| 
	|||||||
| พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) | 
![]()  | 
	
	
| 
		 | 
	คำสั่งเพิ่มเติม | 
| 
		 
			 
			#1  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ถาม : เรื่องของจริตเป็นลักษณะประเภทของจิตหรือไม่ ?  
		
		
		
		
		
		
		
		
			ตอบ : จริต เป็นรากเหง้านิสัยของเราที่ฝังลึก ใช้คำว่า "สันดาน" แทนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นความรัก ชอบ เกลียด ชัง จริง ๆ แล้วจริต ๖ ประการ ทุกคนมีครบ เพียงแต่ว่าจะมีตัวใดตัวหนึ่งเด่นออกมา ก็จะนับเป็นลักษณะจริตอย่างนั้น เป็นคนขี้โมโห จะเป็นโทสะจริต เป็นคนรักสวยรักงาม ก็เป็นราคะจริต เป็นคนประเภทขี้กังวล ตัดสินใจไม่เด็ดขาดก็จะเป็น วิตกจริต เป็นต้น ทุกอย่างเรามีครบ แต่ว่ามีอย่างไหนมากก็จัดเป็นจริตนั้น ๆ ถาม : แล้วมีแค่ ๖ ประการหรือเปล่าครับ ? ตอบ : จริง ๆ มีเยอะกว่านั้น อย่างพวกดัดจริต วิกลจริต แต่พระพุทธเจ้าไม่ได้จัดเอาไว้ เพราะไม่ใช่อุปนิสัยที่แท้จริง..! แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2011 เมื่อ 03:12  | 
| สมาชิก 120 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โอรส ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#2  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
||||
		
		
  | 
||||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ถาม : ผมสงสัย อย่างสมมติว่า คนที่รักสันโดษเขาเป็นคนจริตอย่างไร ดูจากอะไรครับ ?  
		
		
		
		
		
		
		
		
			ตอบ : จริง ๆ ตรงนี้เราไม่จำเป็นจะต้องไปรู้ก็ได้ เขาต้องมีความเข้าใจเองว่าเขามีจริตอะไร เพื่อเลือกกรรมฐานให้เหมาะกับตัวเองได้ เราจะไปเสียเวลาอยากรู้เรื่องของคนอื่นทำไม เขาตัองรู้ตัวเอง แต่ถ้าอยากรู้จริง ๆ ก็ต้องฝึกให้ได้เจโตปริยญาณ ถาม : มีวิธีเดียวหรือเปล่าครับ ? ตอบ : วิธีการสังเกตหยาบ ๆ ก็มีอยู่เหมือนกัน อย่างเช่นว่า โทสะจริตกับพุทธิจริต อาการแสดงออกเหมือน ๆ กันหมด คือ ทำอะไรทำแรง ทำเร็ว เช่น ให้กวาดบ้าน พวกโทสะจริตกับพุทธิจริต ก็จะลากโครม ๆ ไม่กี่ที ฝุ่นตลบไปทั้งบ้าน ไม่กวาดเลยยังจะดีกว่า เวลาเดินก็ลงส้นโครม ๆ ไปเลยอย่างนั้น แต่ว่าจะไปต่างกันตรงจุดสุดท้าย พุทธิจริตจะประกอบไปด้วยปัญญามากกว่า เวลาทำอะไรก็รู้สึกว่าจะมีเหตุมีผลเหมาะสมไปหมด แต่โทสะจริตจะไม่มีตัวนี้ จะเป็นประเภทขี้โมโห แล้วก็โง่ดักดาน ...(หัวเราะ)... จะต่างกัน อาการภายนอกจะคล้ายคลึงกัน แต่ก็มีจุดแยกให้เราดูออกได้ ส่วนพวกโมหะจริต กับ วิตกจริต ก็คล้ายคลึงกัน พวกหนึ่งจะประเภท โง่ เซ่อ เซื่องซึมไปเลย อีกพวกหนึ่งก็ตัดสินใจอะไรไม่เด็ดขาด มัวแต่เงอะงะอยู่นั่นเอง อาการจะใกล้เคียงกัน แต่จะมีจุดที่แตกต่างให้เห็น ซึ่งเป็นส่วนหยาบ แต่โอกาสที่จะดูผิดมีเยอะ ขนาดพระสารีบุตร ท่านยังให้กรรมฐานแก่พระลูกชายนายช่างทองผิดเลย นั่นพระอัครสาวกเบื้องขวานะ..จนกระทั่งไปเจอพระพุทธเจ้า พระองค์ท่านจึงบอกว่า พระลูกนายช่างทอง จริง ๆ แล้วเป็นโทสะจริต แล้วให้ไปฝึกกสิณสีแดงแทน กลายเป็นพระอรหันต์ภายในที่นั่งเดียว ก่อนหน้านั้นเสียเวลาไปหนึ่งพรรษาเต็ม ๆ สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนเมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๕ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-04-2011 เมื่อ 17:58  | 
| สมาชิก 124 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โอรส ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
| 
		 
			 
			#3  
			
			
			
			
			
		 
		
	 | 
|||
		
		
  | 
|||
| 
		
	
		
		
			
			 
			
			ขออนุญาตนำไปเผยแพร่ในเว็บพลังจิตครับ
		 
		
		
		
		
		
		
		
		
	
	 | 
| สมาชิก 45 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตั้มศักดิ์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]()  | 
	
	
| ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
| คำสั่งเพิ่มเติม | |
		
  | 
	
		
  |