศิลปะวัฒนธรรมภาคอีสาน มารวมกับทางด้านภาคกลางอย่างผสมกลมกลืน โดยเฉพาะตอนช่วงท้าย ซึ่งเป็นเรื่องของพระเวสสันดรชาดก ที่ทางอีสานเรียกว่า "บุญผะเหวด" แต่ว่าทางภาคกลางของเรามักจะเรียกว่า "เทศน์มหาชาติ" สามารถที่จะผสมกลมกลืนเข้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โดยเฉพาะการร้องสดของบรรดาผู้แสดง ต้องบอกว่าสุดยอดและยอดเยี่ยมมาก ๆ

สำหรับเมื่อวานนี้ กระผม/อาตมภาพเดินทางไปยังวัดช้างชนศิริราษฎร์บำรุง ตำบลตะพง อำเภอเมือง จังหวัดระยอง หรือที่ภาษาชาวบ้านเรียกว่าวัดบ้านช่น พอไปถึงท่านพระครูบำเพ็ญ (พระครูกิตติคชราษฎร์) เจ้าอาวาสวัดช้างชนศิริราษฎร์บำรุง เจ้าคณะตำบลตะพงก็มาต้อนรับ มารายงานตัวว่าเป็น FC วัดท่าขนุน "ฟังหลวงพ่อเล็กอยู่ทุกวันครับ" แล้วญาติโยมทั้งหลายที่เป็น FC วัดท่าขนุนก็แห่กันมา อย่างชนิดที่กระผม/อาตมภาพก็คิดไม่ถึงว่า ทางด้านนี้จะมีบุคคลที่ถือว่าตนเองเป็นลูกศิษย์สายวัดท่าขนุนมากจนขนาดนี้ ต้องยอมให้ญาติโยมทั้งหลาย ตลอดจนกระทั่งพระภิกษุสามเณรถ่ายรูปกันตามที่ต้องการ

หลายท่านก็บอกว่า "ไปวัดแล้วไม่ได้เจอหลวงพ่อ" "ไปวัดแล้วไม่ได้เจอพระอาจารย์" มาเจอกันในงานนี้รู้สึกว่าดีใจมาก แล้วก็มีอยู่หลายรายที่ติดตามไปทุกแห่ง ถามว่าจะตามไปถึงจังหวัดตราดหรือไม่ ? ทุกคนยืนยันว่าตาม โดยใช้คำว่า "เพราะว่าศรัทธาท่านครับ" กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่กลืนน้ำลายแทบไม่ลงคอ มีความรู้สึกเหมือนกับหัวรถจักรที่โดนรถพ่วงเกาะเกี่ยวมากขึ้น ๆ ภาระหน้าที่ของตนเองก็ต้องหนักขึ้นตามไปด้วย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-08-2025 เมื่อ 02:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 21-08-2025, 21:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,068
ได้ให้อนุโมทนา: 159,981
ได้รับอนุโมทนา 4,504,214 ครั้ง ใน 36,679 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ที่วัดบ้านช่นนี้ กระผม/อาตมภาพได้ออกไปเดินดูกลุ่มสัจจะออมทรัพย์ของทางวัด ซึ่งมีเงินทุนสำรองอยู่ ๒๘ ล้านบาท คำว่า สัจจะออมทรัพย์ ก็คือสมาชิกที่สมัครเข้ามานั้น ต้องมีเงินออมเข้ากลุ่มเดือนละเท่า ๆ กัน ซึ่งที่นี่กำหนดเอาไว้เดือนละ ๑๐๐ บาท แล้วจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้ สิ่งที่ตอบแทนมาก็คือ ถ้าสมาชิกเสียชีวิตจะได้รับเงินช่วยค่าทำศพ ๙๕,๐๐๐ บาท หรือว่ามีสิทธิ์ที่จะกู้เงิน โดยที่ดูจากอัตราซึ่งตนเองส่งว่าจะกู้ได้มากน้อยเท่าไร แต่ว่าดอกเบี้ยร้อยละ ๑ บาทต่อเดือนเท่านั้น

แล้วก็ไปดูกลุ่มผลิตปุ๋ยชีวภาพ ซึ่งทำงานกันอย่างเป็นระบบ ก็คือเมื่อผลิตปุ๋ยได้แล้วก็มอบให้กับทางโรงเรียนวัดบ้านช่น เพื่อที่ให้เด็ก ๆ นำไปใช้ในการปลูกผักต่าง ๆ แล้วทางโรงเรียนก็นำเอาผักนั้นมาประกอบอาหารกลางวัน เพื่อเลี้ยงนักเรียนอีกทีหนึ่ง จากนั้นพวกเราก็ไปดูกลุ่มผลิตมะพร้าวเผา ซึ่ง
สิ่งทั้งหลายเหล่านี้นั้นก็คือในส่วนของสัมมาชีพ แปลว่าถ้าท่านไม่ลักขโมยแล้ว ยังต้องประกอบอาชีพที่สุจริตอีกด้วย ไม่ใช่ว่ารักษาศีล ๕ อย่างเดียวแล้วไม่ทำมาหากินอะไรเลย

แถมยังมีการไปดูการประมงพื้นบ้าน ที่เรียกว่าประมงเรือเล็ก ไม่สามารถที่จะออกห่างฝั่งได้มากนัก แต่ว่าทุกคนก็พออยู่พอกิน พวกเราไปกัน คนยังมองด้วยความสงสัยว่าพระมาหลายสิบรูป เพราะว่ามีทั้งทางพระสังฆาธิการของจังหวัดระยอง ตลอดจนกระทั่งคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ หนกลาง เมื่อไปอยู่ในบริเวณที่เขาทำประมง อาจจะมีบางคนคิดว่า มาชื่นชมกับการที่เขาละเมิดศีลข้อปาณาติบาตหรือไร ?! โดยที่ไม่ได้คิดว่า
เรามาดูเขารักษาศีลข้อไม่ลักขโมย แล้วยังปฏิบัติธรรมในข้อสัมมาอาชีพทดแทนไปด้วย

มีการไปเยี่ยมผู้ป่วยติดเตียง ๒ ราย รายหนึ่งอายุ ๙๑ ปี อีกรายหนึ่งอายุ ๘๕ ปี เพื่อที่จะนำเอาข้าวของไปมอบให้ผู้ป่วย ตลอดจนกระทั่งผู้ที่ดูแลคนป่วยอยู่ ซึ่งนี่ก็คือหลักของการให้ทาน ตลอดจนกระทั่งเมตตากรุณาต่อกันนั่นเอง แล้วก็เหลือแต่กระผม/อาตมภาพที่ย้อนกลับไปยังวัดบ้านช่นเพียงผู้เดียว เนื่องเพราะว่าไม่ได้นำรถติดตามไปเหมือนกับคนขับรถอื่น ๆ เมื่อบอกลาท่านพระครูบำเพ็ญแล้ว ก็เดินทางกลับมาพักที่สวนป่าบุราณรัตน์อีกหนึ่งคืน วันนี้จะเดินทางไปยังบ้านอ่างกลาง ตำบลอ่างคีรี อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี เพื่อตรวจยกหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ในด้านนั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-08-2025 เมื่อ 02:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 21-08-2025, 21:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,068
ได้ให้อนุโมทนา: 159,981
ได้รับอนุโมทนา 4,504,214 ครั้ง ใน 36,679 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ขอกล่าวถึงการแสดงทางวัฒนธรรมของทางวัดบ้านช่น ซึ่งเด็ก ๆ ออกมาแสดงนาฏลีลา "เราสู้" ประกอบเพลง ซึ่งต้องบอกว่าเป็นเพลงที่ฟังแล้วรู้สึกว่าเลือดลมฉีดแรงขึ้นมาเลยทีเดียว ขนาดเด็ก ๆ ยังรู้ว่า "แผ่นดินเรา เราต้องรักษา หากทำลายเชิญมา เราสู้..!"

แต่ไม่น่าเชื่อว่าผู้ใหญ่ของเรา ซึ่งเป็นกระทั่ง สส. ผู้ทรงเกียรติ กลับไม่รู้คุณค่าของแผ่นดิน ไม่รู้คุณค่าของสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ หรือว่ารู้คุณค่า แต่ว่าโดนผลประโยชน์บังตาอยู่ก็ไม่ทราบ โดยที่คิดว่าตนเองสามารถที่จะหลอกใช้ผู้อื่นได้ หารู้ไม่ว่าถูกผู้อื่นหลอกใช้ตนเองต่างหาก..!

โดยเฉพาะผู้ที่กล่าวว่า ไม่ควรที่จะให้งบประมาณสนับสนุนพระพุทธศาสนา เพราะว่ากระทบกระเทือนต่อชาวบ้านใน ๔ จังหวัดภาคใต้ กระผม/อาตมภาพได้ยินแล้ว ถ้าไม่ใช่แก่จนฟันหลุด ก็คงจะหัวเราะจนฟันร่วงไปเองว่า ถ้าไม่ใช่การที่หวังจะหลอกใช้ หลอกคะแนนเสียงจากพี่น้องใน ๔ จังหวัดภาคใต้ ก็แปลว่าท่านหูหนวกตาบอดจริง ๆ..!

เนื่องเพราะว่าประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศของเรา ๙๐ กว่าเปอร์เซ็นต์นับถือพระพุทธศาสนา ยังได้งบประมาณสนับสนุนแค่น้อยนิด ขณะที่ประชาชนแค่ ๔ - ๕ เปอร์เซ็นต์ในบริเวณ ๔ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ทราบว่าดูดงบประมาณไปกี่หมื่นกี่แสนล้านในแต่ละปี ? แล้วก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้นมาเลย ไม่ว่าจะเป็นการเปิดโรงเรียนตามความต้องการของเขา สั่งสอนคนของเขากันเอง แม้กระทั่งศาสนสถานก็กลายเป็นว่ากล่อมเกลาให้บุคคลของเขาตั้งใจแบ่งแยกดินแดน..!

แล้วท่านทั้งหลายยังเห็นอยู่หรือว่า การทุ่มเทงบประมาณลงไปเพื่ออีกฝ่ายหนึ่งนั้น สามารถที่จะทำให้ประเทศชาติดีขึ้นมาได้ ? ถ้าหากว่าดีขึ้นมาจริง การก่อการร้ายที่เบียดเบียนพี่น้องชาวไทยของเราต้องหมดสิ้นไปแล้ว ไม่ใช่ว่ามีอยู่ในทุกวันนี้ แต่ท่านก็ทำหูหนวกตาบอด เพราะคิดจะอาศัยคะแนนเสียงของเขาทั้งหลายเหล่านั้น ในการสนับสนุนพรรคการเมืองของตน

โดยเฉพาะวาทกรรมที่ว่า "อิสลามิกชนดี ๆ มีมากมาย" กระผม/อาตมภาพยอมรับ เพราะว่าตนเองก็มีเพื่อนฝูงอิสลามมากมายมาตั้งแต่วัยรุ่น คนดี ๆ มีจำนวนมาก
แต่ว่าคนดีทั้งหลายเหล่านั้นนั่นแหละ กลายเป็นเกราะ กลายเป็นกำแพง ให้บรรดาคนชั่วที่ตั้งใจจะแบ่งแยกดินแดน ตั้งใจจะยึดประเทศชาติของเรา แฝงตัวอยู่ทางเบื้องหลัง โดยผลักดันคนดี ๆ ออกมาข้างหน้า กลายเป็นแนวร่วมของเขาไปไม่รู้ตัว แต่ก็แอบชักใยอยู่เบื้องหลัง ว่าควรที่จะทำอย่างไร ? ควรที่จะเลือกผู้ใด ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-08-2025 เมื่อ 02:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 21-08-2025, 21:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,068
ได้ให้อนุโมทนา: 159,981
ได้รับอนุโมทนา 4,504,214 ครั้ง ใน 36,679 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อเป็นในลักษณะแบบนี้ สิ่งที่ท่านสนับสนุน เพราะคิดว่าจะหลอกใช้เขา ความจริงก็โง่กว่าควายตั้งเยอะ..! เพราะว่าโดนเขาหลอกใช้แบบไม่รู้ตัว เป็นเรื่องที่น่าอนาถใจมาก ไม่นึกว่าบุคคลที่ร่ำเรียนมาสูงขนาดนั้น มีฐานะในวงสังคมสูงขนาดนั้น แต่กลับกลายเป็นเหยื่อให้คนที่ตนเองคิดว่าโง่เง่าเต่าตุ่น หลอกใช้งานโดยที่ไม่มีความรู้สึกตัวเสียด้วยซ้ำไป เห็นแล้วกระผม/อาตมภาพก็ยังรู้สึกอนาถใจว่า นี่หรือบุคคลที่วางตัวไว้ว่าจะเป็นผู้แทนของประชาชนส่วนใหญ่ ที่แท้ก็ตั้งใจจะเป็นผู้แทนของชนกลุ่มน้อย..!

แล้วขณะเดียวกัน ก็ยังร่วมมือกันมาทำลายสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ด้วยการแสดงวาทกรรมต่าง ๆ เพื่อบ่อนทำลายทุกสถาบัน โดยที่ไม่ได้คำนึงว่าแผ่นดินนี้ คือแผ่นดินที่ปู่ย่าตาทวดของตนเองได้อาศัยร่มโพธิ์ร่มไทรมา ก่อร่างสร้างฐานะจนมั่นคงอยู่ในทุกวันนี้

สถาบันต่าง ๆ ที่เป็นที่พึ่งของประชาชน ท่านก็คิดหาทางที่จะทำลายลงไป เพราะว่าไปเลื่อมใสระบอบการปกครองของทางตะวันตก โดยที่ไม่ได้ดูว่าตนเองนั้นกำลังเป็นเหยื่อให้ผู้อื่นหลอกใช้งานอยู่ ซึ่งถ้าหากว่าคิดในลักษณะนี้แล้ว กระผม/อาตมภาพก็รู้สึกสงสารคนทั้งหลายเหล่านี้ ซึ่งคิดว่าตัวเองฉลาด แต่ที่แท้กลายเป็นเหยื่อของบุคคลอื่นโดยไม่รู้ตัว..!

อีกส่วนหนึ่งที่น่าสงสารประเทศชาติของเราก็คือ แม้แต่ในสถาบันพระพุทธศาสนาของเราก็ยังมีการแบ่งแยก ซึ่งการแบ่งแยกนั้นเกิดจากวัตรปฏิบัติที่ไม่เหมือนกัน ทำให้อีกฝ่ายหนึ่งคิดว่าตนเองบริสุทธิ์ผุดผ่องกว่า แล้วก็พยายามที่จะสร้างภาพให้ตนเองว่าเป็นผู้ที่บริสุทธิ์ ซึ่งคนชั้นสูงให้ความเคารพนับถือ โดยที่ไม่ได้คิดว่า ถ้าหากว่าอีกฝ่ายหนึ่งซึ่งมีประชากรมากกว่าเป็นสิบ ๆ เท่า โดนทำลายลงไปแล้ว จำนวนเพียงน้อยนิดของท่านทั้งหลาย จะโดนเขาทำลายลงไปอย่างง่ายดายเสียยิ่งไปกว่า..!

แต่ในเมื่อท่านทั้งหลายขาดปัญญา คิดอยู่อย่างเดียวก็คือเรื่องของยศ เรื่องของอำนาจ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องยึดอำนาจการปกครองคณะสงฆ์เอาไว้ แล้วก็กลายเป็นเหยื่อให้คนอื่นเขาหลอกใช้ โดยที่คิดว่าตนเองฉลาด กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่สงสารพุทธศาสนาของเรา ว่ายังจะมีบรรดาพระเถระที่ค้ำจุนพระพุทธศาสนาอยู่ ด้วยความตั้งใจปฏิบัติตามหลักธรรมของพระพุทธเจ้าอยู่สักกี่รูปกี่องค์กันแน่ ?

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๒๑ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-08-2025 เมื่อ 02:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 00:58



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว