กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมิถุนายน ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 07-06-2022, 19:23
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,612
ได้ให้อนุโมทนา: 217,107
ได้รับอนุโมทนา 749,761 ครั้ง ใน 36,533 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 08-06-2022, 00:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,777
ได้ให้อนุโมทนา: 152,254
ได้รับอนุโมทนา 4,421,552 ครั้ง ใน 34,367 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๗ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ ความจริงวันนี้น่าจะเป็นวันว่าง แต่กลายเป็นว่าต้องทำงานมากที่สุด หลายท่านที่ติดตามการทำงานของกระผม/อาตมภาพจากทางเฟซบุ๊ก หรือว่าเว็บไซต์วัดท่าขนุน อาจจะสงสัยว่าวันนี้ไม่มีงานการอะไรที่อัพขึ้นเลย แล้วไปทำงานอะไรมากมายขนาดนั้น ? ก็เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วเป็นงานเอกสารทั้งหมด แค่ออกเอกสารเชิญประชุมก็หน้ามืดแล้ว เพราะว่าแต่ละคน...ต้องบอกว่าจะมีส่วนหนึ่งที่แบกทิฏฐิไว้เต็มที่ ไม่เชิญประชุมก็ไม่มา เชิญประชุมบางทีก็ไม่มา ไม่เชิญโกรธก็อีกต่างหาก..!

ถ้าหากว่าโดยนิสัยของกระผม/อาตมภาพจริง ๆ แล้ว ก็ไม่แยแสคนทั้งหลายเหล่านี้หรอก แต่ว่าการทำงานเพื่อส่วนรวม เราต้องนึกถึงความสำเร็จของการงาน ไม่ใช่เอากิเลสไปชนกัน ในเมื่อเป็นไปในลักษณะอย่างนั้น ส่วนที่สำคัญที่สุดก็คือ การที่เราจะต้องลดทิฏฐิมานะ เพื่อที่จะให้ส่วนรวมไปได้ ก็ต้องยอมอดทน อดกลั้น แม้ว่าไม่อยากจะทำก็ต้องทำ ซึ่งตรงนี้หลายต่อหลายท่านใช้คำว่า "อยู่เป็น" ก็คือ ถ้าหากว่าเรา "อยู่เป็น" การงานต่าง ๆ ก็จะไปได้ง่าย แต่ถ้าเรา "อยู่ไม่เป็น" ทำตัวเหมือนเม่นที่พองขนใส่กัน ก็มีแต่จะทิ่มแทงคนอื่น

ความจริงแล้วกระผม/อาตมภาพได้รับนิมนต์ให้ไปปลุกเสกวัตถุมงคลในงานใหญ่มาก แต่ว่าที่ไม่ไปนั้น มี ๒ สาเหตุด้วยกัน สาเหตุแรกนั้นสำคัญที่สุด ก็คืออยู่ในช่วงจัดปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ เพื่อถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ์ พระบรมราชินี ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา

เมื่อปฏิเสธไป อีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้สนใจว่าสิ่งที่กระผม/อาตมภาพทำอยู่นั้นสำคัญแค่ไหน มองแต่ความสำคัญในงานส่วนของตัวเองเท่านั้น ถึงขนาดพูดในทำนองว่า "ถ้าไม่ไปก็ต้องรายงานท่านประธาน" ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาระดับสูงของคณะสงฆ์ คงคิดว่ากระผม/อาตมภาพจะกลัวกระมัง ?

โดยหลักปฏิบัติเฉพาะตนของ
กระผม/อาตมภาพแล้ว ถ้ารับงานไหนไว้ก่อน งานถัดไปต่อให้ยิ่งใหญ่แค่ไหน กระผม/อาตมภาพก็ไม่ไป ยกเว้นว่าถ้าเป็นงานส่วนตัวแล้วงานคณะสงฆ์เข้ามา ก็จะเอางานคณะสงฆ์เป็นใหญ่ ถ้าหากว่าเป็นงานคณะสงฆ์ แล้วมีงานในรั้วในวังเข้ามา ก็จะเอางานในรั้วในวังเป็นใหญ่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-06-2022 เมื่อ 01:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 08-06-2022, 00:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,777
ได้ให้อนุโมทนา: 152,254
ได้รับอนุโมทนา 4,421,552 ครั้ง ใน 34,367 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อลำดับความสำคัญในลักษณะอย่างนี้ ท่านเจ้าของงานย่อมไม่พอใจ เพราะว่าเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของโลก ก็คืองานของกูต้องสำคัญที่สุด หลายต่อหลายที่ก็เป็นแบบนี้ นี่เป็นประการแรกว่า กระผม/อาตมภาพติดงานสำคัญที่จัดอยู่ แล้วก็เชื่อว่าคงไม่มีงานอะไรที่สำคัญไปกว่านั้นได้ เพราะว่าเป็นเรื่องของการจัดงานปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ พระบรมราชินี

ความจริงอยากจะถามกลับไปเหมือนกันว่า "คุณเห็นว่างานของคุณสำคัญกว่างานตรงนี้จริง ๆ หรือ ?" แต่ก็ไม่อยากที่จะไปสร้างกายกรรม วจีกรรมอะไรมากมาย เมื่อบอกปฏิเสธไปแล้ว คุณจะฟังเหตุผลหรือไม่ฟังเหตุผล กระผม/อาตมภาพก็วางสายแล้ว

ประการที่ ๒ ก็คือ ไม่มีการติดต่อมาล่วงหน้ามาก่อนเลย มีหนังสือนิมนต์มาถึงก็กระชั้นชิดกับงานมากแล้ว อย่าลืมว่าตัวกระผม/อาตมภาพนั้น หลายคนนิมนต์ข้ามปียังไม่ได้ตัวเลย ติดต่อก็ไม่ติดต่อมาก่อน มีหนังสือฉบับเดียว เหมือนอย่างกับชี้นิ้วสั่งให้ไปร่วมงาน อยากจะถามเหมือนกันว่า "สำคัญตัวเองผิดขนาดนั้นเลยหรือ ?" แต่ก็ไม่อยากให้มีเวรมีกรรมผูกพันกันมากมาย จึงได้แต่ปฏิเสธไปเท่านั้น

ที่เอาเรื่องนี้มาเล่าก็เพราะว่าไม่อยากให้พวกเราทุกคนอยู่ในลักษณะอย่างนั้น โดยเฉพาะการทำงานเพื่อคณะสงฆ์ หรือทำงานเพื่อวัด เราต้องคำนึงถึงส่วนรวมเป็นใหญ่ ไม่ใช่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของโลก

เหมือนอย่างที่มีพราหมณ์เข้าไปแสดงทัศนคติต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า "ข้าแต่สมณโคดม ข้าพเจ้ามีความเห็นว่า ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ข้าพเจ้าไม่ชอบใจทั้งหมด" พระพุทธเจ้าได้ตรัสตอบไปว่า "ถ้าอย่างนั้นท่านก็ต้องไม่ชอบใจแม้กระทั่งตัวของท่านเองด้วย..!"

แต่ว่าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ จะว่าไปแล้วก็ยังมีคนเป็นจำนวนมาก ที่ยังแบกกิเลสอยู่ในลักษณะนี้เป็นปกติ เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของโลก ไม่ได้สนใจว่าคนอื่นเป็นอย่างไร ขาดหลักธรรมในข้อสมานัตตตาเป็นอย่างมาก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-06-2022 เมื่อ 01:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 08-06-2022, 00:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,777
ได้ให้อนุโมทนา: 152,254
ได้รับอนุโมทนา 4,421,552 ครั้ง ใน 34,367 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพอยากจะบอกว่า พวกเราแปลคำว่า สมานัตตตา ผิดมาตั้งแต่ต้น ก็คือไปแปลว่า เสมอต้นเสมอปลาย

อย่าลืมว่าสังคหวัตถุ ๔ คือหลักธรรมสำหรับยึดโยงสังคมเข้าด้วยกัน ประกอบไปด้วย ทาน รู้จักแบ่งปันให้แก่ผู้อื่น โดยมีบาลีกำกับว่า ททมาโน ปิโยโหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก ปิยวาจา พูดดีพูดเพราะต่อคนอื่น ละเว้นจากวาจาไม่ดีไม่งามทั้ง ๔ ประการ คือการพูดคำหยาบ พูดส่อเสียด พูดโกหก พูดเพ้อเจ้อ อัตถจริยา คือทำประโยชน์แก่คนอื่นเขา

สมานัตตตานั้นก็คือ ต้องนึกถึงอกเขาอกเรา พูดง่าย ๆ ก็คือ นึกถึงคนอื่นเสมอด้วยตนเอง เราไม่ชอบอะไรก็ต้องนึกว่าคนอื่นเขาก็ไม่ชอบเหมือนกัน แล้วอย่าไปทำกับเขาอย่างนั้น เราชอบอะไร ก็ต้องนึกว่าคนอื่นเขาก็ชอบแบบเดียวกัน แล้วพยายามทำเพื่อสร้างความชอบใจให้เกิดกับคนอื่นเขา ไม่ใช่ไปแปลว่าความเสมอต้นเสมอปลาย ถ้าอย่างนั้นคนชั่วเสมอต้นเสมอปลายก็สามารถยึดโยงสังคมได้ ?!

ในส่วนนี้นอกจากพวกเราจะต้องคำนึงถึงส่วนรวมแล้วยังไม่พอ ยังต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา แต่ต้องไม่ทิ้งหลักการที่ถูกต้อง เท่าที่ผ่านมา กระผม/อาตมภาพเจอพรรคพวกเพื่อนฝูงจำนวนมาก ที่อยู่ในลักษณะไม่รู้ตัวว่าตนเองกำลังประจบคฤหัสถ์ ประทุษร้ายตระกูลของพระพุทธเจ้า เพราะว่าไปเอาใจคนรวย ไปเอาใจผู้มีอำนาจ

เพราะว่าในส่วนของการประจบเอาใจ กับในส่วนของการปฏิสันถารคาราวะ มีความใกล้เคียงกันมาก ถ้าหากว่าไม่มีความพอเหมาะพอดีเมื่อไร ล้ำเส้นเมื่อไรก็กลายเป็นประทุษร้ายตระกูลด้วยการประจบคฤหัสถ์ทันที
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-06-2022 เมื่อ 01:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 08-06-2022, 00:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,777
ได้ให้อนุโมทนา: 152,254
ได้รับอนุโมทนา 4,421,552 ครั้ง ใน 34,367 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตัวกระผม/อาตมภาพเองมีญาติโยมจำนวนมากปวารณาเอาไว้ ขนาดบอกว่าสร้างหนี้ได้ตามใจชอบ ถึงเวลาจะ "เคลียร์" ให้ทุกบาททุกสตางค์ แต่กระผม/อาตมภาพไม่เคยใช้สิทธิ์นี้เลย เพราะว่าถ้าหากว่าใช้เมื่อไร ก็จะกลายเป็นประจบคฤหัสถ์ได้ง่าย ๆ..!

แล้วคนทั้งหลายเหล่านี้เมื่อมา ถ้าหากว่าเจอแนวทางของวัดท่าขนุน ก็อาจจะรับไม่ได้ เพราะว่าที่นี่ไม่มีคนพิเศษ ทุกคนได้รับการต้อนรับเสมอกันหมด จากท่านทั้งหลาย ไม่ใช่กระผม เพราะส่วนใหญ่แล้วผมไม่ได้แยแสสนใจเลย

จึงเป็นเรื่องที่เราต้องสังวรระวังเอาไว้ว่า เราจะแบกสักกายทิฏฐิและมานะ ซึ่งเป็นกิเลสใหญ่ในสังโยชน์ทั้ง ๑๐ แล้วทำตัวเป็นศูนย์กลางของโลก ทุกสิ่งทุกอย่างต้องได้อย่างใจ ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่าท่านทั้งหลายกระทำผิดหลักธรรมของพระพุทธเจ้าไปไกลมากแล้ว

เพราะว่าโลกนี้ไม่มีอะไรที่ได้อย่างใจ ถ้าเราต้องการให้ทุกอย่างได้อย่างใจ เราก็จะแบกความทุกข์อยู่ตลอดเวลา เพราะว่าสรรพสิ่งทั้งหลายไม่สามารถที่จะบังคับบัญชาได้ ตรงนี้บาลีใช้คำว่า สัพเพ ธัมมา อนัตตา อนัตตาที่หมายถึงไม่ใช่ตัวตน อีกความหมายหนึ่งก็คือบังคับบัญชาไม่ได้

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็ขึ้นอยู่กับเราเองว่าเราจะพยายาม ลด ละ เลิก ทิฏฐิเหล่านี้ หรือว่าจะแบกเอาไว้ให้ความทุกข์ท่วมทับเราอยู่ทุกวัน ก็เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องไปพิจารณาและจัดการกันเองตามอัธยาศัย

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมทั้งหลายแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๗ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-06-2022 เมื่อ 02:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 19:56



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว