#1
|
||||
|
||||
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๖๕
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๖๕
__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด (-/\-) (-/\-) (-/\-) |
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๑๓ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ กระผม/อาตมภาพเพิ่งเดินทางกลับจากจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากว่าขึ้นไปรับรางวัลโพธิธรรมจักร ที่อาคารพุทธสถานเชียงใหม่มา ตอนแรกตั้งใจว่าจะเดินทางไปตั้งแต่วันที่ ๑๐ เช้ามืด เพื่อที่ให้ไปถึงเชียงใหม่เวลาเย็น แต่ปรากฏว่ามีคำสั่งด่วนให้ไปร่วมเปิดงานปฏิบัติธรรมของเจ้าสำนักปฏิบัติธรรม และพระสังฆาธิการในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ กว่าจะออกจากศูนย์ปฏิบัติธรรมคณะสงฆ์จังหวัดนครปฐม ที่พุทธมณฑลสาย ๘ ก็หมดไปแล้วครึ่งวัน จึงไปถึงเชียงใหม่ค่อนข้างดึก
สำหรับวันนี้ออกจากเชียงใหม่ตั้งแต่ตี ๒ กว่ายังไม่ทันจะตี ๓ วิ่งมาถึงวัดท่าขนุนบ่าย ๔ โมง ก็ยังมีกลุ่มไลน์เจ้าคณะอำเภอถามมาว่า วันนี้จะไปร่วมเผาศพพระครูกาญจนสุทธศีล อดีตเจ้าอาวาสวัดหินแหลมหรือไม่ ? เพราะว่าเขาเผาเวลา ๔ ทุ่ม จึงได้ตอบไปว่า "ถ้าคุณเดินทางตั้งแต่ตี ๒ กว่าจนถึงบ่าย ๔ โมง แล้วยังคลานไปไหว ผมก็จะไปให้..!" เรื่องพวกนี้บางทีคนอื่นก็ลืมนึกไปว่า กระผม/อาตมภาพแก่ชรา เลยวัยเกษียณมานานแล้ว ที่ไปงานทุกอย่าง ก็ไปชนิดที่บรรดาคนหนุ่มทั้งหลายร้องกันทั้งนั้นว่าไม่ไหว แต่ว่าไปด้วยกำลังใจที่รับผิดชอบต่อหน้าที่ประการหนึ่ง อีกประการหนึ่งก็คือเป็นงานเพื่อส่วนรวม ถ้าหากว่าเป็นงานส่วนตัวก็คงจะไม่รับไปให้เช่นนั้น แต่กระนั้นก็ตาม เมื่อไปถึงจังหวัดเชียงใหม่ ก็ยังมีญาติโยมหลายคณะมาหาเพื่อที่จะทำบุญด้วย โดยเฉพาะที่วัดยางกวง ทั้งที่ตั้งใจไปเพื่อฉันเพลอย่างเดียว ด้วยความอยากรู้ว่าพระครูปลัดฟลุก คือพระครูปลัดธีร์นวัช ญาณสิทฺธิวาที ซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสได้ไม่นานนั้น สภาพของวัดวาอารามและความเป็นอยู่เป็นอย่างไรบ้าง ? แต่ปรากฏว่าไปถึงก็เจองานมหาศาลรออยู่ ก็คือมีทั้งบวงสรวง เจิมยอดฉัตรพระวิหารและยอดฉัตรพระธาตุวัดยางกวง บรรจุหัวใจพญานาคประจำพระธาตุ แล้วก็รับการถวายสังฆทานจากญาติโยมที่ไปรออยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งตรงนั้นถือว่ายอมทน เหตุเพราะว่าในเมื่อ "ผีถึงป่าช้า" แล้ว ถ้าไม่เผาก็ต้องฝัง...!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-03-2022 เมื่อ 02:35 |
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
แต่เมื่อกลับจากงานที่พุทธสถานเชียงใหม่แล้ว สภาพร่างกายแย่มาก เนื่องเพราะว่าการจัดงานที่พุทธสถานเชียงใหม่นั้น ต้องบอกว่าขาดความพร้อมเป็นอย่างยิ่ง
ประการแรกเลยก็คือ สถานที่กว้างใหญ่ แต่อากาศไม่ระบายเลย แล้วพัดลมแต่ละตัวเร่งจนสุดแล้วก็ไม่รู้สึกว่ามีลม เนื่องจากว่าเป็นพัดลมแขวนเพดานแบบตัวใหญ่ ประกอบกับอากาศร้อนมาก ต้องนั่งเหงื่อท่วมตัวอยู่เป็นชั่วโมง ๆ การจัดงานนอกจากความไม่พร้อมทางสถานที่แล้ว ความไม่พร้อมทางประธาน ซึ่งเป็นผู้มอบรางวัลนั้นก็ยังมีอีก ถึงขนาดต้องให้พระเดชพระคุณพระเทพรัตนนายก เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหริภุญไชยวรมหาวิหาร เจ้าคณะจังหวัดลำพูน ขึ้นไปเป็นประธานมอบรางวัลแทน คราวนี้การจัดที่นั่งประธานทั้งข้างล่างและข้างบน ก็เป็นการจัดเหมือนกับขอไปที เห็นว่าเหมาะสมแล้ว แต่คงจะไม่ได้ปรึกษาหารือกับทางพระเลย เพราะว่าที่นั่งด้านล่างของพระเดชพระคุณพระเทพรัตนนายกนั้น ด้านหลังมีบรรดาผู้มีเกียรติซึ่งเป็นสุภาพสตรีนั่งเรียงแถวอยู่ ไม่ได้ห่างจากเก้าอี้ประธานนัก ประมาณแค่ช่วงแขนเดียว คราวนี้เมื่อพระที่เป็นประธานในงาน ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ระดับนั้นมา บรรดาพระที่เข้ารับรางวัลก็ต้องไปกราบ เมื่อเวลากราบ พระนั่งคุกเข่ากราบกับพื้น แต่ว่ามีโยมผู้หญิงนั่งค้ำหัวอยู่..! เป็นภาพที่ไม่งามเป็นอย่างยิ่ง..! เมื่อถึงเวลามอบรางวัล ก็ไม่จัดอาสนะให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระเทพรัตนนายกท่านนั่งมอบรางวัล แต่จัดให้ท่านยืน ซึ่งเมื่อมาถึงตรงจุดนี้ พวกกระผม/อาตมภาพหลายรูปก็ทนดูไม่ได้ กระผม/อาตมภาพเข้าไปกราบเรียนพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระเทพรัตนนายกว่า "พวกกระผมจะขออนุญาตจัดสถานที่บนเวทีให้หลวงพ่อเอง" ปรากฏว่าพระเดชพระคุณท่านก็เป็นบุคคลที่ทำอะไรง่าย ๆ ไม่ถือตนว่าเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่ปกครองคณะสงฆ์ทั้งจังหวัด ท่านบอกว่า "ผมสามารถยืนแจกรางวัลได้..ไม่เป็นไรหรอก" พวกเราจึงต้องปล่อยให้ผ่านไป เมื่อถึงเวลาขึ้นรับรางวัล แทนที่จะเร็วก็กลายเป็นช้าหนักขึ้นไปอีก เพราะว่าพิธีกรประกาศชื่อ ฉายา วัดวาอาราม และสาขารางวัลที่ได้รับ แล้วนิมนต์พระขึ้นไปรับ ถ่ายรูปจนเสร็จลงมา แล้วค่อยประกาศเรียกรูปที่ ๒ ขึ้นไป เมื่อขั้นตอนนี้ผ่านไป จึงค่อยประกาศเรียกรูปที่ ๓ กระผม/อาตมภาพเห็นแล้วทนดูไม่ได้ ก็เลยเดินเข้าไปบอกพิธีกรว่า "คุณอ่านรายชื่อยาวไปเลย พระของเราส่วนใหญ่รับรางวัลมานับไม่ถ้วนแล้ว ท่านรู้ว่าจะเว้นระยะอย่างไรถึงจะถ่ายรูปได้สวย และเมื่อถ่ายรูปออกมาแล้วจะไม่โดนข้อหาว่าทำให้เชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ระบาดใส่คนอื่นเขา"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-03-2022 เมื่อ 02:39 |
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
ในเมื่อต้องไปทนร้อน ทนช้า และทนดูงานของเขาอยู่เป็นชั่วโมง ๆ เมื่อกลับมาถึงที่พัก กระผม/อาตมภาพจึงไข้จับอย่างหนัก หลังจากฉันยาแล้ว ระหว่างที่นั่งรอให้ยาออกฤทธิ์ ก็มีญาติโยมเข้ามาหาอีก มาถึงตอนนี้กระผม/อาตมภาพไม่รู้แล้วว่าใครมา เพราะเห็นแค่เป็นเงาคนเท่านั้น ต้องบอกว่าป่วยจนหูอื้อตาลาย เมื่อเห็นว่าญาติโยมมาเป็นจำนวนมากและรบกวนพระป่วย ก็เลยต้องกลับเข้าห้องพัก
ดังนั้น...ญาติโยมบางคณะที่ไปทีหลังในช่วงค่ำ หลังจากที่กระผม/อาตมภาพรับรางวัลโพธิธรรมจักรมาแล้ว อาจจะต้องเสียกำลังใจ เพราะว่าไม่ได้กราบ ไม่ได้พูด ไม่ได้คุย แต่ก็ต้องทราบด้วยว่า กระผม/อาตมภาพนอกจากแก่แล้ว ยังป่วยอีกต่างหาก จึงต้องทิ้งญาติโยม เพราะไม่ได้ประกาศว่ามารับสังฆทานอย่างเป็นทางการ เนื่องจากว่าทุกครั้งที่ไปอย่างเป็นทางการ จะให้ "ท่านสุธรรม" ประกาศลงเว็บไซต์วัดท่าขนุน แล้วทางเพจเฟซบุ๊กของวัดท่าขนุนก็จะนำเอาข่าวนี้ไปลง เพื่อแจ้งให้ญาติโยมได้ทราบ แต่ว่าครั้งนี้ที่ไม่ได้ประกาศ เพราะทราบดีว่าไม่มีเวลาเพียงพอ ท่านใดที่ไปแล้วได้ทำบุญ ก็ถือว่าเป็นโชคดีเฉพาะตนไป ท่านใดที่ไปแล้ว ไม่มีโอกาสได้พูดคุยอย่างที่ต้องการ ก็ขอให้รอโอกาสหน้า ซึ่งไม่ทราบเหมือนกันว่าจะเป็นเมื่อไร แล้ววันนี้ที่เดินทางตั้งแต่ตี ๒ กว่า ยังไม่ทันจะถึงตี ๓ มาถึงวัดท่าขนุน ๔ โมงเย็น เป็นห่วงท่านทั้งหลายที่รอเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนอยู่ จึงบอกไปในกลุ่มไลน์ท่าขนุนทีมว่า ให้เตรียมเครื่องบันทึกเสียงเอาไว้ด้วย เมื่อทางอำเภอเห็นเข้าจึงส่งไลน์มาถามว่า "จะไปงานศพของพระครูกาญจนสุทธศีล อดีตเจ้าอาวาสวัดหินแหลมหรือไม่ ?" ถึงได้ตอบกลับไปว่า "ถ้าเป็นท่านแล้วเดินทางแบบนี้ แล้วจะคลานไหวไหม ? ถ้าท่านคิดว่าตัวเองยังไหว ผมก็จะไปให้" ตรงจุดนี้ต้องบอกว่า พวกเราทั้งหลายส่วนใหญ่ก็มักจะคิดถึงแต่ตัวเอง ลืมคิดถึงตรงอื่น ต้องบอกว่าเป็นคุณความดีของการที่ท่านทั้งหลายปรารถนามาในสาวกภูมิ ไม่จำเป็นต้องคิดเผื่อคนอื่น แต่ว่าสายพุทธภูมิเก่าอย่างกระผม/อาตมภาพนี้ แม้ว่าจะลาแล้วก็ตาม ก็ยังคงต้องนึกถึงคนอื่นก่อนตนเองอยู่เสมอ ก็ต้องบอกว่าไหวเท่าไรเอาแค่นั้น สังขารร่างกาย ในเมื่อไม่ใช่ของเรา และไม่มีคนเห็นใจ ก็ใช้กันแค่พังกันข้างหนึ่ง พังเมื่อไรก็เป็นอันว่าจบสิ้นกันที..! วันนี้ก็ใช้เวลามามากพอแล้ว จึงขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้ ขอเจริญพร พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๑๓ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-03-2022 เมื่อ 02:42 |
สมาชิก 45 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
|
|