กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

Notices

พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 15-01-2010, 07:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,254 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default กำลังใจของผู้ปรารถนาพระโพธิญาณ

วันศุกร์ ณ บ้านอนุสาวรีย์ มีโยมได้นำวัตถุมงคล ๓ อย่าง ซึ่งเป็นของมีค่าที่สุดสำหรับชีวิตเขา มาถวายพระอาจารย์เล็ก และกล่าวอธิษฐานปรารถนาพระโพธิญาณ พระอาจารย์จึงได้เทศน์ให้ฟัง

ถาม : นึกถึงคนสมัยก่อนกับคนสมัยนี้เขามองต่างกัน สมัยนี้เขามองว่าการจุดไฟเผาตัวเอง (เพื่อปรารถนาพระโพธิญาณ) เป็นการกระทำที่โหดร้ายมาก แต่พอนึกถึงกำลังใจคนสมัยโบราณ เขาไม่ได้ดูที่การกระทำ เขาดูที่กำลังใจ ?
ตอบ : โดยเฉพาะเขาเข้าใจว่าทำเพื่ออะไร ก็เลยมีคนโมทนาเยอะ

ถาม : ทำอย่างไรจึงจะเข้าใจครับ ?
ตอบ : เกิดบ่อย ๆ ถ้าเกิดบ่อยจนเข้าที่ เดี๋ยวก็เข้าใจทุกอย่างเอง

การที่ตัดใจสละสิ่งที่ตัวเองรัก ต้องบอกว่าเป็นสิ่งที่ภายนอกมาก ๆ เลย เพราะว่าข้าวของอย่างนี้นับว่าเป็นโลกียทรัพย์ เป็นทรัพย์ที่ยังข้องเกี่ยวอยู่กับโลก พระพุทธเจ้าจึงได้ตรัสสอนว่า ถ้าหากว่ามีความจำเป็น ก็ให้สละทรัพย์เพื่อรักษาอวัยวะ อย่างเช่นว่า เกิดเจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมา จะต้องผ่าตัด เงินทองไม่พอ ก็อาจจำเป็นจะต้องสละทรัพย์ ก็คือ ไปจำหน่าย หรือสละเงินสละทองเพื่อรักษาตนเอง ก็จะได้รักษาอวัยวะของตนไว้ได้ แต่ท่านสอนต่อไปว่า ให้สละอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต อย่างเช่นว่าถ้าเกิดเป็นเบาหวานขึ้นมา แผลเริ่มเป็นพิษแล้ว ถ้าหากว่าไม่ตัดขาออก ก็อาจจะถึงแก่ชีวิตในระยะเวลาอันรวดเร็ว ก็จำเป็นต้องสละขา แต่ท้ายสุดท่านบอกว่าให้สละทั้งทรัพย์ ทั้งอวัยวะและชีวิตเพื่อรักษาธรรม ก็แปลว่าในเรื่องของธรรมะนั้นเป็นเรื่องที่ทรงค่าสูงสุด ให้ประโยชน์ทั้งในชาตินี้ ให้ประโยชน์ทั้งในชาติหน้า และให้ประโยชน์สูงสุด คือพาเราไปพระนิพพานได้

แต่ว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้นั้น จะต้องประกอบไปด้วยความศรัทธาหลายอย่าง อย่างที่ท่านใช้คำว่า กรรมศรัทธา เชื่อกรรม เชื่อว่าทำดีต้องได้ดี ทำชั่วต้องได้ชั่ว แล้วก็ละชั่ว ทำดี กรรมวิปากศรัทธา เชื่อในผลของการกระทำ ก็คือ ทำดีแล้วต้องได้ผลดี ทำชั่วแล้วต้องได้ผลชั่ว ฉะนั้น..ทำดีจะดีกว่า ที่สำคัญที่สุด ก็คือ ตถาคตโพธิศรัทธา ศรัทธาในการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า เชื่อมั่นว่าพระองค์รู้แจ้งเห็นจริง ถ้าไม่มีตรงนี้ การเชื่อมั่นของกรรมและผลกรรมก็ไม่เกิดกับเรา

พระพุทธเจ้าตรัสว่าศรัทธาต้องประกอบด้วยปัญญา ไม่ใช่เชื่อเฉย ๆ แต่ว่าต้องพิสูจน์ดูก่อน ถ้าหากพิสูจน์แล้วมีผลเป็นไปตามนั้นเราค่อยเชื่อ แต่ถ้าหากพิสูจน์แล้วไม่เป็นไปตามนั้น แต่คนอื่นกลับทำได้ ขณะที่คนอื่นทำได้ ต้องให้ดูว่าตัวเราบกพร่องตรงไหน ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-12-2014 เมื่อ 13:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 125 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 15-01-2010, 07:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,254 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คราวนี้มาว่าต่อ..เรื่องของการสละทรัพย์เพื่อรักษาอวัยวะ สละอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต และสละชีวิตเพื่อรักษาธรรม โดยทั่ว ๆ ไปแล้วหลักการนี้สำหรับปุถุชนปกติ แต่ไม่ใช่พระโพธิสัตว์ กำลังใจของพระโพธิสัตว์ เกินกว่านั้นมาก

พระโพธิสัตว์นั้น การตัดแขนตัดขา เชือดเนื้อตัวเอง หรือตัดศีรษะ ควักหัวใจถวายเป็นพุทธบูชา ท่านทำเป็นเรื่องปกติ ถ้ากำลังใจไม่เพียงพอที่จะทำอย่างนั้น ก็แปลว่าบารมียังไม่เข้มข้นพอ ก็ต้องรอการก้าวผ่านตรงจุดนั้นต่อไป ดังนั้น..โยมตัดใจสละสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิต เพื่อความปรารถนาในพระโพธิญาณ ตัดใจในระดับนี้ ความรู้สึกของพวกเราคือ ...ยาก... แต่สำหรับพระโพธิสัตว์แล้วเป้าหมายของท่านยิ่งใหญ่กว่านั้น ก็คือพระโพธิญาณ จะได้ทำหน้าที่ขนถ่ายสัตว์โลกข้ามวัฏสงสาร ทรัพย์สินทุกอย่างกลายเป็นของเล็กน้อยมาก เหมือนกับว่าสิ่งที่ท่านปรารถนาคือภูเขาพระสุเมรุ เป็นการสละส่วนเล็กน้อยเพื่อแลกกับภูเขาพระสุเมรุทั้งลูกท่านทำได้ เพราะท่านเห็นประโยชน์ยิ่งใหญ่ในภายหน้า ถ้าเราไม่เห็น ก็จะเห็นว่าสละได้ยาก แต่สำหรับของท่านแล้ว..ท่านเห็น

สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ที่เป็นทรัพย์สมบัติภายนอก ก็เลยกลายเป็นของเล็กน้อยมาก เมื่อเปรียบเทียบกับกำลังใจของท่าน เพราะฉะนั้น..ใครจะตัดแขนมาถวายก็เชิญจ้ะ ยินดีรับ..!

จำได้ไหมว่า เจ้าแม่กวนอิมท่านตัดแขนและควักดวงตาให้พ่อ เพื่อประกอบยารักษาโรค ปรากฏว่าท่านยอมสละตัดให้จริง ๆ บรรดาชาวบ้านทั้งหลายก็สงสาร ว่าพระธิดาเป็นคนดีแสนดี แล้วก็ต้องมาแขนขาดข้างหนึ่ง ต้องมาตาบอดข้างหนึ่ง ก็เลยทำแขนปลอมตาปลอมให้ ปรากฏว่าทุกคนใจเดียวกัน ทำกันมาเยอะแยะหลายคน ท่านก็เลยอธิษฐานให้เขาเห็นเป็นลักษณะพันมือพันตา ที่เราเห็นว่าบางปางมีมือเยอะแยะไปหมด และในมือมีดวงตาอีกต่างหาก นั่นท่านแสดงให้เห็นว่า จริง ๆ แล้วท่านมีฤทธิ์ มีอำนาจขนาดนั้น แต่สิ่งที่ท่านทำเนื่องด้วย ๒ ประการด้วยกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-12-2014 เมื่อ 13:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 115 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 15-01-2010, 08:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,254 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ประการแรกก็คือ เพื่อแสดงความกตัญญูต่อพระบิดา อีกประการหนึ่งก็คือ เพื่อพระโพธิญาณของท่าน

การสละอวัยวะเพียงนี้เป็นเรื่องเล็กน้อยมาก ท้ายสุดก็ต้องสละบุตรและภรรยา สมัยนี้จ้องจะสละกันจริง ๆ ด้วยกำลังใจห่วยแตกของพวกเรา ประเภทไม่ชอบใจ ทะเลาะเบาะแว้ง ด่ากัน ขัดใจกัน ก็จะสละ แต่นี่ไม่ใช่อย่างนั้น ถ้าเราดูตัวอย่างพระเวสสันดร พูดง่าย ๆ ว่าตั้งแต่อยู่ร่วมกันมา คำน้อยที่จะพูดให้เสียใจก็ไม่มีเลย มีแต่ยอมรับใช้ทุกอย่าง ท่านใช้คำว่าเป็นดั่งบาทบริจาริกา คือ ข้าทาสรับใช้ ถ้าหากว่าเป็นภรรยาที่ดีขนาดนั้น แล้วคนสามารถตัดใจสละได้ เป็นลูกที่น่ารักขนาดนั้นแล้วคนสามารถตัดใจสละได้ ต้องไม่ใช่เรื่องง่ายแน่นอน นั่นไม่ใช่เป็นของที่ไม่ต้องการแล้ว หากแต่เป็นของที่รักสุดหัวใจ

เพียงแต่ว่าความรักในพระโพธิญาณนั้นยิ่งใหญ่กว่า โดยเฉพาะตอนที่ท่านปลอบลูกให้ยอมไปกับพราหมณ์ชูชก ท่านบอกว่า "ขอให้ลูกทำตัวเป็นสำเภาทอง เพื่อส่งพ่อให้ข้ามพ้นไปสู่ฝั่ง" แล้วกัณหากับชาลีก็โมทนาด้วย ตรงนั้นต้องดูสองอย่าง อย่างแรกก็คือกำลังใจของพระเวสสันดร ท่านสละได้ ขณะเดียวกันลูกเล็ก ๆ ทั้งสององค์เข้าใจเรื่องอย่างนี้ด้วยว่าพ่อทำเพื่ออะไร แทนที่จะตัดพ้อต่อว่า ในลักษณะพ่อไม่รักแล้ว ไม่ใช่..ท่านกลับโมทนาด้วย ยอมลำบากลำบน เพื่อความปรารถนาพระโพธิญาณของพ่อจะได้สำเร็จลง

ฉะนั้น...สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เมื่อเราอ่านแล้ว อย่าอ่านเฉย ๆ แบบที่เมื่อเช้าตั้งข้อสงสัยไป อ่านแล้วต้องคิดให้เป็น ถ้าคิดให้เป็นเราจะเห็นคุณพระรัตนตรัยมหาศาลมาก พระโพธิสัตว์กว่าจะบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ เกิดมาแล้วนับชาติไม่ถ้วน ท่านบอกว่าแค่น้ำตาก็มากกว่าน้ำในมหาสมุทรทั้งสี่แล้ว การเกิดในระดับนั้น ท่านไม่ได้เกิดเพื่อตัวเอง หากแต่เกิดเพื่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย เกิดเพื่อทำหน้าที่ซึ่งตัวเองตั้งใจไว้ ลำบากแค่ไหนก็ยอม ในลักษณะเดียวกับพระกษิติครรภโพธิสัตว์ท่านบอกว่า ตราบใดที่ยังมีสัตว์โลกเวียนตายเวียนเกิดอยู่ในวัฏสงสาร ตราบนั้นท่านจะยังไม่ยอมเข้าพระนิพพาน จะอยู่โปรดจนรายสุดท้ายถึงจะไป ของเราชาติเดียวก็เข็ดแล้ว ของท่านเองกำลังใจเหลือล้น โปรดจนคนสุดท้ายแล้วค่อยไป ท่านไม่ได้อธิษฐานเป็นพระพุทธเจ้าองค์สุดท้าย แต่จะอยู่โปรดจนคนสุดท้ายค่อยไป

ฟังแล้วน่าไปต่อนะ..! อาตมามาไกลขนาดนี้แล้ว ยังเลี้ยวเฉยเลย แต่ว่าคงไปไม่ไกลหรอก เพราะเคยมีนิมิตอยู่ครั้งหนึ่งว่า ขึ้นเรือไปแล้ว มองกลับมา โอ้โห..เขายังตกค้างอยู่บนฝั่งอีกเยอะ ก็เลยโดดกลับมายืนเป็นเพื่อนเขา อะไรจะปานนั้น..แสดงว่าเชื้อชั่วไม่ยอมตาย เคยทำหน้าที่นั้นมา ขนาดในนิมิตยังตามไปช่วยเขาเลย...


พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ช่วงเย็น ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันศุกร์ที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๓
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-12-2014 เมื่อ 13:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 124 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ

Tags
โพธิญาณ, โพธิสัตว์, สละ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 01:59



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว