กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนธันวาคม ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 17-12-2024, 17:04
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 500
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 24,997 ครั้ง ใน 988 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๗


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 17-12-2024, 21:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,639 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ นอกจากไปเยี่ยมนิสิตคณะพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ซึ่งปฏิบัติธรรมอยู่ที่อาคารปฏิบัติธรรมมหาโพธิญาณวิชชาลัย พุทธมณฑล จังหวัดนครปฐมแล้ว เวลาที่เหลือก็ต้องไปหาหมอเพื่อซ่อมสุขภาพของตนเอง

โดยเฉพาะส่วนหนึ่งก็คือการที่จะเดินทางไปยังเมืองฮาร์บิน ซึ่งปัจจุบันนี้สถานการณ์รอบข้างดูแล้วน่าเป็นห่วงมาก อย่างเช่นว่าเกาหลีมีหิมะตกหนักที่สุดในรอบ ๑๑๗ ปี หรือว่ามองโกเลียอยู่ ๆ อุณหภูมิก็ลดฮวบลงไปที่ -๔๖ องศาเซลเซียส ทำเอาสัตว์เลี้ยงแข็งตายไปเป็นหมื่น ๆ ตัว..! แล้วที่ฮาร์บินซึ่งขึ้นชื่อลือชาว่าเป็นเมืองหนึ่งที่หนาวเย็นเป็นที่สุดนั้น จะมีสภาพเป็นอย่างไรบ้าง ?

ตัวกระผม/อาตมภาพเองที่ตั้งใจไปหาที่ตายนั้นไม่เป็นอะไรหรอก มีแต่ญาติโยมที่จะติดตามไปเท่านั้นแหละว่าจะเอาตัวรอดได้หรือไม่ ? ซึ่งบางส่วนก็ได้รับการบอกใบ้เป็นปริศนามาเช่นกันว่า ไปแล้วจะเอาตัวรอดมาได้อย่างไร ? แต่ด้วยความที่ไม่ได้ใส่ใจคิดว่าตนเองจะรอดมาได้ จึงไม่ได้คิดจะไปตามแก้ปริศนาทั้งหลายเหล่านั้น

ส่วนอีกเรื่องหนึ่งที่สร้างความเดือดร้อนให้กับลูกกิฟท์ (นางสาวอันตรา ลักษณะ) ที่เป็นหัวหน้าทัวร์ในครั้งนี้ก็คือ พอดีประเทศจีนเป็นเจ้าภาพในการจัดแข่งกีฬาเอเชี่ยนวินเทอร์เกมส์ ซึ่งไปจัดกันที่เมืองฮาร์บิน มณฑลเฮยหลงเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีนนั่นเอง ทางการจีนจึงได้ยึดโรงแรมบริเวณนั้นไปจนหมดเกลี้ยง..! ทำเอาผู้ติดต่อทางด้านประเทศจีนแทบจะหัวหงอก เพราะไม่แน่ใจว่าถึงคณะของเราจะไปกันแค่ไม่กี่คน แต่จะหาที่พักให้ได้หรือไม่ ?!!

กระผม/อาตมภาพเองก็ไม่ได้หนักใจเช่นกัน เพราะมั่นใจว่าสามารถก่อกระท่อมหิมะอยู่ได้เองอย่างแน่นอน""! เนื่องเพราะว่าบุคคลที่เคยเผชิญหน้ากับความลำบากมามากแล้ว ก็จะไม่เห็นว่ามีอะไรให้ลำบากอีก แบบเดียวกับที่โบราณกล่าวไว้ว่า "ลำบากก่อนแล้วสบายเมื่อปลายมือ" ก็คือถ้าเจอเรื่องลำบากที่สุดมาแล้ว เรื่องอื่นก็กลายเป็นเรื่องที่สบายไปหมด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-12-2024 เมื่อ 02:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 17-12-2024, 21:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,639 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อีกส่วนหนึ่งก็คืองานนี้กระผม/อาตมภาพจะพกวัตถุมงคลอะไรไปดี ? เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าอันดับแรก ไม่ใช่สถานที่คุ้นเคยซึ่งเคยไปมาก่อน อีกประการหนึ่งก็คือสถานที่สุดขั้วแบบนั้น สภาพร่างกายแก่ ๆ นี้จะรับไหวหรือไม่ ? ท้ายสุดท่านทั้งหลายที่เห็นกระผม/อาตมภาพ พกเอาพระยอดขุนพลกาญจนบุรีติดตัวอยู่ในระยะนี้แทบจะตลอดเวลา ก็คงจะเข้าใจแล้วว่าวัตถุมงคลที่กระผม/อาตมภาพจะติดตัวไปนั้นก็ต้องเป็น "สายพร้อมบวก..!"

โดยเฉพาะเจ้าของฉายา "ยอดขุนพลกาญจนบุรี" มีความคุ้นเคยกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ในเมื่อเรามีเส้นสายใหญ่โตระดับนั้น ต่อให้ไปแล้วไม่รู้จักมักคุ้นกัน แค่รัศมีที่ฉายออกก็น่าจะบ่งบอกได้แล้วว่าอยู่ในระดับใด ? ก็น่าจะได้รับความเกรงใจจากเจ้าถิ่นเขาบ้าง

การไปต่างประเทศนั้น วัตถุมงคลบางอย่างไม่สามารถที่จะพกไปได้ อย่างเช่นว่ามีดหมอหรือว่าเบี้ยแก้ เนื่องเพราะว่ามีดหมอก็คืออาวุธในสายตาของคนต่างชาติ ส่วนเบี้ยแก้นั้นเป็นวัตถุต้องสงสัย เนื่องเพราะว่าภายในบรรจุของเหลว ซึ่งไม่ทราบว่าจะสามารถแปลงเป็นวัตถุระเบิดได้หรือไม่ ? ขืนเอาไปก็คงอธิบายกันจนน้ำลายแห้ง ดีไม่ดีก็โดนยึดโยนลงถังขยะไปเลย..! ในเมื่อเป็นเช่นนั้นจึงต้องพิถีพิถันสักหน่อย

ส่วนประเภทตะกรุดที่กระผม/อาตมภาพเคยติดตัวอยู่ก็คงจะต้องเอาออก เนื่องเพราะว่าเคยมีประสบการณ์แล้วที่ประเทศเนปาล แม้ว่าเดินผ่านเครื่องตรวจโดยไม่ดัง แต่ว่าตะกรุดนั้นมีทรงเหมือนกับลูกปืนหรือว่าลำกล้องปืน ซึ่งเขาไม่แน่ใจว่าสามารถเอาไปประกอบเป็นอาวุธได้หรือไม่ ? ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ตะกรุดที่พกอยู่อย่างเช่นตะกรุดวิรุฬจำบัง หรือว่าตะกรุดไมยราพณ์สะกดทัพ ก็คงจะต้องเอาออกก่อนเป็นการชั่วคราว

เครื่องรางของขลังที่ติดตัวไป ก็ต้องไม่ใช่วัสดุที่ทำมาจากเขี้ยว งา เขา หนัง หรือว่าชิ้นส่วนของสัตว์ เนื่องเพราะว่าระยะหลังไซเตส (อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพันธุ์พืชที่ใกล้สูญพันธุ์ - The Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora : CITES)
ได้ขึ้นบัญชีพืชและสัตว์ต่าง ๆ ซึ่งห้ามค้า ห้ามขาย ห้ามทำเป็นข้าวของเครื่องใช้เอาไว้มากต่อมากด้วยกัน ไม่รู้ว่าความซวยจะมาเยือนเอาตอนไหน ?! จึงต้องระมัดระวัง อะไรที่ก่อให้เกิดคำถามยากที่จะตอบได้ ไม่พกไปเลยจะดีกว่า เพราะว่าวัฒนธรรมประเพณีที่ไม่เหมือนกัน ถ้าเป็นไปได้สละได้ก็ควรที่จะสละ

แต่ว่าส่วนที่ต้องพกไปอย่างแน่นอนก็คือสมเด็จองค์ปฐม ไม่ว่าจะเป็นของเก่าหรือว่าของใหม่ก็ได้ ขอให้รำลึกถึงสมเด็จองค์ปฐมท่านพร้อมกับภาวนา อิติปิ โสฯ ๓ ห้อง ๓ จบไว้ทุกวัน ไม่ว่าคนหรือสัตว์ หรือว่าภพภูมิอื่นใดที่คิดร้ายก็จะแพ้ภัยไปเอง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-12-2024 เมื่อ 02:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 17-12-2024, 22:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,639 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จึงตั้งใจว่าอันดับแรกก็คือสมเด็จองค์ปฐมที่จะติดตัวไป อันดับที่สอง ถ้าไม่กลัวหนักมากก็จะเป็นพระยอดขุนพลกาญจนบุรี แล้วถ้าเป็นไปได้ก็จะพก "ท่านพี่" ก็คือพระราหูกะลาตาเดียว หลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง ชิ้นเล็ก ๆ ไปสักองค์หนึ่ง เนื่องเพราะว่าพี่ท่านอยู่ใน "สายปะฉะดะ" ถ้าหากว่าสะกิดหน่อยเดียวก็ "ของขึ้น" เอาง่าย ๆ อะไรที่ "เคลียร์" กันไม่รู้เรื่อง ต้องบอกให้ "เจ้าพ่อนักเลง" ท่านไปจัดการให้ ?

แต่กว่าที่จะทำเช่นนั้นได้ ก็ต้องดูต้นทุนของตนเองด้วยว่า เรามีต้นทุนเพียงพอหรือไม่ที่จะทำให้ท่านยอมทำงานชิ้นนั้น ๆ ไม่เช่นนั้นขืนใช้ผิดท่าผิดทาง ท่านเองแทนที่จะไปฉะคนอื่น ก็หันมาเล่นเราเสียเอง..! ถ้าแบบนั้นก็ไม่ได้คุ้มค่ากันเลย เนื่องเพราะว่าท่านเป็นเทพชั้นสูง ไม่ใช่เทวดาทั่ว ๆ ไป แถมยังจัดอยู่ในประเภทเทพอสูรเสียด้วย ซึ่งปกติถ้าหากว่าดีก็ดีใจหาย ถ้าหากว่าร้ายก็ร้ายใจขาด เพียงแต่ว่าในอดีตกระผม/อาตมภาพกับท่าน เคยมีความสัมพันธ์กันมา ชาติปัจจุบันนี้ก็อุทิศส่วนกุศลให้ท่านเป็นประจำ ถึงเวลาจึงสามารถที่จะขอให้ท่านทำบางสิ่งบางอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ได้

ในส่วนนี้ก็น่าจะไม่ขาด อย่างอื่น ๆ ก็คงจะเหลือแต่เครื่องกันหนาว หรือว่าข้าวของประมาณขิงผง ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ เพื่อที่จะนำไปใส่น้ำร้อน ถึงเวลาฉันเข้าไปจะได้ป้องกันไม่ให้ตัวเองแข็งเป็นไอศกรีมแท่ง..!
ของบางอย่างถ้าหากว่าเราเองมีการเตรียมพร้อมเอาไว้ ก็สามารถที่จะบรรเทาภาระที่ท่านทั้งหลายจะต้องช่วยดูแลเราไปได้มาก แต่ถ้าหากว่าปล่อยให้เป็นภาระของท่านทั้งหลายโดยฝ่ายเดียว ถ้าอย่างนั้นก็ออกจะมั่นใจตัวเองจนเกินไป..!

เนื่องเพราะว่าแต่ละคน ดีก็ดีไม่ทั่ว ชั่วก็ชั่วไม่หมด เมื่อถึงเวลาถ้าวาระกรรมเข้ามาตอนนั้นพอดี ท่านทั้งหลายที่ส่วนใหญ่เป็นพรหมเป็นเทวดาก็ปล่อยวาง เพราะว่าท่านจะไม่ไปล่วงกฎของกรรม เราเองก็อาจจะโดนลอยแพอยู่กลางทะเลหาฝั่งไม่เจอ..! ถ้าแบบนั้นก็โปรดเอาชีวิตรอดด้วยตนเอง ไม่ต้องไปกล่าวถึงพระหรือว่าครูบาอาจารย์ เพราะว่าท่านที่เป็นพระอริยเจ้านั้นเคารพกฎของกรรมเหนืออื่นใด ถ้าท่านไม่ยอมรับกฎของกรรม ท่านก็ไม่สามารถที่จะเป็นพระอริยเจ้าได้ ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็พูดง่าย ๆ ว่า ท่านอาจจะปล่อยให้เราตายไปต่อหน้าต่อตา หลังจากนั้นแล้วค่อยไปต่อว่ากันเองทีหลัง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-12-2024 เมื่อ 02:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 17-12-2024, 22:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,639 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

บางสิ่งบางอย่างที่เราทำไป นอกจากจะต้องมั่นใจในเองบุญเรื่องกุศลแล้ว เรายังต้องเชื่อกรรมด้วย เพราะว่าพระพุทธศาสนาของเราสอนให้เชื่อกรรม ไม่ว่าจะเป็นกุศลกรรม คือคุณงามความดีที่เราสร้างสมเอาไว้ และอกุศลกรรม คือความชั่วทั้งหลายที่เราเคยกระทำมา ต้องคอยระมัดระวังอย่าให้ขาดในการสร้างสมกุศลกรรมเป็นอันขาด

ขณะเดียวกัน ก็ระมัดระวังอย่าไปสร้างอกุศลกรรมเพิ่มเติม ไม่เช่นนั้นแล้วถึงเวลาสิ่งทั้งหลายเหล่านี้มาสนอง ถ้าช่วงนั้นกุศลถอยห่าง อกุศลมีกำลังแรงกล้า ก็อาจจะเหมือนกับตอนที่ไปยังประเทศลาว ที่กระผม/อาตมภาพเองอยู่ ๆ ก็ขาดสติ มารู้ตัวอีกทีก็หน้าทิ่มขั้นบันไดจนเลือดโชกไปเรียบร้อยแล้ว..! ในเรื่องของกรรมเวลาเขามาสนองจะทำให้เราขาดสติชั่วคราว แม้จะไม่กี่วินาทีก็ตาม แต่ว่าจังหวะนั้นแหละที่ผลกรรมจะส่งผลให้ หนักเบาไปตามกรรมเดิมที่เราได้กระทำเอาไว้ จึงเป็นเรื่องที่เราจะประมาทไม่ได้เลย

ทุกวันตื่นเช้าขึ้นมาก็ต้องส่งกำลังใจไปกราบพระ สวดมนต์ไหว้พระ ภาวนาจนกำลังใจทรงตัวแล้ว อธิษฐานขออานุภาพของพระและวัตถุมงคลช่วยคุ้มครองรักษาตัวเรา ทำอย่างนี้เท่ากับว่าเอาตัวรอดไปทีละวัน ก่อนนอนก็รำลึกถึงพระ คิดว่าเรานอนลง ร่างกายเหยียดยาวก็เหมือนกับคนตายดี ๆ นี่เอง ถ้าหากว่าไม่ได้ลืมตาขึ้นมาเห็นวันใหม่ เราก็ขอไปอยู่กับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบนพระนิพพาน แล้วค่อยภาวนาให้หลับไป

ถ้าท่านทั้งหลายสามารถทำอย่างนี้ได้ ก็แปลว่าในแต่ละวันท่านลืมตาตื่นขึ้นมาท่ามกลางความดีความงาม หลับลงไปท่ามกลางความดีความงาม ต่อให้คติของท่านไม่แน่นอนขนาดไหนก็ตาม จิตที่มีสภาพจำย่อมนำท่านไปสุคติได้มากกว่าที่จะลงทุคติอย่างแน่นอน

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๑๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-12-2024 เมื่อ 02:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 10:10



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว