#1
|
||||
|
||||
![]()
ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกทั้งหมดของเราไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า..ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก..ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ ที่เรามีความถนัด มีความชำนาญมาแต่เดิม
วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๑ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๓ ก็ยังอยู่ในบรรยากาศของการใส่หน้ากากเข้าหากัน ดังที่ได้กล่าวมาเมื่อวานนี้ว่า ความกลัวตายของเราเป็นเหตุ เหตุที่เรากลัวตายก็เพราะอวิชชา คือความไม่รู้บดบังเอาไว้ ทำให้เรามองไม่เห็นว่า ธรรมดาของร่างกายนี้จะต้องตาย และสามารถตายลงไปได้ในทุกลมหายใจ เนื่องเพราะว่าหายใจเข้า ถ้าไม่หายใจออกก็ตายแล้ว หายใจออก ถ้าไม่หายใจเข้าก็ตายอีกเช่นกัน คราวนี้ในเรื่องของไข้หวัดโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่หรือสายพันธุ์ ๒๐๑๙ นั้น พวกเราอย่าได้ตื่นตระหนกจนเกินไป เนื่องเพราะว่าอาการเจ็บไข้ได้ป่วยของเราทุกอย่าง เกิดจากเศษกรรมปาณาติบาต ถ้าเราไม่ได้สร้างกรรมส่วนนี้เอาไว้ ต่อให้ไปอยู่ในท่ามกลางวงของโรคระบาด เราก็จะไม่เป็นอะไร แต่คราวนี้เพื่อความไม่ประมาท เราก็ทำการป้องกัน อย่างเช่นว่าเว้นจากที่ชุมชนซึ่งมีคนหนาแน่น ออกนอกบ้านก็ให้ใส่หน้ากากป้องกันเชื้อโรค มีการล้างมือบ่อย ๆ เป็นต้น
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-02-2020 เมื่อ 19:13 |
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
![]()
คราวนี้สิ่งที่เราทำนี้ ก็ทำโดยตระหนักรู้ว่า สภาพร่างกายนี้แม้ไม่ใช่ของเรา แต่ถ้าหากว่าร่างกายรวนขึ้นมาด้วยโรคภัยไข้เจ็บ ตัวเราคือจิตที่อาศัยอยู่ก็ไม่ได้รับความสะดวกเท่าที่ควร เราจึงมีหน้าที่ที่ต้องดูแลรักษาร่างกายนี้ให้ดีที่สุด เพียงแต่มีสติรู้อยู่เสมอว่าร่างกายนี้ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เป็นเพียงธาตุ ๔ คือดิน น้ำ ไฟ ลม ที่เรายืมโลกมาใช้ชั่วคราว เมื่อถึงเวลาก็เสื่อมสลาย ตาย พัง กลับคืนโลกไปตามเดิม
ความเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นสิ่งที่คู่กับกายสังขารนี้ ดังบาลีที่ว่า สังขารัง โรคนิทธัง สังขารนี้เป็นรังของโรค ปะภังคุณัง ต้องเน่าเปื่อยเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา ในเมื่อเรารู้ว่าร่างกายนี้เป็นรังของโรค ถ้าดูแลไม่ดี บริหารจัดการไม่ดี โรคภัยไข้เจ็บถามหา ตัวเราที่ยังต้องอาศัยร่างกายนี้เพื่อสร้างบุญสร้างกุศล นำพาให้เราหลุดพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพาน ก็จะต้องยากลำบาก เพราะว่าสังขารที่เป็นโรคก็เหมือนกับรถที่เครื่องยนต์บกพร่อง ไม่สามารถจะใช้งานได้อย่างเต็มสภาพ ย่อมสร้างความอึดอัดคับข้องใจให้แก่บุคคลที่ต้องอาศัยสังขารนี้อยู่
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-02-2020 เมื่อ 19:14 |
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
![]()
ดังนั้น...หน้าที่ของเราก็คือตระหนักรู้ว่าโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ นั้น ย่อมจะมีมาสู่เราเป็นปกติ ต้องระมัดระวังป้องกัน บริหารร่างกาย ออกกำลังให้แข็งแรง จะได้มีภูมิต้านทานโรค ระมัดระวังป้องกันตนเองด้วยการกินยารักษาโรคบ้าง ใส่หน้ากากป้องกันเชื้อโรคบ้าง ล้างมือบ่อย ๆ เพื่อให้พ้นจากเชื้อโรคบ้าง
โดยที่มีสติรู้ตัวอยู่เสมอว่า ถึงเราจะดูแลดีอย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดร่างกายนี้ก็ต้องตาย ต้องพัง แม้ว่าจะไม่ตายด้วยไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ก็อาจมีอุบัติเหตุอันตรายหรือโรคภัยอื่น ๆ เกิดขึ้นกับเรา แล้วก้าวไปสู่ความตายอยู่ดี ขึ้นชื่อว่าการเกิดมามีร่างกายเป็นรังของโรคนี้เราไม่ต้องการอีก การเกิดมาในโลกที่เต็มไปด้วยโรคภัยไข้เจ็บเช่นนี้เราไม่ต้องการอีก ที่เดียวที่เราปรารถนาคือพระนิพพาน เมื่อคิดคำนึงถึงในส่วนของการจะหลุดพ้น ให้เกาะพระนิพพานไว้เป็นที่สุดเสมอ แล้วเราก็บริหารดูแลร่างกายนี้เพื่อเอาไว้ทำบุญ ไม่ว่าจะเป็นทาน เป็นศีล เป็นภาวนา อาศัยร่างกายที่หาความเที่ยงไม่ได้นี้ มีแต่ความทุกข์นี้ ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรานี้ ในการสร้างบุญสร้างกุศล เพื่อนำพาเราหลุดพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพาน ลำดับต่อไปขอให้ทุกท่านภาวนาพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา พระครูวิลาศกาญจนธรรม,ดร. เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ วันเสาร์ที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย คะน้า)
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-02-2020 เมื่อ 19:15 |
สมาชิก 26 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]() |
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
|
|