กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนเมษายน ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 06-04-2025, 17:36
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,937
ได้ให้อนุโมทนา: 225,208
ได้รับอนุโมทนา 800,375 ครั้ง ใน 39,356 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๖ เมษายน ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๖ เมษายน ๒๕๖๘


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 07-04-2025, 00:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,484 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๖ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ เป็นวันจักรีบรมราชวงศ์ ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีการเปิดปราสาทพระเทพบิดร ให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้าไปถวายสักการะพระบรมรูป ๙ รัชกาลของพระมหากษัติรย์ในราชวงศ์จักรีที่ภายในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งปีหนึ่งก็มีโอกาสเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

จึงเป็นเรื่องที่พวกเราถ้ามีโอกาสแล้วไม่ควรจะพลาด ไปกราบขอพรจากพระแก้วมรกตและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ แล้ว ได้ถือโอกาสเข้าไปกราบองค์บูรพมหากษัตริยาธิราชของไทย โดยเฉพาะในสมัยราชวงศ์จักรี ที่ทุกพระองค์ได้ประคับประคองนำพาประเทศชาติบ้านเมืองของเรา รอดพ้นจากสารพัดภัยมาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน ให้เราท่านทั้งหลายได้มีโอกาสอยู่สุขอยู่เย็นบนแผ่นดินนี้

ถ้าท่านไม่เข้าใจคำว่า "อยู่สุขอยู่เย็น" เป็นอย่างไร ขอให้ไปดูที่ทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ในช่วงที่แผ่นดินไหวใหญ่ในประเทศพม่านั้น พี่น้องมอญพม่าที่อยู่อำเภอทองผาภูมิ แม้ว่าจะรู้สึกเศร้าหมองที่ญาติพี่น้องของตนต้องเสียชีวิตบ้าง บ้านแตกสาแหรกขาดบ้าง แต่ว่าตนเองกลับอยู่อย่างมีความสุขในผืนแผ่นดินไทย สามารถที่จะส่งข้าวของเงินทองไปช่วยเหลือญาติพี่น้องของตนเองในประเทศพม่าได้

ดังนั้น..บรรดา "ลิงได้แก้ว" หรือ "ไก่ได้พลอย" ในประเทศของเรา ที่คอยแต่จะประท้วงให้ยกเลิกมาตรา ๑๑๒ เนื่องเพราะไม่รู้ว่าการที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น ช่วยค้ำจุนประเทศชาติเอาไว้ แผ่ร่มเงาให้ได้พึ่งพาอาศัยอยู่เย็นเป็นสุขมาช้านาน จนกระทั่งไม่รู้ว่าความลำบากเป็นอย่างไร แล้วไปรับเอาแนวคิดตะวันตก ของบุคคลที่ไร้ความกตัญญู เข้ามาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต จนกระทั่งมีความคิดวิปริตผิดเพี้ยนไป มองไม่เห็นสิ่งที่มีคุณค่า ซึ่งบรรพบุรุษของเราเทิดทูนมาโดยตลอด แล้วก็ไปทำในสิ่งที่น่าเกลียดน่าชังแบบนั้น..!

โดยเฉพาะเป็นบุคคลต่างด้าวที่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร อยู่ดีกินดี สามารถที่จะอุดหนุนจุนเจือญาติพี่น้องของตนเอง แต่กลับมาประท้วง กระผม/อาตมภาพถ้าอยู่ใกล้ ๆ ก็จะให้รางวัลไปสักทีเหมือนกัน..! เสียดายว่าอยู่ห่างไกลไปหน่อย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2025 เมื่อ 01:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 07-04-2025, 00:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,484 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในระยะนี้สิ่งหนึ่งที่คนทองผาภูมิเจอก็คือ บรรดาผู้ที่อยู่ต่างจังหวัดมาถามหาซื้อที่ดิน ซึ่งในเรื่องของที่ดินนั้น อำเภอทองผาภูมิได้ "บูม" ขึ้นไปจนถึงราคาไร่ละเป็นล้านในสมัยพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณเป็นนายกรัฐมนตรี หลังจากนั้น ราคาก็ตกลงมาจนปัจจุบันนี้

ผู้ที่ถือครองที่ดินในสมัยนั้น ถ้าไม่ตัดใจตัดขาดทุนขายไปในราคาต่ำกว่าที่ตนเองได้ซื้อมา ก็เก็บเอาไว้เป็นมรดกของลูกหลานตนเองไปเลย กระผม/อาตมภาพอยากจะแนะนำว่า ถ้าท่านทั้งหลายตั้งใจที่จะซื้อที่ดิน เพื่อหลบหนีภัยธรรมชาติ ก็ควรจะไปซื้อที่ดินเหนือเขื่อนวชิราลงกรณขึ้นไป เพื่อป้องกันว่าถ้าเกิดแผ่นดินไหวหนัก ๆ แล้วเขื่อนถล่มลงมา ท่านจะได้ไม่มีปัญหาจากอุทกภัย

ทางวัดท่าขนุนเอง ทุกวันนี้ก็รออยู่แค่ว่าเหตุการณ์วินาศสันตะโรนี้จะเกิดขึ้นเมื่อไรเท่านั้น..! ที่เห็นว่าอยู่เย็นเป็นสุขกันทุกวันนี้ ก็เพราะว่าฝากชีวิตไว้กับพระรัตนตรัย มั่นใจว่าถ้าจิตใจของเรามีพระเป็นที่พึ่ง ถึงเกิดเหตุหนักก็จะเป็นเบา ถ้าหากว่าเรื่องเบาก็จะเป็นหาย สามารถบรรเทาหรือระงับยับยั้งทุกข์ภัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเราได้ แต่ว่าเรื่องพวกนี้ บุคคลที่ขาดศรัทธาจะไม่เข้าใจ บางทีก็จะหาว่าพวกเรางมงายอีกต่างหาก..!

เนื่องเพราะว่ากำลังใจของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน บุคคลที่กำลังใจมั่นคง มั่นใจว่าตนมีที่พึ่งอย่างแท้จริง ย่อมไม่หวั่นไหวต่อภยันตรายใด ๆ แต่ว่าบุคคลที่กำลังใจไม่มั่นคง ก็ย่อมต้องหวาดกลัวเป็นธรรมดา ดังบาลีที่ว่า อาหาระนิททัง ภะยะเมถุนัญจะ สามัญญะเปตัปปะสุภีนะรานัง อาหาระก็คืออาหาร, นิททังก็คือการนอน, ภะยะคือการกลัวภัย, เมถุนะคือการเสพกาม เป็นเรื่องปกติของมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย ก็แปลว่าความกลัวภัยนั้นมีอยู่ในมนุษย์ทุกรูปทุกนาม

เพียงแต่ว่าถ้าท่านทั้งหลายปฏิบัติธรรมไปจนถึงระดับหนึ่ง ก็จะมองเห็นความเป็นจริงว่า การตายนั้นไม่ใช่การสิ้นสุดของชีวิต หากแต่เป็นการเปลี่ยนผ่านเท่านั้น ซึ่งภาษาไทยที่กล่าวว่าตายเหมือนอย่างกับเป็นจุดสิ้นสุดลง แต่ถ้าเป็นภาษาบาลี ท่านใช้คำว่า "จุติ" ก็คือการเคลื่อนไป แปลว่าเคลื่อนไปสู่ภพภูมิต่าง ๆ ตามกรรมดีกรรมชั่วที่เราได้กระทำเอาไว้ หรือถ้าเป็นภาษาจีนแต้จิ๋วที่ผู้ใหญ่เขาพูดกันก็คือ "ก่วยซี" ซึ่งแปลว่าข้ามร่าง ก็คือข้ามจากร่างนี้ไปอีกร่างหนึ่ง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2025 เมื่อ 01:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 07-04-2025, 01:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,484 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ร่างกายนี้ก็เหมือนกับรถยนต์คันหนึ่ง ตัวเราเปรียบเสมือนคนขับรถ ถึงเวลารถยนต์คันนี้พังลง เราก็ออกจากรถยนต์คันนี้ไปสู่รถยนต์คันใหม่ ตามบุญตามกรรมที่เราได้กระทำเอาไว้ ถ้าหากว่าสร้างกรรมดีไว้มาก ก็ได้รถดี ๆ สวย ๆ ราคาแพง ๆ ไว้ขับขี่ในชาติต่อไป ถ้าสร้างกรรมไม่ดีเอาไว้มาก ก็ได้รถพัง ๆ โทรม ๆ เอาไว้ขับขี่ในชาติต่อไป ซึ่งแปลว่าถ้าทำกรรมเอาไว้มาก ก็ต้องทนทุกข์ยากลำบากในชาติถัด ๆ ไป ซึ่งไม่ว่าจะคำว่าจุติ คือเคลื่อนไป หรือคำว่าก่วยซี ซึ่งแปลว่าข้ามร่างก็ดี เป็นการมองเห็นอย่างชัดเจนว่า ความตายไม่ใช่จุดสิ้นสุดของชีวิต

ดังนั้น..การที่เราเวียนว่ายตายเกิดอยู่นี้ องค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เจนจบในทุกเรื่อง สามารถมองเห็นตั้งแต่จุดเริ่มต้นไปถึงจุดสิ้นสุด ว่าทำอย่างไรจึงจะสิ้นสุดการเวียนว่ายตายเกิดไม่รู้จบแบบนี้ ซึ่งก็คือแนวทางปฏิบัติที่เรียกว่าอัฏฐังคิกมรรค ที่คนไทยเรียกว่ามรรค ๘ หรือมรรคมีองค์ ๘ พูดง่าย ๆ ว่าเป็นหนทาง ๘ สาย ที่นำพาพวกเราให้ล่วงพ้นจากความทุกข์ เมื่อย่อลงมาแล้ว เหลือหลักศีล สมาธิ และปัญญา

ศีลนั้นเป็นการขัดเกลากาย วาจา และใจของเรา ให้หลุดพ้นจากกิเลสในระดับหยาบ ๆ

สมาธินั้นเป็นการขัดเกลากาย วาจา และใจของเรา ให้พ้นกิเลสในระดับกลาง

ปัญญาเป็นเครื่องขัดเกลากาย วาจา และใจของเราให้พ้นกิเลสที่ฝังลึก บางทีเรียกว่าอนุสัย คือสิ่งที่นอนเนื่องอยู่ในสันดานของเรา


ต้องทำจนครบถ้วนสมบูรณ์ หนทางทั้ง ๘ สายนี้จึงจะนำพาท่านทั้งหลาย หลุดพ้นจากกองทุกข์ เข้าสู่พระนิพพาน ซึ่งคำสอนนี้ไม่มีในศาสนาอื่น มีเพียงในพระพุทธศาสนาอย่างเดียวเท่านั้น

ดังนั้น..ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายมองเห็นความเป็นจริงในชีวิตว่า มีเกิด มีตาย เป็นปกติธรรมดา ก็จะไม่หวั่นไหวกับเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ หากแต่ตั้งหน้าตั้งตาสร้างคุณงามความดี เพื่อทำให้หนทางการเวียนว่ายตายเกิดของตนเหลือให้สั้นที่สุด หรือว่าน้อยที่สุด ถ้าสามารถหลุดพ้นไปได้เลยก็ยิ่งดี ซึ่งต้องมีการขัดเกลา ฝึกฝนกาย วาจา และใจของตนเองเอาไว้เสมอ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2025 เมื่อ 02:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 07-04-2025, 01:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,484 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เริ่มต้นจากการเพียรพยายามรักษาศีล ๕ ข้อให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ไม่ละเมิดศีลด้วยตนเอง ไม่ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นละเมิดศีล ไม่ยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นละเมิดศีล

ถ้าสามารถทำได้โดยไม่หนักใจแล้ว ก็ขยับขึ้นไปรักษากรรมบถ ๑๐ ก็คือเพิ่มจากศีล ๕ ขึ้นไป เน้นในส่วนของวาจา นอกจากไม่พูดโกหกแล้ว ยังไม่พูดส่อเสียดให้คนแตกร้าวกัน ไม่พูดคำหยาบให้คนอื่นระคายหูหรือว่าเจ็บใจ ไม่พูดวาจาที่เพ้อเจ้อไร้ประโยชน์

แล้วยังต้องไปเน้นในเรื่องของใจ ก็คือไม่โลภอยากได้จนเกินพอดี ต้องการอะไรให้หามาโดยถูกต้องตามศีลตามธรรม ไม่อาฆาตพยาบาทใคร โกรธได้ แต่ว่าไม่ผูกโกรธ และท้ายที่สุด มีความเห็นตรงว่าสิ่งที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนมานั้นเป็นสิ่งดี เราควรที่จะยึดถือและปฏิบัติตาม

เมื่อสามารถปฏิบัติในกรรมบถ ๑๐ ได้โดยไม่หนักใจแล้ว ก็ขยับขึ้นไปรักษาศีล ๘ ซึ่งเป็นศีลพรหมจรรย์ ก็คือการอยู่คนเดียว ละเว้นจากการครองคู่ พูดง่าย ๆ ว่ากำลังใจถ้ามาถึงระดับนี้ การที่จะยึดมั่นถือมั่นในตัวตนก็มีน้อยแล้ว

ดังนั้น..การที่จะไปยึดมั่นถือมั่นในร่างกายคนอื่น ก็ยิ่งน้อยลงไปอีก จึงกลายเป็นบุคคลที่นิยมการอยู่คนเดียว ขัดเกลากาย วาจา ใจ ของตน ด้วยศีลระดับละเอียด ก็คือเว้นจากการรับประทานอาหารในเวลาวิกาล เพื่อที่กำลังใจไม่ต้องไปกังวลกับสิ่งทั้งหลายเหล่านี้

ละเว้นจากการประดับตกแต่งร่างกายด้วยของหอม เครื่องย้อม เครื่องทา เพื่อที่จะได้ระงับกิเลสภายนอก ไม่ให้เข้ามาสู่ใจของเรา เพราะเห็นอย่างชัดเจนแล้วว่าร่างกายนี้มีแต่ความสกปรก ไม่มีแก่นสารอะไร ต่อให้เพียรพยายามประดับตกแต่งไปเท่าไร ก็จะแสดงออกซึ่งความสกปรกของตนออกมาเสมอ แค่พยายามรักษาความสะอาด เพื่อที่จะเข้าสังคมได้เท่านั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องไปแสดงความสวยความงามอวดใครอีกแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2025 เมื่อ 02:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 07-04-2025, 01:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,387
ได้ให้อนุโมทนา: 157,933
ได้รับอนุโมทนา 4,479,484 ครั้ง ใน 35,996 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

และท้ายที่สุด เมื่อมองเห็นอย่างชัดเจนว่าสภาพร่างกายนี้สกปรกโสโครก น่าเบื่อหน่าย จิตใจก็ถอนการยึดการเกาะออกมา ทำให้ท่านทั้งหลายสามารถที่จะยกกำลังใจของตนเองขึ้นเหนือโลก

ถ้ายกขึ้นไปได้น้อย ท่านก็เป็นพระอริยเจ้าในเบื้องต้น ถ้ายกขึ้นได้ปานกลาง ท่านก็เป็นพระอริยเจ้าในระดับกลาง ถ้าสามารถปล่อยวางได้ทั้งสิ้น ท่านก็จะเป็นพระอริยเจ้าระดับสูงสุด สามารถหลุดพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพานได้

ดังนั้น..ภัยธรรมชาติทั้งหลายที่ทำให้ท่านหวาดกลัว เมื่อมาถึงตรงนี้ ทุกอย่างก็เป็นปกติธรรมดา ไม่มีอะไรที่จะทำให้เราหวั่นไหวได้อีก ไม่มีอะไรที่จะทำให้เราทุกข์ได้อีก บุคคลที่ไม่หวั่นไหวต่อสิ่งต่าง ๆ ที่เข้ามาทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ ไม่มีความทุกข์ใด ๆ ที่จะเบียดเบียนตนเองให้สะดุ้งหวาดกลัวได้นั้น จะมีความสุขขนาดไหน ? ก็ขอให้ท่านทั้งหลายพยายามทำให้ถึง แล้วท่านก็จะเข้าใจเองว่า อริยมรรคมีองค์ ๘ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น มีคุณค่าเลิศล้นในสามโลกเป็นประการใด

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๖ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2025 เมื่อ 02:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 14:45



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว