กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนสิงหาคม ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 07-08-2022, 19:15
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,599
ได้ให้อนุโมทนา: 219,376
ได้รับอนุโมทนา 766,675 ครั้ง ใน 37,529 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 08-08-2022, 00:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๗ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ ตั้งแต่เช้ามากระผม/อาตมภาพก็ออกบิณฑบาต โดยเฉพาะรับบาตรตามโครงการ "หิ้วตะกร้า นุ่งผ้าซิ่น นั่งแคร่ไม้ ใส่บาตรพระทุกวันอาทิตย์" ซึ่งอาทิตย์นี้คนมากันมากเป็นพิเศษ แล้วฝนก็ซ้ำเติมตั้งแต่ต้นทางจนปลายทาง

หลังจากนั้นแล้วก็ต้องมาบรรยายธรรมให้กับคณะแรลลี่ทัวร์ เที่ยวชุมชน ยลวิถี จากเว็บเพจกิฟท์จังพลังเวทย์ ต่อด้วยการจับสลากหาผู้โชคดี รับรางวัลวัตถุมงคลจากการที่ร่วมขบวนแรลลี่ทัวร์มา แล้วก็ต่อด้วยการดูงานภาคสนามของโครงการมัคคุเทศก์น้อยออนทัวร์นานาชาติพันธุ์ แค่นี้ก็หมดไปแล้วครึ่งวัน..!

หลังเที่ยงแล้วก็มามอบยาห้าราก ยาฟ้าทะลายโจร แล้วก็เจลแอลกอฮอล์ล้างมือให้กับคณะ อสม.ตำบลท่าขนุน เพื่อเอาไปใช้ป้องกันและรักษาผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ซึ่งต้องบอกว่าทองผาภูมิของเรา การติดเชื้อยังรุนแรงมาก แต่คนกลับไม่กลัวกัน มีแต่คนที่ติดแล้วมีอาการยาวมาเป็นเดือน ที่เขาเรียกกันว่า Long COVID นั่นถึงจะรู้รสชาติของชีวิต ว่าการปล่อยให้ติดเชื้อโควิด ๑๙ แล้วเป็นอย่างไร !?

หลังจากนั้นก็มาทำพิธีปิดโครงการ แล้วมอบวุฒิบัตรให้กับมัคคุเทศก์น้อยออนทัวร์นานาชาติพันธุ์ ยังไม่ทันจะเสร็จดี ก็ต้องวิ่งไปงานปฐมนิเทศเปิดสำนักเรียนพระปริยัติธรรมแผนกธรรมที่วัดปรังกาสี ซึ่งพระครูวรกาญจนโชติ เจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ ได้รวมเอานักเรียนจากเขตตำบลลิ่นถิ่นเขต ๒ ตำบลหินดาด ตำบลสหกรณ์นิคม ตำบลท่าขนุนเขต ๑ และตำบลท่าขนุนเขต ๒ รวมทั้งสิ้น ๕ ตำบลมาเรียนรวมกัน ก็ยังมีนักเรียนแค่ไม่ถึง ๓๐ รูป

เมื่อเสร็จพิธีปฐมนิเทศ ก็เป็นการมอบตำราเรียนให้กับคณะสงฆ์ตำบลต่าง ๆ เพื่อนำไปใช้ในการสอนนักธรรมชั้นตรี ชั้นโทและชั้นเอก กระผม/อาตมภาพยังได้มอบปัจจัยร่วมพิมพ์หนังสือสวดมนต์ของคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิ จำนวน ๒๓,๐๐๐ บาทให้แก่ท่านเจ้าคณะอำเภอ นี่คืองานที่ยังไม่หมด

ในส่วนนี้เราจะเห็นว่า เรื่องของงานนั้น ถ้าเราตั้งใจทำให้ดี ไม่ว่างานจะมากแค่ไหน เราก็ทำได้ แต่ถ้าหากว่าเราขาดความตั้งใจ ขาดความพยายาม โอกาสที่จะทำทุกอย่างให้ดีก็เป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะถ้าเป็นผู้ขาดไหวพริบปฏิภาณด้วย ก็จะยิ่งลำบากมาก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2022 เมื่อ 02:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 08-08-2022, 00:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อย่างเมื่อเช้านี้ การรับบาตรตามโครงการ "หิ้วตะกร้า นุ่งผ้าซิ่น นั่งแคร่ไม้ ใส่บาตรพระทุกวันอาทิตย์" บรรดานาคที่ไปช่วยเก็บกับข้าว และสิ่งของที่ญาติโยมใส่บาตร ขาดความคล่องตัวอย่างมาก คือสำหรับคนอื่น แค่มองดูก็รู้ว่าต้องทำอะไร แต่ว่าบรรดานาคทั้งหลายกลับทำอะไรไม่ถูก

มีบางคนก็รอให้กระผม/อาตมภาพเป็นคนเก็บกับข้าว เก็บข้าวของออกไปใส่กระสอบเอง เมื่อ
กระผม/อาตมภาพลองยืนรอดูว่าจะมีไหวพริบพอที่จะหยิบเองไหม ? พวกคุณก็ยืนรอกระผม/อาตมภาพเสียอีก หรือไม่บางคนทั้ง ๆ ที่คนเตือนแล้วว่าบังกล้อง แต่ก็ระวังแค่ ๒ วินาที วินาทีที่ ๓ กูก็บังต่อไป..!

หรือไม่ก็อย่างแถวพระกำลังจะข้ามถนน เหลียวดูเพื่อให้รู้ว่ามีรถมาหรือเปล่า ? แต่เหลียวไปทีไร พวกนาคก็บังทางจนหมด ตกลงว่าพระต้องเสี่ยงดวงข้ามถนนให้รถชนตายเอาเอง เพราะว่ามองอะไรไม่เห็น..!

เรื่องพวกนี้ถ้าคนมีไหวพริบปฏิภาณ ไม่จำเป็นต้องพูดถึงเลย แต่ปรากฏว่าพวกเราทำได้ในลักษณะที่เรียกว่าย่ำแย่สุด ๆ ถ้าไปเจอคนปากร้าย เขาก็จะบอกว่า "ฉลาดกว่าควายก็แค่ยืนสองขาได้เท่านั้น..!"

เรื่องพวกนี้ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่สอนกันยาก เหตุที่สอนกันยาก เพราะถ้ายกตัวอย่างกระผม/อาตมภาพเอง เข้าไปทำงานในบริษัทหลังพระครูแสง น้องชายถึง ๓ ปี แต่ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งปี ก็มีความก้าวหน้าในการงานมากกว่าคนที่ทำมาแล้วถึง ๓ ปี

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่ากระผม/อาตมภาพจะมองงานว่าลำดับต่อจากนี้ไป เราต้องทำอะไร ในเมื่อเราคำนวณได้ว่าจะต้องทำอะไร ก็ต้องเตรียมการสำหรับสิ่งนั้นไว้ให้เรียบร้อย เมื่อถึงเวลาต้องทำ ทุกอย่างก็พร้อมสมบูรณ์ แต่พวกเราส่วนหนึ่งมองงานล่วงหน้าไม่เป็น แก้ไขหน้างานไม่เป็น การแก้ไขหน้างานคือ มีปัญหาอะไรที่ทำงานให้งานต้องสะดุด ต้องขาดความคล่องตัว เราจะแก้ไขอย่างไรให้ทันกับเหตุการณ์

เมื่อเป็นเช่นนี้ สำหรับพวกเราก็ไม่ต้องไปพูดถึงในเรื่องของการคาดคำนวณถึงเรื่องต่าง ๆ ที่จะมีขึ้นต่อไปในภายภาคหน้า ไม่ว่าจะเป็นอาทิตย์หน้า เดือนหน้า ปีหน้า เพราะว่าแค่ตรงหน้าก็ยังไปไม่เป็นแล้ว ส่วนอื่นจึงไม่ต้องพูดถึง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2022 เมื่อ 02:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 08-08-2022, 00:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น...ในเรื่องของการทำงาน ไหวพริบปฏิภาณเป็นสิ่งสำคัญที่สุด โดยเฉพาะความละเอียดรอบคอบ แต่พวกเราพอละเอียดก็จะช้าทันที ถ้าหากว่าปล่อยให้เก็บกับข้าวกันเอง คัดแยกกันเอง รับประกันได้ว่ายันฉันเพลก็ยังบิณฑบาตไม่เสร็จ..!

แล้วพรุ่งนี้ถึงเวลาตามพระออกบิณฑบาต ก็ไม่ใช่ตะบี้ตะบันตามไปทั้งหมด ไปทำอะไรให้เกะกะเสียเปล่า ไปอย่างเต็มที่ก็ไม่เกิน ๓ คน ถ้าเป็นกระผม/อาตมภาพเอง คนเดียวก็พอแล้ว คนแรกเก็บกับข้าวเสร็จ ก็ไปต่อท้ายแถวให้คนที่สองมาเก็บต่อ คนที่สองเก็บแล้วก็ไปต่อท้ายแถวให้คนที่สามขึ้นมาแทน หมุนเวียนกันไป..ง่าย ๆ แค่นี้เอง

ก่อนที่จะเก็บกับข้าวก็โปรดพิจารณาด้วยว่า ไอ้ตอนที่เราเอื้อมมือไปเก็บ จะไปขวางคนอื่นเขาหรือเปล่า ? เขาใส่บาตรได้ไหม ? ถ้าหากว่าใส่บาตรรูปแรกได้ แล้วถ้ามือเราเอื้อมไปขวางอยู่ เขาจะใส่รูปที่สองได้ไหม ?

เชื่อไหมว่าเรื่องทั้งหมดนี้ กระผม/อาตมภาพไม่เคยต้องรอให้ใครสอนเลย อยู่กับหลวงพ่อวัดท่าซุงก็ไม่เคยให้ใครสอนงาน เข้าไปถึงตรงไหนก็ทำหน้าที่ไปได้เลย คอยสังเกตเอา แล้วก็ปรับตัวตามหน้างาน แล้วก็เป็นเรื่องอัศจรรย์ว่า ลูกศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุงในยุคนั้นเป็นแบบนี้เกือบทุกคน ไปวัดก็มองหางานเอง ได้งานแล้วก็พิจารณาดูว่าต้องร่วมงานกับใคร ถ้าหากว่างานเกินกำลังตัวเอง ต้องอาศัยใครมาแก้ไข ทุกคนสามาถทำงานได้เองโดยไม่ต้องเสียเวลาไปให้ใครต้องมาปากเปียกปากแฉะ จ้ำจี้จ้ำไช

แล้วทำไมแค่ไม่กี่ปี พอมาถึงยุคพวกเรา บอกว่าอย่าบังกล้อง ๒ วินาทีต่อมาก็บังอีกแล้ว..!? บอกว่าให้ยืนเยื้องไปข้างหลังแล้วเก็บกับข้าว ๒ วินาทีต่อไปก็ยืนบังหน้าอีกแล้ว จะเป็นเรื่องที่น่าเหนื่อยใจเกินไปไหม ? ถ้าหากว่าครูบาอาจารย์จะต้องมาจ้ำจี้จ้ำไชอยู่ทุกวัน ต่อให้มึงฟังแล้วไม่เบื่อ กูก็เบื่อที่จะพูด..!

ดังนั้น...ลองดูว่าก่อนที่จะถึงวันที่ ๑๐ ช่วงบ่าย พวกเรายังมีเวลาแก้ตัว ดูว่าจะจัดสรรกำลังพลอย่างไร ใครจะตามพระ ใครจะอยู่ทำความสะอาดวัด ใครจะอยู่ช่วยเหลืองานในโรงครัว ถ้าคนแค่นี้แบ่งกันไม่ได้ ก็ไม่ต้องไปทำมาหากินอะไรแล้ว..!

ถ้าหากว่านับว่า ดี ๑ ประเภท ๑ ก็คือบรรดาท่านทั้งหลายที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโปรดในสมัยพุทธกาล หลังจากนั้นความสามารถก็ค่อย ๆ ลดน้อยถอยลงไปเรื่อย แต่เหลือเชื่อแค่ว่ายุคที่กระผม/อาตมภาพถวายการรับใช้หลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงอยู่ มาจนถึงปัจจุบันนี้ แค่ไม่กี่ปี ความสามารถในการคิดงานทำงานของพวกเราจะย่ำแย่ลงไปได้ขนาดนี้..!

ถ้ารู้สึกว่าความสามารถยังไม่พอ ก็บวชอยู่ต่อไปให้นานหน่อย ดูว่าจะขัดเกลาตัวเองได้สักเท่าไร ถ้าแก้ไขได้ก็ถือว่าเป็นคุณแก่ตัว ถ้าแก้ไขไม่ได้ก็อย่าไปมีลูกมีเมียกับใครเลย สงสารเด็กที่จะเกิดมา..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๗ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2022 เมื่อ 02:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:12



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว