#1
|
||||
|
||||
รักษาอาการปวดฟัน
มี ๓ วิธีเลือกใช้ตามความเหมาะสม คือ
๑. อมเกลือวันละ ๒-๓ ครั้ง ครั้งละ ๑ ช้อนชา พยายามใส่เกลือให้ถูกฟันซี่ที่ปวด ใส่ใหม่ ๆ อาจจะปวดมากขึ้นประเดี๋ยวก็หาย ควรอมหลังอาหาร มิฉะนั้นจะกินไม่อร่อย เพราะลิ้นชา ๒. เคี้ยวกานพลู ๓ ดอกจนแหลกในปาก อมไว้ พยายามให้น้ำลายไปขังอยู่ที่ฟันซี่ที่ปวด ๓.ถากเปลือกต้นข่อยเล็กน้อย ใส่ในหม้อเล็ก ๆ ต้มกับเกลือพอสมควร เคี่ยวให้น้ำลดจนค่อนข้างข้นใช้น้ำอม
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 92 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
|||
|
|||
ขออภัยที่จะให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับหัวข้อกระทู้ทีเดียวนัก แต่เห็นว่าใกล้เคียงกัน
เป็นวิธีแก้อาการร้อนใน แบบที่ผนังปากขึ้นเป็นเม็ดพองใส ๆ เวลาแตกออกรสเค็ม จึงเรียกเป็นภาษาจีนว่า เกี่ยมชือ (เกี่ยม หรือ เกี๊ยม แปลว่าเค็ม) ใช้วิธีที่ ๑ ของวิธีแก้ปวดฟันที่ลงไว้ หรือใช้น้ำอุ่นต้มเมล็ดถั่วเขียว คล้ายวิธีที่ ๓ แต่ไม่ต้องต้มจนถั่วสุก เพียงต้มเมล็ดถั่วเขียวจนน้ำเดือด ใส่เกลือจนออกรสเค็มค่อนข้างมาก ทิ้งให้อุ่นพออมได้ ใช้น้ำอมวันละ ๒-๓ ครั้ง เป็นวิธีบอกต่อ ๆ กัน และใช้เป็นยาพื้นบ้านได้ผลกันมาแล้ว คล้ายดินสอพองกับมะนาวทาหัวโน หรือใบชะพลูตำกับเหล้าขาวทาแก้ผื่นคัน
__________________
การรักษากำลังใจสำคัญที่สุด...ได้ดีอย่าฟู แล้วขณะเดียวกันว่า ถ้าได้ร้ายก็อย่าฟุบ ให้เห็นว่ามันเป็นปกติของมัน เรื่องของมัน ถ้ามันดีมาพออาศัยได้ก็ดีกับมันไป ถ้าหากว่ามันไม่ดีมา เราอยู่กับมันก็ให้รู้อยู่มีสติอยู่ ถึงเวลาก็ต่างคนต่างไปอยู่แล้ว... กำลังใจของเราพลาดแม้แค่วินาทีเดียวนี่ อาจจะหมายถึงแพ้ทั้งกระดาน อะไรมันก็ไม่เจ็บปวดเท่ากับต้องเกิดใหม่ มันเป็นทุกข์ เป็นโทษสุด ๆ จริง ๆ กระโถนข้างธรรมาสน์ ฉบับที่ ๕๑ |
สมาชิก 72 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สายท่าขนุน ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
|||
|
|||
สำหรับผมใช้วิธี Oil Pulling ด้วยน้ำมันมะพร้าว ได้ผลชะงัด การอักเสบของเหงือกหายเป็นปลิดทิ้ง เหงือกยึดฟันแน่นขึ้น ไม่มีกลิ่นปาก อาการคัดจมูกที่เป็นอยู่ประจำก็หายไป หายใจโล่งได้เต็มปอด
การทำOil Pulling รักษาได้สารพัดโรค เช่นภูมิแพ้ หวัดทุกชนิด เก๊าท์ มะเร็ง ไมเกรน เหงือกอักเสบ ฯลฯ วิธีทำก็แสนง่าย คือใช้น้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันงาหรือน้ำมันทานตะวันอย่างใดอย่างหนึ่ง(ผมใช้น้ำมันมะพร้าว) จำนวนหนึ่งช้อนโต๊ะใส่ปากอมไว้แล้วใช้วิธีดูด-ดึง-ดันให้น้ำมันหมุนวนไปทั่วปาก ให้น้ำมันผ่านซอกฟันให้ทั่ว เหมือนเวลาเรากลั้วปากหลังกินข้าวเสร็จทำปากกุ๊ก ๆ แบบนั้นแหละ แต่เราต้องใช้เวลา๑๕-๒๐นาที อย่าเผลอกลืนลงไป แต่ถ้ากลืนลงไปเพราะลืมตัวก็อย่าได้ตกใจร่างกายจะขับออกมาเองภายหลัง เมื่อทำตามเวลาแล้วก็บ้วนลงอ่างล้างหน้า จะเห็นว่าน้ำมันจะมีสีขาวเหมือนนมไม่เหลือความหนืดอย่างทีแรกเริ่ม จะไหลเหมือนน้ำ น้ำที่บ้วนออกมาจะเต็มไปด้วยเชื้อแบคทีเรียและไวรัสที่เซลล์ในร่างกายถูกกระตุ้นจากเอนไซม์ที่ต่อมต่าง ๆ ในปากและลิ้นกระตุ้นให้ขับสารพิษที่คั่งค้างอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายออกมากับน้ำลาย ต้องทำต่อเนื่องทุกวันจึงจะเห็นผล ทำตอนเช้าก่อนกินอาหาร หรือตอนไหนก็ได้ตอนท้องว่าง ใครอาการมากควรทำสามครั้งต่อวันตอนท้องว่าง ผมทำวันละครั้งหลังตื่นนอนก่อนอาหารเช้า วิธีนี้ป็นการรักษาโรคแบบอินเดียใช้กันมาแต่โบราณ หมออินเดียคนหนึ่งได้สร้างความตื่นตะลึงให้แพทย์ทั่วโลกในงานประชุมทางการแพทย์ที่ประเทศยูเครนมาแล้วในการเสนอผลงานการรักษาที่ธรรมดาที่สุดราคาถูกที่สุดและได้ผลที่สุด ใครอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมลองsearchในgoogleดูนะครับ เจริญธรรม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย นิพพาน : 18-09-2011 เมื่อ 03:05 |
สมาชิก 59 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
อ้างอิง:
สารพัด ,เลขไทย, เว้นวรรคหน้าและหลังไม้ยมกด้วยค่ะ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 55 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#5
|
||||
|
||||
อ่านแล้วทำให้นึกถึงน้ำมันชาตรีของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน เป็นน้ำมันงา บูชาขวดละ ๑๐๐ บาท
น้ำมันสังคโลกของหลวงปู่ปาน เป็นน้ำมันมะพร้าว บูชาขวดละ ๒๐ บาท ทั้งสองชนิดบูชาได้ที่ตึกรับแขก วัดท่าซุงค่ะ (แนะนำให้หาซื้อน้ำมันงา หรือน้ำมันมะพร้าวมาเติมค่ะ) สนใจเรื่องราวของน้ำมันชาตรี ติดตามอ่านได้ที่นี่ค่ะ http://www.watthakhanun.com/webboard...read.php?t=771
__________________
เสียงธรรมจากพระองค์ที่ ๑๐ ธรรมพระพุทธเจ้า คือธรรมชาติ ธรรมชาติที่ทุกคนก็มีอยู่ในตัวเอง เพราะฉะนั้นเธอก็มีธรรมะ ฉันก็มีธรรมะ เธอกับฉันมีธรรมเสมอกันคือความตาย |
สมาชิก 56 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ป้านุช ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|