กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 24-11-2023, 16:50
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,615
ได้ให้อนุโมทนา: 217,150
ได้รับอนุโมทนา 750,089 ครั้ง ใน 36,562 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๖


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 25-11-2023, 00:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,789
ได้ให้อนุโมทนา: 152,314
ได้รับอนุโมทนา 4,422,122 ครั้ง ใน 34,380 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๒๔ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนวันนี้ ณ ที่พักพระภิกษุสามเณรสนามบินนานาชาติอุบลราชธานี

สำหรับในช่วงเช้าวันนี้ ด้วยความที่พระท่านไม่ได้มารับบิณฑบาต ญาติโยมทั้งหลายก็เลยเอากระผม/อาตมภาพเป็นเนื้อนาบุญแทน โดยการร่วมทำบุญมาจำนวนมากต่อมากด้วยกัน แม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นธนบัตรใบละ ๒๐ บาท แต่ว่าเล่นใส่กันคนละ ๕ ใบบ้าง ๑๐ ใบบ้าง ก็ดูมากเอาการทีเดียว

ส่วนน้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) น่าจะเป็นคนที่มีโชคที่สุดในคณะ เนื่องเพราะว่าตามที่แม่หญิงสมฮัก หรือว่าแม่หญิงปุ๋ยได้บอกเอาไว้ ก็คือถ้าหากหาดอกจำปาลาวที่มี ๔ กลีบ หรือว่า ๖ กลีบได้ ถือว่าเป็นโชคดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าโดยปกติแล้ว ดอกจำปาลาว หรือว่าดอกลีลาวดี หรือในชื่อเก่าก็คือดอกลั่นทมนั้น จะมี ๕ กลีบเสมอ ปรากฏว่าน้องเล็กเดินลงไปถึง ก็เจอดอก ๖ กลีบก่อน เพิ่งจะหยิบขึ้นมาถ่ายรูป ยังไม่ทันจะเดินได้สองก้าว ก็เจอดอก ๔ กลีบอีก ๑ ดอก ทำเอาในคณะแตกตื่นฮือฮากันไปหมด

สำหรับวันนี้กระผม/อาตมภาพตั้งใจที่จะไปนั่งที่รถบัสหมายเลข ๒ เพื่อที่จะได้พูดคุยสนทนาเรื่องราวบางอย่างให้กับญาติโยมของคันที่ ๒ บ้าง โดยเฉพาะในวันนี้ ท่านปู่พระอินทร์มีความเมตตาเป็นอย่างยิ่ง เกรงว่ากระผม/อาตมภาพถ้าเจออากาศเปลี่ยนรุนแรง แล้วเกิดจับไข้ อาจจะไปงานต่อไม่ไหว เนื่องเพราะว่าพรุ่งนี้จะมีงานแต่เช้าเลย จึงได้ส่งพี่ ๆ ทั้ง ๔ ท่านก็คือพี่เกศแก้วมณี พี่พรทิพย์ พี่พวงทิพย์ และพี่พรสวรรค์มาช่วยดูแล

ถ้าท่านทั้งหลายเคยติดตามบันทึกการเดินทาง ชุดไปเที่ยวพม่าของกระผม/อาตมภาพ ก็จะเห็นฤทธิ์ของพี่ทั้ง ๔ ท่าน ที่ปลอมตัวเป็นพระพม่า นั่งเต็มหลังคารถมากับกระผม/อาตมภาพที่นั่งโด่เด่อยู่คนเดียว จนกระทั่งจราจรโบก แล้วยึดใบขับขี่เจ้าของรถสองแถว เนื่องเพราะว่าให้พระนั่งบนหลังคามากจนอาจจะเกิดอันตรายได้..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-11-2023 เมื่อ 02:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 25-11-2023, 00:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,789
ได้ให้อนุโมทนา: 152,314
ได้รับอนุโมทนา 4,422,122 ครั้ง ใน 34,380 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เจ้าของรถที่จะเร่งไปส่งพวกเรา แม้ว่าจะงง ๆ กับข้อหาของตำรวจ เนื่องเพราะว่าเห็นมีกระผม/อาตมภาพอยู่รูปเดียว แต่ก็ยอมให้ยึดใบขับขี่ นัดแนะกันว่า เมื่อส่งคณะของกระผม/อาตมภาพแล้ว ก็จะรีบกลับมา "เคลียร์" เรื่องให้เรียบร้อย ไม่ทราบเหมือนกันว่าจนป่านนี้เรียบร้อยไปเท่าไร เนื่องเพราะว่าพี่ ๆ ทั้งหลาย เมื่อได้รับคำสั่งท่านปู่พระอินทร์มา ก็เล่นกันสนุกสนาน จนตำรวจเห็นว่ามีพระนั่งอยู่บนหลังคา ๕ รูป แต่เจ้าของรถเห็นกระผม/อาตมภาพรูปเดียว

ท่านพี่ทั้ง ๔ นี้ ต้องบอกว่า ความจริงท่านก็อยู่บนพระนิพพานกันแล้ว เพียงแต่ว่าวิสัยเก่าเป็นผู้มีความสนุกสนานเฮฮา เหมือนกับที่ญาติโยมบางท่านที่ให้คำจำกัดความว่า กระผม/อาตมภาพนั้น "ซนมาก" แต่ว่าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ จะว่าไปแล้ว บางอย่างก็เป็นการรื่นเริงในธรรม เมื่อได้พี่ทั้ง ๔ มาช่วยเหลือ ไม่ให้อากาศกระชากลงไปมากมายนัก ทำให้กระผม/อาตมภาพยังมีความแข็งแรงเพียงพอที่จะอยู่ได้ โดยไม่จับไข้เมื่ออากาศเปลี่ยนแรง

หลังจากที่รออยู่บนรถบัสคันที่ ๒ ประมาณครึ่งชั่วโมง ไม่มีใครขึ้นมาสักคนแม้กระทั่งพลขับ กระผม/อาตมภาพจึงตัดสินใจเดินกลับไปนั่งที่รถบัสหมายเลข ๑ แทน เนื่องเพราะว่าญาติโยมทั้งหลายส่วนมากแล้ว ถ้าไม่ใช่ไฟลนก้นก็ไม่ขยับกัน ขนาดมาเที่ยวนี้ แม้กระทั่งบรรดาหัวหน้าทัวร์ ไกด์ ตลอดจนกระทั่งสตาฟฟ์ต่าง ๆ ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ยังไม่เคยทำทัวร์ที่คณะเตรียมพร้อมได้รวดเร็วขนาดนี้มาก่อน อยากจะบอกว่าขนาดนี้ของญาติโยมนั้น ยังไม่ได้ ๕๐ เปอร์เซ็นต์ที่กระผม/อาตมภาพต้องการเลย..!

พวกเราเดินทางออกจากโรงแรมจำปาสัก
แกรนด์ หลังที่เช็คเอาท์ทุกอย่างแล้ว โดยมีกระผม/อาตมภาพคนเดียว ที่ลืมกุญแจคีย์การ์ดทั้ง ๒ ใบติดกระเป๋ามา เนื่องจากว่าติดตัวมาตลอด ๓ วัน จึงลืมคืนให้ ต้องส่งให้เจ้าหน้าที่เขาทั้งที่อยู่บนรถนั่นเอง พวกเราวิ่งตรงไปยังภายในตัวเมือง ผ่านทางด้านที่เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเซ ที่เรียกกันว่าเซโดน แล้วก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปยังหน้าศาลหลักเมือง อ้อมหลักเมืองแล้วมาจอดที่หน้าวัดหลวงปากเซ ซึ่งอยู่แค่ถนนคั่นกับศาลหลักเมืองเท่านั้น

กระผม/อาตมภาพพาคณะเข้าไปกราบสักการะองค์พระประธาน แล้วให้ทุกคนร่วมทำบุญบูรณปฏิสังขรณ์วัดหลวงปากเซแห่งนี้ โดยเฉพาะใครที่มีเงินลาว ให้เทลงตรงนี้ให้หมด สถานที่อื่นที่จะใช้เงินลาวของเรานั้นไม่มีแล้ว เมื่อได้เงินมาพานใหญ่ ก็ถวายให้กับพระที่ทำหน้าที่ดูแลอุโบสถ เนื่องเพราะว่าหลวงพ่อเจ้าอาวาสออกไปกิจนิมนต์..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-11-2023 เมื่อ 02:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 25-11-2023, 00:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,789
ได้ให้อนุโมทนา: 152,314
ได้รับอนุโมทนา 4,422,122 ครั้ง ใน 34,380 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อถ่ายรูปหมู่กันที่หน้าอุโบสถเสร็จเรียบร้อย กระผม/อาตมภาพก็พาทุกคนข้ามไปยังศาลหลักเมือง ซึ่งมีหลักเมืองเก่า ที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าฟ้าง้มแหล่งหล้าธรณี กษัตริย์แห่งล้านช้างพระองค์แรก แล้วมามีอีก ๑ ต้น ที่น่าจะเพิ่งทำขึ้นในระยะไม่นานนี้เอง น่าจะเป็นช่วงเดียวกับการสร้างศาลหลักเมืองแห่งใหม่ เพราะว่าแกะสลักด้วยหินอ่อนสีขาว

เมื่อสักการะและพยายามแกะภาษาลาวโบราณ โดยที่อ่านได้ไม่หมดแล้ว พวกเราก็ถ่ายรูปหมู่กัน แล้วก็ข้ามไปถ่ายรูปหมู่ที่บริเวณริมแม่น้ำเซ ที่เรียกว่าเซโดน จากนั้นก็ขึ้นรถ วิ่งย้อนข้ามสะพานข้ามแม่น้ำโขง คือสะพานลาว - ญี่ปุ่น ทิ้งโรงแรมจำปาสักแกรนด์เอาไว้ด้านหลัง โดยที่ผ่านด่านเก็บเงินไปตลอดทาง จนกระทั่งมาถึงบริเวณด่านวังเต่าของประเทศลาว

เมื่อจอดรถลงแล้ว ทางด้านเจ้าหน้าที่ก็นำพาพวกเราเดินผ่าน ตม.ลาวไปหน้าตาเฉย ทะลุไปเข้าห้องน้ำที่ร้านค้า
ปลอดภาษีดาว กระผม/อาตมภาพนั่งอยู่ที่นี่ครู่หนึ่ง "บิ๊กก๊อต" ก็นำพาหัวหน้าด่านช่องเม็กของฝั่งไทยข้ามมากราบ ขอโทษขอโพยว่าวันที่เดินทางมา ติดภารกิจสำคัญที่เจ้านายใช้ให้ไปทำ จึงไม่ได้มากราบบริการหลวงพ่อ ต้องมากราบกันในวันนี้เอง

เมื่อพูดคุยกันเสร็จเรียบร้อย ทางด้านเจ้าหน้าที่ของเติมเต็มทัวร์ ก็นำเอาหนังสือเดินทางของทุกคนมาส่งคืนให้ เมื่อตรวจดูว่ามีตราประทับทั้งขาเข้า - ขาออก เรียบร้อยแล้ว พวกเราก็เดินออกมาทางอุโมงค์เส้นเดิม ที่ขาเข้าเดินลอดเข้าไป แต่ว่าขาออกนั้นต้องเดินชิดซ้ายออกมา แล้วก็มาผ่านด่านตม.ไทย ที่ประทับตราพาสปอร์ตให้ด้วยความรวดเร็วคล่องตัว

พวกเรารออยู่ทางด้านนอกไม่กี่นาที รถบัสทั้งสองคันก็ข้ามมา เมื่อตรวจสอบผู้คน สิ่งของ ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วว่าไม่มีอะไรตกหล่น พลขับทั้งสองก็พาพวกเรา วิ่งตรงเข้ามายังตัวเมืองอุบลราชธานี โดยที่มีการแวะเข้าห้องน้ำกลางทาง แต่ไม่ว่าจะแวะที่ไหน ร้านสะดวกซื้อก็มักจะเป็นจุดหมายสำคัญ พอ ๆ กับร้านกาแฟ ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อผู้หญิงสยายผม หรือว่ายี่ห้อนกแก้วก็ตาม เมื่อเดินทางต่อมาจนถึงภัตตาคารหงษ์ฟ้า พวกเราก็ขึ้นไปรับประทานอาหาร ที่ "บิ๊กก๊อต" และสตาฟฟ์ของทางฝั่งลาว ข้ามมาถวายภัตตาหารเพลทางนี้ แล้วขอให้กระผม/อาตมภาพ ช่วยเคาะหัวให้เพื่อเป็นสิริมงคลอีกด้วย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-11-2023 เมื่อ 02:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 25-11-2023, 00:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,789
ได้ให้อนุโมทนา: 152,314
ได้รับอนุโมทนา 4,422,122 ครั้ง ใน 34,380 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อาหารของทางด้านนี้ที่ขึ้นชื่อก็คือขาหมูน้ำแดง ซึ่งคาดว่าหลายคนที่รังเกียจขาหมู ก็คงอดไม่ได้ที่จะกินกันไปเต็มคราบ ส่วนของอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นแหนมเนืองก็ดี หรือว่า "ส้มบักนัด" ก็ตาม เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ก็ขึ้นอยู่กับความคุ้นเคยว่าใครชอบอะไร

เมื่อเสร็จสรรพเรียบร้อย เห็นทุกคนเฮละโลออกมาจากชั้นสองของภัตตาคารหงษ์ฟ้า ลงไปยังชั้นล่าง กระผม/อาตมภาพยังคิดว่าจะไปขึ้นรถ ที่ไหนได้..หมู่คนจำนวนมากแห่เข้าไปในร้านขายขนม ซึ่งน่าจะเป็นขนมเค้กแบบโฮมเมด ขนซื้อกันไปทั้งที่เป็นของฝาก และกินกับน้ำชากาแฟไปเลย

กระผม/อาตมภาพไปกับรถตู้ของ "บิ๊กก๊อต" เพื่อที่จะไปกราบสักการะพระบรมธาตุหนองบัว ที่วัดพระธาตุหนองบัว (ธ) ถนนธรรมวิถี ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งนอกจากจะมีพระเจดีย์ซ้อนพระเจดีย์แล้ว องค์พระประธานทั้ง ๔ ทิศภายในเจดีย์ ยังสร้างเลียนแบบหลวงพ่อพระพุทธเมตตาที่ประเทศอินเดียได้งดงามมาก ลวดลายต่าง ๆ ภายในก็สวยงามละเอียดลออเป็นอย่างยิ่ง ทางด้านนอกก็ยังมีเสาไฟ ซึ่งทำเป็นลวดลายเลียนแบบต้นเทียนพรรษา ของงานแห่เทียนพรรษาอันโด่งดังของจังหวัดอุบลราชธานี แถมยังมีพญานาคใหญ่ ๒ ตัวให้เป็นจุดเช็คอินถ่ายรูปอีกต่างหาก

กระผม/อาตมภาพรอจนกระทั่งคณะใหญ่ตามกันมาถึง ให้ทุกคนได้ถ่ายรูปหมู่ร่วมกันแล้ว ก็ขึ้นไปนั่งภาวนาเพื่อสะสม "เสบียงบุญ" เอาไว้เป็นค่าเดินทาง ทุกคนเมื่อกราบไหว้พระกันเสร็จเรียบร้อย ก็มารับน้ำหวาน น้ำอัดลม ตลอดจนกระทั่งผ้าอนามัย ขออภัย..ติดภาษาลาวที่เรียกผ้าเย็นว่า "ผ้าอนามัย"..!

เมื่อทำตัวสดชื่นเรียบร้อยแล้ว โชเฟอร์ก็พาพวกเราตรงไปยังสนามบินนานาชาติอุบลราชธานี กระผม/อาตมภาพให้รางวัลแม่หญิงปุ๋ยและแม่หญิงแอนไปคนละ ๒,๐๐๐ บาท มอบให้ลูกกิฟท์ (นางสาวอันตรา ลักษณะ) เพื่อจัดสรรปันส่วนให้กับทีมสตาฟฟ์อีกคนละ ๕๐๐ บาท

เจ้าหน้าที่ของสนามบินได้พากระผม/อาตมภาพมายังที่นั่งพักวีไอพี เฉพาะพระภิกษุสามเณรเท่านั้น เมื่อเห็นว่ามีเวลามาก ก่อนที่จะทำการเช็คอิน กระผม/อาตมภาพจึงได้ทำการบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนเอาไว้ก่อน และมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า เมื่อปิดโรมมิ่งไปเรียบร้อยแล้ว การอัพโหลดเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนในวันนี้ ก็คงจะใช้เวลาไม่กี่วินาทีเท่านั้น..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๒๔ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-11-2023 เมื่อ 17:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:36



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว