กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 22-11-2024, 20:34
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 500
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 24,996 ครั้ง ใน 988 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๗



ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 23-11-2024, 00:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,377
ได้ให้อนุโมทนา: 157,932
ได้รับอนุโมทนา 4,479,215 ครั้ง ใน 35,986 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๒๒ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ พวกท่านส่วนใหญ่ก็งานหมดแล้ว แต่กระผม/อาตมภาพกับเลขาฯ พัฒน์ (พระมหาพัฒน์ ฐิตาจาโร ป.ธ. ๓) ยังงานท่วมหัวอยู่ ที่เห็นปึกใหญ่นี่ก็คือใบปิดหน้าซองใส่กระดาษใบตอบ กระผม/อาตมภาพยังไม่ได้เซ็นกำกับชื่อแม้แต่ใบเดียว..!

อย่างที่พวกเราเคยทำกัน และที่กระผม/อาตมภาพเคยตักเตือนพวกเราอยู่เสมอก็คือ
หลังงานแล้วต้องมาทบทวนว่ามีข้อผิดพลาดอะไรบ้าง เพื่อที่จะได้ปรับแก้กันในงานครั้งต่อไป แต่ปรากฏว่างานวันนี้ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นจากพระของเราที่เป็นกรรมการคุมสอบเอง ก็คือด้วยความที่ไม่เคยงาน เป็นผู้ใหม่ จึงทำให้มีความผิดพลาด เด็กที่ไม่ได้ส่งข้อสอบแต่มีลายเซ็นว่าส่ง ส่วนเด็กที่ส่งข้อสอบกลับไม่มีลายเซ็น..!

ซึ่งตรงนี้ท่านทั้งหลายไม่ต้องไปโทษเด็กเลย โดยเฉพาะเด็กที่ส่งข้อสอบแล้วไม่เซ็นนี่เป็นเรื่องปกติ ก็คือถ้าเรารับเอาไว้โดยไม่ทักท้วงอะไร เขาก็จะไปเลย เพราะเขาถือว่าส่งแล้ว ปัญหาก็จะตกอยู่ที่เรา เพราะว่ามีลายเซ็นไม่ครบ

ส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นก็เพราะว่า
พวกท่านส่วนหนึ่งก่อนที่จะมาบวช เคยรับผิดชอบงานสำคัญต่าง ๆ มาก่อน เห็นว่าเรื่องง่าย ๆ แค่นี้ ไม่น่าจะมีข้อผิดพลาดอะไร ก็เลยกลายเป็นเรื่อง "หญ้าปากคอก" พลาดไปจนได้..! ขนาดกระผม/อาตมภาพย้ำว่า "ให้เซ็นชื่อในฐานะกรรมการคุมห้องสอบ ในบัญชีรับใบตอบทั้งหน้าแรกและหน้าสุดท้าย" แต่ส่วนใหญ่ก็เซ็นมาแค่หน้าแรกใบเดียว..!

นี่ยังดี..เพราะว่าสมัยก่อนบัญชีทุกหน้าจะต้องมีลายเซ็นกรรมการ ทางกองธรรมสนามหลวงปรับให้ทำงานได้ง่ายขึ้น จึงแค่ให้เซ็นกำกับหัวท้ายเท่านั้น แต่พอบอกไปก็ "เหมือนกับลมผ่านหู" เพราะคิดว่า
เรื่องแค่นี้ไม่มีอะไรยาก แล้วงานง่ายก็กลายเป็นงานยากจนได้..!

ที่ให้ท่านสองคนจับคู่กัน คนหนึ่งทวนหมายเลขในบัญชีรับใบตอบ อีกคนหนึ่งทวนหมายเลขใบตอบที่ได้รับมา สองท่านพออยู่ใกล้กัน ใบตอบที่รับมาคนละห้องก็ปนกันมั่วไปเลย..! กระผม/อาตมภาพต้องไปแยกออกให้ เราอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องง่าย เคยทำงานใหญ่กว่านี้มา แต่ไม่ใช่..เราต้องทำตัวเป็นผู้ใหม่อยู่เสมอสำหรับทุกงาน ต้องไม่ประมาท ไม่อย่างนั้นแล้วปัญหาที่ไม่น่าเกิดก็จะเกิดขึ้นแบบนี้..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-11-2024 เมื่อ 02:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 23-11-2024, 00:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,377
ได้ให้อนุโมทนา: 157,932
ได้รับอนุโมทนา 4,479,215 ครั้ง ใน 35,986 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อย่างวันนี้ที่อยู่ ๆ ลมก็พัดบัญชีรับใบตอบปลิวไปติดขนมที่ทางโรงเรียนเตรียมเอาไว้ให้เป็นอาหารเพล แล้วเจ้าประคุณเถอะ..เหนียวยิ่งกว่ากาวอีก กว่าจะแกะออกมาได้ บัญชีใบนั้นก็เละเทะไปทั้งใบ..! จนท้ายที่สุดเลขาฯ พัฒน์ต้องแก้ปัญหาด้วยการไปปริ๊นท์มาใหม่ แล้วให้เด็กเซ็นใหม่ คือเรื่องที่ไม่น่าเกิด ถึงเวลาก็เกิดขึ้นได้เสมอ

พวกท่านจะเห็นว่าถ้าเรื่องพวกนี้เกิดขึ้น กระผม/อาตมภาพจะเฉย ๆ เสมอ ก็คือแก้ไขไปตามหน้างาน ไม่เสียเวลาไปโทษใคร และไม่เสียเวลาไปด่าใคร เพราะว่าการทำงานทุกอย่างต้องมีข้อผิดพลาด ต้องมีปัญหาให้แก้ไขที่หน้างานเสมอ อย่างที่ย้ำกับท่านทั้งหลายไปตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้วว่า "เรารักษากำลังใจของเราเอาไว้ได้ตลอดงานหรือไม่ ?" ไม่ใช่พอช่วงท้าย ๆ เด็กห้องเราช้า ทำให้เราได้รับใบตอบคืนช้า เราก็เริ่มโกรธเด็กแล้ว..!

เนื่องเพราะว่างานการทุกอย่างนั้น เป็นการขัดเกลาและฝึกฝนตนเองทั้งสิ้น ถ้าเรามัวแต่คิดว่าแค่มานั่งสมาธิเท่านั้น ถึงจะเป็นการฝึกกำลังใจตนเอง ถ้าแบบนั้นขอให้ทราบว่าเข้าใจผิด วันหนึ่ง ๒๔ ชั่วโมง เรามีเวลามานั่งขัดเกลาจิตใจตัวเองกี่ชั่วโมง ? แล้วเวลาส่วนใหญ่เราก็ลอยตามกิเลสไป ถ้าแบบนั้นโอกาสที่จะชนะกิเลสไม่มีเลย แต่ถ้าหากว่าเราขัดเกลาตัวเองด้วยงานทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้า โอกาสที่เราจะชนะกิเลสก็จะมีขึ้นได้


ดังที่หลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านเคยบอกพวกกระผม/อาตมภาพว่า "งานคันถะธุระ ไม่ว่าเป็นการศึกษา เล่าเรียน หรือว่าก่อสร้างก็ตาม ใครรับงานแล้วทำใจได้ วางกำลังใจได้ถูก โอกาสได้มรรคผลจะเร็วมาก" เพราะว่านั่นคือของจริงที่มาทดสอบเราเลย

จึงเป็นเรื่องที่เราท่านทั้งหลายต้องตระหนักเอาไว้ว่า ปัญหามีเอาไว้แก้ แต่ถ้าหากว่าเกินกำลังของเรา กระผม/อาตมภาพได้ยินผู้รู้บางท่านบอกว่า ถ้าเกินกำลังที่เราจะแก้ได้ไม่เรียกว่าปัญหา ฟังดูก็เข้าท่าดี แต่ตั้งแต่ผ่านมา กระผม/อาตมภาพยังไม่เห็นว่าปัญหาไหนเกินกำลัง ก็เลยต้องมีแต่ปัญหาให้แก้อยู่ตลอดมา..!

คราวนี้การที่เราท่านทั้งหลายแบกมานะเข้ามาในชีวิตนักบวช ส่วนที่พึงระวังที่สุดก็คือก่อนที่จะพ้นจากความเป็นพระนวกะ พ้น ๕ พรรษาขึ้นไป อย่าได้เอาประสบการณ์ตอนเป็นฆราวาสมาใช้ด้วยความมั่นใจว่าเราเอาตัวรอดได้ เพราะว่าการกระทำบางอย่างของเรา พลาดแล้วโอกาสแก้ตัวไม่มี ก็คือต้องอาบัติปาราชิก ขาดจากความเป็นพระไปเลย..!

อย่างวันก่อนที่กระผม/อาตมภาพบอกว่า "พระเรามาใช้วิธีอธิษฐานว่าตนเองต้องอาบัติหนักหรือเปล่า ? ถ้าหากว่าต้องอาบัติหนัก หลวงพ่อต้องตักเตือน" ปรากฏว่าพอด่าไปก็มีผู้มาสารภาพ แล้วก็สอบถามต่อหน้า ว่าสิ่งที่ตัวเองทำไปนั้นต้องอาบัติปาราชิกหรือไม่ ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-11-2024 เมื่อ 02:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 23-11-2024, 00:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,377
ได้ให้อนุโมทนา: 157,932
ได้รับอนุโมทนา 4,479,215 ครั้ง ใน 35,986 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เราขาดจากความเป็นพระง่ายมาก แล้วถ้าหากว่าขาดโดยต้องอาบัติปาราชิก ก็แปลว่าการปฏิบัติของเราในชาตินี้ โอกาสที่จะได้ดีแทบจะไม่มีอีกเลย เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วกำลังใจไปหมกหมุ่นกับความผิดพลาดที่ตนเองทำความชั่วเอาไว้ ก็ทำให้เกิดวิปฏิสาร คือเดือดเนื้อร้อนใจอยู่เสมอ สภาพจิตไม่สามารถที่จะสงบได้ โอกาสที่จะไปสุคติจึงมีน้อย ดังนั้น..ไม่ว่าเราจะเคยเป็นใคร ทำหน้าที่การงานอะไร มีศักดิ์ฐานะสูงส่งแค่ไหนก็ตาม เข้ามาบวชก็ให้กองทิ้งไปเลย เริ่มต้นทำตัวเป็นพระใหม่ทันที

ถ้าเราศึกษาประวัติเจ้าศากยวงศ์และโกลิยวงศ์ที่ออกบวชพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นพระอานนท์ก็ดี พระภัคคุก็ดี พระกิมพิละก็ดี ไล่ไปถึงนายอุบาลีที่เป็นช่างภูษามาลา ปรากฏว่าบรรดาเจ้าศากยะสำนึกตนว่ามีมานะกษัตริย์หนักมาก คราวนี้การบวช ใครบวชก่อนถือว่าเป็นพี่ จึงให้นายอุบาลี ผู้เป็นช่างภูษามาลา ก็คือช่างตัดผมบวชก่อน จะได้เป็นพี่ให้ตนไหว้ได้ เท่ากับว่าเป็นการลดมานะไปในตัว

ก็เพราะว่าความมานะถือตัวถือตนนี่แหละ ที่ทำให้ศากยวงศ์ โดนเจ้าชายวิฑูฑภะกวาดล้างจนแทบไม่เหลืออะไรเลย ส่วนที่หนีรอดไปก็เป็นท้าย ๆ ของเชื้อสายแล้ว ไม่ใช่ต้นสายที่มีความเข้มข้นในสายเลือดสูงมาก

ดังนั้น..ถ้าหากว่าท่านไปประเทศเนปาล เจอญาติโยมมารายงานตัวแล้วบอกว่านามสกุลศากยะ นั่นก็คือบรรดาท่านที่หนีสงครามไป แม้แต่บ้านเรา ท่านเจ้าคุณพระพรหมศากยวงศ์วิสุทธิ์, ดร. (อนิลมาน ธมฺมสากิโย) หรือท่านเจ้าคุณอนิลมาน นั่นก็มาจากศากยะสกุล เขามานะถือตัวถือตนจนกระทั่งล่มชาติล่มแผ่นดินกันมาแล้ว..!

ถ้าพวกเราทั้งหลายแบกมานะเข้ามาในความเป็นนักบวชของเรา ก็อาจจะทำให้เราเสียหาย สูญไปจากความดี จึงเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังเป็นอย่างสูง อะไรที่เป็นพุทธบัญญัติ ปฏิบัติเอาไว้เถิด มีแต่จะเกิดผลดีแก่ตัวเรา เนื่องเพราะว่าชีวิตนักบวชนั้นเป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการดำเนินชีวิตที่เราไม่คุ้นเคย ถ้าไม่ศึกษาให้ดี โอกาสพลาดจะมีสูงมาก โดยเฉพาะญาติโยมฝ่ายฆราวาส หลายต่อหลายท่านตำแหน่งหน้าที่ใหญ่โตมาก แต่พอเข้ามาประพฤติปฏิบัติธรรม สามารถที่จะลดตัวลงมาคบค้าสมาคมกับคนอื่นได้แบบไม่ถือตัว นั่นถือว่าท่านวางตัวโดยถูกต้อง

แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังมีอีกเป็นจำนวนมากที่แบกมานะไว้อย่างเต็มที่เลย กระผม/อาตมภาพไปเจอในสายอื่น ๆ ของพรรคพวกเพื่อนฝูง ถึงเวลาเดินทางก็มีการตั้งแง่กระทบกระทั่งกันตลอด ประมาณว่าฝ่ายตนไฮโซ ฝ่ายคุณโลโซ อย่าเสนอหน้ามาคบหากับฉัน ขนาดเรียกป้านี่ตวาดใส่เลยว่า "เธอเป็นญาติเป็นโยมอะไรกับฉัน ถึงบังอาจมาเรียกป้า..!" กระผม/อาตมภาพเจอมาเองแล้ว ถ้าหากว่าแบกมาในลักษณะอย่างนั้น โอกาสที่จะเอาดีจะยากมาก

แต่คราวนี้ในเรื่องของฆราวาสนั้นยกให้เขา เพราะในฐานะปุถุชนต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว ในฐานะนักบวช ไม่ว่าพระภิกษุ สามเณร หรือว่าแม่ชีต่างหาก ที่เราอยู่ในฐานะของปูชนียบุคคล คนอื่นเขาให้ความเคารพ แล้วเราอย่าทำตัวเคยชิน ต้องนึกถึงคำที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสกับพระโมคัลลานะว่า "จงอย่าชูงวงเข้าไปในสกุล" ก็คืออย่าแบกกิเลสนำหน้าไป ให้ทำตัวเป็นผู้ใหม่อยู่เสมอ ไม่เช่นนั้นแล้วสิ่งที่เราทำก็มีแต่จะย้อนกลับมาทำร้าย หรือว่าทำลายตัวของเราเอง

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๒๒ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-11-2024 เมื่อ 02:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:00



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว