เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๖๘

[พิชวัฒน์]

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๖๘

[เถรี]

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๔ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ กระผม/อาตมภาพต้องเดินทางไปยังวัดโกรกกราก ถนนธรรมคุณากร ตำบลโกรกกราก อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ตามที่หลวงพ่อสัมฤทธิ์ - พระครูวิสุทธิ์สิทธิคุณ (สัมฤทธิ์ วิสุทฺธสีโล ป.ธ. ๔) เจ้าอาวาสวัดโกรกกราก รองเจ้าคณะจังหวัดสมุทรสงครามท่านได้นิมนต์เอาไว้ เพื่อให้มาร่วมอธิษฐานจิตวัตถุมงคล ซึ่งทางวัดได้สร้างขึ้นเพื่อที่จะหาทุนมาทำโบสถ์หลังมหึมาของท่าน ที่สร้างคร่อมถนนทั้งสายเอาไว้ ให้เสร็จสรรพเรียบร้อยลงตามโครงการ

โดยปกติแล้วทางวัดโกรกกรากแทบจะไม่เคยทำวัตถุมงคลอะไรเลย พูดง่าย ๆ ว่าอยู่ได้ด้วยแรงศรัทธาของประชาชนที่มีต่อพระพุทธรูปสำคัญ ก็คือหลวงพ่อปู่วัดโกรกกราก แต่ด้วยความที่ว่าอุโบสถหลังใหญ่นี้ ต้องใช้ทุนมหาศาล กระผม/อาตมภาพประมาณด้วยสายตาตนเองก็น่าจะเป็นพันล้านบาท..! หลวงพ่อสัมฤทธิ์ท่านถึงต้องสร้างวัตถุมงคล เพื่อช่วยหาทุนในงานนี้

แล้วก็จำเพาะเจาะจงว่า เมื่อท่านนิมนต์แล้ว กระผม/อาตมภาพตอนแรกยังบอกว่าน่าจะไม่ได้ เหตุเพราะว่าอยู่ในช่วงที่ต้องเป็นกรรมการไปตรวจยกหมู่บ้านศีล ๕ ต้นแบบ ประจำปี ๒๕๖๘ แต่ครั้นดูตารางนัดหมายแล้ว ปรากฏว่าวันที่ท่านขอเอาไว้นั้น เป็นวันเดียวที่กระผม/อาตมภาพว่างอยู่พอดี ทำเอาหลวงพ่อสัมฤทธิ์ท่านยกมือไหว้ท่วมหัว บอกว่า "ผมอธิษฐานขอกับหลวงพ่อปู่วัดโกรกกรากเอาไว้ว่า พระที่ผมต้องการให้มาปลุกเสกนั้น ขอให้ผมนิมนต์ได้ทุกรูป"

กระผม/อาตมภาพนั้นแม้ว่ามีความเคารพในหลวงพ่อปู่วัดโกรกกรากมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่ด้วยความที่ว่าทางด้านนี้แม้ว่าจะเดินทางมาไม่ไกล แต่ขอโทษเถอะ..รถติดสาหัสสากรรจ์ตลอด เนื่องจากมีโครงการก่อสร้าง "ถนน ๗ ชั่วโคตร" ตามที่ชาวบ้านเขาพูดประชดกัน จึงไม่ได้มากราบหลวงพ่อปู่วัดโกรกกรากได้อย่างที่ตั้งใจเอาไว้

[เถรี]

เมื่อกระผม/อาตมภาพมาถึงนั้น บรรดาพระเถระที่ได้รับนิมนต์มาเจริญพระพุทธมนต์ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ก่อนการอธิษฐานปลุกเสกวัตถุมงคล ได้มากันเกือบจะครบถ้วนแล้ว กระผม/อาตมภาพซึ่งเป็นพระเถราจารย์อธิษฐานจิตปลุกเสก จึงต้องนั่งโดดเดี่ยวเดียวดาย รอจนกว่าพรรคพวกจะมาถึง ซึ่งท่านที่มาแล้วขาดไม่ได้เลยก็คือหลวงพ่อเจ้าคุณสุรศักดิ์ - พระราชภาวนาวชิราจารย์ (สุรศักดิ์ อติสกฺโข ป.ธ. ๕) วัดประดู่ (พระอารามหลวง) เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสงคราม หลวงพ่อจำนงค์ - พระครูสิริสาครธรรม (จำนงค์ คุณงฺโค ป.ธ. ๕) เจ้าอาวาสวัดท่ากระบือ เหล่านี้เป็นต้น

ครั้นเมื่อเจริญพระพุทธมนต์เรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ก็นิมนต์พระเถราจารย์เข้านั่งประจำที่ เมื่อกระผม/อาตมภาพกราบขอบารมีหลวงพ่อปู่วัดโกรกกรากและนั่งเข้าประจำที่แล้ว ก็เห็นภาพหลวงพ่อปู่ซ้อนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับตนเอง อย่างชนิดที่ไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรเลย รู้สึกว่าเบากาย เบาใจ โปร่งโล่งสบายสุด ๆ อาการแบบนี้เคยปรากฏอยู่ครั้งหนึ่ง ตอนที่อธิษฐานปลุกเสกวัตถุมงคลที่วัดกษัตราธิราช วรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต่อหน้าหลวงพ่อพระประธาน ซึ่งพลังที่ท่านเทลงมาให้นั้น ก็อยู่ในลักษณะเยือกเย็นเป็นสุขแบบนี้

กระผม/อาตมภาพภาวนา "พระคาถาเงินล้านสูตรพิเศษ" ตามที่พระท่านบอก เนื่องเพราะว่าระยะนี้ สภาพของเศรษฐกิจไม่ดีเป็นอย่างมาก ถ้าหากว่าได้ "พระคาถาเงินล้านสูตรพิเศษ" ไป อย่างไรเสียก็ต้องผ่านเหตุการณ์ช่วงยากลำบากนี้ไปได้ เพราะว่าก่อนหน้านี้ท่านเคยให้ใช้ในช่วงวิกฤต ในการที่ต้องปลุกเสกวัตถุมงคลรุ่น "ฝ่าวิกฤต" หลังจากนั้นก็แทบไม่ได้อนุญาตให้ใช้อีกเลย

เพียงแต่ว่ามาระยะหลัง ๆ นี้ ในการปลุกเสกวัตถุมงคล พระท่านมักจะให้ใช้พระคาถาเงินล้านสูตรพิเศษนี้อยู่เสมอ บรรดาวัตถุมงคลต่าง ๆ ซึ่งไอ้ตัวเล็กนำลงในกระทู้ทุนการศึกษาพระภิกษุสามเณรนั้น ส่วนใหญ่เป็นวัตถุมงคลที่กระผม/อาตมภาพได้รับนิมนต์ไปอธิษฐานจิตปลุกเสก และต้องใช้พระคาถาเงินล้านสูตรพิเศษนี่แทบทั้งนั้น..!

เนื่องเหตุที่ว่าสภาพร่างกายนั้นโปร่งเบา ไม่เหมือนกับคนป่วย จึงทำให้นั่งเพลิน แทบไม่รู้ตัวว่าระยะเวลาได้ผ่านเลยไปมากแล้ว ครั้นลืมตาขึ้นมา ปรากฏว่าเวลาผ่านไปเกือบชั่วโมงเต็ม ๆ จึงได้ทำน้ำมนต์พรมให้บริเวณมณฑลพิธี พอดีกับพระมหานาคท่านสวดพุทธาภิเษกจบลงพอดี

[เถรี]

ครั้นโปรยดอกไม้เป็นพุทธบูชาแล้ว กระผม/อาตมภาพจึงขอตัวออกเดินทางกลับสู่ที่พัก วัดอุทยาน อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี เนื่องเพราะว่าพรุ่งนี้ต้องไปเป็นกรรมการตรวจยกหมู่บ้านดงหลุ่ม อำเภอสระโบสถ์ จังหวัดลพบุรี เป็นหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบ ซึ่งการเดินทางนั้น กะว่าจะเดินทางตั้งแต่ช่วงตี ๓ เนื่องเพราะว่าเป็นการตรวจยกในรอบเช้า ถ้าเดินทางสายกว่านั้น อาจจะไปทำหน้าที่ของตนเองไม่ทัน

ดังนั้น..จึงเป็นการวัดกันว่า "พระคาถาเงินล้านสูตรพิเศษ" จะสร้างความคล่องตัวให้ขนาดไหน ถ้าหากว่าขลังจริง คล่องตัวจริง รถก็จะไม่ติด ในเมื่อวัดกันในลักษณะนี้ ญาติโยมทั้งหลายไม่ต้องดูผลก็ได้ เพราะว่ากระผม/อาตมภาพนั้นมั่นใจเกิน ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ว่า สิ่งหนึ่งประการใดที่พระท่านบอกเอาไว้ ย่อมเป็นไปตามนั้นอย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้นท่านทั้งหลายเดินทางในถนนสายนี้ตอนเวลา ๖ โมงเย็น ก็คงจะซาบซึ้งรสชาติของชีวิตดีว่าจะมีสภาพเป็นอย่างไร ?!

แต่กระผม/อาตมภาพตอนนี้ ผ่านมาหลายไฟแดงแล้ว อย่างชนิดที่แทบจะไม่มีอุปสรรคอะไรเลย พูดง่าย ๆ ว่าผ่านตลอดนั่นเอง คาดว่าคงจะถึงที่พักของตนเองในคืนนี้ก่อนเวลา ๑ ทุ่ม เนื่องเพราะว่าได้นัดไอ้ตัวเล็กกับน้องสาวเอาไว้ ว่าจะนำเงินมาส่งให้ ก่อนที่จะเดินทางไปตรวจยกหมู่บ้านศีล ๕ อีก ๔ วันต่อเนื่องกัน พูดง่าย ๆ ว่าแวะเข้าที่พักไป อาศัยนอนไม่ถึง ๑ คืนเท่านั้นเอง ก็ต้องตะลอน ๆ กันต่อไปแล้ว

พวกกระผม/อาตมภาพบอกกันว่า "เป็นช่วงระยะเวลาลดน้ำหนัก" แต่ขอโทษเถอะ..บรรดาคณะกรรมการโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ บอกว่า "เป็นระยะเวลาในการเพิ่มน้ำหนัก..!" เนื่องเพราะว่าทางเจ้าภาพมักจะจัดข้าวปลาอาหารมาเลี้ยงอย่างเต็มที่ ท่านอื่นพอถึงเวลาเจอของชอบ ก็ไม่ค่อยจะบันยะบันยังกันเสียด้วย แต่กระผม/อาตมภาพนั้นยังไม่มีของชอบเป็นการส่วนตัว จึงไม่ได้กังวลในเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ หากแต่ว่ากลายเป็นช่วงลดน้ำหนัก เพราะว่าต้องตะลอน ๆ เดินทางกันอยู่แทบทุกวัน

[เถรี]

ญาติโยมที่เมื่อเช้านี้เพิ่งใส่บาตรที่ทองผาภูมิ ถ้าเช้าวันพรุ่งนี้มาเฝ้ารอใส่บาตร ก็จะปรากฏว่าหลวงพ่อวัดท่าขนุนหายตัวไปอีกแล้ว..! แต่เขาทั้งหลายก็เลิกแปลกใจไปนานแล้ว เนื่องเพราะว่าหลายต่อหลายครั้ง ช่วงเช้าใส่บาตร ช่วงสายเดินทางมาหวังจะกราบพบหลวงพ่อวัดท่าขนุนที่วัด ปรากฏว่าท่านเดินทางข้ามไปหลายจังหวัดแล้ว..! เป็นต้น

เรื่องพวกนี้ต้องบอกว่า กระผม/อาตมภาพนั้นจัดลำดับงานคณะสงฆ์เป็นงานที่สำคัญกว่า ญาติโยมทั้งหลายก็ต้องทำใจ เพราะว่าคนบ้างานนั้นหาค่อนข้างจะยาก ในเมื่อกระผม/อาตมภาพเป็นอย่างนี้ ท่านทั้งหลายก็ต้องเสี่ยงดวงกันเอง โดยเฉพาะวันนี้ เมื่อมาถึงวัดโกรกกราก ญาติโยมจำนวนมากก็แห่กันมากราบมาไหว้ มาถวายสิ่งของ บอกว่า "ไปถึงวัดก็ไม่มีโอกาสได้เจอ" บ้าง "ไปวัดในวันงานก็เข้าไม่ถึงหลวงพ่อ" บ้าง ก็ต้องมาดักรอกันแบบนี้เอง

กระผม/อาตมภาพต้องขออภัยต่อญาติโยมทั้งหลาย เนื่องเพราะว่าจำเป็นจริง ๆ ตนเองมีตำแหน่งหลัก ๆ อยู่ถึง ๓๐ กว่าตำแหน่ง ถ้าหากว่าอยู่วัด ก็ไม่ต้องทำหน้าที่การงานกันพอดี ส่วนทางวัดนั้น กระผม/อาตมภาพก็ได้มอบหมายให้กับผู้ช่วยเจ้าอาวาส และบรรดาพระที่ได้ตั้งเอาไว้ให้ทำหน้าที่การงานต่าง ๆ แทนอยู่แล้ว

ญาติโยมที่ตั้งใจจะถวายสังฆทาน จะถวายกับผู้หนึ่งผู้ใดก็ได้ ไม่ใช่ต้องระบุว่าถวายกับหลวงพ่อวัดท่าขนุนเท่านั้น ถ้าระบุแบบนั้นก็ไม่น่าจะเป็นสังฆทาน กลายเป็นปาฏิปุคคลิกทาน ลดอานิสงส์ของตนเองเป็นแสนเท่าโดยไม่รู้ตัว..! จึงขอให้ทุกท่าน "ทำใจร่ม ๆ" เราตั้งใจถวายทานแล้ว จะถวายกับผู้หนึ่งผู้ใดก็ได้ เพราะว่าทานนี้เป็นทานในการค้ำจุนพระพุทธศาสนาเช่นกัน

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๔ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)