#1
|
|||
|
|||
![]()
โรคกลัวตายหรือโรคปอดแหก
หลวงพ่อฤๅษี ท่านเมตตามาสอนเพื่อนผมไว้ดังนี้ ๑. เพื่อนผมจะเดินทางคนเดียวไปหาหลวงปู่วัย ที่จังหวัดสระบุรีในวันเสาร์ แต่เกิดอารมณ์กลัวตายขึ้นมาว่ารถอาจเกิดอุบัติเหตุ หลวงพ่อฤๅษีท่านก็เมตตามาสอนว่า “เอ็งกลัวตายใช่ไหม ไอ้ขี้หมา” (ก็รับสารภาพว่า กลัว) ๒. “มันก็เป็นเรื่องธรรมดา จะไม่ให้กลัวเลยก็ต้องใจเป็นพระอรหันต์แล้ว แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก คิดเอาไว้สิว่าชีวิตเป็นของไม่เที่ยง แต่ความตายเป็นของเที่ยง ถ้าตายคราวนี้เราก็ขอไปพระนิพพาน” (ก็จะพยายามคิดตามนั้น) ๓. “โธ่เอ๊ย! ไอ้ปอดแหก ไหนว่าอยากไปพระนิพพาน ๆ แล้วทำไมถึงกลัวตาย คนจะไปพระนิพพานได้อย่างถาวรก็เพราะไอ้ร่างกายตัวนี้มันตายแล้วต่างหาก แล้วเอ็งจะมานั่งกลัวตายทำไม” (ก็ต้องยิ้มแหย ๆ ไว้ก่อน เพราะจริงของท่าน) ๔. “จริงสิ ไม่จริงได้อย่างไร ไม่ตายแล้วจิตจะไปอยู่พระนิพพานได้ถาวรได้อย่างไร โง่ตรงนี้แหละ คนกลัวตายก็คือคนหลง มีอวิชชาคือห่วงร่างกาย กลัวว่ามันจะตายทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามันต้องตายอยู่ทุกวันยังค่ำคืนยันรุ่ง อย่างนี้โง่หรือไม่โง่ล่ะ” (ก็ยอมรับว่า โง่) ๕. “เออ โง่ก็โง่ ยอมรับเสีย ก่อนออกเดินทางให้บอกท่านท้าวธตรฐ ท้าววิรูปักษ์ ท้าววิรุฬหก ท้าวเวสสุวัณ อินทกะและบริวาร ช่วยเปิดทางโคจรให้สะดวกปลอดภัยในทุกเส้นทางที่ไปและกลับ ก่อนบอกให้ขอบารมีพระพุทธเจ้าเสียก่อน อย่าใช้บารมีของตนเอง ขอบารมีพระพุทธเจ้า กรุณาให้ท่านท้าวมหาราชทั้งสี่ อินทกะและบริวารช่วยสงเคราะห์ เพราะการไปกึ่งกิจส่วนตัว กึ่งกิจพระพุทธศาสนา ขอให้ท่านเมตตาตลอดทุกเส้นทางด้วย ถ้าใช้บารมีตนเองมันไม่ได้ผลหรอก มันจิ๊บจ๊อย” ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่ม ๗ รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่ www.tangnipparn.com แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 31-01-2011 เมื่อ 15:17 |
สมาชิก 53 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]() |
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
|
|