กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนสิงหาคม ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 27-08-2025, 18:42
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 568
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 27,451 ครั้ง ใน 1,056 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๖๘


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 28-08-2025, 00:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,052
ได้ให้อนุโมทนา: 159,915
ได้รับอนุโมทนา 4,503,709 ครั้ง ใน 36,663 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๒๗ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ กระผม/อาตมภาพเดินทางไปยังวัดหนองเพียร หมู่ที่ ๒ บ้านหนองเพียร ตำบลบางงาม อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อทำการตรวจยกหมู่บ้านหนองเพียร ขึ้นเป็นหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบ ประจำปี ๒๕๖๘

ความจริงจะว่าไปแล้ว กระผม/อาตมภาพรู้จักบ้านหนองเพียรดีมากทีเดียว เนื่องเพราะว่าหลวงพ่อวิชัย (พระครูพิพัฒน์สุวรรณาภรณ์) เจ้าอาวาสวัดหนองเพียร รองเจ้าคณะอำเภอศรีประจันต์นั้น ท่านทำงานเกี่ยวกับเรื่องของชุมชนคุณธรรม แล้วก็ไปรับรางวัลด้วยกันหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นชุมชนคุณธรรมต้นแบบโดดเด่นก็ดี หรือว่าสุดยอดชุมชนคุณธรรมก็ตาม

ดังนั้น..ในเรื่องของการยกบ้านหนองเพียรขึ้นเป็นหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบนั้น กระผม/อาตมภาพยังคิดว่าทางจังหวัดสุพรรณบุรีตกลงกันยกบ้านหนองเพียรขึ้นเป็นหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบช้าเกินไปเสียด้วยซ้ำ..!

เพียงแต่ว่างานนี้มีความพิเศษตรงที่ว่า ท่าน ดร.นิยม เวชกามา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ท่านได้มาร่วมงานด้วย และได้กล่าวให้กำลังใจคณะกรรมการโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ทุกรูป ทั้ง ๆ ที่ตัวท่านเองเพิ่งจะโดนเขาถล่มจมดินมา ในเรื่องของการเข้าไปเยี่ยมอดีตเจ้าคุณอลงกต (พระราชวิสุทธิประชานาถ) แล้วยังไปออกปากรับรองอดีตท่านเจ้าคุณอลงกตอย่างเต็มปากเต็มคำ โดยมองเฉพาะในส่วนงานที่ท่านทำเพื่อประโยชน์สุขส่วนรวมเท่านั้น ไม่ได้มองในแง่ความผิดพลาดอื่น ๆ

ในเมื่อมองโลกในแง่ดีด้านเดียว ก็เลยโดน "ทัวร์ลง" จนเละเทะ แต่ท่านก็บอกว่าท่านไม่หมดกำลังใจ และมาให้กำลังใจพระคุณเจ้าทุกรูป ที่ทำโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ซึ่งเป็นโครงการที่มีประโยชน์อย่างมากมายมหาศาล อย่างเช่นว่าหลวงพ่อวิชัย เจ้าอาวาสวัดหนองเพียรนั้น ท่านจ้ำจี้จ้ำไช ปากเปียกปากแฉะ สอนญาติโยมอยู่ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นการสอนโดยออกเสียงตามสายให้กับหมู่บ้าน หรือว่าสั่งสอนเมื่อมาวัดก็ตาม

จนทำให้เมื่อย้อนหลังไปแล้ว ๓ ปี ทางด้านบ้านหนองเพียรนี้ ไม่ได้มีคดีความอะไรใหญ่ ๆ อะไรเลย นอกจากการทะเลาะเบาะแว้งกันเล็ก ๆ น้อย ๆ ตามประสาปุถุชน แล้วก็สามารถที่จะไกล่เกลี่ยกันได้ ระยะเวลา ๓ ปีที่ผ่านมามีคดีลักขโมยแค่ ๒ ครั้ง แล้วทั้ง ๒ ครั้งเกิดจากคนบ้านอื่นที่มาเที่ยวงานบ้านหนองเพียร แล้วทำการลักขโมยกัน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-08-2025 เมื่อ 01:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 28-08-2025, 00:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,052
ได้ให้อนุโมทนา: 159,915
ได้รับอนุโมทนา 4,503,709 ครั้ง ใน 36,663 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ญาติโยมทั้งหลายจะเห็นว่า ในเรื่องของวัดวาอารามของเรา ตลอดจนกระทั่งพระภิกษุสามเณรนั้น เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง ในการที่จะดำรงพื้นฐานของบ้านเมืองของเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของศีล ๕ ที่เป็นพื้นฐานของกฎหมายทุกประเทศ แล้วในขณะเดียวกัน ก็ยังเป็นเครื่องผูกจิตผูกใจ ให้ชาวบ้านมีความสามัคคีกลมเกลียวเหนียวแน่น โดยมีวัดเป็นศูนย์กลางในการนำทำกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเกี่ยวกับเรื่องของความสงบเรียบร้อยก็ดี ในเรื่องงานวัฒนธรรม ตลอดจนกระทั่งการทำมาหากินต่าง ๆ ก็ตาม

โดยเฉพาะในเรื่องของ Soft Power แล้ว กระผม/อาตมภาพเสียดายงบประมาณ ๕,๐๐๐ ล้านบาทเป็นอย่างยิ่ง ที่รัฐบาลทุ่มเทลงไปเกี่ยวกับเรื่องของ Soft Power แล้วแทบจะไม่ได้มีผลอะไรตอบแทนมาเป็นชิ้นเป็นอันเลย..!

แต่ว่าในโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ นั้น เราได้รับงบประมาณสนับสนุนมา ๔ ล้านบาท เงิน ๔ ล้านบาทนี้เมื่อแบ่งออกมาเป็นคณะสงฆ์หนเหนือ หนตะวันออก หนกลาง และหนใต้ ก็เหลือมาถึงหนกลาง ๒๓ จังหวัดนี้จำนวน ๙ แสนบาท และใน ๙ แสนบาทนั้น เราจะต้องแบ่งปันเฉลี่ยให้กับวัด หรือว่าสถานที่ซึ่งจัดในการตรวจยกหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบ เพื่อให้เขาทั้งหลายเหล่านั้นมีต้นทุนในการจัดงาน

จะเห็นได้ว่าเราใช้งบประมาณน้อยมาก ๆ เนื่องเพราะว่า ๙ แสนบาทเมื่อหารด้วย ๒๓ ก็เหลือไม่กี่สตางค์เท่านั้นเอง เฉลี่ยแล้วเหลือจังหวัดละไม่ถึง ๕ หมื่นบาทด้วยซ้ำไป แต่ว่าทุกที่ซึ่งเราไปทำการตรวจยกหมู่บ้านศีล ๕ นั้น ชาวบ้านทั้งหลายก็จะขนเอา Soft Power ที่สามารถแปลงเป็นรายได้เข้าสู่หมู่บ้านของเขาออกมาทั้งหมด

ท่านทั้งหลายอาจจะสงสัยว่า ในเรื่องของรายได้เข้าหมู่บ้านก็ดี ในเรื่องของสินค้า ตลอดจนกระทั่งสิ่งที่มีชื่อเสียงของที่นั้น ๆ ก็ตาม มาเกี่ยวข้องอะไรกับการรักษาศีล ๕ ด้วย ? ก็คือว่าศีล ๕ ข้ออทินนาทานฯ เว้นจากการลักขโมยนั้น ถ้าเราเว้นอย่างเดียว โดยไม่มีอาชีพการงานอื่นเข้ามา ก็เรียกว่าเป็นการรักษาศีลแบบไร้ปัญญาสิ้นดี..!

ดังนั้น..จึงต้องมีหลักธรรมข้อสัมมาชีพเข้ามาด้วย คือการทำมาหากินแบบถูกต้องตามกฎหมายบ้านเมืองและศีลธรรม ซึ่งสิ่งทั้งหลายเหล่านี้นั้น ในแต่ละหมู่บ้านมีอะไรที่เป็นของดีของตน ก็พยายามที่จะขุดจะค้นขึ้นมา เพื่อแปลงเป็นมูลค่า ส่งเสริมการครองชีพของชาวบ้านในสถานที่นั้น ๆ ให้ดีขึ้น ก็แปลว่าในเรื่องของ "เบญจศีล" นั้นเรางดเว้นแล้ว ก็ต้องมี "เบญจธรรม" ให้ปฏิบัติควบคู่กันไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-08-2025 เมื่อ 01:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 28-08-2025, 00:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,052
ได้ให้อนุโมทนา: 159,915
ได้รับอนุโมทนา 4,503,709 ครั้ง ใน 36,663 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

บรรดา Soft Power ต่าง ๆ ส่วนใหญ่ก็เป็นในด้านสัมมาชีพ คือการประกอบอาชีพของญาติโยม ไม่ว่าเราจะไปที่ไหนก็ตาม ก็จะเห็นผ้าทอมือ งานจักสาน การทำอาหารที่มีชื่อเสียงของสถานที่นั้น ๆ ผักปลอดสารพิษ ตลอดจนกระทั่งสินค้าแปรรูปต่าง ๆ โดยเฉพาะทางจังหวัดสุพรรณบุรีนี้ปลูกแห้วกันมาก จึงได้มีสินค้าต่าง ๆ ที่เป็นผลผลิตจากแห้วออกมาจำนวนมากมาย ไม่ว่านักท่องเที่ยวใครไปใครมา ก็ต้องซื้อหาติดมือไป ทำให้รายได้ตกอยู่กับชุมชน

เมื่อชุมชนมีเงินมีทองไว้จับจ่ายใช้สอย สามารถที่จะลดรายจ่ายในครัวเรือนลง แล้วก็เพิ่มรายได้ให้กับครัวเรือน ในเรื่องของการละเมิดศีล หรือว่าก่ออาชญากรรมต่าง ๆ ก็จะลดน้อยถอยลงไปโดยอัตโนมัติ โดยที่มีวัดเป็นศูนย์กลาง ไม่ว่าจะจัดงานอะไรก็ตาม ส่วนราชการก็ดี งานวัฒนธรรมประเพณีประจำก็ตาม ก็จะจัดกันที่วัด แล้วก็มีการนำเอาสินค้ามาจำหน่าย ทำให้เกิดการหมุนเวียนของรายได้ขึ้นในชุมชน อยู่ในลักษณะของการพึ่งพาตนเอง พึ่งพากันเองอยู่ภายใน พูดง่าย ๆ ว่าสามารถที่จะอาศัยการพึ่งพากันภายในนั้น ยืนหยัดอยู่ได้จนไม่ต้องพึ่งพาภายนอกเสียด้วยซ้ำไป..!

โครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ของเราจึงใช้งบประมาณที่น้อยสุด ๆ แต่ว่าก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะวันนี้ ท่านพิริยะ ฉันทดิลก ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ยืนยันกับคณะกรรมการว่า ท่านเองได้สนับสนุนให้สุพรรณบุรีจำนวน ๘๐๐ หมู่บ้าน เป็นหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ทั้งหมด เพียงแต่ว่าสถานที่ไหนซึ่งมีความเด่น ก็จะตกลงกันตรวจยกขึ้นเป็นหมู่บ้านศีล ๕ ต้นแบบ ซึ่งวันนี้ทางจังหวัดอื่น ๆ โดยเฉพาะที่ใกล้เคียง ไม่ว่าจะเป็นนครปฐมก็ดี กาญจนบุรีก็ดี หรือว่าชัยนาทก็ตาม มีทั้งพระและญาติโยมเดินทางมาดูงานด้วยกันทั้งสิ้น เพื่อที่จะหยิบฉวยเอาในสิ่งที่ตนเองเห็นว่าดี ไปปรับปรุงให้เข้ากับบริบททางด้านที่ตนเองอยู่อาศัย

เรื่องพวกนี้นั้น พระภิกษุสงฆ์ของเราเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ ตลอดจนกระทั่งเป็นผู้นำในการกระทำสิ่งต่าง ๆ ทั้งหลายเหล่านี้มาโดยตลอด แต่ว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ทำไปให้ตายก็ขายไม่ได้ เนื่องเพราะว่าบรรดาผู้สื่อข่าวไร้จรรยาบรรณในยุคปัจจุบันนี้ ไม่นิยมในการเสนอสิ่งดี ๆ หากแต่ว่าสิ่งใดที่ไม่ดีก็ตาม มีการขุดคุ้ย มีการขยี้ มีการตัดสินความไปด้วยตนเองเสียแล้ว บางทีก็พาให้เสียหายจนกระทั่งกว่าที่ทางตำรวจหรือว่าศาลจะพิพากษา ปรากฏว่าสังคมพิพากษาผิดพลาดไปหมดแล้ว..!

จนกระทั่งบางทีก็ทำให้ผู้ร้ายกลายเป็นพระเอก มีรายได้จากการออกรายการต่าง ๆ มีแฟนคลับสนับสนุนเป็นจำนวนมาก พอถึงเวลาศาลตัดสินตามหลักฐาน กลายเป็นผู้ร้ายฆ่าคน แฟนคลับส่วนหนึ่งก็ยังทนไม่ได้ มีการโวยวายกันขึ้นมา เพราะไปหลงบูชาผู้ร้ายเป็นพระเอกไปเสียตั้งนาน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-08-2025 เมื่อ 02:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 28-08-2025, 00:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,052
ได้ให้อนุโมทนา: 159,915
ได้รับอนุโมทนา 4,503,709 ครั้ง ใน 36,663 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เราจะเห็นว่า การที่สังคมของเราเสื่อมทรามอยู่ในปัจจุบันนั้น ส่วนหนึ่งไม่ใช่เกิดจากที่พระภิกษุสามเณรกระทำผิดพลาด เนื่องเพราะว่าความผิดพลาดเหล่านี้มีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้ว เราจะเห็นว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ต้องบัญญัติศีลพระมาจนถึง ๒๐๐ กว่าข้อ ซ้ำยังมีอภิสมาจารอีก แต่ว่าการบัญญัติศีลนั้นเริ่มต้นในพรรษาที่ ๒๐ ก็แปลว่าตั้งแต่ประกาศพระพุทธศาสนามา ๒๐ ปี ไม่มีความเสียหายเกิดขึ้นในพระพุทธศาสนาเลย เนื่องเพราะว่าผู้ที่เข้ามาในพระพุทธศาสนายุคแรก ๆ ล้วนแล้วแต่เป็นพระอริยบุคคลตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป ย่อมมีความรู้ดีรู้ชั่ว รู้ว่าสิ่งใดควรเว้น สิ่งใดควรประพฤติ

แต่พอนานไป ๆ ปุถุชนบวชมากเข้า ๆ ท่านทั้งหลายเหล่านี้ก็มีการทำผิดทำพลาดเป็นธรรมดา จนกระทั่งต้องมีการบัญญัติศีลกันขึ้นมา แต่ว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ยังประทานวิธีการต่าง ๆ ให้ อย่างเช่นอธิกรณสมถะ ๗ วิธีการระงับเรื่องที่เกิดขึ้นในหมู่สงฆ์ หรือว่ามหาปเทส ๔ วิธีการตีความพระธรรมวินัยให้ถูกต้องตามความเป็นจริง ตลอดจนกระทั่งห้ามพระภิกษุสงฆ์บอกอาบัติชั่วหยาบที่เพื่อนพระภิกษุกระทำต่ออนุปสัมบัน คือผู้ที่มีศีลน้อยกว่า เพราะเกรงว่าบุคคลประเภท "ไอคิวเตี้ย ไอเดียต่ำ ปัญญานิ่ม" จะเหมาโหลว่าพระภิกษุสามเณรทั้งหมดชั่วเหมือนบุคคลนั้น ทั้ง ๆ ที่การกระทำเหล่านั้นเป็นเรื่องเฉพาะตัว

แต่ว่ามาในปัจจุบันนี้ แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นสูง ถึงเวลากระทำหน้าที่ของตนที่เกี่ยวกับพระ ก็ต้องจ้างนักข่าวมา แทบจะแถลงข่าวเป็นรายชั่วโมง เพื่อที่จะสร้างผลงานให้เข้าตาผู้บังคับบัญชา โดยไม่ได้สนใจว่าจะสร้างความเสียหายให้กับคณะสงฆ์เท่าไร ครั้นเมื่อผู้บังคับบัญชาไม่เห็นคุณงามความดี ล่าสุดนี้ คดีของวัดพระพุทธบาทน้ำพุ ก็ไม่เห็นว่าท่านจะกระโชกโฮกฮากเข้าใส่พระ หรือว่าข่มขู่คุกคามเหมือนก่อนนี้ ซ้ำยังไม่มีการแถลงข่าวอีกต่างหาก คาดว่าคงจะเข็ดไปอีกนาน แต่ว่าเรื่องพวกนี้นั้น
ใครทำใครได้ หลักของกรรมในพระพุทธศาสนาของเรายุติธรรมเสมอ..!

ในส่วนที่ท่าน ดร.นิยม เวชกามาให้กำลังใจมา ก็ขอเจริญพรขอบคุณท่านผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นอย่างสูง แต่ขออภัยเถอะ..พวกกระผม/อาตมภาพนั้นเป็นคนดื้อ ถ้าตั้งใจจะทำความดีแล้วก็จะหน้าด้านหน้าทนทำต่อไป ส่วนผู้ใดที่คิดร้ายต่อพระพุทธศาสนา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ชัดเจนแล้วว่า
"บุคคลที่ประทุษร้ายต่อบุคคลผู้ไม่ประทุษร้ายตอบ ย่อมได้รับความวิบัติ ๑๐ ประการ" อย่างไร ก็ขอให้ทุกท่านลองไปศึกษาเอาเองก็แล้วกัน

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๒๗ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-08-2025 เมื่อ 02:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 11:29



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว