พระอาจารย์และคณะนิสิตปริญญาเอกเดินทางไปดูงานที่ยุโรป ๒ - ๑๑ มิถุนายน ๒๕๕๖

[สุธรรม]

๒ มิถุนายน ๒๕๕๖

ปกติไปไหนก็กระเป๋าเดียวเที่ยวทั่วโลก


แต่งานนี้ต้องพกเครื่องกันหนาวไปอีกหนึ่งกระเป๋า


ยังใช้หนังสือเดินทางเล่มเก่าชื่อพระครูธรรมธรเล็ก


บริษัทรีเจนซี่ฯ รับจัดการท่องยุโรปให้


รอฝากกระเป๋าขึ้นเครื่อง พระอาจารย์โดนเพื่อนหลายท่านฝากเฉลี่ยน้ำหนัก


พระครูปลัดสุวัฒนสิทธิคุณพาไปพักที่ห้องวีไอพี


พร้อมกับนำรองเท้าถุงเท้ามาเปลี่ยนให้เสร็จสรรพ

[สุธรรม]

๓ มิถุนายน ๒๕๕๖

อาหารเช้าบนเครื่องบิน


ถึงสนามบินเลโอนาโด ดาร์วินชี ประเทศอิตาลี


ต้องนั่งรถรางออกมาเพื่อตรวจหนังสือเดินทางและรอรับกระเป๋า
(ขอบคุณภาพจากท่านอาจารย์ ดร.วันชัย สุขตาม)


เข้าแถวรอตรวจประทับตราหนังสือเดินทาง


รับกระเป๋าแล้วมารอเพื่อน ๆ (มีกระเป๋างอกมาอีก ๑ ใบจากองปลัดสิทธิศักดิ์)


ออกจากสนามบินมาขึ้นรถที่ติดต่อเช่าเอาไว้
(ขอบคุณภาพจากท่านอาจารย์ ดร.วันชัย สุขตาม)


ทำวัตรเช้ากันบนรถทัศนาจร


อิตาลีประชากรแออัดมาก เช้าอย่างนี้ยังรถติดเอาเรื่องทีเดียว
(ขอบคุณภาพจากท่านอาจารย์ ดร.วันชัย สุขตาม)

[สุธรรม]

เขาพามาชมประตูชัยคอนสแตนตินและสนามกีฬาโคลอสเซี่ยม


รับเครื่องรับสัญญาณติดตามตัวเพื่อฟังบรรยายจากมัคคุเทศก์


ผ่านการตรวจอย่างเข้มงวดเพื่อเข้าชมสนามกีฬาโคลอสเซี่ยม


กว่าจะเข้าได้เจอตรวจไปหลายด่าน


ถูกต้อนเข้าซองไปรอเชือด เอ๊ย..ไปชมด้านในของโคลอสเซี่ยม
(ขอบคุณภาพจากท่านอาจารย์ ดร.วันชัย สุขตาม)


คุณโอ๋ (หัวหน้าคณะ) กับคุณอิลลาเรีย มัคคุเทศก์ท้องถิ่น
(ขอบคุณภาพจาก ท่านอาจารย์ ดร.วันชัย สุขตาม)

[สุธรรม]

ขึ้นชั้นสองไปชมพระบรมราชานุสาวรีย์พระเจ้าคอนสแตนตินที่ ๑


แล้วเบียดเสียดเยียดยัดกันออกทางประตูนี้ของชั้นสอง


เพื่อมาดูสนามกีฬาโบราณผุ ๆ พัง ๆ


มุมนี้จะเห็นด้านหลังของประตูชัยคอนสแตนติน


เห็นห้องสมุดโบราณ แหล่งความรู้ในอดีตของชาวโรมันด้วย


ท่านอาจารย์ตู๋ (ดลนพร วราโพธิ์) อาจารย์พิเศษของ มจร.
(ขอบคุณภาพจากท่านอาจารย์ ดร.วันชัย สุขตาม)


ท่านอาจารย์ ดร.วันชัย สุขตาม อาจารย์ประจำคณะสังคมศาสตร์ มจร.
(ขอบคุณภาพจากท่านอาจารย์ ดร.วันชัย สุขตาม)


ท่านอาจารย์ ดร.พิเชฐ ทั่งโต หัวหน้าภาควิชารัฐศาสตร์ มจร.
(ขอบคุณภาพจากท่านอาจารย์ ดร.วันชัย สุขตาม)

[สุธรรม]

ข้ามแม่น้ำไทเบอร์เพื่อเข้าชมนครรัฐวาติกัน


นครรัฐวาติกันอยู่หลังกำแพงมหึมาที่เห็นนี้


เข้าประตูที่เป็นปากอุโมงค์แล้วตรงไป พอเลี้ยวขวาก็เป็นบันไดเลื่อน


ทะลุมาโผล่ในซอยแคบ ๆ แล้วต้องเดินตรงไปอีกตั้งไกล


พอเลี้ยวซ้ายก็เห็นมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์

[สุธรรม]

เข้าไปในวังวาติกัน ตามทางเดินที่มีเสาต้นมหึมา


มาอัดกันเป็นปลากระป๋องอยู่ตรงนี้


ที่แท้ต้องมาเข้าเครื่องตรวจหาอาวุธก่อน


มัคคุเทศก์ต้องคอยเตือนให้ระวังคนล้วงกระเป๋า


เดินผ่านช้า ๆ ทีละคน ห้ามเดินติด ๆ กัน


มัคคุเทศก์บรรยาย ฝรั่งมุงขอฟังด้วย

[สุธรรม]

เข้าชมด้านในมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์


มีรูปสลักหินอ่อนงาม ๆ ทั่วไปหมด


ตราประจำพระองค์ของพระสันตะปาปา


ถ่ายรูปหมู่เป็นที่ระลึก มีฝรั่งรุมถ่ายกันเป็นร้อยเลย..!


เดินกลับออกมารอขึ้นรถด้านนอกวัง
ขอบพระคุณรูปชุดนี้จากท่านอาจารย์ ดร.วันชัย สุขตาม

[สุธรรม]

มาดูภาพที่ถ่ายเองขณะเข้ามหาวิหารเซนต์ปีเตอร์บ้าง


จุดสำคัญที่ขาดไม่ได้คือรูปพระแม่มาเรียอุ้มศพพระเยซู


เข้าสู่ห้องประชุมใหญ่ของมหาวิหาร


เป็นห้องที่ใช้ประชุมพระคาร์ดินัลจากทั่วโลก


ทุกแห่งคนอย่างกับหนอน

[สุธรรม]

ภายในมหาวิหารมีแต่ภาพวาดเและภาพแกะสลักงาม ๆ เต็มไปหมด

[สุธรรม]

สุดยอดฝีมือในการหล่อหรือแกะสลักทั้งสิ้น

[สุธรรม]

ออกมาทางประตูอีกด้านหนึ่ง (เข้าขวา ออกซ้าย)


ทหารสวิสที่ได้ชื่อว่าเป็นทหารรักษาการณ์ซึ่งซื่อสัตย์ต่อหน้าที่อย่างที่สุด


มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ถ่ายจากลานน้ำพุ


โทรศัพท์สาธารณะบ้านเขา


รวมพลกันก่อน เผื่อมีใครหลง


เดินย้อนกลับออกมาทางเดิมเพื่อรอขึ้นรถ

[สุธรรม]

ข้ามแม่น้ำไทเบอร์มาหาที่ฉันเพลตอนเกือบบ่ายโมง..!


รถมอร์เตอร์ไซค์ทุกคันต้องมีกล่องใส่ของ (กันซ้อนสาม)


จอดรถที่นี่แล้วเดินไปร้านอาหาร


โคตะระไกลเลย ขณะที่เวลาประมาณ ๖ โมงเย็นบ้านเรา


ร้านอาหารจีนชื่อเทียนสิน


ฉันเพลตอนหกโมงเย็นเลยมีสภาพแบบนี้..!

[สุธรรม]

อิ่มแล้วค่อยมีอารมณ์ชมบ้านชมเมืองต่อ นี่เป็นร้านกาแฟ


ถึงจะผลิตรถยนต์เองก็ใช้แต่รถคันเล็ก ๆ


คันนี้ที่นั่งเดียวเท่านั้น


ดูฝรั่งตัวเท่าตึกยอมใช้รถคันเล็ก ๆ เพราะจิตสำนึกช่วยสังคม


มีร้านขายของประเภท Window Shopping อยู่ทั่วไป


มิเตอร์สำหรับหยอดเหรียญจอดรถ


ส้มที่ปลูกเพิ่มพื้นที่สีเขียวมีลูกเกือบทุกต้น


ถึงมีพื้นที่น้อยก็สร้างให้สวยได้


ใช้พื้นที่จอดเท่ากับมอเตอร์ไซค์ ๒ คันเท่านั้น

[สุธรรม]

อุโมงค์ข้ามสี่แยกไปยังน้ำพุเทรวี่


ตามรายทางมีแต่ร้านกาแฟกลิ่นหอมตลบอลอวล


ร้านผลไม้ก็มี แต่..แพงสุด ๆ


ร้านขายของที่ระลึกมากมาย


ร้านอาหารส่วนใหญ่ตั้งกลางแจ้งเพื่ออาบแดดไปด้วย


เห็นหัวมุมตรงนี้แปลว่าถึงน้ำพุแล้ว


ถ่ายรูปหมู่หน้าน้ำพุเทรวี่ มีแต่ฝรั่งขอถ่ายด้วย


ร้านขายของที่ระลึกร้านนี้อยู่ติดกับน้ำพุเลย


ผู้คนแห่กันมาโยนเหรียญอธิษฐานเพื่อขอกลับมายุโรปใหม่แบบนี้ทุกวัน

[สุธรรม]

จากน้ำพุเทรวี่เดินไปชมบันไดสเปนต้องผ่านเสาอิมมาคูเลตต้นนี้


บันไดสเปนมี ๑๓๘ ขั้น การกินไอศกรีมที่นี่ถือว่าผิดกฎหมาย


น้ำพุเรือรั่วหน้าบันไดสเปน ใครมาก็ต้องถ่ายรูปทั้งนั้น


แถวนี้มีแต่ร้านขายของระดับโลก แต่..พวกเราเหนื่อยจนไม่มีอารมณ์จะดู


มารอขึ้นรถเพื่อไปยังที่พักที่เมืองเชียนชิโน


แวะเข้าห้องน้ำที่ร้านออโตกริล จ่ายค่ากาแฟ ๒ ยูโรถึงจะได้เข้าห้องน้ำ


เข้าพักที่โรงแรมนี้ (ห่างจากโรม ๑๗๐ ก.ม.)


นั่งรอมัคคุเทศก์จัดสรรห้องพักให้

[สุธรรม]

๔ มิถุนายน ๒๕๕๖

ให้ทายว่าโถที่มีก๊อกน้ำเอาไว้ทำอะไร ?


เครื่องดื่มในตู้เย็น ราคาแพงหูดับทั้งนั้น


มะลิวัลย์พันเกี่ยวอยู่มุมตึกของโรงแรม


บรรดาผู้ตื่นเช้าถ่ายรูปร่วมกัน ยังไม่ทันหกโมงแดดจัดขนาดนี้แล้ว


อาหารเช้าตอนเจ็ดโมง เลือกเอาตามอัธยาศัย


ดอกกุหลาบบริเวณโคนเสาไฟฟ้าริมถนน


ระหว่างรอรถก็ถ่ายรูปหมู่ไปพลาง ๆ ก่อน


นกเอี้ยงฝรั่ง (สตาร์ลิงก์) กำลังหาอาหารเช้า

[สุธรรม]

ออกเดินทางไปยังเมืองปีซ่า


ผ่านภูเขาเมื่อไรเป็นต้องขุดอุโมงค์


มีทั้งอุโมงค์วงกลม ครึ่งวงกลม และสี่เหลี่ยม


ทิวทัศน์สองข้างทางที่ประกอบด้วยภูเขาและทุ่งหญ้า


เข้าเขตเมืองปีซ่ารถก็เริ่มติดหนึบ


จากมุมนี้ต้องโยกไปวิ่งเลนขวาข้างหน้า ยุ่งเป็นบ้าเลย


เดินแถวบิณฑบาต เอ๊ย..เดินแถวไปร้านอาหารก่อน


พริกน้ำปลากับน้ำพริกนรกตามไปจากเมืองไทย

[สุธรรม]

อิ่มแล้วค่อยมาดูโลกภายนอก (หน้าภัตตาคาร)


มอเตอร์ไซค์บ้านเขาหน้าตาแบบนี้ทั้งนั้น


เบื้องหลังความสะอาดของบ้านเมือง


ราคาน้ำมันลิตรละเกือบ ๗๐ บาท


แพงแค่ไหนก็ต้องเติม


สถานีบริการน้ำมันหมาหกขา


รถรางสำหรับเที่ยวชมเมืองปีซ่า


ต้นอะไรก็เรียกไม่ถูกแต่สวยดี

[สุธรรม]

มารอรถเพื่อไปชมมหาวิหารและหอเอนเมืองปีซ่า


พระครูปริยัติกิตติธำรง รศ.,ดร. คณบดีคณะสังคมศาสตร์ มจร.


รถปรับอากาศสองตอน รับส่งฟรี


มาลงข้างกำแพงเมืองแล้วเดินเข้าไป


การแสดงหุ่นคนเป็น ต้องฝึกกันเป็นปี ๆ ถึงจะนิ่งเหมือนหุ่นได้ทั้งวัน


ถ้าบริจาคเงินเมื่อไรหุ่นจะลุกขึ้นมาจับมือด้วย


มหาวิหาร โบสถ์และหอเอนเมืองปีซ่า


ของที่สร้างผิดพลาดเอียงกระเท่เร่แท้ ๆ กลายเป็นดังไปได้


มุมนี้ไม่เอียง


รูปหมู่หน้าหอเอนเมืองปีซ่า

[สุธรรม]

อีกาฝรั่ง (ราเวน) หากินอยู่บนสนามหญ้าหน้ามหาวิหาร


ร้านขายของที่ระลึก ถ้าซื้อหลายชิ้นก็ต่อได้เหมือนกัน


ซื้อของจำเป็นดีกว่า น้ำดื่มขวดละ ๒ ยูโร (๘๐ บาท)


ผลัดกันซดจนเกลี้ยงแล้วเติมเอาจากก๊อกน้ำสาธารณะ


ออกเดินทางต่อ ข้ามแม่น้ำไม่ใหญ่นัก


ผ่านด่านเก็บเงิน โปรดเสียบบัตรตรงนี้


๑ ชั่วโมงต่อมาก็เลี้ยวขวาไปเมืองฟลอเรนซ์


ลอดอุโมงค์จนนับครั้งไม่ถ้วน


ผ่านบ้านเมืองในหุบเขาข้างทาง


ถึงแล้ว..สถานีรถรางเมืองฟลอเรนซ์