กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนสิงหาคม ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 06-08-2025, 17:04
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 563
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 27,265 ครั้ง ใน 1,051 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๖๘


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 07-08-2025, 00:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,002
ได้ให้อนุโมทนา: 159,710
ได้รับอนุโมทนา 4,501,598 ครั้ง ใน 36,613 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๖ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ กระผม/อาตมภาพเดินทางไปยังวัดโสภา หมู่ที่ ๒ บ้านกระดีแดง ตำบลโพประจักษ์ อำเภอท่าช้าง จังหวัดสิงห์บุรี เพื่อทำการตรวจยกบ้านกระดีแดงขึ้นเป็นหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบประจำปี ๒๕๖๘

คำว่า "กระดีแดง" ในที่นี้ก็คือ "กุฎีแดง" ก็คือกุฏิที่มีสีแดงนั่นเอง สมัยก่อนการก่อสร้าง ถ้าหากว่าเป็นอาคารก่ออิฐถือปูนแล้วหลังไม่ใหญ่จะเรียกว่า "กุฏิ" แล้วภาษาชาวบ้านก็เพี้ยนเป็น "กุฎี" แล้วกลายเป็น "กระดี" ถ้าหากว่าเป็นหลังใหญ่ก็จะเรียกว่า "ตึก" ดังนั้น..เราจะเห็นว่ามีวัดศาลาตึกบ้าง วัดกุฏิตึกบ้าง เป็นต้น

คราวนี้ภาษาชาวบ้านเมื่อนานไป คนไม่ค่อยจะรู้ภาษาโบราณ ก็เลยไปสันนิษฐานว่าน่าจะมาจากคำว่า "กระดี่แดง" หมายถึงปลากระดี่ที่มีสีแดง ซึ่งกระผม/อาตมภาพยังไม่เคยเห็นมาก่อน เนื่องเพราะว่าตั้งแต่เด็กมาก็หากุ้งหาปลาเป็นปกติ ปลากระดี่ที่พบก็มีแต่สีเงินทั้งสิ้น นาน ๆ จะมีสีทองหลุดมาสักตัวหนึ่งก็ตื่นเต้นกันใหญ่

เมื่อเอามาเลี้ยงไม่นาน ก็กลายเป็นปลากระดี่เงินไปหมด ถึงได้รู้ว่ากระดี่สีทองนั้น ที่แท้เราจับมาจากคูน้ำข้างถนนที่น้ำขุ่นเหมือนสีโอวัลติน ก็เลยทำให้ปลากระดี่มีการปรับสีของตนให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม เพื่อพรางตัวจากศัตรู จึงทำให้มีสีออกมาไปทางเหลืองทอง ครั้นเอามาอยู่ในน้ำใสปกติ เพียงไม่กี่วันก็ปรับตัว กลายเป็นปลากระดี่สีเงินเหมือนเดิม

ดังนั้น..จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีปลากระดี่แดง นอกจากจะเป็นปลาต่างประเทศ เพราะว่าปลาประเภทเดียวกันแล้วตัวใหญ่กว่าก็คือปลาสลิด ที่ไม่ได้เป็นเหมือนปลากระดี่ เพราะว่าถ้าตัวไม่โตนัก ก็จะมีลายเหมือนลายเสือเล็ก ๆ อยู่ ครั้นตัวโตแล้ว ลายก็หายไปหมดเช่นกัน

กระผม/อาตมภาพจึงฟันธงว่าหมู่บ้านนี้มาจากคำว่า "บ้านกุฏิแดง" แล้วภาษาชาวบ้านเรียกสั้น ๆ ก็กร่อนเป็น "กระดีแดง" เพียงแต่คนรุ่นใหม่ไปคิดว่าเป็น "กระดี่แดง" เพราะว่ารูปการเขียนพ้องกัน ขาดแต่ไม้เอกตัวเดียวเท่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เผือกน้อย : 07-08-2025 เมื่อ 17:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 07-08-2025, 00:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,002
ได้ให้อนุโมทนา: 159,710
ได้รับอนุโมทนา 4,501,598 ครั้ง ใน 36,613 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อมาถึง ปรากฏว่าเจ้าอาวาสคือพระปลัดบูรพา กิตฺติธมฺโม ท่านมาต้อนรับ แล้วก็นำไปดูนิทรรศการต่าง ๆ ที่จัดเตรียมเอาไว้ก่อน ต้องบอกว่าความจริงพระปลัดบูรพาท่านไม่ใช่คนที่นี่ ท่านบวชอยู่ที่วัดโบสถ์ แล้วก็มารักษาการเจ้าอาวาสที่นี่เมื่อ ๓ ปีก่อน

เหตุเพราะว่าชาวบ้านแตกสามัคคีกัน ไม่อาจจะสรรหาเจ้าอาวาสได้ หลวงพ่อวัดโบสถ์ รักษาการเจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี จึงได้ทำการส่งพระปลัดบูรพามาเป็นรักษาการเจ้าอาวาส เพื่อสมานสามัคคีชาวบ้านให้รักใคร่กันเหมือนเดิม

ในเรื่องของเจ้าอาวาสนั้น ส่วนใหญ่แล้วชาวบ้านมักจะคิดว่า ตนเองมีสิทธิ์มีเสียงในการตั้งเจ้าอาวาส แต่ว่าตามกฎหมายจริง ๆ แล้ว อนุญาตให้เจ้าคณะอำเภอ หรือว่ารองเจ้าคณะอำเภอ พร้อมด้วยเจ้าคณะตำบล และเจ้าอาวาสในเขตนั้นอย่างน้อย ๓ รูป มีมติร่วมกันว่าจะแต่งตั้งผู้หนึ่งผู้ใดเป็นเจ้าอาวาส ถ้าหากว่าเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ ก็ดำเนินการแต่งตั้งท่านเป็นรักษาการเจ้าอาวาส แล้วภายใน ๖ เดือนต้องเสนอให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ไปจนถึงเจ้าคณะจังหวัด เพื่อแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสตัวจริง

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ด้วยการที่วัดพึ่งบ้าน บ้านพึ่งวัด การแต่งตั้งเจ้าอาวาสจึงมักจะให้เกียรติบรรดาชาวบ้านทั้งหลาย ด้วยการสอบถามความเห็นก่อนว่า จะเอาผู้หนึ่งผู้ใดเป็นเจ้าอาวาส ถ้าวัดไหนมีผู้ที่เจ้าอาวาสถือหาง ๒ ราย ๓ ราย ก็ปวดหัวตายชัก..! เนื่องเพราะว่าต่างฝ่ายต่างก็อยากให้พระของตนเองเป็นเจ้าอาวาส แล้วก็อ้างว่าตนเองเป็นไวยาวัจกรบ้าง ตนเองเป็นกรรมการวัดบ้าง ต้องมีสิทธิ์ในการเลือกเจ้าอาวาสมากกว่าบุคคลทั่วไป ทั้งที่ตามกฎหมายแล้วไม่ได้มีสิทธิ์เลย..!

เนื่องเพราะว่าไวยาวัจกรก็ดี คณะกรรมการวัดก็ตาม ย่อมพ้นตำแหน่งไปตามเจ้าอาวาสรูปที่พ้นไปแล้ว ไม่ว่าการพ้นตำแหน่งของท่านจะเป็นไปเพราะมรณภาพ ลาออก หรือว่า โดนไล่ออก ให้ออก ปลดออก เหล่านี้เป็นต้น บุคคลที่ท่านตั้งเอาไว้ช่วยงาน ทั้งไวยาวัจกร และคณะกรรมการวัด ก็จะหมดสภาพตามไปด้วย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-08-2025 เมื่อ 02:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 07-08-2025, 00:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,002
ได้ให้อนุโมทนา: 159,710
ได้รับอนุโมทนา 4,501,598 ครั้ง ใน 36,613 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..การแต่งตั้งเจ้าอาวาส ถ้าเป็นไปได้ต้องชี้แจงให้ชาวบ้านเข้าใจอย่างชัดเจนว่า กฎหมายระบุไว้อย่างไร ? ผู้ใดที่ทำการฝ่าฝืน ต่อต้าน ก็ถือว่าท่านกำลัง "ขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน" โดยเฉพาะเจ้าพนักงานระดับสูง ก็คือ เจ้าคณะตำบล รองเจ้าคณะอำเภอ และ เจ้าคณะอำเภอ เป็นต้น

แต่ก็ต้องอะลุ้มอล่วยด้วยการบอกว่า เพื่อให้เป็นเกียรติกับทุกคนที่มีกำลังใจในการช่วยกันทำนุบำรุงวัดวาอาราม ก็จะให้เจ้าอาวาสใหม่แต่งตั้งทุกคนกลับไปทำหน้าที่ตามเดิม ถ้ามีการไกล่เกลี่ยกันชัดเจนแบบนี้ ก็มักจะสามารถแต่งตั้งรักษาการเจ้าอาวาส และแต่งตั้งเจ้าอาวาสในภายหลังได้โดยราบรื่น แต่ถ้าไม่มีการชี้แจงแบบนี้ ชาวบ้านมักจะคิดว่าตนเองมีสิทธิ์มีเสียง ก็มักจะเสียงแข็ง ไม่ยอมลงให้กับทางคณะสงฆ์ ทำให้ลำบากในการหาตัวเจ้าอาวาส แถมยังทำให้เกิดการแตกความสามัคคีขึ้นมาในหมู่บ้านของตนอีกด้วย..!

เมื่อคณะกรรมการตรวจประเมิน ม.ศีล ๕ มาถึง ทุกคนก็พร้อมใจซื้อข้าวของเครื่องใช้บ้าง ของกินบ้าง แจกจ่ายให้กับบรรดาญาติโยมทางราชการ ซึ่งเดินทางมาร่วมงานด้วย ตลอดจนกระทั่งบรรดาพลขับของแต่ละวัด เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า แต่ละคนที่มาออกนิทรรศการนั้น ส่วนใหญ่ก็หวังจะจำหน่ายสินค้าของตนเอง

แต่กระผม/อาตมภาพซื้อของไปหลายอย่างแล้ว ยังจ่ายไปไม่ถึง ๑,๐๐๐ บาท พอดีมีแฟนคลับวัดท่าขนุนมาตั้งร้านออกนิทรรศการกับเขาด้วย แล้วขออนุญาตร่วมบุญมาเป็นเงิน ๒,๐๐๐ บาท กลายเป็นว่าวันนี้กระผม/อาตมภาพ มีกำไรจากการเดินทางมาตรวจนิทรรศการเสียอย่างนั้น..! แต่ก็ไม่แน่นัก เนื่องเพราะว่ายังต้องเติมเชื้อเพลิง เพื่อที่จะเดินทางไปกลับอีก แต่ก็คงจะ "เข้าเนื้อ" ไม่มากนัก

เมื่อถึงเวลามาฉันเพล ปรากฏว่าเจอแกงส้มปลาช่อนที่อร่อยมาก ทำให้นึกถึง "ปลาช่อนแม่ลา" ของจังหวัดสิงห์บุรีขึ้นมาทันที และฝีมือชาวบ้านประมาณว่า "รสแท้ที่แม่ทำ" ด้วย ก็เลยทำให้ทุกคนควานหา จนกระทั่งแทบจะเหลือแต่น้ำแกงส้มเท่านั้น เพราะว่าราดข้าวไปเท่าไรน้ำก็ยังเหลืออยู่ เนื่องจากว่าเขาให้มาชามโคมใหญ่มาก..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-08-2025 เมื่อ 02:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 07-08-2025, 00:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,002
ได้ให้อนุโมทนา: 159,710
ได้รับอนุโมทนา 4,501,598 ครั้ง ใน 36,613 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ครั้นอิ่มจากข้าวปลาอาหารแล้ว ก็นัดแนะกันไปกราบพระ เจริญพระพุทธมนต์ถวายหลวงพ่อพระประธาน ถ่ายรูปหมู่ร่วมกัน แล้วทางวัดโสภาก็ได้นำเอาคณะกลองยาวและนางรำ มานำคณะกรรมการตรวจประเมินไปดูนิทรรศการอย่างเป็นทางการอีกรอบหนึ่ง แต่ว่ารอบนี้ข้าวของแทบจะไม่เหลืออะไรแล้ว เพราะว่ารอบแรกที่มากันเองอย่างไม่เป็นทางการนั้น ต่างคนต่างก็ซื้อข้าวของกันไปมาก ๆ

เมื่อตรวจนิทรรศการให้กำลังใจญาติโยมแล้ว ก็มาดูการแสดงทางวัฒนธรรม ซึ่งทางวัดโสภาได้นำการแสดงเกี่ยวกับหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ซึ่งเนื้อหาตรงกับการตรวจประเมินในวันนี้ บรรดาเด็ก ๆ สามารถที่จะประยุกต์เพลง "บ้านนี้รักษาศีล ๕" เข้ากับท่าเต้นท่ารำได้อย่างน่าชื่นชมมาก เมื่อดูการแสดงและแจกรางวัลเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เข้าไปในศาลา ทำการตรวจประเมินไปตามลำดับ

สิ่งหนึ่งที่กระผม/อาตมภาพอยากจะทักท้วง แต่ความจริงก็คือแนะนำ ได้แก่ บรรจุภัณฑ์จากข้าวของของทางด้านหมู่บ้านนี้ ก็คือบรรดาปลาส้มบ้าง บรรดาปลาต้มซึ่งอยู่ในลักษณะกระดูกเปื่อยบ้าง ถ้าสามารถบรรจุอยู่ในภาชนะสุญญากาศ มีการพาสเจอร์ไรซ์ ไม่ว่าจะด้วยไอน้ำหรือว่าแสงอุลตราไวโอเลตก็ตาม ก็จะสามารถทำให้สินค้านั้นไปได้ไกลกว่านี้ ก็คือไม่ใช่อยู่ในระดับอำเภอ หากแต่ว่าออกไประดับประเทศ หรือว่าระดับนานาชาติได้เลย

แต่เรื่องพวกนี้บางทีชาวบ้านก็ไม่เห็นความสำคัญ เนื่องเพราะว่าถ้าบรรจุภัณฑ์ดี ๆ ราคาก็จะสูงขึ้นไปอีก กลายเป็นว่าคนทั่วไปที่จะซื้อหา เมื่อเทียบราคาแล้ว ก็มักจะไปซื้อในส่วนที่บรรจุภัณฑ์ไม่ได้หรูหราสวยงามมากกว่า

พวกเราถ้อยทีถ้อยอาศัยในการตรวจประเมินกัน จนกระทั่งบ่าย ๓ โมงกว่าจึงได้ทำการปิดประเมิน แล้วทางญาติโยมก็นำไปเพื่อเยี่ยมบรรดาผู้ป่วยติดเตียง ตลอดจนกระทั่งแปลงเกษตรเศรษฐกิจพอเพียงของทางบ้านกระดีแดงแห่งนี้ กระผม/อาตมภาพที่ร้อนจนหมดสภาพ ก็เลยต้องขออนุญาตเดินทางกลับก่อน ในระหว่างเดินทางก็ทำการบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนเอาไว้ ไม่เช่นนั้นเกรงว่าถ้าถึงที่พักแล้ว หมดสภาพน็อคไปเลย ท่านทั้งหลายอาจจะไม่มีฟังไปวันหนึ่งก็ได้..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๖ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-08-2025 เมื่อ 02:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:22



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว