กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะ เรื่องราวในอดีต และสรรพวิชา > กระทู้ธรรม > ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 06-05-2010, 11:50
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,893 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default เรื่องอารมณ์ราคะ กับปฏิฆะ

เรื่องอารมณ์ราคะ กับปฏิฆะ

จากนั้นสมเด็จองค์ปฐมก็ทรงพระเมตตามาตรัสสอนต่อ เรื่องอารมณ์ ๒ ให้ ดังนี้

๑. “เจ้าจงหมั่นดึงอารมณ์ให้ช้าลงด้วยอานาปานุสติ ควบคู่กับภาพพระในอก”

๒. “ที่ยังหุนหันพลันแล่นเพราะอารมณ์จิตมันร้อน ใจเร็วเกินไปหน่อย ขาดความยับยั้งชั่งใจ ไม่มีอารมณ์ใคร่ครวญ กามฉันทะ ปฏิฆะกระทบทีไร อารมณ์จึงเตลิดไปก่อนทุกที”

๓. "นิสัมมะ กะระณัง เสยโย ยังอ่อนเกินไป สติไม่ไว รู้ไม่เท่าทันความคิด ต้องพยายามรู้ลม จับภาพพระ โจทย์จิตตนเองไว้เสมอ ๆ”

๔. “เพ่งโทษของความรัก และความโกรธเข้าไว้เนือง ๆ แต่รู้ด้วยอารมณ์เบา ๆ สบาย ๆ”

๕. “ให้พิจารณาขันธ์ ๕ ของตนเองและผู้อื่นว่า ในที่สุดก็ต้องตาย ขันธ์ ๕ มีแต่ความเสื่อมสกปรกหมด ถ้าหากไม่ชำระจิตให้สะอาดดีแล้ว ก็ต้องจุติสู่ภพสู่ชาติกันอีกต่อไป จักมานั่งรัก นั่งโกรธขันธ์ ๕ ของตนและบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์อันใด เพราะขึ้นชื่อว่าขันธ์ ๕ มันไม่เที่ยง เป็นเพียงธาตุ ๔ มีอาการ ๓๒ เข้ามาประชุมกันชั่วครั้งชั่วคราว ขันธ์ ๕ ทุกรูปทุกนามเต็มไปด้วยความทุกข์ เต็มไปด้วยโทษ ยิ่งมัวเมาอยู่ในอารมณ์ราคะ ปฏิฆะมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งต้องกลับมาเกิดพบกับขันธ์ ๕ ที่เต็มไปด้วยโทษและทุกข์เช่นนี้อีก”

๖. “การมีขันธ์ ๕ กรรมที่ล่วงปัญจเวรทั้ง ๕ มาแต่อดีตชาติ ก็เข้ามาเล่นงานได้ตามวาระ ไม่มีใครอยากได้ขันธ์ ๕ ที่เจ็บไข้ได้ป่วย เพราะกฎของกรรมเยี่ยงนั้น แต่สภาพจริง ๆ ของขันธ์ ๕ ก็เป็นเยี่ยงนี้เป็นปกติ เกิดเป็นทุกข์ เจ็บเป็นทุกข์ แก่เป็นทุกข์ ตายเป็นทุกข์ มีชีวิตอยู่ก็พลัดพรากจากของรักของชอบใจ มีการกระทบกระทั่งของอารมณ์เป็นต้นเหตุ”


หมายเหตุ นิสมฺม กรณํ เสยฺโย .. ใคร่ครวญก่อนแล้วจึงทำ

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-05-2010 เมื่อ 14:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 06-05-2010, 15:31
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,893 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

๗. “รวมความว่า ในเมื่อเจ้าเบื่อไม่อยากมีขันธ์ ๕ เจ้าก็สมควรเบื่ออารมณ์ราคะกับปฏิฆะ ที่ทำให้ต้องกลับมามีขันธ์ ๕ ด้วย มองดูทุกข์ มองดูโทษของอารมณ์ทั้ง ๒ นี้ด้วยตาปัญญาเถิด”

๘. “กำหนดอานาปานุสติให้จิตมีกำลัง มีสติทรงตัว แล้วกำหนดรู้ทุกข์นั้นช้า ๆ”

๙. “จงหมั่นกระทำประดุจเดียวกันกับการพิจารณาขันธ์ ๕ คือ หมั่นแยกแยะอารมณ์ให้ละเอียดลงไปตามลำดับ หามูลเหตุให้ได้ว่า อะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดอารมณ์นั้น ๆ”

๑๐. “อย่าคิดว่าง่าย รู้แล้วเป็นอันขาด เพราะกิเลส ตัณหา อุปาทาน อกุศลกรรม มันครอบงำบดบังจิตได้ง่าย ๆ นิวรณ์เข้าแทรกเมื่อไหร่ ปัญญาที่จักเห็นต้นเหตุที่เกิดอารมณ์นั้น ๆ มันก็หมดไป มองไม่เห็นและมักจักเกิดอารมณ์โง่ คือ เข้าข้างตนเอง ปล่อยให้จิตตกเป็นทาสอารมณ์ที่ถูกกิเลสนั้น ๆ เข้าครอบงำ

ตัวอย่างที่เจ้าตกอยู่ในสภาพหดหู่ เศร้าหมอง เพราะคิดถึงท่านฤๅษี ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าไม่ดี (ทรงเน้นสอนเพื่อนผู้ร่วมปฏิบัติธรรมของผมโดยเฉพาะ) แต่จิตก็ไม่มีปัญญา ที่จักแก้ไขอารมณ์หลงนี้ให้หลุดไปจากจิตได้

แต่ถ้าเจ้าทำตามขั้นตอนนี้ที่ตถาคตได้กล่าวมาแล้วนั้น ใช้อานาปานสติคุมจิตให้มีสติ ให้มีกำลัง ดึงอารมณ์จิตให้ช้า พิจารณากำหนดรู้ทุกข์ รู้โทษของอารมณ์ หมั่นแยกแยะอารมณ์ให้ละเอียดลงไปตามลำดับ ในที่สุดเจ้าก็จักละอารมณ์หดหู่เศร้าหมองได้ อารมณ์ใดเกิดก็ให้ละอารมณ์นั้น ด้วยจิตที่มีสติ มีกำลัง ในที่สุดก็จักละอารมณ์เหล่านั้นลงได้ตามลำดับ”

๑๑. “กำหนดรู้ให้มาก แต่อย่าทำอารมณ์จิตให้เครียด จงหมั่นอาศัยอานาปานุสติยังจิตให้เข้าถึงฌาน อารมณ์จักเบา”

๑๒. “สำหรับการพิจารณา ก็พยายามรักษาอารมณ์ให้อยู่ในขั้นปฐมฌานเข้าไว้ จิตจักมีกำลังระงับนิวรณ์ ๕ และจักทำวิปัสสนาญาณไปด้วยดี ใคร่ครวญคำสอนเรื่องอารมณ์นี้ให้มาก ๆ”
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 06-05-2010, 15:58
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,893 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่ม ๕
รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน

ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่ www.tangnipparn.com
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:57



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว